ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย - บทที่ 649 เห็นใครบางคนมาถึง
บทที่ 649 เห็นใครบางคนมาถึง
บทที่ 649 เห็นใครบางคนมาถึง
เด็กทั้งสองกรีดร้องด้วยความประหวั่นพรั่นพรึง เสียงร้องไห้ดังลั่นประกอบกับเสียงทะเลาะวิวาทของสตรีทั้งสาม รวมทั้งเสียงซุบซิบของคนรอบข้างที่ดูตื่นเต้นดังไปทั่วโรงศาล ถ้าคนไม่รู้ก็คงนึกว่าที่นี่เป็นตลาดสดไปเสียแล้ว มันหนวกหูยิ่งนัก
ลวี่เทาเองก็รู้สึกปวดหัวเมื่อได้ยิน เขาลูบขมับอย่างจนใจเมื่อเห็นการทะเลาะกันด้านล่าง ในใจของเขาเต้นเป็นกลอง
เรื่องนี้มันก็หลายปีมาแล้ว ทำไมยังมีคนพูดถึงมันอีก?
ดูเหมือนว่าทั้งหมดนี้ดูเหมือนจะถูกจัดการโดยใครบางคน
เมื่อมองไปยังหลี่ฝานที่เอาแต่ยืนดูอยู่ด้านข้างราวกับกำลังชมละคร ลวี่เทาก็ลอบคิด
เป็นไปได้ไหมว่ามีคนจงใจพาหมอตำแยหวังและเซี่ยเหอซื่อมา? จุดประสงค์ก็เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจและโยนเรื่องทั้งหมดให้เหมี่ยวซื่อ
ตอนนี้ความสนใจของทุกคนดูเหมือนจะอยู่ที่เรื่องของเหมียวเอ้อร์ หากเหมียวเอ้อร์ฆ่าภรรยาและลูกสาวของเขาจริง ๆ เขาจะถูกตัดหัว! แล้วถ้ากู้เสี่ยวหวานฆ่าเขาจริง ๆ มันจะยังถือว่าเป็นการฆ่าทำร้ายผู้คนอีกหรือไม่?
เมื่อนึกถึงสิ่งนี้ ลวี่เทาจึงเหลือบมองหลี่ฝานที่กำลังยิ้ม เขากุมขมับและรู้สึกว่าเรื่องนี้มันน่าปวดเศียรเวียนเกล้ายิ่งนัก
เป็นอย่างที่ลวี่เทาคิด ทุกคนหันเหไปให้ความสนใจกับเรื่องราวของเหมียวเอ้อร์ นอกจากนี้ยังเกี่ยวข้องกับสาเหตุการตายของเซี่ยชิวเฉ่าและลูกด้วย
นี่เป็นข่าวใหญ่ ถ้าเหมียวเอ้อร์ทำสิ่งที่อุกอาจเช่นนั้นจริง ๆ และทำราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นมาหลายปี แสดงว่าเขาเป็นคนที่มีแรงจูงใจซ่อนเร้น เขาสามารถฆ่าภรรยาและลูกสาวแท้ ๆ ของตัวเองได้ จะคาดหวังให้เขามีความเป็นมนุษย์ได้แค่ไหน?
เมื่อคิดถึงว่าคนผู้นี้เคยเดินผ่านไปมามาหลายปี ก็รู้สึกกลัวเกินกว่าจะคิดถึงมัน!
คนรอบข้างเริ่มชี้นิ้วและส่งเสียงกระซิบกระซาบ
ตอนนี้สัญญาณทั้งหมดชี้ไปที่เหมียวซื่อ
หากเซี่ยชิวเฉ่าถูกฆ่าจริง ๆ เหมียวซื่อก็เป็นคนร้ายเช่นกัน
เหมียวซื่อทุกข์ใจจริง ๆ! เดิมทีคิดว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในตอนนั้นคงปิดบังสวรรค์ได้แล้ว ซึ่งนางก็แต่งงานกับกับเหมียวเอ้อร์ได้อย่างราบรื่น ทั้งยังให้กำเนิดลูกชายสองคนกับเหมียวเอ้อร์ในคราวเดียว ดังนั้นสถานะของนางจึงมั่นคงยิ่ง
นางสวมชื่อเหมียวซื่อ และมีชีวิตที่ดีมาเป็นเวลานาน!
จนกระทั่ง เหมียวเอ้อร์หายตัวไป นางจึงรู้สึกว่าชีวิตของนางเริ่มติดขัด
ตั้งแต่เหมียวเอ้อร์หายตัวไป ครอบครัวก็ไม่มีรายได้อีกต่อไป แต่นิสัยการใช้เงินเกินตัวของนางเริ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมากลับไม่เปลี่ยนแปลง ดังนั้นเงินกับอาหารของครอบครัวจึงหมดไปในเวลาไม่นาน
เหมียวซื่อต้องจัดการทั้งซ้ายและขวา แม้แต่เสียงร้องไห้ของลูกชายทั้งสองของนาง ตัวนางก็ไม่ว่างไปสนใจ
ลวี่เทาทนไม่ไหวอีกต่อไป เขาเคาะค้อนสามครั้งติดต่อกันแล้วตะโกนว่า “เงียบ เงียบ เงียบ!”
หลี่ฝานหัวเราะเบา ๆ เมื่อเห็นท่าทางที่ว้าวุ่นใจของลวี่เทา เขาก็มีความสุขมาก ดูเหมือนว่าลวี่เทาจะกังวลเล็กน้อย เมื่อหลี่ฝานเห็นว่าเรื่องนี้ถูกส่งต่อจากตัวเขาไปยังตัวโจกท์แล้ว จึงยากที่จะบอกว่าโอกาสที่โจทก์จะชนะจะเป็นเช่นไร
เมื่อโจทก์ไม่มีโอกาสที่จะชนะ ดังนั้นจึงไม่มีเหตุผลที่จะข่มขู่หลี่ฝาน
ลวี่เทาเคาะค้อนอีกสองสามครั้ง ทั้งห้องพิจารณาคดีพลันเงียบลงอีกครั้ง
แม้แต่เด็กทั้งสองยังมองลวี่เทาด้วยความหวาดกลัวและหยุดร้องไห้ในทันที แต่เพราะพวกเขาร้องไห้หนักเกินไปเมื่อครู่นี้ พวกเขาจึงยังสำลักและสะอึกสะอื้นส่งเสียงแผ่วเบาในห้องพิจารณาคดี
“นี่คือศาลไม่ใช่ตลาดสด ทะเลาะอะไรกัน ช่างน่าไม่อาย!” ลวี่เทาตบมือลงบนโต๊ะแล้วตะโกน
ด้วยใบหน้าสีหม่นและดวงตาที่ขุ่นมัว เขามองไปรอบ ๆ ทุกคนกลัวลวี่เทาจึงก้มหน้าลงแล้วหยุดพูด
หลี่ฝานไม่กลัวและหัวเราะในใจ
ลวี่เทาเห็นท่าทางเย่อหยิ่งของหลี่ฝานก็ไม่พอใจอย่างมาก ลูกตากลอกไปมาสองครั้ง และเขาตบค้อนอีกครั้งพลางครุ่นคิด “หลี่ฝาน ไม่ต้องพูดถึงสิ่งที่เหมียวเอ้อร์ทำในครั้งนั้น เจ้ากับกู้เสี่ยวหวานร่วมมือกันฆ่าเหมียวเอ้อร์ใช่หรือไม่ เจ้าสารภาพมาเดี๋ยวนี้!”
ในขณะนี้ความคิดของเหมียวซื่อผิด แทนที่จะสังหารเทพเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ นางกลับไปทะเลาะกับผู้หญิงสองคน เมื่อได้ยินสิ่งที่ลวี่เทาพูด ไหนเลยยามนี้จะมีท่าทางตะลึงงันเหมือนเมื่อครู่ นางร้องไห้และเอะอะขึ้นทันที “เหมียวเอ้อร์ เจ้าตายอย่างไม่ยุติธรรม! ทำไมเจ้าไม่ลุกขึ้นมาจากพื้นดินและชี้แจงให้ทุกคนรู้ว่าใครที่ฆ่าเจ้า รวมถึงสิ่งที่เจ้าทำไปในตอนนั้น! พวกเขาเห็นว่าเจ้าไม่ได้อยู่ที่นี่อีกต่อไป ตอนนี้จึงพากันมารังแกพวกเราเด็กกำพร้าและหญิงม่าย เหมียวเอ้อร์ สามีของข้า ทำไมเจ้าไม่พาเราแม่ลูกไปด้วยกันเล่า? มันยังดีกว่าถูกรังแกที่นี่!”
เหมียวซื่อเป็นมือดีในการร้องไห้และเอะอะ นางนั่งบนพื้น ร้องไห้ และตะโกน การร้องงิ้วนี้ดีมาก ถ้ากู้เสี่ยวหวานอยู่ด้วย เกรงว่านางคงจะได้รับเสียงปรบมือจากกู้เสี่ยวหวานเช่นกัน
หลี่ฝานไม่รู้ว่าลวี่เทากำลังคิดอะไรอยู่ เห็นเขามองมาที่ตนอย่างเย็นชาและดุร้าย ดูเหมือนว่าในวันนี้อีกฝ่ายคิดจะลงโทษเขาให้ได้เพราะถึงอย่างไรเหมียวเอ้อร์ก็หายตัวไปแล้ว ด้วยเหมียวเอ้อร์มีความเกี่ยวข้องกับร้านจิ่นฝู กู้เสี่ยวหวาน และตัวเขาเอง สัญญาณทั้งหมดจึงชี้มาที่เขา
หลี่ฝานไม่พูดจา แต่ยิ้มน้อย ๆ แล้วหันมองไปรอบ ๆ โถง ในขณะนี้เขาเห็นร่างที่คุ้นเคยนำชายร่างผอมในชุดดำเข้ามา เมื่อมองไปที่ร่างของชายร่างผอม เขาดูเหมือนใครบางคนมาก
หลี่ฝานแย้มยิ้ม ในอกของลวี่เทาพลันเต็มไปด้วยความหดหู่ใจเพราะท่าทางที่สงบและร่าเริงของเขา “หลี่ฝาน อย่าทำเป็นเล่นที่นี่ เจ้าฆ่าคนแต่ไม่ยอมรับผิดหรือ? ถ้าเจ้าไม่ยอมรับผิดก็อย่าหาว่าข้าหยาบคาย!”
เมื่อเห็นว่าลวี่เทาพูดคำดังกล่าวในเวลานี้ หลี่ฝานก็ไม่แปลกใจ เขาสะบัดแชนเสื้อและพูดว่า “ฆ่าคนต้องชดใช้นั้นถูกต้อง ทว่ากู้เสี่ยวหวานและข้าไม่เคยฆ่าคน จะให้ยอมรับผิดได้อย่างไร!”
“เหอะ! ตอนที่ข้าเห็นเหมียวเอ้อร์เป็นครั้งสุดท้าย เขาเกลียดเจ้าและกู้เสี่ยวหวานจนอยากฆ่ากู้เสี่ยวหวานอย่างเห็นได้ชัด แต่ตอนนี้กู้เสี่ยวหวานสบายดี แต่ตัวเขาหายตัวไป! เขาหายไปครึ่งปีแล้ว เจ้าบอกว่าเขายังไม่ตาย เจ้ามีหลักฐานหรือ!” เสี่ยวหลีจื่อซึ่งคุกเข่าอยู่ข้าง ๆ พลันเอ่ยกล่าวหาหลี่ฝานด้ายท่าทางชอบธรรม
ก่อนหน้านี้มีคนมาหาเขา โดยคน ๆ นั้นสัญญาว่าถ้าเขาสามารถทำให้กู้เสี่ยวหวานติดคุกได้จะให้เงินสิบตำลึงแก่เขา หนึ่งเดือนเขาได้เงินจากร้านจิ่นฝูเพียงไม่กี่สิบเหรียญ สำหรับเงินสิบตำลึงนี้ เกรงว่าสิบปีตัวเขาก็ยังหาไม่ได้!
เสี่ยวหลีจื่อจึงตอบตกลงทันทีโดยไม่ได้คิด