ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย - บทที่ 774 ทำให้นางเสียหน้า
บทที่ 774 ทำให้นางเสียหน้า
บทที่ 774 ทำให้นางเสียหน้า
กู้ซินเถาจ้องมองอาโม่อย่างดุดัน จากนั้นหันหลังกลับและเดินออกไปทางประตูอย่างไม่สนใจ
เมื่ออาโม่เห็นกู้ซินเถาก้าวเดิน โทสะที่ถูกสุมอยู่ในใจพลันลุกโหมกระหน่ำ ชายหนุ่มเอื้อมมือออกไปผลักหญิงตรงหน้า กู้ซินเถาที่ไม่คาดคิดว่าอาโม่จะกล้าลงมือกับตนจนร่างซวนเซเช่นนี้
ร่างกายของนางเอนกระเท่เร่ จากนั้นก็ล้มลงบนพื้นและกลิ้งตลบอยู่สองสามครั้ง ทำให้หัวเข่ากระแทกกับพื้นจนเกิดบาดแผล ฝุ่นรอบด้านฟุ้งกระจายเปรอะเปื้อนเต็มเสื้อผ้าและร่างกาย นางพยายามกัดฟันกลั้นเสียงร้องเอาไว้
นางตวัดสายตาหันกลับไปมองประตูที่ปิดสนิทอย่างดุดันอีกครั้ง
ไม่ช้าก็เร็ว คุณหนูหลิวจะจัดการพวกเจ้าทีละคน!
ความเจ็บปวดรุนแรงบริเวณเข่า กู้ซินเถานั่งแหมะอยู่กับพื้นเพื่อรอให้ความเจ็บปวดหายไป ได้แต่นั่งลูบเขาด้วยความเจ็บปวดและชี้ไปที่ประตูพลางสาปแช่ง
โชคดีที่ตอนนางมาที่นี่ นางได้จ้างรถม้าเอาไว้ แต่เพราะยังไม่ได้จ่ายเงิน รถม้ายังคงจอดอยู่หน้าประตูและไม่ได้ออกไป เมื่อเห็นว่ากู้ซินเถาถูกโยนออกมา คนขับก็รีบก้าวไปข้างหน้าและถามว่า “แม่นาง เจ้าไม่เป็นไรใช่หรือไม่!”
จะเป็นไปได้อย่างไร กู้ซินเถากลอกตาและพูดอย่างโกรธเคืองว่า “ไม่ใช่เรื่องของเจ้า! เป็นสุนัขพยายามจับหนู*[1] หรือ!”
คนขับรถม้ารู้สึกงงงวย
เขาห่วงใยนางด้วยเจตนาดี แต่นางกลับกลอกตาและพูดจายโสโอหังใส่เขา
ดูเหมือนว่ามีหลายสิ่งหลายอย่างในครอบครัวที่ร่ำรวยเช่นนี้!
คนขับรถม้าที่ถูกตำหนิกำลังจะถอยหลังไป แต่กู้ซินเถาไม่สามารถยืนขึ้นด้วยตัวเองได้ เมื่อเห็นว่าคนขับรถม้ากำลังจะจากไป นางก็สบถอีกครั้ง “เจ้าไม่มีตาหรือ ไม่เห็นหรือว่าข้าได้รับบาดเจ็บ ทำไมยังไม่รีบมาช่วยข้าอีก!”
คนขับรถม้าถูกตำหนิอีกครั้ง มันทำให้เขาอยากจะสาดความโกรธเคืองกลับไป แต่หลังจากคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ เขาก็พยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อระงับความโกรธไว้!
ใครใช้ให้ตัวเองเป็นคนขับรถม้ากัน!
แม้ว่าสถานที่แห่งนี้จะอยู่บนถนน แต่มันก็ยังอยู่ในแถบชานเมือง ปกติแล้วรถม้าธรรมดาจะไม่วิ่งผ่านเส้นทางนี้ ยกเว้นเสียแต่มีเรื่องที่ต้องทำจึงได้ใช้เส้นทางนี้
คนขับรถก็ใจดีและส่งสาวน้อยอารมณ์ร้ายคนนี้กลับไป!
ช่างมันเถอะ!
ถ้าวันนี้หาเงินได้ จะโกรธเล็กน้อยก็ไม่เป็นไร!
คนขับรถม้าช่วยพยุงกู้ซินเถาขึ้นรถม้า และบังคับรถม้ามุ่งตรงไปยังบ้านตระกูลกู้ เมื่อถึงที่หมายคนขับรถม้าก็ลงจากรถ จากนั้นซุนซื่อก็ออกมาเปิดประตู
ครั้นได้ยินคนขับรถม้าพูดว่า “ฮูหยิน ลูกสาวของท่านยังอยู่ในรถม้า ท่านช่วยไปประคองนางลงมาเถอะ!”
เมื่อครู่พวกเขาอยู่หน้าสวนหลี่ ที่นั่นไม่ผู้คนหรือร้านค้าใด ๆ คนขับรถม้าอายุสี่สิบปีเศษแล้ว แค่พยุงนางคงจะไม่เป็นอะไร แต่ตอนนี้พวกเขากลับมาถึงในเมืองแล้ว คนขับรถม้าไม่สามารถช่วยอะไรนางได้
หากคนอื่นพบเห็นคงจะถูกนำไปซุบซิบนินทา ตนเองนั้นไม่เป็นอะไร แต่ไม่อยากทำให้สาวน้อยไร้เดียงสาต้องอับอาย
คนขับรถม้าใจดีจริง ๆ
เมื่อซุนซื่อได้ยินสิ่งที่คนขับพูด ดวงตาของนางเบิกกว้างและเอ่ยเสียงดัง “ลูกสาวของข้าเป็นอะไรไป?”
น้ำเสียงแหลมแสบหูจนแก้วหูของคนขับรถม้าจะทะลุ
คนขับรถม้าอายุมากแล้ว เขามีความประพฤติดีมาตลอด และครอบครัวของเขาก็ยากจน ครอบครัวที่ร่ำรวยและมีอำนาจทั้งหมดอาศัยอยู่บนถนนสายนี้ เขาจึงต้องเกรงใจ
เดิมทีคิดว่าเป็นการเริ่มต้นที่ดีในวันนี้ แต่ใครจะคิดว่ากิจการนี้จะทำได้ยากขนาดนี้
คราวนี้ เมื่อได้ยินเสียงกรีดร้องของซุนซื่อ คนขับรถม้าก็ตัวสั่นด้วยความตกใจ และรีบอธิบาย “ฮูหยินไม่ต้องกังวล ลูกสาวของท่านเพียงหกล้มโดยไม่ได้ตั้งใจ!”
ซุนซื่อจะไม่ร้อนรนได้อย่างไร เมื่อเช้านี้ตอนออกไปนางยังคงมีท่าทีสดใส แต่ทำไมตอนกลับมาถึงได้หกล้มและเดินไม่ได้
ด้วยความกลัวว่าคนขับรถม้าจะหนีไป ซุนซื่อจึงคว้าแขนเสื้อของเขาเอาไว้และพูดอย่างดุดันว่า “วันนี้เจ้าต้องอธิบายให้ข้าฟังอย่างชัดเจนว่า เจ้ารีบขับรถม้าจึงทำให้ลูกสาวข้าบาดเจ็บใช่หรือไม่? ถ้าเจ้าไม่บอกให้ชัดเจน วันนี้เจ้าจะไม่ได้รับอนุญาตให้ออกไป!”
ซุนซื่อกังวลอย่างยิ่งเกี่ยวกับความปลอดภัยของกู้ซินเถา ดังนั้นนางจึงจับคนขับรถม้าไว้ด้วยมือข้างหนึ่ง เขาเดินตามซุนซื่อด้วยความรู้สึกเสียใจกับเสื้อผ้าบนร่างกายของเขา
ซุนซื่ออกแรงดึงมากเกินไป คนขับรถม้าจึงกลัวว่าเสื้อผ้าของตนเองจะขาด เมื่อซุนซื่อก้าวเดิน เขาจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องตามนางไป เมื่อทั้งสองมาถึงรถม้า ซุนซื่อก็เปิดม่านขึ้น
กู้ซินเถานั่งตัวตรงอยู่ในรถม้า เมื่อนางเห็นซุนซื่อใกล้เข้ามา นางก็หันไปมองด้วยความไม่พอใจและใบหน้าเต็มไปด้วยความขยะแขยง
เมื่อเห็นว่ากู้ซินเถาไม่เป็นอะไรมาก ซุนซื่อก็รู้สึกโล่งใจ ทันใดนั้นมือที่จับอยู่ก็ปล่อยออก
“ซินเถา เจ้าเป็นอะไรไป? บาดเจ็บตรงไหนหรือ? ให้ข้าดูหน่อยสิ!” ซุนซื่อถามอย่างประหม่า แววตาของนางดูตื่นตระหนก
กู้ซินเถาได้รับความคับขุ่นเคืองใจจากกู้เสี่ยวหวาน ทั้งยังถูกผลักจนหกล้มหน้าคะมำ ตอนนี้อารมณ์ของนางจึงเต็มไปด้วยความคุกรุ่น
ครั้นเห็นซุนซื่อมาถามอีกครั้ง ตอนนี้นางกำลังจับแขนของคนขับรถอย่างดุร้ายและพ่นคำผรุสวาทอย่างน่าเกลียดออกมา นางดูไม่เหมือนฮูหยินเลย แต่ดูเหมือนผู้หญิงหยาบคายในชนบทจริง ๆ
นี่คือสถานที่ที่ร่ำรวยที่สุดในเมืองหลิวเจีย และทุกคนที่อาศัยอยู่ถัดจากนั้นเป็นตระกูลที่มีชื่อเสียงที่สุดในเมืองหลิวเจีย
เมื่อกู้ซินเถาได้ยินคำด่าของซุนซื่อที่สบถออกมา นางก็รู้สึกว่าใบหน้าของนางร้อนขึ้นและสาปแช่งด้วยเสียงทุ่มต่ำด้วยความโกรธ “ท่านแม่กำลังพูดอะไร กลัวว่าคนอื่นจะไม่รู้ว่าข้าได้รับบาดเจ็บอย่างนั้นหรือ? เหมือนคนใจหยาบ ท่านทำข้าขายหน้าหมดแล้ว!”
หลังจากพูดจบ นางก็กลอกตาและจ้องไปที่ซุนซื่อ
ร่างกายของซุนซื่อแข็งทื่อด้วยคำพูดที่ไร้ความปรานีของกู้ซินเถา
เมื่อครู่ ซุนซื่อกังวลเรื่องความปลอดภัยของกู้ซินเถาจริง ๆ แต่ทั้งหมดนี้ในมุมมองของกู้ซินเถาถือเป็นเรื่องเสียหน้าสำหรับนาง
กู้ซินเถาจ้องมองที่ซุนซื่อ ซุนซื่อก็สะดุ้งและหดศีรษะลงด้วยความลำบากใจ
กู้ซินเถาลุกขึ้น ก้มตัวและลงจากรถม้า
ขั้นบันไดของสวนหลี่ไม่สูงนัก เพียงห้าหรือหกขั้นเท่านั้น แต่เมื่อนางล้มลง ทำให้เข่าของนางกระแทกพื้นและเกิดอาการเจ็บปวด
เวลาผ่านมาสักพัก และตอนนี้ความเจ็บปวดก็หายไปแล้ว
กู้ซินเถากลับมาเดินได้เหมือนปกติ
ไม่เห็นความแตกต่างเลย
ปรากฏว่ากู้ซินเถาฟื้นตัวแล้วและกำลังจะลงจากรถ แต่เมื่อนางได้ยินเสียงของซุนซื่อและคนขับรถม้าโต้เถียงกัน กู้ซินเถาก็หยุดทันทีและไม่เต็มใจที่จะลงไป
*[1] หน้าที่จับหนูเป็นของแมวไม่ใช่ของหมา บางทีไม่ใช่เรื่องของตัวเองก็ชอบเข้ามาบงการวุ่นวาย