ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย - บทที่ 746 ความลับของเหล่าชั้นชนสูง
บทที่ 746 ความลับของเหล่าชั้นชนสูง
บทที่ 746 ความลับของเหล่าชั้นชนสูง
สีหน้าของกู้เสี่ยวหวานยังคงไม่เปลี่ยนแปลง นางแสร้งทำเป็นยกยอและรีบโค้งคำนับตอบ “ขอบคุณสำหรับความมีน้ำใจของคุณหนูหลิว!”
แต่นางไม่ได้พูดอะไรที่ไม่จำเป็น จากนั้นก็ยื่นมือออกไปและทำท่าทางเชื้อเชิญ “คุณหนูหลิว ขอให้เดินทางปลอดภัย!”
กู้เสี่ยวหวานแสดงออกด้วยความเคารพและสุภาพ หลิวเทียนฉือจึงรู้สึกสบายใจมากที่ได้เห็น นางไม่คิดเลยว่านี่เป็นคำพูดไล่แขกของกู้เสี่ยวหวานทางอ้อม!
ภายใต้คำอำลา ‘ด้วยความเคารพอย่างสูง’ ของกู้เสี่ยวหวาน หลิวเทียนฉือเข้าไปในรถม้าอย่างมีชัย จากนั้นก็มองกลับไปที่ฉินเย่จือและให้มอบรอยยิ้มที่มีเสน่ห์แก่ชายหนุ่มจากบนรถม้า
หากเป็นผู้ชายธรรมดา การได้เห็นรอยยิ้มอันมีเสน่ห์ของผู้หญิงที่งดงามราวกับดอกไม้ส่งมาให้เขา มันจะต้องทำให้หัวใจของเขาละลายอย่างแน่นอน
แต่ฉินเย่จือนั้นต่างออกไป เดิมทีเขาแข็งแกร่งราวกับเหล็กกล้า อีกทั้งนางยังเป็นผู้หญิงที่เขาเกลียดชัง ในความคิดของเขา รอยยิ้มนั้นไม่ต่างจากการแสดงของลิง
มันเป็นแค่เรื่องน่าขบขัน
หลิวเทียนฉือคิดว่ารอยยิ้มในตอนนี้จะทำให้ฉินเย่จือประทับใจอย่างแน่นอน ดังนั้นนางจึงเข้าไปในรถม้าด้วยความมั่นใจ จากนั้นรถม้าก็เริ่มเคลื่อนออกไป
สีหน้าของกู้เสี่ยวหวานกลายเป็นระแวดระวังทันทีหลังจากที่รถม้าแล่นออกไปไกล
“นางมาที่นี่เพื่ออะไร?” หลี่ฝานทำหน้านิ่วคิ้วขมวด
หลี่ฝานไม่รู้ว่าหลิวเทียนฉือได้ส่งคนมาที่นี่ครั้งหนึ่ง เพราะต้องการตัวฉินเย่จือและอาโม่
กู้หนิงผิงที่ปากไวตอบกลับในขณะนี้ “นางต้องการพาอาจารย์และพี่อาโม่ไป!”
ว่าอย่างไรนะ? เมื่อหลี่ฝานได้ยินสิ่งนี้ เขาก็ตกใจมาก!
เขามองไปที่ฉินเย่จือด้วยใบหน้าที่จริงจัง จากนั้นมองไปที่กู้เสี่ยวหวานที่กำลังกังวล ดูไม่เหมือนกำลังล้อเล่นอยู่เลย จากนั้นเขาก็ตระหนักได้ทันทีว่าแผนการของหลิวเทียนฉือคือ นางต้องการตัวนายท่านของเขาไปครอบครอง
หลี่ฝานตัวสั่นสะท้าน และเอ่ยถามกู้เสี่ยวหวาน “เสี่ยวหวาน ตอนนี้เจ้าคิดจะทำเช่นไร?”
“หึ นางต้องการคนหรือ? ไม่มีทางเสียหรอก!” กู้เสี่ยวหวานเอ่ยอย่างจริงจัง และหันศีรษะไปมองที่ฉินเย่จือ ด้วยท่าทางปลอบโยนราวกับว่าจะทำให้ฉินเย่จือมั่นใจว่าหลิวเทียนฉือจะไม่มีวันประสบความสำเร็จ
หลิวเทียนฉือคนนี้ หากกู้เสี่ยวหวานยังคงเชื่อคำกล่าวอ้างของเสี่ยวเถาที่ว่าการปล่อยให้ฉินเย่จือหรืออาโม่ไปที่ตระกูลของนางจะมีประโยชน์มากกว่านี้ หากนางเชื่ออย่างนั้น นางก็ต้องจะเชื่อเรื่องผีด้วยเช่นกัน!
หลิวเทียนฉือคนนี้ต้องเป็นคนที่โหดเหี้ยม
นางถูกใจฉินเย่จือและอาโม่ นางต้องชอบศิลปะการต่อสู้ของฉินเย่จือในคืนนั้นที่เขาเกือบจะบดขยี้กระดูกของผู้คุ้มกันอย่างง่ายดาย
เมื่อคิดดูแล้ว ผู้คุ้มกันคนนั้นต้องค่อนข้างเชี่ยวชาญ ดังนั้นนางจึงต้องการพาเขามาอยู่เคียงข้างเพื่อปกป้องความปลอดภัยของตน แต่นางไม่คิดว่าจะถูกปราบง่าย ๆ ดังนั้นจึงต้องการตัวฉินเย่จือ!
สิ่งที่กู้เสี่ยวหวานคาดไม่ถึงก็คือ หลิวเทียนฉือต้องการฉินเย่จือเพราะเขาศิลปะการต่อสู้ที่ดี นั่นเป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น
ส่วนที่สำคัญที่สุดคือ หลิวเทียนฉือถูกใจรูปลักษณ์ของฉินเย่จือ
นายน้อยในเมืองหลวงนั้นรายล้อมไปด้วยสาวรับใช้รอบตัว สาวรับใช้ของใครสวยกว่ากัน สาวรับใช้คนไหนมีความสามารถมากกว่ากัน
ส่วนเหล่าคุณหนูก็แข่งขันกันเรื่องผู้คุ้มกัน ใครมีผู้คุ้มกันมีรูปร่างหน้าตาหล่อเหลาและมีศิลปะการต่อสู้ที่แข็งแกร่ง นี่คือสิ่งที่กลายเป็นเรื่องสนุกในบรรดาคนที่มีฐานะร่ำรวยในเมืองหลวง
ยิ่งกว่านั้น ลูกคนรวยบางคนถึงกับเทียบจำนวนสาวรับใช้ที่พวกเขาหลับนอนด้วยเพื่อแสดงความโอ่อ่า!
ถึงกู้เสี่ยวหวานจะไม่รู้ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าฉินเย่จือและอาโม่จะไม่รู้
สีหน้าของฉินเย่จือเคร่งขรึมขึ้นเรื่อย ๆ เขารู้สึกขยะแขยงอย่างมากเมื่อคิดว่าตัวเองกลายเป็นที่ปรารถนาของคนประเภทนี้ น่าขยะแขยงเหมือนกับการกินแมลงวัน
ดวงตาของเขาลึกล้ำและสุขุม จ้องมองไปยังทิศทางที่รถม้ากำลังเคลื่อนออกไป เขามีแผนการบางอย่างอยู่ในใจ
ในอีกด้านหนึ่ง หลี่ฝานรู้สึกกระสับกระส่ายและนั่งไม่ติดเก้าอี้
เขาแอบมองกู้เสี่ยวหวานและฉินย่จือเป็นครั้งคราว หัวใจของเขาเหมือนกลองเล็ก ๆ ที่เต้นรัวไม่หยุด
อาโม่ยืนอยู่ด้านข้าง มองไปที่ฉินเย่จือและกู้เสี่ยวหวานเป็นครั้งคราว
เมื่อทุกคนคิดว่ากู้เสี่ยวหวานจะหงุดหงิด แต่กู้เสี่ยวหวานกลับยิ้มอย่างอ่อนหวาน “ท่านลุงหลี่ ไปกันเถอะ พวกเราไปกินข้าวกันดีกว่า!”
ตอนนี้อย่าเอาเรื่องนี้มาคิดเลย
เมื่อเห็นว่ากู้เสี่ยวหวานไม่ได้มีความกังวล หลี่ฝานพูดอะไรไม่ออกเพราะวันนี้เป็นงานเลี้ยงขึ้นบ้านใหม่ของกู้เสี่ยวหวาน เรื่องเล็ก ๆ เช่นนี้ไม่ควรนำมาใส่ใจ
เมื่อคิดได้ดังนั้นแล้ว จิตใจของเขาก็สงบลง ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ก็ขอให้จบงานเลี้ยงอย่างมีความสุขเสียก่อน
จากนั้นทุกคนก็เดินกลับไปนั่งที่โต๊ะอาหารอย่างสงบสุข
นอกจากบางคนที่รู้เรื่องนี้ ทุกคนต่างคิดว่าหลิวเทียนฉือมาเพื่อดูความสนุกเฉย ๆ และคิดว่าเมื่อนางเห็นเจ้าของบ้านมีความสุข นางก็จะมีความสุขไปด้วย
บนโต๊ะอาหารกลับมาคึกคักอีกครั้ง
มีเพียงสวีเฉิงเจ๋อเท่านั้นที่ครุ่นคิดเมื่อเห็นใบหน้ายิ้มแย้มราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นของกู้เสี่ยวหวาน แต่เมื่อครู่เขาเห็นความยั่วยุในดวงตาของคุณหนูหลิวและรอยยิ้มที่มอบกับฉินเย่จือ
บนรถม้า หลิวเทียนฉือจมอยู่ในภวังค์และคิดถึงเรื่องเมื่อครู่ที่นางได้พบฉินเย่จือ
ไม่คาดคิดว่าจะมีผู้ชายที่หล่อเหลาแบบนี้อยู่ในโลกจริง ๆ
แม้ว่าจะไม่เคยได้ยินเขาพูดอะไรสักคำ แต่เพียงแค่เขายืนอยู่เฉย ๆ ท่าทางเช่นนั้นก็สามารถทำให้คนหลงใหลและยากที่จะอดใจไหว
ถ้าได้มาอยู่เคียงข้างจริง ๆ แค่ได้มองก็จะเป็นความสุขในชีวิตแล้ว!
เมื่อถึงเวลานั้น หากนางมีคนหล่อเหลาอยู่ข้างกาย ไม่รู้ว่าจะมีคนอิจฉานางสักกี่คน
หลิวเทียนฉือหมกมุ่นอยู่กับจินตนาการและไม่สามารถปลดปล่อยตัวเองได้ ราวกับว่านางคาดหวังให้สตรีเหล่านั้นจากตระกูลที่มีชื่อเสียงมาห้อมล้อมและชมเชยนาง
นางไม่ได้ยินแม้แต่คำที่เสี่ยวเถาพูดกับนาง
“คุณหนู…” เสี่ยวเถากล่าว เมื่อเห็นว่าคุณหนูกำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่างอยู่ นางจึงรู้สึกเป็นกังวลเล็กน้อย
“เกิดอะไรขึ้น?” เมื่อเห็นว่าความคิดของนางถูกขัดจังหวะ ใบหน้าที่อ่อนโยนของหลิวเทียนฉือก็ปรากฏความไม่พอใจเล็กน้อย
“คุณหนู กู้เสี่ยวหวานไม่ใช่คนที่ดีที่จะคบหาด้วย เราต้องคิดเกี่ยวกับแผนการที่แน่นอน” เสี่ยวเถาขมวดคิ้วและพูดอย่างกังวล
ยิ่งกู้เสี่ยวหวานร้อนฉุนเฉียวมากเท่าไร ยิ่งไม่ไว้หน้าคุณหนูเท่านั้น สิ่งนั้นจะดีที่สุด
เสี่ยวเถาคิดกับตัวเองว่า ตอนนี้คุณหนูยังคิดที่จะเล่นกับกู้เสี่ยวหวานอยู่ และเมื่อกู้เสี่ยวหวานกวนประสาทคุณหนูจนทนไม่ไหว เหอะ ๆ คนโง่เขลาคนนั้น ถึงไม่ทำให้ตายก็จะลอกผิวหนังนางออกมา