ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย - บทที่ 805 วางแผนทำให้ข้าเสียความบริสุทธิ์
บทที่ 805 วางแผนทำให้ข้าเสียความบริสุทธิ์
บทที่ 805 วางแผนทำให้ข้าเสียความบริสุทธิ์
“เจ้าอยู่ที่นี่มานานแล้ว และเขาให้เจ้าขังตัวเองอยู่ในห้องตลอดเวลาใช่หรือไม่!” ป้าจางถามอย่างตกตะลึงหลังจากได้ยินสิ่งนี้
“เขาไม่ให้ข้าติดต่อพวกเจ้าเพราะกลัวว่าข้าจะหลุดปาก!” กู้ฟางสี่ก้มศีรษะลง และไม่สามารถกลั้นน้ำตาไว้ได้
“ไม่แปลกใจเลยว่า ทำไมเจ้าไม่กลับไปบ้านแม่ตั้งหลายปี ข้ายังคิดว่าทำไมเจ้าไม่มาเยี่ยมเด็ก ๆ เหล่านี้ พี่ชายคนที่สองของเจ้าเสียชีวิต ในตอนนั้นเจ้าบอกว่าจะช่วยดูแลลูก ๆ ของเขา…” ป้าจางปิดปากสะอื้น
เมื่อกู้ฟางสี่ได้ยินสิ่งนี้ นางก็คร่ำครวญออกมา “ข้าอยากมา แต่เขาไม่ยอม ข้าจึงแอบหนีออกมา แต่เขาจับข้ากลับไป และเมื่อกลับไปเขาก็จะทุบตีข้า”
เมื่อนึกถึงเรื่องที่อาของนางต้องทนทุกข์มาตลอดหลายปี หัวใจของกู้เสี่ยวหวานก็บีบรัดด้วยความเจ็บปวด
“ท่านอา ต่อจากนี้ไปท่านก็อยู่กับข้า อย่าจากไปไหน และเราไม่ต้องการหลิวชิงซานคนนั้นอีก หากท่านอากลับไปแล้วถูกเขาทุบตีอีกจะทำอย่างไร ท่านอาที่แสนดีของข้าถูกทุบตีจนกลายเป็นเช่นนี้ ที่นี่มีห้องหับให้ท่านอยู่ หากอาอยู่ที่นี่ ไม่ต้องห่วง ข้าจะดูแลอาจนกว่าชีวิตจะหาไม่!” กู้เสี่ยวหวานกัดฟันพูดอย่างหนักแน่นทั้งที่น้ำตาเอ่ยคลอทั้งสองเบ้า
หลังจากได้ยินคำพูดของกู้เสี่ยวหวาน กู้ฟางสี่ก็ร้องไห้ออกมา
หลังจากคับแค้นใจมาหลายปี ดูเหมือนว่านางจะพบที่ระบายแล้ว นางร้องไห้จนกระทั่งเสียงแหบแห้ง “เสี่ยวหวาน ข้าไม่ต้องกลับไปแล้วจริง ๆ”
“ฟางสี่ผู้น่าสงสารของข้า เจ้าต้องทนทุกข์อะไรมาตั้งหลายปี! ฟางสี่ ไม่ต้องกังวล เจ้าแค่ฟังเสี่ยวหวานและอาศัยอยู่ที่นี่ ไม่ต้องไปไหน แค่ตามเสี่ยวหวานไป!” หลังจากพูดจบ นางก็ทุบหน้าอกตัวเองด้วยความโกรธ “ในตอนนั้น เจ้าบ้ากู้ฉวนลู่ให้เจ้าแต่งงานกับคนพรรค์นี้ได้ อย่างไร!”
หลิวชิงซานคนนี้ไม่เพียงน่าเกลียด แต่ยังแก่กู้ฟางสี่หลายปี และเขายังทุบตีภรรยาของเขาอีก
หลังจากที่กู้ฟางสี่ได้ยินสิ่งนี้ ร่องรอยของความเกลียดชังก็ฉายแววในดวงตาของนาง และตะโกนเสียงแหบแห้ง “ข้าถูกซุนซื่อและเฉาซื่อหลอก พวกนางวางแผนให้หลิวชิงซานทำลายความบริสุทธิ์ของข้า!”
เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ กู้เสี่ยวหวานและป้าจางก็มองไปที่กู้ฟางสี่ด้วยดวงตาเบิกกว้าง
ในเวลานี้ พวกนางเข้าใจทุกอย่างแล้วว่า ทำไมกู้ฟางสี่ถึงยอมแต่งงานกับหลิวชิงซานตอนนั้น ปรากฏว่า…
กู้ฉวนลู่และคนอื่น ๆ พวกเขาทนได้อย่างไร? นั่นคือน้องสาวของเขาเอง!
น้องสาวแม่เดียวกัน!
ถึงเสือจะดุร้าย แต่มันก็ไม่กินลูกของตัวเอง!
ทำไมกู้ฉวนลู่ถึงไร้มนุษยธรรมขนาดนี้!
กู้เสี่ยวหวานโกรธจนกัดฟันกรอด นางลุกขึ้นยืนและเอ่ยอย่างโกรธเคือง “ข้าจะฆ่าไอ้สารเลวนั่น!”
ฉินเย่จือซึ่งอยู่ข้างนอกตลอดเวลา เมื่อได้ยินเสียงคำรามของกู้เสี่ยวหวาน คิ้วของเขาก็ขมวดแน่นขึ้น ดวงตาของเขาเย็นชาราวกับธารน้ำแข็ง
กู้เสี่ยวหวานกำลังจะออกไปข้างนอก แต่กู้ฟางสี่และป้าจางรีบหยุดนาง “สาวน้อยเสี่ยวหวาน มันไม่คุ้มหรอกที่เจ้าจะลงมือกับคนสารเลวเช่นนั้น!”
เมื่อครู่ กู้เสี่ยวหวานโกรธมาก ดังนั้นจึงอยากจะฆ่าหลิวชิงซานให้ตาย ๆ ไปเสีย อาหญิงที่แสนดีของนางถูกทรามานราวกับไม่ใช่มนุษย์ หลังจากผ่านไปหลายปีก็ต้องใช้ชีวิตอยู่อย่างคับแค้นใจ ปรากฏว่าเรื่องทั้งหมดนี้มีสาเหตุมาจากกู้ฉวนลู่และคนอื่น ๆ
ป้าจางดึงกู้ฟางสี่มาเข้ามา และต้องการจะถอดเสื้อผ้าของนางออก แต่กู้ฟางสี่ไม่เห็นด้วยเพราะกลัวว่าบาดแผลบนร่างกายของนางจะทำให้กู้เสี่ยวหวานกลัว
ต่อมา ภายใต้การแนะนำของป้าจางและกู้เสี่ยวหวาน กู้ฟางสี่จึงยอมถอดเสื้อผ้าของตัวเองออกทั้งหมด
เมื่อกู้ฟางสี่ถอดเสื้อผ้า กู้เสี่ยวหวานและป้าจางก็น้ำตาไหลอาบหน้า
กู้หนิงผิงและกู้เสี่ยวอี้พลันวิ่งออกจากห้องเมื่อพวกเขาได้ยินเสียงร้องไห้ของพี่สาว
เมื่อเห็นฉินเย่จือยืนอยู่ที่ทางเดิน และได้ยินเสียงร้องไห้ของพี่สาว พวกเขาก็ตื่นตระหนกโดยไม่มีเหตุผล
พวกเขาไม่เคยเห็นพี่สาวร้องไห้อย่างสิ้นหวังมาก่อน
กู้หนิงผิงและกู้เสี่ยวอี้กำลังจะวิ่งเข้าไปในห้อง แต่ฉินเย่จือหยุดพวกเขาไว้ “พวกเจ้ากลับไปก่อนเถอะ! หวานเอ๋อร์และป้าจางกำลังคุยกับอาของพวกเจ้าอยู่!”
หวานเอ๋อร์ร้องไห้แบบนั้น เป็นเพราะนางรู้สึกเสียใจกับกู้ฟางสี่อย่างแน่นอน!
กู้หนิงผิงและกู้เสี่ยวอี้ตื่นตระหนก มองไปที่ฉินเย่จือแล้วถามว่า “พี่ใหญ่เกิดอะไรขึ้น? ทำไมนางถึงร้องไห้!”
ฉินเย่จือกล่าวเคล้ารอยยิ้ม “ไม่เป็นไร พวกเจ้ากลับไปก่อน! เมื่อถึงเวลา นางจะบอกพวกเจ้าเอง!”
กู้หนิงผิงพยักหน้าและดึงกู้เสี่ยวอี้ให้กลับไป
แต่เมื่อเดินไปสักพัก เขาก็หันศีรษะกลับไปมองไปที่ห้องของผู้เป็นอาด้วยสายตาที่ทุกข์ระทมอย่างไม่อาจปกปิดได้
บนร่างกายของกู้ฟางสี่มีบาดแผลมากมาย บางส่วนเหลือเพียงรอยแผลเป็นจาง ๆ และบางส่วนเริ่มตกสะเก็ด โชคดีที่นอกเหนือจากรอยช้ำและรอยตกสะเก็ดแล้วก็ไม่มีบาดแผลเลือดออกอื่น ๆ อีก
กู้ฟางสี่มองไปที่มันและยิ้มอย่างเย็นชา “หลังจากที่เรามาที่นี่ เขาไม่กล้าทุบตีข้าอย่างโจ่งแจ้ง และเขาไม่กล้าทิ้งบาดแผลไว้บนร่างกายของข้า และเมื่อเขาโกรธ เขาก็แค่เอามือหยิกข้า!”
เอว ต้นขา และหน้าอกล้วนเป็นสีม่วงช้ำ และบางส่วนยังคงเป็นสีม่วงอย่างน่ากลัว อาจเกิดขึ้นภายในหนึ่งหรือสองวัน
ทั่วตัวไม่มีพื้นผิวที่ดีสักที่!
“อา…” ดวงตาของกู้เสี่ยวหวานฉายแววเย็นชาและก็สงบลง ตอนนี้ทุกอย่างกลายเป็นความจริงแล้ว สิ่งที่สำคัญที่สุดคือจะช่วยอาของนางได้อย่างไร ไม่ช้าก็เร็ว นางจะจัดการกับเขา “ท่านอา หลังจากคืนนี้ท่านจะอยู่ที่นี่! ท่านและหลิวชิงซานต้องแยกกันอยู่ ดีหรือไม่!”
ทันทีที่ได้ยินว่านางและหลิวชิงซานจะแยกกันอยู่ ดวงตาของกู้ฟางสี่ก็เบิกกว้าง แววตาเต็มไปด้วยความตกใจ แต่ความประหลาดใจมีมากกว่า นางถามอย่างตื่นเต้นแต่แฝงไปด้วยความหวาดกลัว “จะแยกกันอยู่ได้จริงหรือ?”
“ได้สิ เราไม่ต้องการผู้ชายแบบนี้ ตราบใดที่ท่านตกลงที่จะแยกกันอยู่กับเขา เราก็ไม่ต้องสนใจอะไรมากนัก เมื่อไม่มีเขา ชีวิตเราจะดีขึ้นกว่าเดิมมาก!” กู้เสี่ยวหวานพูดด้วยดวงตาสีแดงก่ำ
แววตาของกู้ฟางสี่ฉายแววความประหลาดใจ จากนั้นนางก็พูดด้วยความหวาดกลัว “ไม่ได้ ไม่ได้ ถ้าเขาบอกเขาว่าข้าจะไปจากเขา เขาจะทุบตีข้าจนตาย! เขายังพูด… ยังพูดว่า…”
เมื่อเห็นท่าทางลังเลและหวาดกลัวของกู้ฟางสี่ จะต้องเป็นคนสารเลวหลิวชิงซานที่คุกคามอาหญิงของนางแน่
กู้เสี่ยวหวานกอดกู้ฟางสี่และพูดอย่างเป็นทุกข์ “ท่านอา อย่ากลัวไป อย่ากลัวไปเลย มีข้าอยู่ที่นี่ เขาไม่กล้าทำอะไรท่านแน่!”