ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย - บทที่ 786 เขียนกลอนคู่
บทที่ 786 เขียนกลอนคู่
บทที่ 786 เขียนกลอนคู่
หลังจากย้ายเข้าบ้านใหม่ ทุกอย่างก็ยุ่งวุ่นวาย เพิ่งผ่านพ้นเทศกาลเสี่ยวเหนียน*[1] และวันส่งท้ายปีก็ใกล้เข้ามาทุกที
พวกเขายังต้องเข้าเมืองเพื่อเตรียมซื้อของสำหรับเทศกาลขึ้นปีใหม่ และเนื่องจากพวกเขาย้ายเข้ามาอยู่ในเมืองแล้ว พวกเขาจึงต้องเดินสายไปเยี่ยมในช่วงขึ้นปีใหม่
กู้เสี่ยวหวานจัดทำรายการและมอบเงินให้หนึ่งร้อยตำลึงเงินให้กู้หนิงอัน กู้หนิงผิง และอาโม่เพื่อนำไปซื้อของในเมืองด้วยกันได้
ซื้อไก่ เป็ด ห่าน หมูครึ่งตัว และยังมีขนมอบ ซึ่งสงวนไว้สำหรับต้อนรับปีใหม่ในช่วงเดือนแรกและมีอาหารสำหรับเฉลิมฉลอง หลังจากซื้อทุกอย่างกลับมาก็จัดการฆ่ามันให้เรียบร้อยและทำการแช่แข็งมันทันที
พวกเขาทั้งหมดทำความสะอาดทั้งภายในและภายนอกบ้าน แต่โชคดีที่พวกเขาเพิ่งย้ายเข้ามา บ้านจึงยังสะอาดเอี่ยม! และกู้เสี่ยวหวานยังนึ่งหมั่นโถวลูกใหญ่อีกหลายหม้อ ด้านบนของหมั่นโถวลูกขาวอ้วนโตมีผลพุทราสีแดงแทรกอยู่ด้วย มองอย่างไรก็รู้สึกมีความสุขมาก
นอกจากนี้ยังมีเกี๊ยวยัดไส้หมูและเนื้อ หลายร้อยชิ้นวางบนหิมะเพื่อแช่แข็ง
ณ สวนกู้
กู้เสี่ยวหวานวางแผนจัดเตรียมอาหาร แต่ข้างนอกอากาศหนาวเย็น ดังนั้นจึงทำอาหารบางอย่างขึ้นมาก่อนแล้วตั้งมันไว้ข้างนอก อาหารเหล่านั้นจะได้ไม่เน่าเสีย
เนื่องจากกู้เสี่ยวหวานและคนอื่น ๆ เข้าไปในเมืองเพื่อซื้อหมูและยังมีมันหมู กระดูกชิ้นโต ไส้หมูและอื่น ๆ จำนวนมาก ซึ่งทั้งหมดถูกล้าง หั่น และวางทิ้งไว้
ในห้องครัว กู้เสี่ยวหวานและป้าจางหั่นมันหมูทั้งหมดเป็นชิ้นเล็ก ๆ ให้มีขนาดใกล้เคียงกัน จากนั้นเทมันหมูที่หั่นแล้วทั้งหมดลงในหม้อ
ก่อไฟเบา ๆ สักครู่หนึ่งหม้อก็เริ่มร้อนขึ้น พออุณหภูมิสูงขึ้น มันหมูภายในหม้อก็เริ่มละลายออกมาเป็นน้ำมัน
มันหมูในหม้อมีขนาดเล็กลงเรื่อย ๆ กลายเป็นน้ำมัน
ป้าจางถือช้อนตักน้ำมันใส่ไหทีละนิด
น้ำมันหมูที่เพิ่งผ่านการกลั่นจะมีสีเหลืองทอง และเมื่อเย็นลงมันจะแข็งตัวจะกลายเป็นก้อนแข็งสีขาวราวกับหิมะ
เมื่อไฟในเตาอ่อนลงแล้ว และน้ำมันที่ตกค้างในหม้อก็ส่งเสียงปะทุ
เมื่อตักน้ำมันที่ก้นหม้อออกจนหมด น้ำมันก็เปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลส่งกลิ่นไหม้ชวนให้รับประทานมาก
“ท่านพี่ ป้าจาง พวกท่านกำลังทำน้ำมันหรือ? กลิ่นหอมมาก” กู้เสี่ยวอี้วิ่งเข้าไปในครัวแล้วถามอย่างใคร่สงสัย
กู้เสี่ยวหวานอดไม่ได้ที่จะหัวเราะเมื่อเห็นท่าทางเหมือนโลดเต้นเหมือนลิงของน้องสาว
ป้าจางหยิบกากหมูเจียวขึ้นมาหนึ่งชิ้นแล้วป้อนใส่ปากของกู้เสี่ยวอี้ พลางกล่าวเคล้ารอยยิ้ม “มา เจ้าแมวน้อยจอมตะกละ อ้าปาก!”
กากหมูเจียวกรุบกรอบและหอมกลิ่นกระทะ เมื่อเอาเข้าปากจะรู้สึกเหมือนมีน้ำมันไหลเยิ้มออกมาจากปากเล็กน้อย กลิ่นหอมและน้ำมันระเบิดคละคลุ้งในปาก มันช่างอร่อยเหลือเกิน
ไม่ใช่ว่ากู้เสี่ยวอี้ไม่เคยกินกากหมูนี้ นางเคี้ยวกากหมูแล้วกลืนลงคอ “ท่านป้า มันอร่อยมาก ข้าอยากกินอีกชิ้น!”
กู้เสี่ยวหวานหยิบจานมาแล้วตักกากหมูใส่ชามเล็ก ๆ และส่งให้กู้เสี่ยวอี้ “เจ้าเอาไปในห้องแล้วแบ่งให้ลุงจางและพี่ฉือโถวด้วย!”
ครั้นกู้เสี่ยวอี้ได้ยินเช่นนี้ นางจึงถือจานและวิ่งกลับเข้าไปในห้องอย่างมีความสุข
เมื่อป้าจางเห็นการกระทำนั้น ไม่ว่ากู้เสี่ยวหวานใจกระทำการสิ่งใด เด็กหญิงจะไม่มีวันลืมบุคคลอีกสองคนในครอบครัวของป้าจาง เช่นนั้นหัวใจของนางจึงอ่อนยวบ
นางซาบซึ้งใจเป็นอย่างมาก
กู้เสี่ยวหวานถือว่าครอบครัวจางเป็นครอบครัวของนางจริง ๆ!
เนื่องจากเป็นวันส่งท้ายปีเก่า นางจึงทำเสื้อผ้าชุดใหม่ให้พวกเขาทั้งหมด และเก็บไว้ใช้ในวันปีใหม่
ป้าจางรู้สึกประทับใจมาก ตอนนี้อาศัยอยู่ในบ้านหลังใหญ่ที่มีทั้งอาหารและของใช้เช่นเดียวกับกู้เสี่ยวหวาน ป้าจางจะไม่ทอดถอนใจได้อย่างไร ในอดีตพวกเขาน่าจะสนใจกู้เสี่ยวหวานและคนอื่น ๆ มากกว่านี้อีกหน่อย แต่ตอนนี้นางสัญญาว่า นางจะไม่มีวันลืมพวกเขาเด็ดขาด
กู้เสี่ยวหวานเป็นเด็กดีจริง ๆ
ร่างกายของลุงจางก็ฟื้นตัวขึ้นแล้วเช่นกัน และเขาสามารถนั่งได้ด้วยตัวเองแล้ว ดังนั้นจึงไม่อยากอยู่เฉย ๆ เมื่อเขาตื่นขึ้นในตอนเช้าก็ให้ฉือโถวแบกเขาไปที่ห้องครัว เกี๊ยวและหมั่นโถวเหล่านั้น ส่วนหนึ่งเป็นฝีมือของลุงจาง
เมื่อเห็นว่าลุงจางยืนกราน กู้เสี่ยวหวานก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากปล่อยให้เขาทำสิ่งที่ต้องการ
พวกลุงจางไม่ใช่คนขี้เกียจ และพวกเขาก็ไม่ใช่พวกกินอิ่มแล้วนอนหลับ เมื่อเห็นว่าพวกเขาต้องการหาอะไรทำ และคิดว่าตนเองเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว โดยธรรมชาติแล้วนางจึงไม่ห้ามพวกเขา
ชั่วพริบตา วันส่งท้ายปีเก่าก็มาถึง
กู้หนิงอัน กู้หนิงผิง อาโม่ และฉือโถว มีหน้าที่ติดกลอนคู่และแขวนโคมไว้หน้าประตู
โชคดีที่ตอนสร้างบ้านมีตะขอเหล็กสองสามอันติดไว้ที่ประตู จึงทำให้สามารถแขวนโคมได้อย่างง่ายดาย
อันหนึ่งแขวนไว้นอกบ้าน และอีกสองอันแขวนไว้ที่ทางเข้าหลักของบ้าน
หลังจากแขวนโคมแล้วก็ต้องติดกลอนคู่
กลอนคู่เหล่านี้ไม่ได้ถูกซื้อมา พวกเขาซื้อมาเพียงแค่กระดาษสีแดง และหลังจากตัดพวกมันเรียบร้อย ทุกคนก็เริ่มเขียนกลอนคู่
มีกู้หนิงอัน กู้หนิงผิง กู้เสี่ยวหวาน และฉินเย่จือล้วนเขียนกันทุกคน
การประกวดคัดลายมือขนาดเล็กนี้ทำให้ทุกคนตื่นเต้นมาก
ทุกคนเขียนกลอนคู่สามแผ่น และกลอนคู่เหล่านี้ก็ถูกติดหน้าห้องของพวกเขาเอง กู้หนิงอันและกู้หนิงผิงจริงจังมาก
ลายมือของกู้หนิงอันดีขึ้นกว่าเดิมมาก แต่เนื่องจากเขาเป็นคนที่ไม่แข็งแรงนัก ความแข็งแกร่งของมือของเขาจึงมีไม่มาก
เช่นเดียวกับฉินเย่จือ หลังจากครุ่นคิดอยู่พักหนึ่งหลังจากจุ่มพู่กันลงหมึก แล้วเริ่มลงมือเขียนทันที
อย่างไรก็ตาม ลายมือของฉินเย่จือนั้นแตกต่างจากของกู้เสี่ยวหวาน ลายมือของฉินเย่จือนั้นงดงามและทรงพลัง ลายเส้นงดงามดั่งหงส์ร่อนมังกรรำ เขาลงน้ำหนักจนมันทะลุหลังกระดาษ ในขณะที่ลายมือของกู้เสี่ยวหวานนั้นละเอียดอ่อนและสง่างาม
ทุกคนเขียนกลอนคู่สามแผ่น แล้วนำมารวมกันเพื่อประเมิน
แม้ว่าลุงจางและคนอื่น ๆ จะไม่รู้วิธีอ่าน แต่พวกเขายังสามารถบอกได้อย่างรวดเร็วว่างานเขียนนั้นดีหรือไม่
เมื่อรวบรวมกลอนคู่ทั้งหมดเข้าด้วยกันแล้ว และทุกคนในครอบครัวจะเป็นผู้ตัดสิน
จากข้างในห้อง ทุกคนจะเลือกกลอนคู่ที่ไพเราะและมีความหมายที่สุดติดไว้ที่ประตูบ้าน
‘เก้าแคว้นต้อนรับฤดูใบไม้ผลิ เมฆมงคลจากทั่วทุกสารทิศนำมาอำนวยพร’
กลอนแนวนอนคือ ‘มีความสุขด้วยกัน’
ความรู้สึกนี้ ความหมายนี้ เหมือนกับตอนนี้ทุกประการ
ลายมือสวยงาม ความหมายดี ยอมรับว่าดีที่สุดในบรรดากลอนทั้งหมด!
มันถูกเขียนโดยฉินเย่จือ