ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย - บทที่ 886 มาคุยเรื่องแต่งงาน
บทที่ 886 มาคุยเรื่องแต่งงาน
บทที่ 886 มาคุยเรื่องแต่งงาน
ลานด้านหน้าของสวนกู้นี้มีขนาดใหญ่และว่างเปล่า ในเวลานั้นกู้เสี่ยวหวานสร้างขึ้นเพื่อให้กู้หนิงผิงและฉินเย่จือสะดวกในการฝึกฝนศิลปะการต่อสู้
หลังจากที่หงซื่อเข้ามาก็แลซ้ายมองขวา นอกจากโต๊ะหินและม้านั่ง ภายในลานก็ว่างเปล่าไม่มีสิ่งใด
แต่แม้ว่าใบหน้าของหงซื่อจะเต็มไปด้วยความสงสัย แต่นางก็ไม่ได้ถามออกมา
นางมาที่นี่ในวันนี้ด้วยจุดประสงค์อื่น
ตามมาด้วยสาวรับใช้สองคน ถือถาดสองใบที่ถูกคลุมด้วยผ้า จนทำไม่มองไม่เห็นของบนถาด
หลังจากเดินผ่านลานมามาถึงทางเข้าห้องโถงหลัก หงซื่อก็เริ่มวางใจ
ตระกูลกู้นี้มีความเป็นอยู่ที่ดี
มีบ้านหลังคากระเบื้องขนาดใหญ่สองด้าน โถงกลางบ้านมีขนาดใหญ่และสามารถมองขึ้นไปบนท้องฟ้าข้างบนได้
ด้านในถัดเป็นห้องโถงหลัก
เก้าอี้ไม้เนื้อแข็งคุณภาพดีหุ้มด้วยเบาะใหม่เนื่องจากสภาพอากาศหนาวเย็น ผ้าฝ้ายสีดำปักลวดลายดอกเหมยสีแดงสดใส มองดูแล้วดูสมจริง
กู้เสี่ยวหวานหยุดลงที่ห้องโถง และเชิญนางนั่งลงเพื่อดื่มชา
“ฮูหยินจ้าว เชิญนั่งก่อนเจ้าค่ะ”
กู้เสี่ยวหวานชี้ไปที่ตำแหน่งด้านซ้ายของโต๊ะเพื่อให้เห็นตำแหน่งของหงซื่อ
รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนหน้าของหงซื่อ หากแต่ในใจไม่มีความสุขเล็กน้อย เห็นได้ชัดว่ายังมีสองตำแหน่งตรงหัวโต๊ะ และอีกฝ่ายไม่ได้เชิญให้ตนเองนั่งลงตรงนั้น แต่กลับได้นั่งลงตรงตำแหน่งที่ต่ำลงมา และไม่มีผู้ใหญ่ในครอบครัวนี้
เด็กหญิงคนนี้ช่างไม่เข้าใจมารยาทจริง ๆ นางต้องการนั่งหัวโต๊ะ และพูดกับตัวเองงั้นหรือ?
แต่หงซื่อไม่คาดคิดว่าหลังจากถูกเชิญให้นั่งลง กู้เสี่ยวหวานจะเดินตรงไปฝั่งตรงข้าม และนั่งลงทางด้านขวาตรงข้ามกับนาง
เมื่อแขกมาเยี่ยม ซ้ายคือบน ขวาคือล่าง
การกระทำเช่นนี้ทำให้หงซื่อรู้สึกดีขึ้น
รอยยิ้มบนใบหน้าของนางเพิ่มพูนขึ้นทันที “เสี่ยวหวาน ข้าไม่คิดว่าจะมีบ้านที่สวยงามเช่นนี้บริเวณเชิงเขา การได้ใช้ชีวิตที่นี่ในวันธรรมดา เพลิดเพลินกับทิวทัศน์ และไม่มีคนนอกมารบ กวนนี่มันช่างสดชื่นจริง ๆ”
คนที่เกือบจะสำลักชาออกมาคือกู้เสี่ยวหวาน
กู้เสี่ยวหวานขมวดคิ้วแน่น
หงซื่อคนนี้ทำตัวคุ้นเคยกันมากเกินไปแล้ว
กู้เสี่ยวหวานไม่ต้องการไปไหนมาไหนกับคนประเภทนี้ ดังนั้นนางจึงพูดตรง ๆ “วันนี้ฮูหยินจ้าว มาที่นี่คงต้องมีบางอย่างที่ต้องทำ”
ฮูหยินจ้าว
หงซื่อที่ได้ยินว่าถูกเรียกเช่นนั้นก็รู้สึกสบายใจอย่างมาก
นางยืดตัวขึ้นอย่างภูมิใจ จิบชาที่ฉือโถวนำมาให้ด้วยท่วงท่าที่สง่างามราวกับสตรีผู้สูงศักดิ์
เป็นเพียงว่าใบหน้าที่มีเสน่ห์และเจ้าเล่ห์นั้นไม่ใช่สิ่งที่ภรรยาหลวงควรมี
“ฮูหยินจ้าวมาที่บ้านอันต่ำต้อยของข้าคงต้องมีเรื่องบางอย่าง” กู้เสี่ยวหวานถามเบา ๆ
หงซื่อยิ้ม “หากไม่มีธุระข้าก็คงจะไม่มา วันนี้ข้ามาหาเจ้า”
“มาหาข้า…” กู้เสี่ยวหวานขมวดคิ้ว “ฮูหยินมีเรื่องอันหรือเจ้าคะ?”
หงซื่อคนนี้มีแผนการใดอยู่ในใจ
เมื่อเห็นใบหน้าที่ยิ้มแย้มของหงซื่อ กู้เสี่ยวหวานก็รู้สึกไม่ดี
“เสี่ยวหวานทั้งงดงามและเฉลียวฉลาด ถ้าในอนาคตเจ้าโตขึ้น ข้าเกรงว่าธรณีประตูสวนกู้คงจะมีคนมาเหยียบย่ำจำนวนมาก” หงซื่อปิดปากของนางและพูดด้วยรอยยิ้ม
กู้เสี่ยวหวานแสดงท่าทางเขินอายที่เด็กหญิงควรมี และพูดตะกุกตะกัก “ฮูหยินพูดเรื่องตลก แล้ว”
เมื่อมองดูท่าทางของเด็กหญิง หัวใจของหงซื่อก็รู้สึกโล่งใจ
นางเพิ่งพูดไปว่านางเป็นแค่เด็กอายุสิบเอ็ดขวบ นางเป็นเช่นนี้จะสามารถร่วมหอได้อย่างไร
ไม่สิ เมื่อถึงเวลาแต่งงานนางก็จะรู้สึกเขินอายทันที
หงซื่อมองไปที่การแสดงออกของกู้เสี่ยวหวานด้วยความพึงพอใจและพูดต่อ “เสี่ยวหวาน พูดตามตรง ข้ามาที่นี่ในวันนี้เพื่อพูดคุยเรื่องการแต่งงานของลูกชายข้าและเจ้า”
ว่าอย่างไรนะ?
ทันใดนั้น กู้เสี่ยวหวานก็เงยหน้าขึ้น มองไปที่ใบหน้าที่ยิ้มแย้มของหงซื่อ แน่นอนว่าหงซื่อมาที่นี่เพราะมีจุดประสงค์แน่นอน
“ฮูหยิน” ใบหน้าของกู้เสี่ยวหวานแดงก่ำมากยิ่งขึ้น นางไม่กล้าแม้แต่จะมองไปที่หงซื่อ ศีรษะก้มลงจนแทบจะชิดอก
ป้าจางและกู้ฟางสี่นั่งด้านข้าง หลังจากฟังคำพูดของหงซื่อ ทันใดนั้นนางก็เปิดปากด้วยความไม่พอใจ
“ฮูหยินจ้าวหมายความว่าอย่างไร หากท่านต้องการมาสู่ขอก็ไปหาแม่สื่อมา”
กู้ฟางสี่ไม่มีความสุขมาก ไม่มีความสุขอย่างยิ่ง
ตั้งแต่สมัยโบราณไม่มีการแต่งงานใดที่ไม่มีแม่สื่อ
หงซื่อคนนี้มาสู่ขอให้กับลูกชายเป็นการส่วนตัว นี่มันอะไรกัน?
หรือผู้หญิงคนนี้จะบอกว่าเสี่ยวหวานไม่รู้ว่าอะไรถูกและอะไรผิด
กู้ฟางสี่ลุกขึ้นจากที่นั่งอย่างโกรธเคือง ชี้ไปที่ใบหน้าของหงซื่อและพูดว่า “ตั้งแต่สมัยโบราณ ไม่มีวิธีจับคู่แบบนี้เลย ฮูหยินได้โปรดกลับไปเถอะ เสี่ยวหวานของครอบครัวข้ายังเด็กอยู่และยังไม่ถึงวัยแต่งงาน”
หงซื่อไม่คาดคิดว่าจะมีใครโกรธเคือง เมื่อเห็นกู้ฟางสี่ชี้หน้าของตัวเองและดุด่า นางก็รู้สึกไม่มีความสุขมาก
ท้ายที่สุดแล้ว ตัวเองก็เป็นอนุภรรยาของจ้าวสวิ่น และก็เป็นคนที่น่านับถือด้วยเช่นกัน
วันธรรมดาใครเห็นก็ต้องผงกหัวคำนับ แต่พอมาถึงที่นี่กลับโดนชี้หน้าด่า ถ้าไม่ใช่เพราะความปรารถนาที่จะมาสู่ขอกู้เสี่ยวหวานให้กับลูกชาย ใครจะอยากมาที่นี่กัน
ใบหน้าของหงซื่อเปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน คลี่ยิ้มและเอ่ยขอโทษทันที “อย่ากังวลไป ข้าไม่ได้หมายความเช่นนั้น เป็นเพราะข้าชอบเสี่ยวหวานมาก ข้ากังวลเกี่ยวกับการหาแม่สื่อ ข้ากลัวว่าแม่สื่อจะไม่รู้เกี่ยวกับสถานการณ์ของตระกูลจ้าวของข้า กลัวว่านางจะพูดอะไรผิด และทำให้แม่นางรู้สึกแย่ ดังนั้นถ้ามาหานางที่นี่ด้วยตนเอง ถ้านางไม่เข้าใจอะไร หรืออยากรู้อะไรก็ถามข้ามาได้เลย”
หงซื่อดูเหมือนจะมีเจตนาดี แต่สำหรับกู้เสี่ยวหวาน คำพูดเหล่านี้ดูไม่สมเหตุสมผล
หมายความว่านางรู้สถานการณ์ และสามารถตอบคำถามของกู้เสี่ยวหวานได้อย่างครอบคลุม
กู้เสี่ยวหวานเป็นเด็กผู้หญิง จะถามครอบครัวของสามีในอนาคตว่ามีทรัพย์สินเท่าไรและมีบ้านกี่หลังได้อย่างไร?
น่าขันยิ่งนัก
ใบหน้าของกู้เสี่ยวหวานเต็มไปด้วยความไม่พอใจอย่างมาก และมองไปที่หงซื่อด้วยสีหน้าน่าเกลียด
“ฮูหยินจ้าว โปรดกลับไปเถอะ สาวน้อยเสี่ยวหวานของครอบครัวข้ายังเด็ก และไม่ควรพูดเรื่องการแต่งงานในช่วงนี้ ข้าหวังว่าท่านจะยกโทษให้ข้าด้วย” ป้าจางก็ยืนขึ้นทันทีและออกคำสั่งขับไล่แขกอย่างเย็นชา