ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย - บทที่ 525 รักษาบาดแผล
บทที่ 525 รักษาบาดแผล
บทที่ 525 รักษาบาดแผล
“เฮ้ ๆ อยู่ที่นี่แล้ว!” ป้าจางเห็นว่าในที่สุดกู้เสี่ยวหวานก็พูดออกมา ความเจ็บปวดในใจที่วิ่งมาถึงคอพลันร่วงลงไป ตราบใดที่กู้เสี่ยวหวานสามารถพูดอย่างสงบได้ นางก็โล่งใจ
ป้าจางรีบวิ่งไปตักน้ำอย่างฉับไว
กู้เสี่ยวอี้ดึงชายเสื้อของกู้เสี่ยวหวานและพูดอย่างลำบากใจ “ท่านพี่ ท่านเป็นอะไรหรือไม่?”
กู้เสี่ยวหวานไม่มีเวลาปลอบใจกู้เสี่ยวอี้ ดังนั้นจึงทำเพียงลูบหัวของน้องสาว แสดงท่าทางที่ทำอะไรไม่ถูก “เสี่ยวอี้ ข้าสบายดี”
หลังจากพูดจบ นางนั่งลงข้างกายของฉินเย่จือ เพื่อช่วยหมอหม่าจัดการกับบาดแผลของฉินเย่จือ
หลังจากที่หมอหม่าเข้ามาและหยุดลงที่เตียง ครั้นเขาเห็นบาดแผลบนร่างกายของฉินเย่จือก็อดไม่ได้ที่จะสูดลมหายใจเข้า
“โอ้สวรรค์! ทำไมเขาถึงบาดเจ็บเช่นนี้!” หมอหม่าอุทาน “พวกเจ้าไปไหนมากันแน่!”
ป้าจางเดินเข้าไปพร้อมกับน้ำร้อนในขณะนั้น และรู้สึกประหลาดใจที่เห็นบาดแผลบนร่างกายของฉินเย่จือ
เมื่อเห็นท่าทางที่ประหลาดใจของหมอหม่าและป้าจาง กู้เสี่ยวหวานก็ส่ายหัวเล็กน้อย “เราขึ้นไปบนภูเขาและเจอกับพายุโหมกระหน่ำ พวกเรารีบหาทางกลับมาแล้วเกิดหลงทาง เราบังเอิญเข้าไปในภูเขาลึกและเจอกับหมาป่า!”
“ว่าอย่างไรนะ? เจ้าเข้าไปในภูเขาลึกหรือ?” เมื่อป้าจางที่อยู่ข้าง ๆ ได้ยินว่าพวกกู้เสี่ยวหวานเข้าไปในภูเขาลึกก็กระวนกระวายใจ “เสี่ยวหวาน พวกเจ้าบ้าไปแล้วหรือ ข้าเคยบอกพวกเจ้าแล้วว่าห้ามเข้าไปในหุบเขาลึก ถ้าเจ้าเป็นอะไรไป ข้าจะไปขอโทษพ่อแม่ที่ล่วงลับไปแล้วของเจ้าได้อย่างไร!”
ก่อนที่กู้เสี่ยวหวานได้เอ่ยสิ่งใด กู้หนิงผิงและกู้เสี่ยวอี้ก็ร้องไห้ออกมาทันที
“ท่านพี่ อาจารย์ ข้าขอโทษ ข้าขอโทษ!” กู้หนิงผิงเสียใจที่อาจารย์และพี่สาวของเขาต้องติดฝนอยู่ในป่าเมื่อวานนี้
ถ้าเขาไม่ต้องการกินไข่ปลา พี่สาวและอาจารย์ก็คงไม่ต้องขึ้นไปบนภูเขา ถ้าพวกเขาไม่ขึ้นไปบนภูเขา พวกเขาคงไม่เจอพายุฝนขนาดนั้น ถ้าพวกเขาไม่ได้เจอพายุฝนขนาดนั้น พวกเขาจะไม่หลงทาง และพวกเขาจะไม่ต้องเข้าไปในภูเขาลึก และก็จะไม่พบกับฝูงหมาป่า
กู้หนิงผิงหลั่งน้ำตาและกล่าวโทษตัวเอง “ท่านพี่ เป็นความผิดของข้าเอง ถ้าข้าไม่โลภ ท่านพี่กับอาจารย์ก็จะไม่ต้องขึ้นไปบนภูเขา ฮือ ฮือ ฮือ ทั้งหมดเป็นความผิดของข้า ทั้งหมดของเป็นความผิดของข้า!”
กู้เสี่ยวอี้ก็ร้องไห้โฮ “ท่านพี่ เสี่ยวอี้ไม่ดี เสี่ยวอี้ไม่ควรโลภมาก ท่านพี่ ต่อไปนี้เสี่ยวอี้จะไม่โลภอีกแล้ว ฮือ ฮือ ฮือ…”
เมื่อเห็นเด็กสองคนนี้ตำหนิตัวเอง กู้เสี่ยวหวานก็รู้สึกไม่สบายใจ
มันไม่ใช่ความผิดของพวกเขาเลย!
พวกเขาก็ไม่รู้ว่าจะมีพายุฝนเช่นนี้!
กู้เสี่ยวหวานและฉินเย่จือเข้าไปในภูเขาลึกไม่ต่ำกว่าสิบครั้ง และพวกเขาก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะต้องเจอกับพายุลูกใหญ่เช่นนี้ !
พวกเขาจะโทษตัวเองได้อย่างไร!
แม้ว่ากู้เสี่ยวหวานจะรู้สึกไม่สบายใจ แต่ตอนนี้สิ่งเดียวที่สำคัญที่สุดคือการรักษาบาดแผลของฉินเย่จือ
นางพูดได้เพียงว่า “หนิงผิง เสี่ยวอี้ ทำไมพวกเจ้าไม่ออกไปกับป้าจางและพี่ฉือโถวก่อนล่ะ? แผลของพี่ใหญ่ฉินควรรีบรักษา! ไม่ใช่ความผิดของพวกเจ้า พวกเจ้าอย่าโทษตัวเองเลย ข้าไม่โทษพวกเจ้าหรอก และพี่ใหญ่ฉินก็ไม่โทษพวกเจ้าเช่นกัน ตกลงหรือไม่?” หลังจากกู้เสี่ยวหวานพูดจบ นางก็เหลือบมองที่ป้าจางและฉือโถว
ป้าจางก็เข้าใจได้แล้วว่า คราวนี้พวกเขาขึ้นไปบนภูเขาทำไม
ป้าจางถอนหายใจและไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องยอมแพ้!
“เสี่ยวหวาน ให้เราอยู่ที่นี่ก่อนเถอะ เผื่อว่าเราอาจจะช่วยอะไรได้ในภายหลัง!” ป้าจางต้องการช่วยเหลือพวกเขาจริง ๆ
แต่กู้เสี่ยวหวานส่ายศีรษะ “ไม่เป็นไรหรอกท่านป้าจาง ที่นี่มีข้าและหมอหม่าอยู่ก็พอแล้ว พวกท่านกลับไปเถอะ”
ป้าจางไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องยอมแพ้และเดินออกไปกับฉือโถว คนหนึ่งนำ หนึ่งคนตาม
กู้เสี่ยวหวานรู้เรื่องบาดแผลบนร่างกายของฉินเย่จือ ที่นางขอให้กู้หนิงผิงและกู้เสี่ยวอี้ออกไปก่อน เนื่องจากนางไม่ต้องการให้พวกเขาเห็นบาดแผล เพราะอาจจะเป็นกังวลหรือหวาดกลัวได้!
เมื่อเห็นประตูปิดลงอย่างช้า ๆ ต่อหน้า กู้เสี่ยวหวานก็มองย้อนกลับไปในทันที และเห็นว่าหมอหม่ากำลังตัดเสื้อผ้าของฉินเย่จือด้วยกรรไกรอย่างระมัดระวัง
ทุกครั้งที่เขาตัดชิ้นส่วนเสื้อผ้า หมอหม่าจะหายใจเข้าลึก ๆ และถอนหายใจ
กู้เสี่ยวหวานช่วยเขาเช่นกัน และทั้งสองคนก็ตัดเสื้อผ้าทั้งหมดของฉินเย่จือออกทั้งหมด
ฉินเย่จือเหลือเพียงกางเกงชั้นในเพียงตัวเดียว ร่างกายของเขาถูกเปิดเผยต่อหน้ากู้เสี่ยวหวาน
กู้เสี่ยวหวานเตรียมใจไว้แล้ว แต่เมื่อนางเห็นบาดแผลบนร่างกายของฉินเย่จือ กู้เสี่ยวหวานก็รู้สึกเป็นทุกข์และกำลังจะเป็นลม
บนร่างของฉินเย่จือ บาดแผลที่ถูกหมาป่าข่วนและกัดนั้นมีทั้งแผลใหญ่และแผลเล็ก ทั้งแผลที่ลึกและตื้นหลายสิบแห่งที่กระจายไปตามหน้าอก หลัง และต้นขา บาดแผลที่เห็นนั้นน่าตกใจ โดยเฉพาะที่กระดูกสะบัก ที่นั่นกู้เสี่ยวหวานเห็นมันด้วยตาของนางเองว่าเขี้ยวที่แหลมคมของหมาป่ากัดเข้าที่ไหล่ของฉินเย่จืออย่างรุนแรง และฉินเย่จือก็เป็นคนที่ง้างปากของหมาป่าจนหักครึ่งหนึ่งด้วยมือของเขา จากนั้นตัวเขาจึงหลุดออกมาแล้ววิ่งสุดชีวิตเพื่อช่วยนาง
ถ้าฉินเย่จือมีความเห็นแก่ตัวเล็กน้อยในเวลานั้น ฉินเย่จือจะไม่ถูกหมาป่ากัดเลย ศิลปะการต่อสู้ของเขาแข็งแกร่ง ในเวลานั้นหมาป่าสองตัวที่อยู่ข้าง ๆ เขา ตราบใดที่เขาไม่ฟุ้งซ่านและไม่มาเพื่อช่วยนาง หากเป็นเช่นนั้น เขาจะสามารถฆ่าหมาป่าทั้งสองได้อย่างง่ายดาย
หากเขามุ่งไปที่การจัดการกับหมาป่าสองตัวที่เขาเผชิญหน้าและไม่มาช่วยกู้เสี่ยวหวาน เกรงว่ากู้เสี่ยวหวานก็คงอยู่ในท้องหมาป่าและกลายเป็นอาหารอันโอชะของหมาป่าไปแล้ว
ดังนั้นบาดแผลที่ลึกที่สุดก็เกิดจากนาง และบาดแผลอื่น ๆ บนร่างกายของเขาก็เกิดจากนางเช่นกัน!
นอกจากความทุกข์ การตำหนิตนเอง และความรู้สึกผิด กู้เสี่ยวหวานยังเต็มไปด้วยความซาบซึ้งและมีความสุข
หากมีคนใช้ชีวิตของเขาเพื่อปกป้องนางจากอันตรายใด ๆ ความเมตตาอันยิ่งใหญ่และคุณธรรมอันยิ่งใหญ่นี้ไม่จำเป็นต้องพูด มันจะถูกจดจำไว้ในหัวใจเสมอ แม้ว่ากู้เสี่ยวหวานจะใช้ชีวิตของนางเพื่อชดใช้ นางก็เต็มใจเช่นกัน
“เจ้ามันโง่มาก โง่มาก!” กู้เสี่ยวหวานน้ำตาคลอเบ้าพลางจับมือของฉินเย่จือไว้
ฝ่ามือของเขามีบาดแผลขนาดใหญ่ เกรงว่าคงเกิดจากการที่เขาต่อสู้กับหมาป่าในเวลานั้น
กู้เสี่ยวหวานมองดูอย่างกังวลใจ คิดถึงเมื่อคืนนี้ คนโง่คนนี้กอดตนเองและบอกว่าไม่เป็นไร ในตอนนั้นเขามีบาดแผลมากมาย แต่เขาก็ยังไม่บอกว่าเจ็บต่อหน้านางเลยสักนิด เพียงเพราะเขาไม่ต้องการให้นางเป็นกังวล ไม่ต้องการให้นางต้องเก็บไว้คนเดียว และไม่ต้องการให้นางต้องเจ็บอีก