ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย - บทที่ 60 โจมตีกลับ
บทที่ 60 โจมตีกลับ
บทที่ 60 โจมตีกลับ
กู้เสี่ยวหวานไม่รีรอให้แม่เฉาฟื้นคืนสติ เด็กสาวแสร้งบีบน้ำตาอีกครั้ง ใบหน้าของกู้เสี่ยวหวานเรียวเล็ก มีดวงตากลมโต ทว่าตอนนี้ดวงตาคู่นั้นกลับเอ่อคลอด้วยน้ำตา และพยายามกลั้นไม่ให้มันหลั่งรินออกมา ท่าทางที่ทั้งน้อยใจทั้งแสร้งทำเป็นเข้มแข็งนั้น ทำให้ผู้คนที่มองอยู่เจ็บปวดใจยิ่งนัก
“ท่านปู่ ท่านย่า ท่านลุง ท่านป้า ท่านพี่ทุกคน ข้าเชื่อว่าทุกท่านเองก็รู้ สองปีก่อนข้าเสียท่านพ่อและท่านแม่ไป พวกเขาจากไปอย่างรวดเร็ว ครอบครัวกู้ของพวกข้าในตอนนี้ก็เหลือเพียงข้ากับพวกน้อง ๆ ทั้งสามคน ข้าเพิ่งจะมีอายุแปดขวบ น้องสาวที่เด็กที่สุดก็เพิ่งจะมีอายุสี่ปี ร่างกายเล็กแคระไม่อาจแบกหามสิ่งของได้ ฝ่ามือเล็กไม่ได้มีเรี่ยวแรงมากมาย ครอบครัวของข้ายากจนแสนเข็ญ และยากจนถึงขนาดไม่มีข้าวปลาอาหารจะกิน พวกน้อง ๆ ไม่ได้กินข้าวเช้า เช้าตรู่วันนี้จึงตามข้าออกหาสิ่งของที่อาจประทังชีวิต และไม่ง่ายเลยที่จะขุดหน่อไม้สองสามหน่อมาได้ อาสะใภ้ก็ยังดึงดันต้องการจะดูให้ได้”
กู้เสี่ยวหวานเทของทั้งหมดที่อยู่บนหลังกู้หนิงผิงออกมาอย่างน้อยอกน้อยใจ หน่อไม้แต่ละหน่อกลิ้งขลุก ๆ อยู่บนพื้น กู้เสี่ยวหวานเก็บขึ้นมาอันหนึ่ง และเอ่ยกับชาวบ้านที่เข้ามาล้อมรอบด้วยน้ำตาคลอเบ้า “ข้ารู้ว่าสิ่งนี้ไม่น่ากิน แม้แต่หมูก็ยังไม่กิน แต่ข้าไม่มีทางอื่นแล้ว ข้าต้องการหาของสักเล็กน้อยที่จะกินได้ ข้าไม่สามารถให้พวกน้อง ๆ หิวเหมือนข้าได้”
“จุ๊ ๆ ช่างเป็นเวรเป็นกรรมจริง ๆ!”
“นั่นสิ หากลูกคนรองของตระกูลกู้ยังมีชีวิตอยู่ และเห็นพวกเด็ก ๆ ที่น่าสงสารเช่นนี้ จะตายตาหลับได้อย่างไรล่ะ!”
“ช่างน่าสงสารจริง ๆ เลย!”
หน่อไม้ในสายตาของพวกชาวบ้านเทียบไม่ได้แม้แต่สิ่งที่หมูกิน ดังนั้นกู้เสี่ยวหวานจึงไม่กังวลใจเลยสักนิดหากมีพวกชาวบ้านถามขึ้นมา อีกอย่างนางต้องทำเช่นนี้เท่านั้นถึงจะใช้ความสงสารชนะใจของพวกชาวบ้านได้ และจะทำให้พวกเขาเอนเอียงมาทางผู้พูดได้ พร้อมกับทำให้แม่เฉาอับอายจนแทบจะแทรกแผ่นดินหนี
เมื่อแม่เฉาได้ฟังความเห็นของทุกคนเอนเอียงไปทางอีกฝ่าย และไม่เป็นผลดีต่อนางเป็นอย่างมาก ก็อดไม่ได้ที่จะลุกลี้ลุกลนเล็กน้อย
นางยังคงนั่งนิ่งอยู่บนพื้น อากาศในเดือนสิบสองนี้ ทำให้พื้นดินเย็นเยือกจับใจ ด้านข้างล้วนเต็มไปด้วยผู้คน แต่ทางฝั่งที่นางอยู่กลับไม่มีใครยืนอยู่สักคน แม้แต่สตรีไม่กี่คนที่เมื่อก่อนไปมาหาสู่กันค่อนข้างบ่อย ก็มองดูอยู่ข้าง ๆ ท่ามกลางผู้คนเหล่านั้น
แม่เฉาจ้องมองพวกนางด้วยความเกลียดชัง ตะเกียกตะกายลุกขึ้นมาอย่างร้อนรน จนแทบไม่มีเวลาที่จะปัดฝุ่นละอองที่อยู่ตามร่างกาย นางรีบลนลานและหลบหนีไป
จากนั้นแม่เฉาก็หันกลับมา มองกู้เสี่ยวหวานพลางกัดฟันเอ่ยเสียงต่ำ “นังเด็กบ้า เจ้ารอข้าก่อนเถอะ!”
กู้เสี่ยวหวานไม่ยอมแพ้ให้เลยสักนิด พลางจ้องสายตาเกลียดชังของแม่เฉาที่มองมา แววตาคมกริบนั้นทำให้แม่เฉาตัวสั่นเทิ้ม
เมื่อตกใจไปชั่วครู่หนึ่ง แม่เฉาก็สงบลง เหตุใดเด็กนี้ถึงได้เก่งกาจขึ้นหลังจากตายแล้วฟื้นกลับมาเช่นนี้ เพียงแต่ในตอนนี้แม่เฉาไม่สามารถรับมือเรื่องมากมายเหล่านี้ได้ นางแค่หนีไปตั้งหลักก่อน หากยังรออยู่ที่นี่อีก เกรงว่าจะถูกนังเด็กช่างเจรจาคนนี้จิกกัดจนหนังถลอกเอาได้
แม่เฉาพุ่งเข้าไปหากลุ่มคนให้แหวกทางออก นางไม่สนชาวบ้านรอบ ๆ ที่กำลังตำหนิติเตียนเลยสักนิด เมื่อเห็นใครชี้มาที่นาง นางก็จะเชิดหน้าขึ้นและถลึงตาใส่ พร้อมกับพูดเสียงต่ำ “มองอะไร?”
ท่าทางเสแสร้งทำเป็นภรรยาของครอบครัวมั่งคั่งร่ำรวยในชุมชนแต่ก่อนนั้นได้หายไปหมดสิ้น
แม่เฉาเบียดกลุ่มคนออกไปพลางจ้องมองชาวบ้านที่อยู่รอบ ๆ ด้วยแววตาเกลียดชัง และไม่ได้มองไปในสวนที่อยู่ตรงหน้าเลยแม้แต่น้อย ซึ่งตอนนี้มีหญิงคนหนึ่งยกอ่างในมือขึ้น กำลังสาดน้ำออกมาข้างนอก
แม่เฉาไม่ทันมอง แต่พวกชาวบ้านกลับมองเห็นเต็มสองตา และเมื่อเห็นน้ำกระจายเข้ามา ต่างก็พากันก้าวถอยหลังออกไปสองก้าว มีเพียงแม่เฉาคนเดียวยังคงก้มหน้าก้มตาเดินออกไป
ทันใดนั้นก็เกิดเสียงดัง “ซ่า…” พร้อมกับแม่เฉาที่ตัวเปียกตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า
“ไอหยา…” ชาวบ้านที่อยู่รอบข้างแม่เฉาต่างก็ร้องขึ้นอย่างตกใจ ราวกับว่าน้ำในอ่างเมื่อครู่นั้นสาดลงบนร่างของตัวเอง พวกเขามองแม่เฉาอย่างมีความสุขบนความทุกข์ของนาง และก้าวถอยหลังออกไปอีกสองสามก้าวโดยไม่รู้ตัว ทำเหมือนกับเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องของตนเอง นางเริ่มหาตัวการก่อความหายนะพลางถลึงนัยน์ตาแต่ละข้างที่ใหญ่กว่าดวงตาของวัว ขณะที่พวกเขาทำตาปริบ ๆ อยากเห็นความสนุกครั้งใหญ่อีกครั้ง!
ในหมู่บ้านไม่มีเรื่องสนุก ๆ เช่นนี้มานานแล้ว!
เหล่าชาวบ้านที่ล้อมวงดูยิ่งมารวมตัวกันก็ยิ่งมีมาก และผู้คนยิ่งมามากขึ้นเรื่อย ๆ เพื่อมองดูท่าทางจนตรอกของแม่เฉาในขณะนี้
แม่เหลียงเหยาผู้ก่อเหตุคนแรกกำลังถืออ่างไม้ ยืนอยู่ภายในรั้วอย่างสับสนจนอะไรไม่ถูก เมื่อเห็นท่าทางจนตรอกของแม่เฉาก็รู้สึกอึดอัดเล็กน้อย “ขอโทษจริง ๆ สะใภ้สาม ข้า ข้า ข้าไม่เห็นเจ้าจริง ๆ!”
เพียงแค่เห็นแม่เฉากำลังถลึงตาโต และทุกคนต่างหยุดชะงัก แขนที่ยกขึ้นมาก็หยุดชะงักอยู่กลางอากาศ สภาพแม่เฉาในตอนนี้มีหยดน้ำไหลลงมาจากศีรษะถึงปลายเท้า ทั่วทั้งร่างปียกโชก และคาดว่าน้ำที่แม่เหลียงเหยาเททิ้งนั้นคือน้ำล้างผัก แค่มองก็ยังเห็นใบผักสีเหลืองใบหนึ่งห้อยอยู่บนปิ่นปักผมสีเงิน ราวกับว่าด้านหลังปิ่นปักผมสีเงินมีปิ่นระย้าสีเขียวเพิ่มมาหนึ่งอัน ทำให้สภาพของนางยิ่งดูจนตรอกมากขึ้น
เมื่อพวกชาวบ้านเห็นท่าทางจนตรอกอย่างมากของแม่เฉา แต่ละคนก็พากันหัวเราะเสียงดังครื้นเครง
“แม่…เหลียง…เหยา..!” แม่เฉาสาวเท้าพุ่งเข้าไปหาแม่เหลียงเหยาอย่างรวดเร็วพร้อมกับตะโกนขึ้นมา ไม่เพียงแค่สั่นสะเทือนจนทำให้แม่เหลียงเหยาเกือบจะหูหนวก แต่ยังทำให้พวกเด็ก ๆ ขี้ขลาดเหล่านั้นตกใจจนร้องไห้ ทว่าพวกผู้ใหญ่เพียงแค่หัวเราะออกมาหลายครั้ง และไม่สนใจที่จะจากไปเลยสักนิด พวกเขายังคงมองความสนุกนี้ต่อ
กู้เสี่ยวหวานส่งเสียงหึออกมา นับว่าในที่สุดก็ได้พบเห็นแล้ว
ที่แท้แม่เฉาคนนี้ไม่เพียงใจดำ แต่เสียงก็ยังดังอีก หรือนางจะเป็นสิงโตเหอตงคำรามของนิยายปรัมปรากัน?
หญิงสาวมอมแมมและไม่เป็นที่รักของใครคนนี้ในความทรงจำของนางเป็นหญิงสาวที่อ่อนโยนใจดีเพียบพร้อมซื่อสัตย์ แต่ก็มีเหตุทำให้นางต้องสู้กลับ และเกรงว่าแม่เฉาคนนี้จะเทียบไม่ได้แม้แต่ปลายนิ้วเลยสักนิด!
เดิมทีความกล้าหาญของแม่เหลียงเหยานั้นมีน้อยมาก เมื่อครู่นางก็แค่ทำเป็นใจกล้า อยากจะลดทอนความฮึกเหิมของแม่เฉา การรังแกหญิงม่ายในครอบครัวท่านลุงนางเช่นนี้ ยังจะนับว่าเป็นมนุษย์อยู่หรือ!
เมื่อเห็นท่าทางที่อยากจะกินคนของแม่เฉาในตอนนี้ แม่เหลียงเหยาก็ตกใจจนสั่นไปทั่วร่าง พลางจับอ่างไม้ในมือแน่น พร้อมกับเอ่ยเสียงสั่นเครือ “ขอโทษ ขอโทษ ข้าไม่ได้ตั้งใจ!”
แม่เหลียงเหยาเห็นท่าทางของแม่เฉาที่เหมือนกับอยากจะกินนางก็คล้ายกับว่าจะหวาดกลัวเล็กน้อย นางเร่งรีบพูดขอโทษออกมาสองครั้งแล้วก็ไม่สนใจแม่เฉาอีกต่อไป พร้อมกับเดินเข้าไปในบ้านอย่างรวดเร็ว
และก็ไม่รู้ว่ากู้เสี่ยวหวานจะมองผิดหรือไม่ แต่กู้เสี่ยวหวานรู้สึกว่าแม่เหลียงเหยาขยิบตาให้นางอย่างภาคภูมิใจ
จนกระทั่งนางเดินเข้าไปดู แม่เหลียงเหยาคนนั้นก็ปิดประตูบ้านไปแล้ว
กู้เสี่ยวหวานมองประตูบ้านที่ปิดแน่นบานนั้นด้วยความลึกซึ้งสนใจ และไม่ได้พูดอะไร จากนั้นก็เหลือบมองแม่เฉาอย่างเย็นชา
เมื่อแม่เฉาเห็นว่าแม่เหลียงเหยาหนีไปแล้ว เป็นหนี้ต้องใช้คืน เป็นคนร้ายก็ต้องชดใช้กรรม อยากจะเปิดปากด่าขึ้นมาอีกครั้งแต่กลับไม่มีแรงเหลือแล้ว
แม่เหลียงเหยาคนนี้เด็ดเดี่ยวพอสมควร น้ำเต็มอ่างนั้นสาดไปบนร่างแม่เฉาทั้งหมดโดยไม่พลาดสักหยดเดียว!
……………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
เคยทำอะไรใครเขาไว้ก็โดนแบบนั้นแหละแม่เฉา แถมจะโดนหนักไม่ใช่น้อยด้วย
ไหหม่า(海馬)