ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย - บทที่ 72 บรรลุข้อตกลง
บทที่ 72 บรรลุข้อตกลง
บทที่ 72 บรรลุข้อตกลง
ก่อนหน้านี้อาหารกี่มื้อต่อกี่มื้อถูกยกเข้าไปมีหน้าตาอย่างไรก็ถูกยกออกมาหน้าตาเช่นนั้น ทุกครั้งที่เขาเห็นว่าอาหารไม่ถูกแตะต้อง มันก็คล้ายกับว่าอีกฝ่ายต้องการฆ่าเขาทางอ้อม ตนเองพยายามครุ่นคิดหาวิธีการปรุงอาหาร และยังคิดว่าจะสามารถมีอาหารจานใหม่ได้หรือไม่ แต่ต่อให้จะคิดจนหัวแตกอย่างไรก็ไม่สามารถทำให้บรรพบุรุษน้อยผู้นี้อยากอาหารมากขึ้น
แต่แล้วสาวน้อยผู้จุติลงมาจากสรวงสวรรค์คนนี้กลับทำให้เขาประหลาดใจ เขาจะตื่นเต้นไปมากกว่านี้ไม่ได้อีกแล้ว! สาวน้อยคนนี้เป็นคนที่สวรรค์ส่งมาช่วยชีวิตเขาเป็นแน่!
เมื่อมองไปที่กู้เสี่ยวหวานอีกครั้ง แววตาของหลี่ฝานก็เปลี่ยนไป เขาไม่เคยคิดเลยว่าตนเองจะบูชาเด็กหญิงอายุเจ็ดถึงแปดปีจริง ๆ
กู้เสี่ยวหวานเดินตามหลี่ฝานเข้าไปในโถงซงป่าย เมื่อเข้าไปในห้องโถง นางก็กวาดสายตามองดูการตกแต่ง บนผนังมีภาพไร้จุดสิ้นสุดของป่าสน พื้นสีขาวกว้างใหญ่ระหว่างท้องฟ้าและพื้นดิน เกล็ดหิมะค่อย ๆ ร่วงหล่นมาจากท้องฟ้า ปกคลุมลงบนยอดต้นสน ทำให้ต้นสนนั้นถูกปกคลุมไปด้วยหิมะหนาเป็นชั้น แต่ไม่ว่าหิมะโหมกระหน่ำหรือว่าจะปกคลุมที่ต้นไม้หนามากแค่ไหน ต้นสนก็ยังคงยืดหยัดอย่างสง่างามอยู่ท่ามกลางพายุหิมะ
ตรงกลางโถงมีโต๊ะกลมสีดำที่จุคนได้แปดคน และมีเก้าอี้กลมสีเดียวกัน ถูกจัดวางไว้อย่างเป็นระเบียบ และบนโต๊ะนั้นสะอาดสะอ้าน
กลางโต๊ะมีแจกันกระเบื้องเคลือบปากเล็ก ลวดลายของแจกันเป็นทิวทัศน์เนินเขาและแม่น้ำ มีดอกเหมยขาวกำลังผลิบานส่งกลิ่นหอมอ่อน ๆ งดงามเป็นอย่างมาก
“สาวน้อย ต้องขอโทษด้วย เมื่อตอนที่เพิ่งเข้ามา ผู้ดูแลของข้ากระทำตัวน่ารังเกียจยิ่งนัก เจ้าอย่าใส่ใจเลย!” หลี่ฝานลูบมือของเขาและพูดอย่างเขินอาย
กู้เสี่ยวหวานค่อย ๆ ยิ้ม “เถ้าแก่พูดเกินไปแล้ว!”
ช่างเป็นเรื่องน่าขัน นางไม่เคยเก็บคำพูดของคนผู้นั้นมาใส่ใจ ถ้าเพียงด่านางว่าเป็นขอทานแล้วนางทนไม่ไหว วันนี้ตนคงจะไม่มาที่ร้านนี้
ตั้งแต่ก่อนนางจะมาที่นี่ นางได้เตรียมใจเอาไว้ดีแล้ว!
เมื่อเห็นการแสดงออกอันสงบนิ่งของกู้เสี่ยวหวาน ก็ดูเหมือนว่านางจะไม่ใส่ใจวาจาเสียดสีของเหมียวเอ้อร์ เขาจึงผายมือเชิญกู้เสี่ยวหวานนั่ง และตัวเขาเองก็นั่งเช่นกัน
กู้เสี่ยวหวานวางตระกร้าบนเก้าอี้ทรงกลมบนเก้าอี้อีกตัว และมองหลี่ฝานด้วยรอยยิ้ม
“แม่นางน้อยช่างใจกว้างนัก ไม่เก็บมาใส่ใจก็ดีแล้ว!” หลี่ฝานพูด เนื่องจากเขาหยุดพูดถึงเรื่องอื่น หลี่ฝานจึงเปลี่ยนหัวข้อเป็นหัวข้อหลัก “แม่นางน้อย วันนี้เจ้าช่วยข้าได้มากเลย”
“ไม่เป็นไรเจ้าค่ะ เรื่องเล็กน้อยเท่านั้น ไม่ต้องยกย่องกันขนาดนั้น!” กู้เสี่ยวหวานกล่าวอย่างสุภาพ นี่เป็นเพียงแค่เรื่องเล็กจริง ๆ นางแค่ปรุงอาหารรสชาติธรรมดาเท่านั้น
เรื่องเล็กน้อย? เมื่อหลี่ฝานเห็นเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ นี้พูดสองคำนี้อย่างอ่อนโยนและชำนาญ เขาก็มองดูเด็กหญิงคนนี้ด้วยความประหลาดใจ และรู้สึกว่าอุปนิสัยของสาวน้อยคนนี้เต็มไปด้วยความมั่นใจ
“ไม่ ข้าไม่ได้ยกย่องเจ้า แต่นี่คือข้อเท็จจริง!” หลี่ฝานเดินไปมาอย่างตื่นเต้น ครุ่นคิดอย่างหนัก และเริ่มปรึกษากับกู้เสี่ยวหวาน “สาวน้อย เจ้าคิดดูว่าแบบนี้ได้ไหม? ข้าจะซื้อสูตรอาหารทั้งสองของเจ้า แล้วเจ้าก็ขายให้ข้าดีหรือไม่?”
กู้เสี่ยวหวานมองใบหน้าเปี่ยมไปด้วยคาดหวังของเถ้าแก่ร้านที่พูดคุยกับตนเอง เมื่อคิดเกี่ยวกับมันอีกครั้ง เถ้าแก่ร้านไม่สนใจรูปร่างภายนอกของนาง เชื่อมั่นในตัวนาง และอดไม่ได้ที่จะรู้สึกดีกับบุคคลนี้ขึ้นมาในใจ
เมื่อได้ยินคำขอซื้อสูตรจากเถ้าแก่ร้าน ความคิดของกู้เสี่ยวหวานก็เปลี่ยนไป ในที่สุดก็มาถึงประเด็นนี้ และท่าทางเขาก็ดูจริงใจ หากแต่กู้เสี่ยวหวานยังคงนิ่งสงบและเอ่ยถามเสียงแผ่วเบา “เถ้าแก่ร้านเสนอเท่าไรเจ้าคะ?”
“หนึ่งร้อยตำลึงเงินต่อหนึ่งสูตร เจ้าคิดว่าเป็นอย่างไร?” ราคาที่หลี่ฝานเสนอนั้นไม่ต่ำไป และเขายังเห็นว่ากู้เสี่ยวหวานเป็นเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ ที่ออกมาให้เห็นหน้าในที่สาธารณะตั้งแต่อายุยังน้อย แน่นอนว่านางต้องประสบปัญหาทางการเงิน ไม่เช่นนั้นคงไม่ออกมาทำงานในวันที่มีอากาศหนาวขนาดนี้ เขาจึงอดไม่ได้ที่จะสงสารเด็กหญิงคนนี้ ดังนั้นจึงไม่ได้กดราคา
กู้เสี่ยวหวานครุ่นคิดในใจ หนึ่งสูตรต่อหนึ่งร้อยตำลึงเงิน สองสูตรก็คือสองร้อยตำลึงเงิน เพียงสองสูตรก็ขายได้เงินจำนวนมาก เมื่อคิดดังนั้นกู้เสี่ยวหวานก็ใจเต้นแล้ว
“ได้ ตกลงเจ้าค่ะ! แต่มีหนึ่งข้อแม้” กู้เสี่ยวหวานพยักหน้าทันที
“เชิญพูด”
“เถ้าแก่เจ้าคะ ท่านต้องใช้วัตถุดิบในการทำหน่อไม้ผัดผักดองใช่หรือไม่ แต่ที่นี่ก็คงไม่มีหน่อไม้ฤดูหนาวใช่หรือไม่เจ้าคะ” กู้เสี่ยวหวานถาม
“ใช่แล้ว!” หลี่ฝานตกตะลึงเมื่อได้ยินกู้เสี่ยวหวานพูดแบบนี้ ฤดูหนาวแบบนี้จะหาหน่อไม้มาจากที่ไหน หน่อไม้ฤดูหนาว? ในฤดูนี้?
“ในสองวันที่ผ่านมาครอบครัวของข้าเก็บหน่อไม้ฤดูหนาวได้จำนวนมาก ข้าไม่รู้ว่าเถ้าแก่จะต้องการหรือไม่”
“เอา เอา เอา เท่าไรก็เอา! หนึ่งชั่งหนึ่งร้อยเหรียญ ข้าเอาทั้งหมด แต่อย่างไรก็ตามข้าก็มีเงื่อนไข หน่อไม้นี้ข้าไม่รู้ว่าต้องขุดอย่างไร และตอนนี้วัตถุดิบสักนิดหนึ่งข้าก็ไม่มี ดังนั้นพรุ่งนี้ก่อนร้านเปิดให้นำหน่อไม้มาส่ง แบบนี้ข้าจะได้แนะนำรายการอาหารใหม่ได้!” หลี่ฝานรู้สึกว่าตัวเขามีความสุขมากขึ้น ความกังวลที่เคยมีหมดไป เด็กหญิงตรงหน้ามีไหวพริบทางการค้าในระดับดีเยี่ยม ดูเหมือนว่านางจะรู้ล่วงหน้าว่าวันนี้เขาจะไปหานางเพื่อขอสูตรอย่างแน่นอน จึงเตรียมหน่อไม้ฤดูหนาวเอาไว้มากมาย
“ขอบคุณมากเจ้าค่ะท่านอาเถ้าแก่ร้าน” กู้เสี่ยวหวานยิ้มหวาน ส่งให้ก่อนร้านเปิด ทันอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตามที่บ้านมีหน่อไม้ที่ถูกขุดไว้แล้วและกำลังรอส่งอยู่
หน่อไม้ฤดูหนาวหนึ่งชั่งขายในราคาหนึ่งร้อยเหรียญ ราคานี้นับว่าสูงมาก! บะหมี่ข้าวฟ่างมีราคาห้าเหรียญต่อหนึ่งชั่ง หน่อไม้ฤดูหนาวหนึ่งชั่งจะซื้อเส้นข้าวฟ่างได้ยี่สิบชั่ง ไม่รู้ว่าพี่ฉือโถวขุดหน่อไม้ฤดูหนาวได้เท่าไร และถ้าขายทั้งหมดนั่นให้ที่นี่ก็ถือว่ารายได้น่าประทับใจพอสมควร!
“ท่านอาเถ้าแก่ร้านเจ้าคะ ข้ามีเรื่องที่จะบอกท่าน ตอนนี้หน่อไม้ที่เรียกว่าหน่อไม้ฤดูหนาว ถ้าผ่านฤดูหนาวไปมันจะเน่าอยู่ใต้ดิน ดังนั้นอายุของมันจะสั้นมาก แต่ในฤดูใบไม้ผลิหน่อไม้จะมีอายุยืนยาวมากกว่า เมื่อถึงเวลานั้นท่านก็สามารถทำตามสูตรหน่อไม้ผัดผักดองได้แล้ว อย่างไรก็ตามต้องนำหน่อไม้ฤดูใบไม้ผลิแช่น้ำสักสองสามวันเพื่อขจัดความฝาด”
“ได้!” หลี่ฝานเห็นว่ากู้เสี่ยวหวานไม่ได้ปิดบังความลับ และยังสอนวิธีขจัดความฝาดของหน่อไม้ฤดูใบไม้ผลิอีก พลันคิดว่าช่วงเวลาที่เหมียวเอ้อร์ขับไล่เด็กหญิงออกไปในตอนนั้น
ถ้าเด็กหญิงคนนี้ถูกไล่ไปร้านอื่น ป้ายสีทองของเขาก็คงจะไร้ประโยชน์และก็ไม่รู้ว่าจะเสียลูกค้าไปกี่ราย
หากกิจการนี้หารือไม่สำเร็จ เช่นนั้น….
…………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
ดีลกิจการกับคนมีเงินมันก็รวยเร็วแบบนี้แหละค่ะ
ไหหม่า(海馬)