ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย - บทที่ 872 เปิดตัวอวี้เจิ่นอย่างยิ่งใหญ่
บทที่ 872 เปิดตัวอวี้เจิ่นอย่างยิ่งใหญ่
บทที่ 872 เปิดตัวอวี้เจิ่นอย่างยิ่งใหญ่
กู้ฉวนลู่คิดดูก็มีเหตุผล
ของก็ขายไปแล้ว ช่างมันเถอะ
รอดูกันว่าวันพรุ่งนี้ร้านจิ่นฝูจะเปิดตัวอาหารจานใหม่แบบใด ถึงเวลาพวกเขาก็จะจัดเตรียมวัตถุดิบและเปิดตัวเช่นกัน อย่างน้อยพวกเขาก็สามารถใช้ประโยชน์จากสถานการณ์นี้ได้
ในวันที่สอง ร้านจิ่นฝูเปิดทำการ และทางเข้าร้านก็เต็มไปด้วยผู้คน ซึ่งทุกคนได้จับจองที่นั่งไว้เมื่อวานนี้ และมาที่นี่เพื่อรับประทานอาหารเช้า
กู้ฉวนลู่และเถ้าแก่หวังก็อยู่ท่ามกลางฝูงชนที่ต้องการเข้ามาดู
ร้านจิ่นฝูแน่นขนัดด้วยผู้คน ยกเว้นลูกจ้างในเครื่องแบบที่วิ่งไปมา มีบางคนก็นั่งไม่ติดและพวกเขาต่างก็ชะเง้อเพื่อดูว่ามีอาหารจานใหม่อะไรบ้าง
เมื่อทุกคนมองไปที่อาหารจานใหม่ พวกเขาต่างก็สงสัยเล็กน้อย อาหารจานใหม่ทั้งเจ็ดจานถูกนำมาลงไว้ในรายการอาหาร
มีทั้งโจ๊กหยก หยกมุก และมันเทศแท่ง ทั้งหมดนี้ฟังดูน่าอร่อย
ในขณะที่ทุกคนกำลังรอ พวกเขาต่างก็สงสัยเล็กน้อย และชะเง้อเพื่อดูว่าอาหารของใครจะมาก่อน
รออยู่สักพักก็เห็นลูกจ้างในร้านเดินถือถาดออกมา
บนถาดมีจานและจัดแต่งจานอย่างสวยงาม ไม่รู้ว่าข้างในมีอะไร
เพียงแค่ได้กลิ่นก็ทำให้คนน้ำลายสอแล้ว
กลิ่นนี้ค่อนข้างคุ้นเคย ราวกับว่าเคยได้กลิ่นมาก่อน
กู้ฉวนลู่และเถ้าแก่หวังนั่งอยู่ในที่ซ่อนเพื่อป้องกันไม่ให้คนอื่นค้นพบตัวเอง
พวกเขายังสั่งของสองสามอย่างโดยตั้งใจว่าจะดูว่ามันคืออะไร
แต่หลังจากนั้นไม่นาน สิ่งที่พวกเขาสั่งไว้ก็ถูกนำมาวางบนโต๊ะ
กู้ฉวนลู่สั่งโจ๊กหยก หยกมุก มันเทศเส้นไหม มันเทศแท่ง และอื่น ๆ
หลังจากที่อาหารทั้งหมดถูกนำมาจัดวางบนโต๊ะ พวกมันเป็นสีเหลืองทอง กรอบ ๆ ไม่รู้ว่ามันเทศเส้นไหมนั้นทำอย่างไร แต่มันเป็นเส้นไหมจริง ๆ
เมื่อมองไปที่ชามโจ๊กหยกตรงหน้าเขา กู้ฉวนลู่รู้สึกว่าสิ่งนี้คุ้นเคยมาก แม้รสชาติจะคล้ายกันมาก แต่หลังจากคิดอยู่นานเขาก็ไม่รู้ว่ามันคืออะไร
เถ้าแก่หวังที่นั่งอยู่ตรงข้ามเขาก็มีความรู้สึกเช่นเดียวกัน “สิ่งนี้คืออะไร ทำไมมันดูคุ้น ๆ เยี่ยงนี้”
มันดูคุ้นเคย แต่ก็ดูไม่เหมือนเสียทีเดียว
เถ้าแก่หวังไม่รั้งรอ เขาดึงเส้นไหมหยกออกมา ดึงเส้นไหมออกมาทีละเส้น ๆ ซึ่งสวยงามมาก
ไม่ใช่แค่หน้าตาดี แต่กินแล้วหวานกรุบกรอบสุด ๆ
ใบหน้าของเถ้าแก่หวังเต็มไปด้วยรอยยิ้ม เขากระซิบกับกู้ฉวนลู่อย่างตื่นเต้น “อาหารจานนี้อร่อยมาก”
กู้ฉวนลู่ชิมโจ๊กหยก กัดสิ่งที่เป็นสีทอง แล้วรู้ว่าสิ่งที่เป็นสีทองคืออะไร
นี่ไม่ใช่ทองนึ่งของพวกเขาหรือ?
นี่คือมันเทศนึ่งสีทอง
“เถ้าแก่ มันคือมันเทศ” กลัวว่าตัวเองจะทำพลาด กู้ฉวนลู่จึงกัดอีกคำและกินหยกมุกด้วย
รสชาติเหมือนมันเทศหวาน
เมื่อเถ้าแก่หวังได้ยิน เขาก็ดูไม่เชื่อ “เจ้าหมายความว่าอย่างไร”
“นี่คือมันเทศ อาหารพวกนี้ทำมาจากมันเทศ” กู้ฉวนลู่มองไปที่สิ่งเป็นสีทองในชามและพูดอย่างหนักแน่น
“มีข้อผิดพลาดหรือเปล่า” เถ้าแก่หวังพึมพำเมื่อได้ยิน จากนั้นจึงกินอย่างอื่นอีกสองสามอย่าง ซึ่งทั้งหมดดูเหมือนจะมีกลิ่นเหมือนมันเทศ
สิ่งเหล่านี้ทำมาจากมันเทศหรือเปล่า?
“ใครก็ได้มานี่หน่อย ขอเส้นไหมหยกนี้ให้ข้าอีกที่ และโจ๊กหยกนี้อีกสองที่ ส่วนจานอื่น ๆ เอามาอีกอย่างละสองที่”
“ได้ ๆ”
ร้านจิ่นฝูทำให้ทุกอย่างกลับมาได้รับความนิยมอย่างง่ายดาย
ย้อนกลับไปเมื่อร้านซุ่นซินเปิดตัวทองนึ่ง กิจการไปได้ดีไม่ได้ครึ่งหนึ่งของที่นี่เลย
“อาหารนี้พวกเจ้าทำจากอะไรหรือ? ข้าคิดว่ารสชาติเหมือนกัน แต่เมื่อกินมันรสชาติกลับแตกต่าง” ลูกค้าคนหนึ่งถาม
“ลูกค่าท่านนี้ฉลาดจริง ๆ ถูกต้อง มันทำมาจากวัตถุดิบเดียวกันทั้งหมด” กู้เสี่ยวหวานออกมาดูบรรยากาศของร้านที่เต็มไปด้วยความคึกคัก
“โอ้… วัตถุดิบเพียงชนิดเดียว สามารถทำอาหารออกมาได้หลากหลายเช่นนี้เลยหรือ?”
ลูกค้าอีกคนดูเหมือนจะสังเกตเห็นบางอย่างและตะโกนเสียงดัง “รสชาติของสิ่งนี้ค่อนข้างเหมือนทองนึ่งที่ร้านอาหารซุ่นซินเปิดตัวก่อนหน้านี้ แต่รสชาตินี้ดีกว่าทองนึ่งของร้านซุ่นซินมาก”
“ใช่ ข้าก็กินรู้ โดยเฉพาะหยกมุก ซึ่งรสชาติคล้ายกันมาก”
กู้ฉวนลู่กับเถ้าแก่หวังมองหน้ากัน พวกเขาเห็นแววตาตกใจในดวงตาของกันและกัน
ครั้นได้ยินเช่นนั้น กู้เสี่ยวหวานก็พยักหน้าด้วยรอยยิ้ม “ใช่ อาหารเหล่านี้ทำมาจากมันเทศทั้งหมด แต่ของจากร้านซุ่นซินนั้นข้ายังไม่เคยกิน แต่หลังจากได้ยินสิ่งที่ท่านพูด มันก็น่าจะเป็นมันเทศเช่นเดียวกัน”
อะไรนะ!?
เถ้าแก่หวังตกใจมากจนเกือบตกเก้าอี้
ไม่อยากจะเชื่อ
เมื่อเห็นคนมองเข้ามา เถ้าแก่หวังก็ตกใจจนแทบจะฟุบไปกับโต๊ะ
“แม่นางกู้ นี่คือเถาวัลย์สีเขียวที่เจ้าปลูกไว้ที่บ้านใช่หรือไม่” หนึ่งในคนที่รู้จักกู้เสี่ยวหวานกล่าว
กู้เสี่ยวหวานยิ้มและพยักหน้า
ใบหน้าของคนผู้นั้นแสดงสีหน้าเข้าใจ “ไม่แปลกใจเลย พวกข้าไม่เคยเห็นพืชสีเขียวชนิดนี้มาก่อน ดังนั้นจึงไม่เคยกิน”
“ถ้าเช่นนั้นแม่นางกู้ นี่เป็นสิ่งเดียวกันกับทองนึ่งในร้านซุ่นซินครั้งก่อนหรือเปล่า”
มีคนถามขึ้นอีก
เมื่อได้ยินคนถามเช่นนั้น กู้ฉวนลู่และเถ้าแก่หวังก็แคะหู ชะเง้อมองมาทางนี้
กู้เสี่ยวหวานได้เห็นพวกกู้ฉวนลู่ที่นี่แล้ว นางเหลือบมองอย่างตั้งใจ และกู้ฉวนลู่ก็ก้มหัวลงด้วยความตกใจ
กลัวว่ากู้เสี่ยวหวานจะเห็นเขา และกลัวว่าคนที่รู้จักจะเห็นเขาเช่นกัน
กู้เสี่ยวหวานแสร้งทำเป็นประหลาดใจที่เถ้าแก่หวังมาที่นี่และชี้ไปยังโต๊ะที่พวกเขานั่งด้วยรอยยิ้ม “ข้าไม่เคยกินทองนึ่ง ไม่รู้ว่าหลังจากเถ้าแก่หวังได้กินอวี้เจิ่นของข้าแล้วรู้สึกว่ารสชาติเหมือนกันหรือไม่”