ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย - บทที่ 629 ถูกเผาเป็นเถ้าถ่านไปแล้ว
บทที่ 629 ถูกเผาเป็นเถ้าถ่านไปแล้ว
บทที่ 629 ถูกเผาเป็นเถ้าถ่านไปแล้ว
กู้ซินเถานึกคิดอย่างมีความสุข แต่การเพิกเฉยของฉินเย่จือกำลังทำลายความรู้สึกของนางอย่างหนัก
เริ่มแรกนางรู้สึกว่าตนเองเหนือกว่าคนอื่น และฉินเย่จือก็ได้รับการดูแลจากนาง ถ้าพูดตามหลักเหตุผล เขาควรจะขอบคุณนางสิถึงจะถูก แต่ตอนนี้สายตาของเขาที่มองมาล้วนมีแต่ความขุ่นเคืองใจ
“พี่ใหญ่ฉิน ข้าทำเพื่อท่านมามากแล้ว แม้แต่แม่ของตัวเองข้ายังไม่สนใจเลย ข้าใช้เงินส่วนตัวทั้งหมดเพื่อจ่ายให้ท่าน ท่านไม่แม้แต่จะเอ่ยขอบคุณหน่อยหรือ?” หยาดน้ำใสไหลรินอาบแก้มด้วยความเศร้าโศก ภายในห้องขังอันเงียบสงัด เสียงร้องไห้ของนางดังกึกก้อง
ครั้นเห็นนางร้องไห้ ฉินเย่จือก็ขมวดคิ้ว มือข้างลำตัวกำแน่น
สีหน้าเต็มไปด้วยความรังเกียจ
เมื่อกู้ซินเถาเห็นว่าการร้องไห้ของตนไม่ได้ทำให้เขาหวั่นไหว โทสะของนางจึงพุ่งพวยขึ้นฟ้า คว้าประตูห้องขังแล้วเขย่าอย่างแรง “พี่ใหญ่ฉิน ข้าทำเพื่อท่านมามากแล้ว มองมาที่ข้าสิ มองมาที่ข้า!”
สีหน้าเดือดดาลและเสียงของนางก็ดังขึ้นเป็นบางครั้ง เจ้าหน้าที่จึงกรูเข้ามาตรวจสอบสถานการณ์ ครั้นเห็นกู้ซินเถาร้องไห้เอ็ดตะโรอยู่หน้าห้องขังของฉินเย่จือ พวกเขาก็เผยรอยยิ้มที่แฝงไปด้วยความหมาย
ดูเหมือนว่าพวกเขาจะเดาถูก สาวน้อยคนนี้เพิ่งตกหลุมรักกับเด็กหนุ่มผู้นั้น
เรื่องนี้คงจะสนุกน่าดู จากนั้นหมุนกายจากไป
เมื่อกู้ซินเถาเห็นว่าฉินเย่จือไม่สนใจตน นางก็แทบจะสิ้นสติ “พี่ใหญฉิน ในใจท่านมีกู้เสี่ยวหวานอยู่แล้วใช่หรือไม่? หากกู้เสี่ยวหวานตาย ท่านจะมองข้าบ้างหรือไม่!”
“หากเจ้ายังพูดจาเหลวไหลอีก ข้าจะฉีกปากเจ้าเป็นชิ้น ๆ!” ฉินเย่จือลืมตาขึ้นทันทีเมื่อได้ยินคำสาปแช่งของกู้ซินเถา เขามองกู้ซินเถาอย่างดุร้ายและเอ่ยอย่างเย็นชา
โดยไม่คาดคิด กู้ซินเถาไม่ได้กลัวสายตาเยือกเย็นนี้แม้แต่น้อย แต่กลับส่งเสียงหัวเราะ “ฮ่า ๆ พี่ใหญ่ฉิน ข้าไม่ได้พูดเรื่องไร้สาระ กู้เสี่ยวหวานที่ท่านคิดถึง ข้าเกรงว่านางคงจะไหม้เป็นเถ้าถ่านในไม่ช้า”
กู้ซินเถายังคงหัวเราะ ไม่คิดว่าคนที่กำลังนั่งอยู่มุมกำแพงในเมื่อครู่ ในชั่วพริบตาจะเอื้อมมือจากห้องขังมาคว้าคอเสื้อนางเข้าไปประชิดกับประตูห้องขัง ทำให้ร่างกายของนางแนบสนิทไปกับห้องขัง
กู้ซินเถาพยายามดิ้นรนด้วยความหวาดกลัว
“เจ้าพูดอะไร?” หลังจากที่ได้ยินคำพูดของกู้ซินเถา ฉินเย่จือรู้สึกประหม่า และแม้แต่น้ำเสียงที่ดุดันก็สั่นเครือเล็กน้อย ดวงตาของเขามืดมนและดุร้าย ไม่อาจปิดบังความกังวลบนใบหน้าได้เลย
“ฮ่า ๆ ท่านกลัวหรือ?”
กู้ซินเถาหัวเราะเยาะ เมื่อเห็นฉินเย่จือบีบคอของตนเอง
เห็นหรือไม่ว่าตราบใดที่มีการกล่าวถึงกู้เสี่ยวหวาน ความเฉยเมยทั้งหมดของเขาก็จะหายไป
กู้ซินเถาก้มศีรษะลงมองไปที่มือของฉินเย่จือ อาจเป็นเพราะเขาประหม่าเกินไป นิ้วมือของเขาจึงซีดเซียว ช่างเป็นมือคู่ที่สวยงามจริง ๆ!
มือของชายผู้นี้เย็นมาก
นี่เป็นครั้งแรกที่เขาสัมผัสตนเอง ถึงแม้จะเป็นท่าทางเช่นนี้ก็ตาม
มือเรียวขาวผ่องนั้นคว้าคอนางไว้ได้โดยไม่ต้องพยายาม
เมื่อเห็นว่านางไม่พูด ฉินเย่จือก็ออกแรงบีบมากขึ้นและยกตัวนางลอยหวือ
ขาของกู้ซินเถาลอยอยู่ในอากาศ และทำได้เพียงเตะเท้าไปมาด้วยความอ่อนแรง
กู้ซินเถารู้สึกว่าตนเองกำลังจะตาย ใบหน้าของนางแดงก่ำและเริ่มหายใจไม่ออก
“พูดมา!” เวลานี้ฉินเย่จือราวกับปีศาจร้ายที่ผุดมาจากนรก ผิวซีดเซียวและดวงตากระหายเลือด
กู้ซินเถากลัว… ถ้านางไม่พูด เกรงว่าคนผู้นี้จะฆ่านางจริง ๆ
กู้ซินเถาตื่นตระหนกและพยายามดึงมือของฉินเย่จือออก แต่นางจะดึงออกไปได้อย่างไร ไม่เพียงแต่เขาจะไม่ปล่อยเท่านั้น แต่ยังรู้สึกอีกว่าแรงบีบที่คอนั้นมากขึ้นเรื่อย ๆ เกรงว่าถ้านางไม่พูดอะไรอีก นางอาจจะตายได้ ใบหน้าของกู้ซินเถาเปลี่ยนเป็นสีแดงเข้ม นางอ้าปากหอบหายใจ แล้วเรี่ยวแรงของนางก็เริ่มอ่อนลง
“นางถูก… วิญญาณร้ายเข้าสิง และพวกเขากำลังจะเผานาง!” กู้ซินเถาส่งเสียงด้วยความยากลำบาก
ฉินเย่จือขมวดคิ้ว เป็นไปได้หรือไม่ว่าเกิดอะไรขึ้นที่บ้านในช่วงสองสามวันที่เขาไม่อยู่?
ทำไมอาโม่ไม่มาบอกเขา?
ถูกวิญญาณร้ายเข้าสิงจึงจะถูกเผาตาย?
ฉินเย่จือรู้สึกได้เพียงว่าหัวใจของเขาแทบจะทะลุออกมาจากอก เสียงของเขาสั่นเทา และพยายามอย่างสุดความสามารถที่จะกลั้นอารมณ์ที่อยากจะฆ่าหญิงคนนี้ให้ตายเอาไว้ และคำรามว่า “ที่ไหน?”
“ใน… หมู่บ้าน” ก่อนที่กู้ซินเถาจะพูดจบ แรงที่คอของนางก็คลายลงอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว ร่างของนางจึงร่วงกระแทกลงพื้น
เมื่อมองไปที่ฉินเย่จือ ตอนนี้เขาเหมือนกับปีศาจ
กู้ซินเถานั่งนิ่งอยู่บนพื้น นางตวาดสายตามองไปที่ฉินเย่จือด้วยความกังวลราวกับจะเป็นบ้า ทันใดนั้น การเยาะเย้ยถากถางก็ปรากฏขึ้นในหัวใจ
“พี่ใหญ่ฉิน ท่านยังต้องการช่วยนางอีกอยู่หรือ? เกรงว่าตอนนี้นางคงถูกเผาเป็นเถ้าถ่านไปแล้ว!” กู้ซินเถาหัวเราะและได้ยินเสียงคำรามโกรธจากข้างใน จากนั้นก็ได้ยินเสียงบางอย่าง กู้ซินเถาตระหนกตกใจ และมีท่อนไม้ตกลงข้างกาย แต่โชคดีที่มันล้มอยู่ด้านข้าง ไม่เช่นนั้นนางคงถูกไม้ทับ
กู้ซินเถาทรุดตัวลงด้านข้างด้วยความกลัว เพียงรู้สึกได้ถึงลมแรงพัดมาข้าง ๆ เมื่อนางหันหลังกลับก็เห็นว่ามีท่อนไม้หลายท่อนในห้องขังแตกหัก และยังมีเงาของฉินเย่จืออยู่ในนั้น
ขณะที่กู้ซินเถาอยู่ในความตื่นตระหนก นางได้ยินเสียงตะโกนมาจากภายนอก “รีบมาเร็วเข้า มีคนกำลังจะหนี! รีบมาเร็ว!”
กู้ซินเถาจ้องไปที่ทางออกที่ฉินเย่จือทำลายทิ้ง เขาเพิ่งลงมือไปเมื่อครู่เองหรือ?
คนหายไปแล้ว…
หลังจากออกมาจากห้องขัง ฉินเย่จือรีบออกจากคุกและมุ่งหน้าไปยังหมู่บ้านอู๋ซีโดยเร็วที่สุด
คำพูดของกู้ซินเถาทำให้เขาหวาดกลัวแทบตาย!
กู้เสี่ยวหวานถูกวิญญาณร้ายเข้าสิงหรือ? เผานางให้ตายหรือ?
ไร้สาระ!
เดิมทีคิดว่าตนเองสามารถช่วยชีวิตนางได้ แต่ไม่เคยคิดเลยว่าคนเหล่านี้จะไม่มีวันปล่อยนางไป! ยังจะจัดฉากเรื่องถูกวิญญาณเข้าสิงอีก
ช่างน่ารังเกียจเสียจริง!