ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย - บทที่ 784 ยอมรับว่าขูดโต๊ะ
บทที่ 784 ยอมรับว่าขูดโต๊ะ
บทที่ 784 ยอมรับว่าขูดโต๊ะ
ยิ่งไปกว่านั้น วันนี้ฮูหยินหลี่ไม่ได้แต่งตัวดีเกินไปเพื่อเป็นการให้เกียรติกู้เสี่ยวหวานและคนอื่น ๆ
นางหลีกเลี่ยงการทำให้ตัวเองดูสูงส่ง และไม่ปล่อยให้กู้เสี่ยวหวานกับคนอื่น ๆ เข้าใจผิดโดยไม่มีเหตุผล
แน่นอนว่า ครอบครัวของหลี่ฝานแต่งกายด้วยชุดธรรมดา ดังนั้นกู้ซินเถาจึงไม่ได้เห็นพวกเขาอยู่ในสายตา
เมื่อเห็นกู้ซินเถาเอ่ยถ้อยคำดูถูกสมาชิกของตระกูลหลี่ กู้เสี่ยวหวานก็ทนไม่ได้อีกต่อไปและก่นด่าอย่างดุดัน “กู้ซินเถา ในเมื่อเจ้าไม่ต้องการขอโทษก็ไม่เป็นไร ทำไมเราไม่ไปพบเจ้าหน้าที่กันล่ะ เจ้าสองคนบุกเข้ามาในบ้านของข้าโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของบ้าน และยังมีเจตนาชั่วร้ายอีก ดังนั้นให้เจ้าหน้าที่ตัดสินว่าใครถูกใครผิด!” หลังจากพูดจบ กู้เสี่ยวหวานก็หยุดชั่วคราว มองซุนซื่ออย่างประชดประชันและกล่าวว่า “ไม่รู้ว่าการบุกรุกบ้านส่วนตัวจะถูกตัดสินจำคุกนานแค่ไหน!”
กู้เสี่ยวหวานเดาว่าพวกนางคงไม่กล้าไปพบเจ้าหน้าที่ทางการ
เนื่องจากซุนซื่อเคยติดคุกมาก่อน และเมื่อได้ยินว่านางจะต้องไปเจอพวกเจ้าหน้าที่อีกครั้ง ร่างกายของนางก็เริ่มสั่นสะท้านด้วยความหวาดกลัว
“อย่า อย่า อย่า…” ซุนซื่อปฏิเสธทันควันด้วยรอยยิ้มบนใบหน้าและพูดอย่างประจบสอพลอ “เสี่ยวหวาน อย่า อย่า อย่า มันเป็นเรื่องเล็กน้อยเองไม่ใช่หรือ? จะไปพบเจ้าหน้าที่ทำไมกัน อย่าทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่เลยนะ!”
แน่นอนว่า หลี่ฝานเคยได้ยินชื่อของซุนซื่อ ในเวลานั้น เขาเคยพบซุนซื่อในเมืองรุ่ยเสียน แต่ซุนซื่อไม่รู้จักเขา
เมื่อเห็นว่าซุนซื่อไม่เห็นด้วยที่จะไปพบกับทางการ กู้เสี่ยวหวานก็แอบมีความสุข นางจึงพูดอย่างใจเย็นว่า “เอาล่ะ ในเมื่อคิดว่ามันเป็นเรื่องเล็กน้อย งั้นเรามาแก้ไขเรื่องเล็กน้อยนี้กันเถอะ เพียงแค่พูดขอโทษและลบรอยขีดข่วนบนโต๊ะของข้าออกไป หากทำได้ข้าจะยินยอมไม่ถือสาเอาความ แต่ถ้าไม่… ข้าจะไปฟ้องกับเจ้าหน้าที่ให้พวกเจ้ารับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้น!”
หลังจากได้ยินคำพูดของกู้เสี่ยวหวาน ใบหน้าของซุนซื่อก็แปรเปลี่ยนเป็นหน้าเกลียด
กู้เสี่ยวหวานกำลังพูดอะไร?
คำขอโทษสามารถเอ่ยออกมาได้อย่างง่ายดาย แต่รอยขีดข่วนนี้จะลบออกไปได้อย่างไร!
ซุนซื่อรู้สึกอายเล็กน้อย และเอ่ยขึ้นทันที “เสี่ยวหวาน นี่… โต๊ะตัวนี้ถูกปลายแหลมของปิ่นปักผมขีดจนกลายเป็นรอยแบบนี้แล้ว ข้าเกรงว่ามันคงไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว!”
“ท่านแม่…” กู้ซินเถารีบแทรกทันที
แน่นอนว่า ผู้คนรอบตัวชี้ไปที่ซุนซื่อและพูดว่า “ที่แท้รอยขีดข่วนบนโต๊ะพวกนี้เป็นฝีมือของเจ้า”
“พวกเจ้าช่างไร้ยางอายยิ่งนัก ที่นี่คือบ้านของหลานสาวเจ้า นางยังไม่ได้ย้ายเข้ามาอยู่แม้แต่วันเดียว แต่เจ้ากลับมาทำลายข้าวของของผู้อื่นเช่นนี้ เจ้าก็ยังเป็นคนอยู่หรือไม่!”
“หึ ไม่มีอะไรที่นางทำไม่ได้ ข้ารู้… ในตอนนั้นเมื่อกู้เสี่ยวหวานให้พวกเราเช่าที่ดิน ผู้หญิงคนนั้นต้องการยักยอกที่ดินของกู้เสี่ยวหวาน แต่ต่อมาเจ้าเมืองรุ่ยเสียนก็ตัดสินคดีความอย่างยุติธรรมและจับผู้หญิงคนนั้นไปขังไว้ในคุก”
หญิงที่พูดขึ้นคือลูกสะใภ้ของหลิวต้าจ้วง
ครอบครัวของพวกเขาเป็นชาวนากลุ่มแรก ๆ ที่มาขอเช่าที่ดินของกู้เสี่ยวหวาน ดังนั้นพวกเขาจึงรู้เรื่องเหล่านี้ตั้งแต่แรก
เมื่อลูกสะใภ้ของหลิวต้าจ้วงเอ่ยถึงเรื่องนี้ต่อหน้าผู้คนมากมาย สีหน้าของซุนซื่อพลันน่าเกลียดขึ้น ใบหน้าของนางมืดมน ก่อนจะเผยใบหน้าดุร้าย หากแต่แววตาเต็มไปด้วยความลุกลี้ลุกรน และร่างกายสั่นทะท้านไม่หยุด
กู้ซินเถาไม่คาดคิดมาก่อนว่าซุนซื่อจะโง่เง่าจนถึงขนาดเปิดเผยสิ่งที่นางทำลงไป นี่ไม่ได้หมายความว่านางเปิดเผยว่าตัวเองเป็นคนลงมือหรอกหรือ? ทำไมถึงคนโง่เช่นนี้!
ดวงตาของกู้ซินเถาจ้องเขม็งไปที่ซุนซื่อ และปากของนางก็พ้นคำสาปแช่งอย่างชั่วร้าย “ท่านแม่มีสมองแบบนี้ไปเพื่ออะไร? พวกเขาแค่หลอกถาม แต่ท่านกลับบอกทุกอย่าง ช่างโง่เขลาจริง ๆ ทำไมท่านถึงใช้ชีวิตมาอย่างเปล่าประโยชน์เช่นนี้!”
ซุนซื่อมีท่าทางไม่พอใจ นางจะคิดได้อย่างไรว่ากู้เสี่ยวหวานกำลังหลอกถามนาง นอกจากนี้ ตอนนี้มีคนมากมายกำลังวิพากษ์วิจารณ์นาง โดยกล่าวหาว่านางยักยอกที่ดินของครอบครัวกู้เสี่ยวหวานและถูกจับขังคุก ซุนซื่อตกใจและพูดด้วยความตื่นตระหนก “ซินเถา ข้าถูกกู้เสี่ยวหวานหลอก ข้า… ข้า…”
“ถ้าท่านแม่ไม่พูดก็ไม่มีใครหาว่าเป็นใบ้หรอก!” กู้ซินเถาหวังว่าเหล็กจะกลายเป็นเหล็กกล้า*[1] ราวกับว่าตราบใดที่ซุนซื่อไม่ พูดคนอื่นก็จะไม่รู้เกี่ยวกับเรื่องนี้
ซุนซื่อรู้สึกกระวนกระวาย โกรธ หวาดกลัว และตกใจ นางเป็นคนที่ใช้ปิ่นปักผมขูดโต๊ะเมื่อครู่ และนางยังเป็นคนผลักหลี่เมี่ยวเมี่ยวจนล้มลง ดังนั้นนางจึงไม่ได้สนใจอะไร ขอโทษก็ขอโทษเถอะ นางไม่อยากอยู่ที่นี่ต่อแล้ว นางแค่อยากกลับบ้านให้เร็วที่สุด!
ซุนซื่อก้าวไปข้างหน้าและกำลังจะเอ่ยปากขอโทษ ครั้นกู้ซินเถาเห็นท่าทางที่ยอมจำนนของซุนซื่อก็คาดเดาการกระทำของซุนซื่อออก นางดึงผู้เป็นแม่และพูดด้วยความโกรธ “ท่านกำลังทำอะไร!”
ท่าทางของนางดูก้าวร้าวราวกับต้องการฉีกซุนซื่อเป็นชิ้น ๆ
ซุนซื่อถูกกู้ซินเถากระชากอย่างแรงจนเกิดความเจ็บบริเวณข้อมือ จากนั้นนางก็ต้องตกใจเมื่อพบว่ากู้ซินเถามีท่าทีราวกับจะฉีกนางเป็นชิ้น ๆ “ซินเถา… ข้า… ข้า…”
ภายใต้แรงอันทรงพลังของกู้ซินเถา นางได้แต่ยื่นตัวแข็งทื่ออยู่ตรงนั้น
กู้ซินเถาไม่ต้องการขอโทษหลี่เมี่ยวเมี่ยว แต่ซุนซื่อต้องการขอโทษเพื่อที่จะหนีออกไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุด พวกนางสองคนไม่สามารถหยุดโต้เถียงกันได้ หลี่ฝานคิดว่าวันนี้เป็นวันที่มีความสุข ดังนั้นจึงไม่อยากปล่อยให้สองคนนี้มาทำลายความสุข
ครั้นคิดถึงสิ่งนี้ หลี่ฝานจึงพูดกับชายสองคนที่ยืนอยู่ที่ตรงประตูว่า “ส่งสองคนนี้ไปที่ศาลาว่าการ และบอกว่าพวกเขาบุกเข้าไปในบ้านส่วนตัวและทำร้ายผู้คน”
กู้เสี่ยวหวานรับรู้ได้ทันทีว่าหลี่ฝานหมายถึงอะไร นางเองก็มีแผนการนี้อยู่ในใจ ดังนั้นจึงไม่ได้โต้เถียงกับกู้สองแม่ลูกคู่นี้อีก
นางเชิญทุกท่านเข้าไปข้างใน และพาทุกคนเดินชมรอบบ้าน
ทุกคนล้วนรู้สึกตัวเช่นกัน หมุนกายกลับและเดินเข้าไปในบ้าน เมื่อเห็นว่ากู้เสี่ยวหวานไม่สนใจพวกเขาจริง ๆ ชายสองคนที่อยู่ถัดไปก็ใส่กุญแจมือพวกนางและดึงพวกนางไปที่รถม้า
เมื่อซุนซื่อได้ยินว่าตนเองจะถูกนำตัวไปยังศาลาว่าการ นางก็กลัวจนแทบบ้าอยู่แล้ว
แม้ว่ากู้ซินเถาจะยังมีสติ แต่สีหน้าของนางก็ไม่น่ามองเช่นกัน
บางอย่างที่ฉุกคิดขึ้นในใจ ถ้าพวกนางไปศาลาว่าการจริง ๆ แล้วใครจะช่วยพวกนาง!
กู้ซินเถาไม่เคยคิดว่ากู้ฉวนลู่จะช่วยนางได้ ถ้าไม่มีใครสามารถช่วยนางได้ นางก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากไม่ไปที่นั้น
แต่ถ้านางไม่ต้องการไป นางก็ต้องขอโทษหลี่เมี่ยวเมี่ยวคนนั้น
นางไม่ต้องการจะเสียเปรียบ เมื่อนึกถึงสิ่งนี้กู้ซินเถาก็สลัดจนหลุดพ้นพันธนาการของคนรับใช้สองคนอย่างไร้ความปรานีและตะโกนเสียงดัง “กู้เสี่ยวหวาน ข้าขอโทษ!”
จากนั้นก็ได้ยินกู้ซินเถาพูดว่า “ท่านแม่รีบขอโทษเร็วเข้า!”
*[1] หมายถึง การตั้งความหวังหรือเข้มงวดกับคน ๆ นั้นเพื่อหวังว่าคนนั้นจะได้ดิบได้ดี