ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย - บทที่ 773 ฉินเย่จือเป็นคนของข้า
บทที่ 773 ฉินเย่จือเป็นคนของข้า
บทที่ 773 ฉินเย่จือเป็นคนของข้า
อาโม่ที่ยืนอยู่ด้านข้างก็หันไปมองกู้เสี่ยวหวานด้วยความเป็นห่วง
เขามองดูนางอย่างใกล้ชิดด้วยความกังวล
ในขณะนี้ กู้เสี่ยวหวานตกอยู่ในภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก จึงทำให้เขาประหม่าอย่างมาก
ในใจพลันรู้สึกเคียดแค้นคนของตระกูลหลิวมากขึ้น
ในใจของอาโม่กังวลว่า กู้เสี่ยวหวานจะเอ่ยสิ่งใดเกี่ยวกับการละทิ้งเจ้านายของตนเอง
ครั้นป้าจางจะเอ่ยปาก แต่นางเห็นกู้เสี่ยวหวานลืมตาขึ้นทันที ดวงตาของนางดูเหมือนจะอาบด้วยพิษ และน้ำเสียงก็เยือกเย็นดังธารน้ำแข็ง “กลับไปบอกคุณหนูหลิวว่า เดิมทีข้าคิดเช่นไร ตอนนี้ข้าก็คิดเช่นนั้น! ต้องการฉินเย่จืองั้นหรือ ฝันไปเสียเถอะ!”
เป็นจริงอย่างที่คาดคิดเอาไว้!
อาโม่แอบปรบมือในหัวใจของเขา สายตาที่มองไปยังกู้เสี่ยวหวารนเต็มไปด้วยความตื่นเต้น และเกือบจะยกนิ้วให้กู้เสี่ยวหวาน
นายท่านมองคนไม่ผิดจริง ๆ!
กู้เสี่ยวหวานผู้นี้ไม่เกรงกลัวอำนาจเช่นเดียวกับเขา!
เมื่อนึกถึงสิ่งนี้ อาโม่ก็ตวัดสายตาไปมองกู้ซินเถาอย่างเย็นชา!
เมื่อเห็นว่ากู้เสี่ยวหวานมีความคิดของตนเอง ป้าจางก็ไม่สามารถพูดอะไรได้
ไม่ว่ากู้เสี่ยวหวานจะพูดอะไร นางพร้อมจะสนับสนุนเด็กคนนี้ทุกอย่าง
ครั้นนึกถึงสิ่งนี้ ป้าจางก็มองไปกู้ซินเถาด้วยสายตาเย็นชาเช่นกัน
กู้ซินเถาไม่คาดคิดว่ากู้เสี่ยวหวานจะเหมือนกับก้อนหินในคูน้ำ ทั้งมีกลิ่นเหม็นเน่าและแข็งกระด้าง!
นางพูดอย่างชัดเจนแล้ว แต่กู้เสี่ยวหวานยังคงปฏิเสธที่จะยอมรับมัน
กู้ซินเถาโกรธราวกับมีไฟแผดเผาหัวใจของนาง “กู้เสี่ยวหวาน เจ้าต้องคิดให้รอบคอบนะ ถ้าไม่เชื่อฟังคุณหนูหลิว เมื่อถึงเวลานั้นหัวของเจ้าคงจะหลุดออกจากบ่า!”
ศีรษะจะหายไป?
กู้เสี่ยวหวานเบะปาก ไม่ได้มีท่าทางแยแสแต่อย่างใด
ถ้าไม่ใช่เพราะฉินเย่จือ นางคงจะตายเพราะเงื้อมมือของเหมียวเอ้อร์ไปนานกว่าปีแล้ว
ถ้าไม่ใช่เพราะฉินเย่จือ นางคงถูกกลืนกินอยู่ภายในท้องของหมาป่าไปแล้ว
ถ้าไม่ใช่เพราะฉินเย่จือ นางคงหนาวตายในหมู่บ้านเหมยไปแล้ว
ตัวเองเกือบตายมาหลายครั้งแล้ว ยังจะต้องกลัวถูกตัดศีรษะอีกหรือ
ต้องการแย่งฉินเย่จือไปจากนางงั้นหรือ? ไม่มีทางเสียหรอก!
ครั้นเห็นว่าสีหน้าของกู้เสี่ยวหวานยังไม่เปลี่ยนแปลง กู้ซินเถาจึงจ้องอีกฝ่ายจนตาแถบถลนออกมาจากเบ้า
ไม่รู้ว่าเหตุใดบรรยากาศรอบตัวของกู้เสี่ยวหวานถึงแข็งแกร่งมากเช่นนี้
ดูเหมือนว่านางจะไม่เคยเห็นบรรยากาศที่แข็งแกร่งจากหลิวเทียนฉือ
ทันใดนั้น ราวกับนึกบางอย่างขึ้นมาได้ กู้ซินเถาจึงแสยะยิ้ม ชี้ไปที่กู้เสี่ยวหวานอย่างมุ่งร้ายและพูดติดตลกว่า “กู้เสี่ยวหวาน ตอนข้าต้องการฉินเย่จือ เจ้าก็ไม่ยอม แต่ตอนนี้คุณหนูหลิวต้องการ เจ้าก็ไม่ยอมเช่นกัน เจ้าคงไม่ได้ชอบเขาหรอกใช่หรือไม่?”
ฮ่าๆๆ!
กู้ซินเถาอยากจะหัวเราะจริง ๆ!
ในเวลานั้น นางต้องการตัวฉินเย่จือ ไม่มีอะไรมากไปกว่าที่นางต้องการให้ฉินเย่จืออยู่เคียงข้างเพื่อที่นางจะได้เชิดหน้าชูตา
คุณหนูหลิวต้องการฉินเย่จือเพราะมีทักษะศิลปะการต่อสู้ระดับสูง เพื่อให้เขาสามารถปกป้องคุ้มครองนางได้
แต่กู้เสี่ยวหวานไม่ได้สนใจชีวิตตนเอง และต้องการเก็บฉินเย่จือไว้
นี่…
กู้ซินเถาดูเหมือนจะมีความคิดบางอย่าง และมองไปยังกู้เสี่ยวหวานด้วยแววตาเหยียดหยาม
อาโม่หันศีรษะของเขาอย่างรวดเร็วและมองไปที่กู้เสี่ยวหวาน
ยามเห็นใบหน้าของกู้เสี่ยวหวานขึ้นสีแดงก่ำ และก้มหน้างุดด้วยความเขินอาย เห็นได้ชัดว่ามีความตื่นตระหนกในแววตา ก่อนที่นางจะก้มศีรษะลง!
เป็นไปได้หรือไม่ว่า กู้เสี่ยวหวานตกหลุมรักเจ้านายของเขาจริง ๆ?
กู้เสี่ยวหวานรู้สึกอับอายเล็กน้อยกับคำพูดของกู้ซินเถา แต่นางก็กลับมารู้สึกตัวทันที ไม่มีสิ่งใดที่นางจะต้องอาย
กู้เสี่ยวหวานเงยหน้าขึ้นทันที รุดตัวขึ้นหน้าพลางเอามือไพล่หลัง ทันใดนั้น บรรยากาศรอบตัวของนางก็แผ่ออกมา นางเชิดหน้าขึ้นเล็กน้อยแล้วเอ่ยอย่างเย่อหยิ่ง “แล้วอย่างไรเล่า? พี่ใหญ่ฉินหล่อเหลาถึงเพียงนั้น ถ้าข้าตกหลุมรักเขา แล้วในอนาคตถ้าข้าอยากเป็นภรรยาของเขาล่ะ จะเป็นอย่างไร?”
ตอนนี้เขายังหล่อเหลาถึงเพียงนั้น นับประสาอะไรกับในอนาคต ไม่รู้ว่าจะมีคุณหนูกี่คนมาต่อแถวรอเขา
ฉือโถวที่อยู่ด้านข้างมองไปที่กู้เสี่ยวหวานอย่างรวดเร็ว และก้มศีรษะลงทันที เขากำมือแน่นราวกับต้องการระงับอารมณ์ของตัวเอง
แววตาของเขาหม่นลง
ดวงตาของอาโม่ค่อย ๆ เบิกกว้างพร้อมกับความประหลาดใจบนใบหน้า และลอบหัวเราะเพียงคนเดียวในใจ
ถ้านายท่านรู้เรื่องนี้ นายท่านจะต้องหัวเราะจนท้องแข็งตาย!
เมื่อกู้ซินเถาได้ยิน นางก็ผงะไปชั่วขณะหนึ่ง จากนั้นก็ชี้ไปที่กู้เสี่ยวหวานที่กำลังยิ้มร่า “ฮ่า ๆๆ กู้เสี่ยวหวาน เจ้า… เจ้า…”
เอ่ยคำว่าเจ้าเป็นเวลานานโดยพูดคำอื่นไม่ออกสักคำ
กู้เสี่ยวหวานขมวดคิ้ว และกำลังจะขอให้อาโม่โยนนางออกไป
แต่กู้ซินเถากลับปริปากเอ่ยขึ้นอย่างประชดประชันด้วยใบหน้าที่ดูถูกเหยียดหยาม “กู้เสี่ยวหวาน เจ้าคิด… คิดจะแต่งงานกับขอทานจริงหรือ? แม้ว่าขอทานผู้นี้จะดูดีเพียงใด แต่เจ้าจะมีทรัพย์สินของครอบครัวได้อย่างไร เจ้าไม่กลัวโดนคนอื่นหัวเราะเยาะจนฟันร่วงหรือ!”
หลังจากได้ยินเรื่องนี้ อาโม่ก็พยายามอย่างเต็มที่ที่จะระงับตัวเองไม่ให้ก้าวไปข้างหน้า และลงมือกับสตรีผู้นี้!
เจ้าน่ะสิที่เป็นขอทาน!
นางกล้าดีอย่างไรมาให้ร้ายเจ้านายของเขาแบบนี้!
ช่างน่ารังเกียจ!
อาโม่ต้องการที่จะโยนกู้ซินเถาที่ทำตัวผีเจาะปากมาพูดออกไปให้พ้น ๆ แต่กู้เสี่ยวหวานยังคงนิ่งเงียบไม่พูดสิ่งใด ไม่ว่าอะไรจะเกิดอะไรขึ้น เขาไม่สามารถกระทำการบุ่มบ่ามโดยไม่ได้รับอนุญาต
ถ้อยคำที่พ่นออกมาจากปากของกู้ซินเถาไม่มีคำดี ๆ ออกมาเลยสักคำเดียว หลังจากได้ยินคำเหล่านี้ แววตาของนางก็แปรเปลี่ยนเป็นแข็งกร้าวราวกับว่าต้องการทิ่มแทงกู้ซินเถา “ฉินเย่จือเป็นคนของข้า และข้าก็ค่อนข้างเอาแต่ใจ อะไรที่เป็นของข้าก็คือของข้า คนอื่นเลิกฝันลม ๆ แล้ง ๆ เสียที กลับไปบอกคุณหลิวของเจ้าเสียว่าให้ล้มเลิกความคิดนี้เสีย และเจ้าก็ไสหัวไปให้พ้น!”
นางคร้านจะคุยกับกู้ซินเถาแล้ว!
อาโม่ได้รับคำสั่งของกู้เสี่ยวหวานแล้วรุดขึ้นหน้าอย่างฉับไว เขาใช้ร่างกายกำบังกู้เสี่ยวหวานเอาไว้ไม่ให้อีกฝ่ายเข้ามาใกล้ แววตาของเขาเต็มไปด้วยความดุร้าย “คุณหนูของข้าบอกให้เจ้าออกไป!”
“เจ้า…” กู้ซินเถามองไปยังชายที่ถูกเล็บอันแหลมคมของนางข่วนจนเลือดไหลซิบ ๆ นางอยากจะกรีดร้องและสาปแช่งออกมา แต่เมื่อเห็นดวงตาที่เย็นชาและความดุร้ายที่พร้อมระเบิดได้ทุกเมื่อ กู้ซินเถาก็กลืนถอยคำเหล่านั้นกลับไป
เมื่อครู่นางเห็นความเย็นชาในดวงตาของอาโม่ ซึ่งราวกับว่ามันจะสามารถทำให้คนจมน้ำตายได้ นางรู้ว่าถ้าพูดอีกคำ คนผู้นี้อาจจะปลิดชีพนางจริง ๆ
กู้ซินเถาไม่คาดคิดว่าขอทานตัวเหม็นเหล่านี้ในครอบครัวของกู้เสี่ยวหวานจะมีดวงตาที่ดุร้าย แต่นางยังคงตะโกนอย่างเย่อหยิ่ง “หึ พวกเจ้าอย่าได้ใจไปล่ะ เมื่อถึงเวลานั้น ไม่รู้ว่าเจ้าจะตายอย่างไร! และจะไม่มีใครมาเก็บศพให้เจ้า!”