ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย - บทที่ 772 ส่งคนให้คุณหนูหลิวเถอะ
บทที่ 772 ส่งคนให้คุณหนูหลิวเถอะ
บทที่ 772 ส่งคนให้คุณหนูหลิวเถอะ
กู้ซินเถามุ่ยปาก “คุณหนูหลิวถูกใจฉินเย่จือของเจ้า นางบอกว่าตราบใดที่เจ้าเต็มใจมอบฉินเย่จือให้นาง เจ้าจะได้ทุกอย่างที่ต้องการ อย่างไรก็ตาม หากไม่เข้าใจความเมตตาของผู้อื่น อย่าหาว่านางหยาบคายเลย!”
กู้ซินเถาถ่ายทอดคำพูดของหลิวเทียนจือ แววตาของนางพลันแปรเปลี่ยนเป็นดุร้ายในทันที
ทันทีที่สิ้นประโยคของกู้ซินเถา กู้เสี่ยวหวานก็ก้าวไปข้างหน้าสองก้าว นิ้วเรียวยาวชี้ไปที่หน้าของอีกฝ่ายและสาปแช่ง “กู้ซินเถา เจ้าลองพูดอีกครั้งดูสิ!”
กู้เสี่ยวหวานกำลังโกรธเคือง
ในราชวงศ์นี้ ระบบชนชั้นกำลังบดขยี้ผู้คนจนตัวตาย นางเป็นเพียงสามัญชนและไม่กล้าต่อสู้กับเจ้าหน้าที่ ดังนั้นโดยธรรมชาติแล้ว นางไม่สามารถดูหมิ่นหลิวเทียนฉือได้ แต่กู้ซินเถานั้นแตกต่างออกไป กู้เสี่ยวหวานไม่ได้หวาดกลัวนางเลย
ในขั้นต้น ความโกรธที่เสี่ยวเถาปลุกเร้าในใจนี้หมดลงไปแล้ว แต่กู้ซินเถากลับมาพูดแทนหลิวเทียนฉืออีกครั้ง เรื่องนี้จะไม่ทำให้กู้เสี่ยวหวานโกรธเคืองได้อย่างไร
“พูดอีกครั้ง? ไม่ว่าจะพูดอีกกี่ครั้งข้าก็ยังยืนยันคำเดิม เจ้าต้องเคารพและปล่อยให้ฉินเย่จือไปกับนาง แน่นอนว่าเจ้าจะได้ประโยชน์ไม่น้อย! ถ้าเจ้าไม่ให้ก็อย่าตำหนิคุณหนูหลิวที่เป็นคนใจร้าย!” กู้ซินเถาพูดอย่างชั่วร้าย
นางคร้านเกินจะกว่าจะพูดไร้สาระกับกู้เสี่ยวหวาน
ก่อนหน้านี้ นางเคยถามฉินเย่จือหลายครั้งแล้ว ไม่ว่าเงื่อนไขจะเป็นอย่างไร ฉินเย่จือก็ไม่มีวันเห็นด้วย
เป็นที่เข้าใจได้ว่า นางก็จะไม่เห็นด้วย แต่ตอนนี้อีกฝ่ายเป็นถึงลูกสาวของขุนนางระดับสาม และเป็นเจ้าหน้าที่อาวุโสที่สามารถเหยียบหัวใครก็ได้ภายในไม่กี่เค่อ!
“กู้เสี่ยวหวาน ข้าขอเตือนเจ้าเอาไว้ตรงนี้ เจ้าอย่าปล่อยให้จิตใจฟุ้งซ่านไปกับความงดงามนั้น ถ้าเจ้าไม่ยอม จะเป็นการทำให้คุณหนูหลิวขุ่นเคืองใจ ถ้าเจ้าทำให้นางขุ่นเคือง พวกเราทั้งหมดจะต้องตายไปพร้อมกัน!” กู้เสี่ยวเถากล่าววาจาข่มขู่
เมื่อเห็นว่าดวงตาของกู้เสี่ยวหวานไม่ดุร้ายเหมือนเมื่อก่อนอีกต่อไป กู้ซินเถาก็คิดว่าตนทำให้กู้เสี่ยวหวานหวั่นไหวได้ จึงเอ่ยต่อด้วยความดีใจ “เสี่ยวหวาน เราเป็นครอบครัวเดียวกัน และข้ายังเป็นพี่สาวของเจ้า พี่สาวของเจ้าคนนี้ขอเตือนเจ้าเอาไว้อย่างหนึ่งนะ เจ้าอย่าให้เห็นแก่คนนอกจนทำลายคนในครอบครัวของเจ้า!”
ทั้งหมดนี้เป็นความคิดของกู้ฉวนลู่ กู้ซินเถาจึงแอบภูมิใจในตนเองเล็กน้อย
กู้ฉวนลู่กล่าวว่าครอบครัวของคุณหนูหลิวนั้นทรงพลังอย่างยิ่ง และพวกเขาสามารถใช้พลังของตระกูลหลิวเพื่อกดดันกู้เสี่ยวหวานได้
กู้ซินเถาปฏิบัติตามอย่างเป็นธรรมชาติและอธิบายผลตามที่คุณหนูหลิวสั่งมา “เสี่ยวหวาน อย่าลืมว่าหากเจ้าตาย เจ้ายังมีน้องสามคนของเจ้าอยู่ ตราบใดที่เจ้าแสดงความกรุณาต่อคุณหนูหลิว ในอนาคตเจ้าจะได้ผลประโยชน์ไม่น้อยเลย แต่ถ้าเจ้าทำให้คุณหนูหลิวขุ่นเคือง อย่าลืมว่าเจ้าเป็นแค่คนธรรมดาสามัญ เจ้าอยากเผชิญหน้ากับทางการงั้นหรือ เจ้าอย่าหัวแข็งไปหน่อยเลย!”
สิ่งที่กู้ซินเถาพูดดูเหมือนจะสมเหตุสมผล เมื่อกู้เสี่ยวหวานได้ยินนางพูดอย่างมีเหตุผลก็ได้แต่หัวเราะเยาะอยู่ในใจ
ตั้งแต่เมื่อไรกันที่กู้ซินเถากลายเป็นคนปากเก่ง และไม่รู้ว่าใครเป็นคนสอนคำพูดให้นาง!
เมื่อกู้ซินเถาเห็นกู้เสี่ยวหวานยิ้มและจ้องมองตนเองอย่างเย็นชา นางก็พึมพำในใจ
หลังจากนั้นก็ได้ยินกู้เสี่ยวหวานพูดอย่างเย็นชา “กู้ซินเถา คุณหนูหลิวส่งเจ้ามาเกลี้ยกล่อมข้าใช่หรือไม่? นางให้ผลประโยชน์อะไรกับเจ้ากันล่ะ?”
ในอดีต กู้ซินเถาอยากได้ฉินเย่จือจะเป็นจะตาย แต่ต่อมาเมื่อตนเองไม่บรรลุผลและได้รับความคับข้องใจจากฉินเย่จือมากเกินไป นางจึงล้มเลิกความคิดนั้น แต่ไม่คาดคิดว่าจะต้องมาช่วยหลิวเทียนฉือ
“คุณหนูหลิวเป็นคนดี นางสนใจข้า แม้ว่านางจะมีสถานะสูงส่ง แต่กลับลดตัวลงมาขอร้องข้า แน่นอนว่าข้าต้องช่วยนางในเรื่องนี้!” กู้ซินเถากระหยิ่มยิ้มย่องอย่างพึงพอใจ เมื่อเห็นใบหน้าที่ไร้อารมณ์ของกู้เสี่ยวหวาน จึงคิดว่ากู้เสี่ยวหวานประหลาดใจว่า ทำไมนางถึงมีความสัมพันธ์ที่ดีกับหลิวเทียนฉือ และเอ่ยอยากภาคภูมิใจ “กู้เสี่ยวหวาน ตอนนี้ข้าเป็นแขกของคุณหนูหลิว!”
ดูเหมือนว่าคุณหนูหลิวจะเป็นขนมอบที่ส่งกลิ่นหอม และกู้ซินเถาก็ภูมิใจที่สามารถมีความสัมพันธ์เพียงเล็กน้อยกับหลิวเทียนฉือ
เมื่อได้ยินกู้ซินเถาพูดมาหมดเปลือก กู้เสี่ยวหวานกลับไม่โกรธและคลี่ยิ้มออกมาแทน
กู้ซินเถาคนนี้ สมองของนางคงจะถูกลาเตะจริง ๆ
หลังจากหัวเราะ กู้เสี่ยวหวานก็สงบลงทันที
โชคดีที่วันนี้ฉินเย่จือไปที่ร้านจิ่นฝูเพื่อติดตามร้านหม้อไฟกับหลี่ฝาน ไม่อย่างนั้นเมื่อเห็นกู้ซินเถา เขาอาจจะรู้สึกรำคาญได้
ไม่ต้องพูดถึงฉินเย่จือ แม้แต่กู้เสี่ยวหวานเองก็รำคาญ
กู้ซินเถาเป็นคนไม่รู้ความจริง ๆ!
หลิวเทียนฉือเป็นคนอย่างไร จึงถือว่ากู้ซินเถาเป็นแขก?
หากกู้เสี่ยวหวานเชื่อเรื่องไร้สาระของกู้ซินเถา คงจะเป็นเพราะหัวของนางได้รับการกระทบกระเทือน
หลิวเทียนฉือผู้นี้ แม้ว่าภายนอกจะดูเหมือนไม่มีพิษภัย แต่ใครจะบอกได้ชัดเจนว่าพลังภายในนี้ทำให้เกิดกลอุบายแบบไหน!
หลิวเทียนฉือให้กู้ซินเถามาเกลี้ยกล่อมนาง ซึ่งแสดงให้เห็นว่าหลิวเทียนฉือได้เข้าใจพื้นฐานครอบครัวของนางแล้ว และรู้ว่ากู้ซินเถามีปัญหากับนาง แต่ทำไมถึงยังปล่อยให้กู้ซินเถามาอีกล่ะ?
กู้ซินเถาคนนี้ไม่ละความพยายามที่จะรับใช้หลิวเทียนฉือ แล้วหลิวเทียนฉือสัญญาอะไรกับนางกัน?
หากนางไม่เห็นด้วยที่จะให้ฉินเย่จือไป เมื่อเห็นความภาคภูมิใจและท่าทางดูหยิ่งยโสของกู้ซินเถา หัวใจของกู้เสี่ยวหวานก็แปรเปลี่ยนเย็นชาทันที
ครอบครัวของหลิวเทียนฉือเป็นคนสูงศักดิ์ และนางไม่ใช่คนที่คนทั่วไปจะทำให้ขุ่นเคืองได้
อย่างที่โบราณว่าไว้ ประชาชนไม่ต่อสู้กับเจ้าหน้าที่
คนหนึ่งเป็นพลเมืองชั้นผู้น้อย และอีกคนหนึ่งเป็นขุนนางชั้นสูง
เมื่อกู้เสี่ยวหวานเจอนาง มันก็เหมือนกับการโยนไข่ใส่หิน
ไม่ได้รับผลประโยชน์ใด ๆ ให้ครอบครัวของพวกเขาถูกทำลาย
หลิวเทียนฉือนั้นมีใบหน้าที่ไร้พิษภัย แต่ภายในนั้นมีความคิดแบบไหน ใครเล่าจะหยั่งรู้
การวาดมังกรหรือวาดเสือนั้น ไม่มีทางที่จะวาดกระดูกของมันได้ แม้รู้จักคน รู้หน้าแต่ไม่รู้ใจ
กู้เสี่ยวหวานหายใจอย่างจริงจัง และไม่พูดสิ่งใดเป็นเวลานาน
นี่เป็นครั้งแรกที่ป้าจางได้ยินเรื่องคุณหนูหลิว เมื่อได้ยินกู้ซินเถาพูดถึงตัวตนของคุณหนูหลิว มันจึงอยู่เหนือการคาดเดาอยู่บ้าง ป้าจางจึงมองไปยังกู้เสี่ยวหวานอย่างกังวล
ป้าจางรู้ถึงความสำคัญของฉินเย่จือในใจของกู้เสี่ยวหวาน
ฉินเย่จือช่วยชีวิตกู้เสี่ยวหวานไว้หลายครั้งหลายครา และกู้เสี่ยวหวานก็ถือว่าเขาเป็นสมาชิกในครอบครัวของนางแล้ว
นางจะมอบฉินเย่จือให้คนอื่นได้อย่างง่ายดายได้อย่างไร?
แต่ถ้าไม่ให้?
ยิ่งป้าจางคิดถึงเรื่องนี้มากเท่าไร นางก็ยิ่งกังวลมากขึ้นเท่านั้น เมื่อนึกถึงคำพูดอันโหดร้ายที่กู้ซินเถาพูดออกมาเมื่อครู่
หากมีอะไรเกิดขึ้นกับเด็ก ๆ ของตระกูลกู้ขึ้นมา เมื่อถึงเวลานั้น นางจะไปเจอหน้ากู้ฉวนฟู่และเถียนซื่อได้อย่างไร!
………………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
ฉินเย่จือนี่เนื้อหอมจริง ๆ นะคะ มีแต่สาว ๆ จะมาแย่งตัว
ไหหม่า(海馬)