ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย - บทที่ 775 เหมาะสมกันจริง ๆ
บทที่ 775 เหมาะสมกันจริง ๆ
บทที่ 775 เหมาะสมกันจริง ๆ
หากนางลงไปตอนนี้ แล้วผู้อื่นเห็นว่ามารดาของตนกำลังโต้เถียงกับคนขับรถม้าอย่างหยาบคายที่หน้าประตู นางจะเอาหน้าไปไว้ไหนกัน?
กู้ซินเถาจึงประวิงเวลารออยู่ในรถม้า ในขณะที่ซุนซื่อสาปแช่งคนขับ กู้ซินเถาก็นิ่งเงียบไม่ส่งเสียงใด หลังจากที่พวกเขาเงียบเสียงลง กู้ซินเถาจึงก้าวลงจากรถ
เมื่อเห็นว่าขาของกู้ซินเถาไม่มีอะไรผิดปกติ คนขับก็มีความสุขเช่นกันและตบหน้าอกตน เขายิ้มอย่างประจบประแจงให้ซุนซื่อและพูดว่า “ฮูหยิน เงินค่ารถ…”
สองเที่ยวไปกลับราคายี่สิบเหรียญ!
ซุนซื่อเหลือบมองเขาเล็กน้อย และหยิบเงินออกมาจากถุงเงินของนาง คนขับรถกำลังจะรับมันมาด้วยรอยยิ้ม แต่กลับซุนซื่อกับขว้างมันลงพื้น “ไปหยิบเอง!”
จากนั้นสีหน้าของคนขับรถก็แปรเปลี่ยน เขาเดินออกไปและปิดประตูอย่างไม่พอใจ
นี่เป็นครั้งแรกที่คนขับรถม้าเห็นแม่และลูกสาวที่แปลกประหลาดเช่นนี้ คนโตกว่าหรือเด็กกว่าก็ล้วนไม่ใช่ตะเกียงประหยัดน้ำมัน
“หึ ใครก็ตามที่อยู่กับเจ้าสองคนจะต้องลำบากไปแปดชั่วอายุคนแน่ ๆ!” คนขับรถม้าก้มลงบนพื้นและเก็บเงินขึ้นมาจากพื้นทีละเหรียญ
จากนั้นเขาก็มองไปที่ประตูบ้านของตระกูลกู้และพูดอย่างแผ่วเบา “ภายนอกดูงดงาม แต่จิตใจช่างเลวร้ายเสียจริง!”
หลังจากพูดจบ เขาก็ขับรถม้าออกไปทันที และสาบานในใจว่าจะไม่รับการว่าจ้างจากสองแม่ลูกคู่นี้อีก
…
หลังจากที่กู้ซินเถาจากไป ในที่สุด สวนหลี่ก็กลับมาสู่ความสงบอีกครั้ง
ป้าจางตามกู้เสี่ยวหวานเข้าไปในห้อง และต้องการถามบางสิ่งที่ค้างคาอยู่ในใจกับกู้เสี่ยวหวาน แต่หลังจากครุ่นคิดอยู่นานก็ไม่รู้จะเอ่ยอย่างไร
กู้เสี่ยวหวานสังเกตเห็นความแปลกไปของป้าจาง และคิดว่านางรู้สึกไม่สบาย จึงรีบถามด้วยความเป็นห่วง “ท่านป้า สีหน้าของท่านไม่ค่อยดีเลย ไม่สบายหรือเปล่าเจ้าคะ?”
เมื่อป้าจางได้ยินเช่นนั้นก็รับโบกมือเป็นพันวัลและเอ่ยปฏิเสธ “สาวน้อยเสี่ยวหวาน ข้าแค่อยากจะถามเจ้าถึงสิ่งที่เจ้าพูดกับกู้ซินเถา นั่นเป็นความจริงหรือไม่?”
พูดอะไรกับกู้ซินเถา?
นางพูดกับกู้ซินเถาไปตั้งมากมาย ป้าจางหมายถึงอะไรกัน!
“ป้าจางจะถามถึงประโยคไหนกัน?” กู้เสี่ยวหวานคิดอยู่ครู่หนึ่ง แต่ไม่รู้จริง ๆ ว่าป้าจางหมายถึงประโยคไหน
“เจ้าบอกกู้ซินเถาว่าในอนาคตเจ้าต้องการจะ… แต่งงานกับ… ฉินเย่จือ?” ป้าจางพูดตะกุกตะกักเล็กน้อย แต่ก็พูดจนจบประโยค
นางรู้สึกราวกับว่ามีกลองรัวอยู่ในใจ
เมื่อกู้เสี่ยวหวานได้ยินสิ่งนี้ก็ขมวดคิ้ว หลังจากคิดอยู่พักหนึ่ง ครั้นเห็นท่าทางประหม่าของป้าจาง นางก็หัวเราะเบา ๆ บรรยาากาศตึงเครียดเริ่มผ่อนคลายลง “ข้าแค่พยายามเกลี้ยกล่อมกู้ซินเถา ท่านป้าจะใส่ใจทำไมกัน”
กู้เสี่ยวหวานพยายามหลีกเลี่ยงไม่ตอบโดยตรง แม้ไม่ได้บอกว่านางจะแต่งงาน แต่ก็ไม่ได้บอกว่านางจะไม่แต่งงานเช่นกัน!
ท้ายที่สุด นางก็ไม่ชัดเจนในตัวเอง
ดูเหมือนว่า นางจะพยายามเกลี้ยกล่อมให้ป้าจางเชื่อว่าสิ่งทางพูดนั้นไม่จริง และดูเหมือนว่าจะโน้มน้าวใจป้าจางว่าทำไมต้องใส่ใจเรื่องดังกล่าวด้วย
ป้าจางเป็นสตรีจากชนบท นางจะเข้าใจได้อย่างไรว่าคำเหล่านี้มีความหมายมากมายซ่อนอยู่
หลังจากได้ยินเช่นนี้ ป้าจางจึงคิดว่าสิ่งที่กู้เสี่ยวหวานพูดเป็นเรื่องตลกและไม่ได้จริงจังกับมันมากนัก ดังนั้นนางจึงรู้สึกโล่งใจ พลางตบมือและกล่าวด้วยรอยยิ้ม “เช่นนั้นก็ดี เช่นนั้นก็ดี!”
ท่าทางของนางแตกต่างไปจากเมื่อครู่มาก แต่มันทำให้กู้เสี่ยวหวานสงสัยยิ่งนัก
ตัวเองเพิ่งพูดว่าในอนาคตจะแต่งงานกับฉินเย่จือ นั่นจะไม่ทำให้ป้าจางรู้สึกประหลาดใจได้อย่างไร!
กู้เสี่ยวหวานชำเลืองมองป้าจาง แต่ในขณะนี้ป้าจางไม่ได้เอ่ยสิ่งใดอีก และบอกให้กู้เสี่ยวหวานพักผ่อนให้เพียงพอ จากนั้นเปิดประตูและเดินออกไป
เมื่อออกไปนอกห้องก็เห็นฉือโถวนั่งอยู่บนขั้นบันไดหินอย่างว่างเปล่า
ป้าจางรู้ว่าฉือโถวยังคงคิดเกี่ยวกับเรื่องที่กู้เสี่ยวหวานพูดเมื่อครู่ ดังนั้นนางจึงรีบก้าวไปข้างหน้าพลางตบไหล่และยิ้มให้เขา “พ่อของเจ้าเป็นอย่างไรบ้าง?”
“ท่านพ่อสบายดี เขาเพิ่งดื่มยาและหลับไปแล้ว”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ป้าจางก็พยักหน้าและไม่ได้คุยกับฉือโถวอีกต่อไป นางเดินไปในครัวเพื่อทำอาหาร และให้ฉือโถวดูแลลุงจางที่หน้าประตู
มุมปากของอาโม่โค้งขึ้นตลอดทั้งวัน เขามองไปที่ฉินเย่จือด้วยความสุขที่ส่งออกจากดวงตา แต่ฉินเย่จือไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
เมื่อมองไปที่กู้เสี่ยวหวาน สาวน้อยคนนี้สงบนิ่งมาก เขาไม่สามารถมองออกได้เลย
เมื่อยามค่ำคืนมาถึง ทุกคนต่างเข้านอนจนหมด
อาโม่ใช้ประโยชน์จากความมืดแอบมาที่ห้องของฉินเย่จือ
รายงานฉินเย่จือว่ากู้เสี่ยวหวานทำอะไรและพูดอะไรในวันนี้บ้าง
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อกู้ซินเถาเข้ามาและข่มขู่ให้กู้เสี่ยวหวานปล่อยฉินเย่จือไป ฉินเย่จือกำหมัดแน่นด้วยความโกรธ และอยากจะฉีกกู้ซินเถาเป็นชิ้น ๆ
อาโม่คลี่ยิ้ม เมื่อเห็นแววตาเย็นชาของนายท่าน เขาจึงพูดว่า “นายท่าน ยังมีอีกเรื่องที่นายท่านคงจะอยากฟัง!”
“สิ่งใดกัน?”
“คุณหนูกู้กล่าวว่า… กล่าวว่า…” อาโม่พยายามกลั้นยิ้มอย่างหนัก แต่เขาก็กลั้นไม่ได้อีกต่อไป และทำเพียงมองไปที่ฉินเย่จือด้วยรอยยิ้ม
ฉินเย่จือรู้สึกขนลุกกับรอยยิ้มลูกน้อง และมองอาโม่อย่างแข็งกร้าว เรื่องนี้มีบางอย่างเกี่ยวกับลูกแมวของตน มันทำให้เขากระวนกระวายแทบตาย แต่อาโม่ยังคงยิ้มอยู่ เขาอยากทำให้ตนเองตื่นตระหนกจนตายหรือ!
“นายท่าน คุณหนูกู้พูดว่า…” อาโม่กระแอมไอ และเลียนแบบท่าทางกู้เสี่ยวหวาน เอามือไพล่หลัง แล้วพูดอย่างเย่อหยิ่ง “พี่ใหญ่ฉินหล่อเหลาขนาดนี้ ข้าตกหลุมรักเขาแล้ว และจากนั้นข้าก็จะเป็นภรรยาของเขา แล้วจะทำไม?”
หลังจากพูดจบ อาโม่ก็แอบชำเลืองมองที่ฉินเย่จือ และพบว่าเจ้านายของตนยิ้มกว้างจนมองไม่เห็นดวงตา
เหอะ ๆ เจ้าลูกแมวน้อยพูดคำนั้นจริง ๆ หรือ!
เฮ้อ ช่างน่าเสียดายที่วันนี้เขาไม่อยู่ที่นี่ คงจะดีมากถ้าเขาได้ยินนางพูดคำนั้นด้วยหูของเขาเอง!
อย่างไรก็ตาม หลังจากคิดดูแล้ว ถ้าตนอยู่ที่นี่ในตอนนั้น เกรงว่านางคงจะไม่พูดออกมา!
อย่างไรก็ตาม โชคดีที่มีอาโม่อยู่ แม้ว่าจะไม่ได้ยินจากปากของลูกแมวน้อย แต่ตอนนี้เขาก็รู้แล้ว
ปรากฏว่าแมวน้อยตัวนี้รู้สึกสนใจเขา!
ยิ่งฉินเย่จือยิ้มมากเท่าไร เขาก็ยิ่งมีความสุขมากขึ้นเท่านั้น รอยยิ้มบนใบหน้าของเขาเริ่มกว้างขึ้นเรื่อย ๆ ถ้าไม่ใช่เพราะความจริงที่ว่ามันดึกแล้ว เขาคงจะหัวเราะออกมาดัง ๆ
อาโม่พึงพำในใจ นายท่านและคุณหนูกู้เป็นคู่ที่เหมาะสมกันจริง ๆ!