ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย - บทที่ 613 มีวิญญาณ
บทที่ 613 มีวิญญาณ
บทที่ 613 มีวิญญาณ
นางไม่สามารถทำให้ฉินเย่จือติดร่างแหไปด้วยได้
เมื่อคิดถึงสิ่งนี้ และมองดูท่าทางลนลานของหัวหน้าหมู่บ้านเหลียง กู้เสี่ยวหวานก็พูดอย่างไม่ขลาดกลับไปว่า “ไม่ เขาไม่ได้ทำ!”
“ไม่ได้ทำ? ตามที่เจ้าพูด หากเขาไม่ได้ฆ่าใคร เช่นนั้นก็เป็นเจ้าที่ฆ่าอย่างนั้นหรือ? ไม่เช่นนั้น เจ้าหน้าที่จะมาถึงมาที่หมู่บ้านเพื่อจับกุมเจ้าทำไม!” หัวหน้าหมู่บ้านเหลียงพ่นลมเย็นชา แต่แววตาที่ดุร้ายของเขาไม่ได้ทำให้กู้เสี่ยวหวานหวาดกลัวเลย แต่เด็กคนอื่น ๆ ที่อายุใกล้เคียงกับกู้เสี่ยวหวานกลับไปซ่อนตัวอยู่ข้างหลังพ่อแม่ของพวกเขาด้วยความตกใจ และมองไปที่หัวหน้าหมู่บ้านเหลียงด้วยใบหน้าที่ซีดเซียว
หัวหน้าหมู่บ้านเหลียงมองดูเด็ก ๆ ที่ตัวสั่นด้วยความตกใจ และดูเหมือนว่าพวกเขาควรจะมีอารมณ์เหมือนเด็กสิบปีทั่วไป
แต่กู้เสี่ยวหวานข้างหน้า นางก็มีอายุสิบปีเช่นกัน แต่ไม่มีความขี้ขลาดเช่นเมื่อหนึ่งปีที่แล้ว นางเงยหน้าขึ้นสูง จ้องมองหัวหน้าหมู่บ้านเหลียงโดยไม่แสดงความอ่อนแอ ไม่มีร่องรอยของความขี้ขลาดในดวงตา ร่างกายตั้งตรงและความสงบบนใบหน้าทำให้คนไม่กล้ามองโดยตรง
“ข้าบอกว่าไม่ได้ฆ่าก็คือไม่ได้ฆ่า!” กู้เสี่ยวหวานรู้ว่านางกำลังโกหก แต่ฉินเย่จืออธิบายกับนางว่าเขาจะกลับมาในสามวัน ดังนั้นนางจำต้องปากแข็ง
นางไม่สามารถเปิดเผยเรื่องที่เกิดขึ้นในขณะนั้นได้
“ฮ่า ๆ ขำจะตายอยู่แล้ว!” หัวหน้าหมู่บ้านเหลียงหัวเราะ “เจ้าบอกว่าเจ้าไม่ได้ฆ่าก็คือไม่ได้ฆ่าอย่างนั้นหรือ เช่นนั้นเจ้าหน้าที่ก็คงไม่มีอะไรทำจึงมาจับเจ้า และกล่าวหาเจ้าว่าฆ่าคนอย่างผิด ๆ น่ะสิ!”
“…”
กู้เสี่ยวหวานจ้องมองที่หัวหน้าหมู่บ้านเหลียงอย่างไม่กลัว
เมื่อเห็นเช่นนั้น หัวหน้าหมู่บ้านเหลียงก็ทั้งกลัวทั้งโกรธ!
เห็นได้ชัดว่าเด็กคนนี้ควรซ่อนตัวอยู่ข้างหลังพ่อแม่ของนาง และโผล่หน้ามาเพราะอยากรู้อยากเห็นเกี่ยวกับโลก
แต่ตอนนี้ เด็กสาวผู้นี้มีความเย่อหยิ่งและความโหดเหี้ยมมาจากไหน นางไม่กลัวเขาเลยสักนิด เมื่อพูดถึงการฆ่า ใบหน้าของนางก็ยังคงสงบและไม่ได้มีความหวาดกลัวเลย
ถ้าเป็นเรื่องปกติ เขาคงคิดว่าเด็กคนนี้มีความเป็นผู้ใหญ่สูงและได้เห็นโลกมามาก
แต่ตอนนี้เขาจะยังคิดว่าเด็กคนนี้เป็นเด็กดีได้อย่างไร เขารู้เพียงว่าเด็กคนนี้ช่วงน่าหวาดกลัวจริง ๆ!
ภายใต้สายตาที่ดุร้ายเช่นนี้ หัวหน้าหมู่บ้านเหลียงรู้สึกไม่ราบรื่นเล็กน้อย
เขากำลังกลัวเด็กอายุสิบปี!
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขารู้สึกเช่นนี้
ในปีที่ผ่านมา เขาได้รับความหวาดกลัวและพ่ายแพ้มากกว่าหนึ่งครั้งภายใต้สายตาเหล่านั้น
ก่อนหน้านี้เขาไม่เคยคิดมาก แต่ตอนนี้เมื่อกู้ฉวนลู่รู้แจ้งแล้วว่ามีวิญญาณร้ายที่น่าสะพรึงกลัวสิงอยู่ในร่างเล็ก ๆ นี้
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ หัวหน้าหมู่บ้านเหลียงก็ถอยกลับไปสองก้าวด้วยความกลัว ท่ามกลางเสียงอุทานของทุกคน หัวหน้าหมู่บ้านเหลียงชี้ไปที่กู้เสี่ยวหวานด้วยนิ้วที่สั่นเทา และพูดอย่างหวาดกลัวจนตัวสั่น “เจ้า… เจ้าเป็นใครกันแน่?”
“หัวหน้าหมู่บ้านเหลียง ท่านหมายความว่าอย่างไร?” เมื่อได้ยินคำพูดที่ไร้ความคิดจากหัวหน้าหมู่บ้านเหลียง ชาวบ้านโดยรอบก็อ้าปากค้างด้วยความสงสัย
หัวหน้าหมู่บ้านเหลียงเป็นอะไรไป?
สมองสับสนหรือไม่
คนที่ยืนอยู่ข้างหน้าเขา เห็นได้ชัดว่าเป็นกู้เสี่ยวหวาน หัวหน้าหมู่บ้านเหลียงเป็นอะไรไป?
ทุกคนมองไปที่หัวหน้าหมู่บ้านเหลียงที่หวาดกลัวอย่างสงสัย หากแต่ก็ไม่ได้รอคำตอบจากเขา
พวกเขาเห็นดวงตาของหัวหน้าหมู่บ้านเหลียงเบิกกว้าง ในที่สุดดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความหวาดกลัวและจ้องไปที่กู้เสี่ยวหวานราวกับว่าเขาได้เห็นวิญญาณชั่วร้าย ทุกคนคิดว่าหัวหน้าหมู่บ้านเหลียงมองนางด้วยความหวาดกลัว
จากนั้นด้วยเสียงกรีดร้องจากหัวหน้าหมู่บ้านเหลียง เขาก็รีบกุมศีรษะแล้ววิ่งหนีไป
ขณะวิ่งก็ร้องเอ็ดตะโรเสียงดัง “วิญญาณ วิญญาณ มีวิญญาณ!”
วิญญาณ? วิญญาณอยู่ที่ไหน?
เมื่อเหลียงซื่อเห็นว่าหัวหน้าครอบครัวดูกลัวแทบตาย นางก็ยังไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
นางทำได้เพียงเดินตามหลังเขาไปและตะโกนเสียงดัง “สามี เจ้าเป็นอะไรไป? สามี…”
ชาวบ้านที่กำลังเฝ้าดูหัวหน้าหมู่บ้านเหลียงที่หนีไปอย่างตื่นตะหนก กู้เสี่ยวหวานก็ขมวดคิ้วและมองดูหมู่บ้านเหลียงด้วยความสงสัยในสายตา
หัวหน้าหมู่บ้านเหลียงสบายดีแล้ว ทำไมเขาถึงถามกู้เสี่ยวหวานและบอกว่ามีวิญญาณ?
วิญญาณอยู่ไหน? วิญญาณของใคร?
เป็นไปได้หรือไม่ว่าวิญญาณที่หัวหน้าหมู่บ้านเหลียงกล่าวคือ…
ทุกคนมองไปที่กู้เสี่ยวหวานที่ยืนหน้านิ่วคิ้วขมวด
กู้เสี่ยวหวานยังคงเหมือนปกติ เหมือนปกติดั่งเช่นเมื่อก่อน!
แต่ทำไมหัวหน้าหมู่บ้านเหลียงถึงบอกว่ามีวิญญาณ?
หัวหน้าหมู่บ้านเหลียงพูดสองคำนี้กับกู้เสี่ยวหวาน และยังถามว่ากู้เสี่ยวหวานคือใครอีก
สิ่งนี้หมายความว่าอย่างไร?
พระอาทิตย์ลับขอบฟ้าไปหมดแล้ว ตอนนี้ภายในหมู่บ้านมืดมิดลง
ทุกคนต่างมองหน้ากัน ข้ามองเจ้า เจ้ามองข้าด้วยสีหน้างงงวย
แต่ในขณะนี้ ประตูบ้านของกู้เสี่ยวหวานที่เงียบสงัดเปลี่ยนไปเล็กน้อย
หลังจากที่ถูกหัวหน้าหมู่บ้านเหลียงทำให้ตกใจแล้ว ทุกคนก็รู้สึกหวาดกลัวเล็กน้อย
คนขี้ขลาดต่างก็ลากลูกกลับบ้านไป
เหลือเพียงคนกล้าที่ยังอยู่ และจ้องมองไปที่กู้เสี่ยวหวานด้วยดวงตาเบิกกว้าง
ตอนนั้นเงียบมาก ยกเว้นเสียงลมหวีดหวิว เกรงว่าหากเข็มจะตกลงพื้นก็คงจะได้ยิน
กู้เสี่ยวหวานนึกในใจว่าหัวหน้าหมู่บ้านเหลียงเพิ่งพูดอะไร
เขาชี้มาที่ตัวเองแล้วถามว่าตัวเองเป็นใคร?
และยังบอกว่ามีวิญญาณ?
หมายความว่าอย่างไร? เป็นไปได้ไหมที่เขารู้ว่านางคืนชีพมา?
เป็นไปไม่ได้!
นางเข้ามาในร่างกายนี้มานานกว่าหนึ่งปีแล้ว และหัวหน้าหมู่บ้านเหลียงก็ไม่สามารถบอกเรื่องนี้ได้จนถึงตอนนี้ เกรงว่าคงจะมีเรื่องอะไรอีกแน่ ๆ!
แต่กู้เสี่ยวหวานไม่ได้คิดเกี่ยวกับมันมากอีกต่อไป ในสมองของนางมีเพียงฉินเย่จือ และคนเดียวในความคิดของนางก็คือฉินเย่จือ
เวลาสามวัน ในสามวันนี้นางจะนั่งนิ่งไม่ได้ นางจะไปหาใครสักกคนเพื่อดูว่านางจะได้รับข่าวอะไรบ้างหรือไม่!
มีเจ้าหน้าที่มาที่บ้านของนางได้อย่างไร เป็นไปได้หรือไม่ที่การหายตัวไปของเหมียวเอ้อร์จะถูกฟ้องโดยใครบางคนในครอบครัวของเขา?
กู้เสี่ยวหวานรู้ว่าวันนั้นจะมาถึงไม่ช้าก็เร็ว แต่นางไม่เคยคิดว่าวันนี้จะมาถึงช้าขนาดนี้ และไม่เคยคิดว่าจะมีวันนี้จริง ๆ
เหมียวเอ้อร์คนที่มีชื่อเสียงหายตัวไปเช่นนี้ ครอบครัวของเขาจะต้องตามหาอย่างแน่นอน เกรงว่าเพราะหาไม่เจอจึงไปฟ้องทางการ จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงมาจับตัวนาง!
ใบหน้าของกู้เสี่ยวหวานไม่แสดงอารมณ์ แต่คลื่นที่น่าตกใจได้เกิดขึ้นในใจของนางแล้ว