ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย - บทที่ 889 เลิกเสแส้รง
บทที่ 889 เลิกเสแส้รง
บทที่ 889 เลิกเสแส้รง
“ฮูหยินทั้งสอง หากพวกท่านยังคุยกันไม่จบ เหตุใดพวกท่านไม่กลับไปคุยกันที่บ้านของตระกูลจ้าวล่ะ ข้ายังต้องพาทุกคนไปดูผืนนา” กู้เสี่ยวหวานกล่าวเคล้ารอยยิ้ม ใบหน้าของเต็มไปด้วยความลำบากใจ
ถูกต้องแล้ว คนยากจนต้องทำไร่ทำนาเลี้ยงชีพ จึงไม่มีเวลามานั่งคุยกับคนตระกูลใหญ่ให้เสียเวลา
ฮูหยินจ้าวและหงซื่อผงะไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็กลับมารู้สึกตัวทันควัน
ฮูหยินจ้าวไม่เพียงแต่ไม่โกรธเคือง แต่แววตากลับเปล่งประกายแวววับ คว้ามือของกู้เสี่ยวหวานไว้ และพูดอย่างเป็นทุกข์ “แม่นางกู้ ดูเจ้าสิ ทั้งสวยและน่ารัก เพียงแค่มองก็รู้แล้วว่าเป็นคุณหนูของบ้าน เหตุใดต้องลงผืนนาด้วยตนเองด้วยเล่า”
ยิ่งฮูหยินพูดนางก็ยิ่งรู้สึกเป็นทุกข์ “หากผิวพรรณขาวผ่องและนุ่มนวลนี้โดนแดดคงจะคล้ำลง และมือจะหยาบกร้านขึ้น สามีในอนาคตของจะเจ้ามองด้วยความรังเกียจเอาได้”
กู้เสี่ยวหวานรู้สึกขยะแขยงขึ้นมา เพียงชั่วพริบตาก็กลายเป็นแม่นางกู้
เราคุ้นเคยกันหรือ?
กู้เสี่ยวหวานดึงมือออกจากการกอบกุมของฮูหยินจ้าวอย่างใจเย็น และพูดด้วยท่าทางประหลาดใจ “ฮูหยินอย่าล้อเล่นเลย ข้าเป็นเพียงคนธรรมดา และสามีที่ข้าจะแต่งงานด้วยในอนาคตจะมีฐานะเท่าเทียมกันกับข้า เขาไม่มีทางไม่ชอบข้าอย่างแน่นอน”
น่าขันอะไรเยี่ยงนี้ หากสู่ขอหญิงจากครอบครัวยากจน แต่กลับมีผิวพรรณงดงาม คนอื่นอาจจะได้ว่าผู้หญิงคนนี้ไม่ทำอะไรเลยนอกจากอยู่บ้าน
หงซื่อเป็นลูกสาวจากตระกูลยากจน เมื่อได้ยินฮูหยินจ้าวพูดสิ่งนี้ นางก็คลี่ยิ้มและเอ่ยประชดประชัน “ฮูหยิน ท่านคิดว่าทุกคนมีชีวิตที่ดีเหมือนท่านหรือ? ท่านเกิดมาในตระกูลร่ำรวย และตระกูลที่ท่านแต่งงานด้วยก็เป็นตระกูลมีชื่อเสียง ไม่ต้องทำสิ่งใดด้วยตนเอง การได้เป็นคุณหนูและเป็นฮูหยินดุจการได้รับพร หากคนอย่างหว่านเอ๋อร์ต้องการแต่งงาน นางต้องแต่งงานกับคนที่ฐานะใกล้เคียงกัน”
หงซื่อพูดประชดประชันว่านางกำลังดูแคลนกู้เสี่ยวหวาน ราวกับว่ากำลังบอกว่ากู้เสี่ยวหวาน ไม่สามารถปีนป่ายเข้าตระกูลจ้าวได้
แท้จริงแล้ว ถ้อยคำนั้นยังมีความหมายแอบแฝงอยู่มากมาย
หากวันนี้หงซื่อไม่ปรากฏตัวที่นี่ ฮูหยินจ้าวคงจะพูดสิ่งอื่นน่าฟังกว่านี้
แต่หงซื่อกลับมาปราฏกตัวที่นี่เสียได้
นางมาที่นี่พร้อมกับของขวัญ และท่าทางของนางก็เหมือนกับตนเองไม่ผิดเพี้ยน
จิตใจของฮูหยินจ้าวนิ่งสงบ นางจะไม่รู้ได้อย่างไรว่าหงซื่อมาที่นี่เพื่ออะไร?
ในฐานะฮูหยินใหญ่ตระกูลจ้าว นางต้องตากู้เสี่ยวหวาน และมาสู่ขอนางให้ลูกชายตระกูลจ้าวด้วยตนเอง หงซื่อเป็นเพียงอนุแล้วจะมาที่นี่เพราะเหตุใด
จุดประสงค์ของการมาของทั้งสอง พวกนางต่างรู้กันดี
สิ่งที่หงซื่อพูดเพื่อยกย่องฮูหยินจ้าว แต่มันคือการเตือนกู้เสี่ยวหวาน
ตระกูลแบบนี้นางไม่สามารถจับต้องได้ หากแต่งงานไปในอนาคตต้องทนทุกข์ทรมาน บางทีอาจจะกลายเป็นเพียงอนุ
มีเพียงอนุที่มีฐานะเท่านั้นที่จะไต้เต้าขึ้นไปเป็นภรรยาเอกได้
ฮูหยินจ้าวได้ยินความหมายนั้นจึงตวัดสายตามองหงซื่ออย่างโกรธเคือง
หงซื่อแสร้งมองไม่เห็น สะบัดผ้าเช็ดหน้าภายในมือ แล้วกลอกตาขึ้นมองท้องฟ้า
ดูเหมือนว่าหงซือจะมีเล่ห์เหลี่ยมจริง ๆ
ฮูหยินจ้าวกำลังโกรธเคือง
“หงซื่อ เจ้าคิดว่าทุกคนจะมีชะตากรรมเดียวกับเจ้างั้นหรือ” ฮูหยินจ้าวประชดประชัน “โชคชะตาเกิดมาเพื่อเป็นอนุ เลวร้ายยิ่งนัก จุ๊ ๆ ชะตากรรมของเสี่ยวหวานดีกว่าเจ้ามาก”
สีหน้าของหงซื่อเปลี่ยนไป “ท่านหมายว่าอย่างไร”
ฮูหยินจ้าวคลี่ยิ้มมองไปที่กู้เสี่ยวหวานที่นิ่งเงียบมาตลอด และพูดอย่างเด็ดขาด “หวานเอ๋อร์ตระกูลจ้าวจะปฏิบัติต่อเจ้าด้วยความสุภาพ ข้าหวังว่าหวานเอ๋อร์จะแต่งงานกับตระกูลจ้าวได้”
สวรรค์
หลังจากได้ยินสิ่งนี้ หงซื่อก็จ้องมองที่ฮูหยินจ้าวอย่างตกตะลึง
แม้แต่กู้เสี่ยวหวานก็มองฮูหยินจ้าวด้วยสายตาแปลกประหลาด แต่เมื่อเห็นความจริงจังบนใบหน้าของนางก็ดูเหมือนว่านี่จะไม่ใช่เรื่องโกหก
“ท่าน…” หงซื่อจ้องมองไปยังฮูหยินจ้าวชี้ไปที่อีกฝ่ายด้วยความประหลาดใจ แล้วพูดว่า “ท่านไม่ได้คุยเรื่องนี้กับนายท่านด้วยซ้ำ ท่านแค่ตัดสินใจโดยไม่ได้รับอนุญาต”
“นั่นไม่มีเหตุผล สิ่งที่ฮูหยินพูด เจ้าที่เป็นเพียงแค่อนุจะมาขัดขวางได้อย่างไร” มามาเหอตะโกนเสียงดัง จ้องมองหงซื่อเขม็ง
หงซื่อสะดุ้งโหยงและหดคอกลับ แต่นางก็ยังต้องการต่อสู้เพื่อกู้เสี่ยวหวาน
ถ้ากู้เสี่ยวหวานถูกฮูหยินจ้าวขอไปเป็นลูกสะใภ้ของนางจริง ๆ แล้วลูกชายของตนควรจะแต่งงานกับคนแบบไหนเพื่อให้เทียบชั้นกับฮูหยินจ้าวได้
ถ้ากู้เสี่ยวหวานได้แต่งงานกับจ้าวจื่อชง นั่นจะยิ่งไม่เพิ่มพูนอำนาจของหญิงคนนี้งั้นหรือ?
นางถูกอีกฝ่ายเหยียบย่ำมาเกือบยี่สิบปี หากยังหาภรรยาที่ดีให้ลูกชายไม่ได้ นางจะไม่ต้องใช้ชีวิตอยู่ภายใต้การกดขี่ของคนผู้นี้ไปตลอดชีวิตหรือ?
ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเป็นเรื่องยากที่จะได้เข้าไปยังตระกูลจ้าว
หากไม่ได้เหยียบย่างเข้าประตูตระกูลจ้าว เจ้าก็จะกลายเป็นเพียงอนุภรรยาที่ถูกดูหมิ่น และเป็นที่ไม่โปรดปราน
ลูกสาวไม่ใช่คุณหนูที่แท้จริง และลูกชายก็ไม่ใช่คุณชายที่แท้จริง
กู้เสี่ยวหวานตรงหน้าตนเอง แตกต่างจากผู้คนทั่วไปเป็นอย่างมาก เด็กหญิงที่มีความสามารถ สามารถซื้อทรัพย์สินมากมายได้ตั้งแต่อายุยังน้อย และยังเป็นคนทำบัญชีของร้านจิ่นฝู
มีน้องชายคนหนึ่งยังเรียนหนังสืออยู่ ได้ยินมาว่าเรียนได้ไม่เลว และได้ข่าวมาการสอบซิ่วไฉที่ผ่านมาทำคะแนนได้ดีไม่น้อย
และเขาเพิ่งมีอายุแค่แปดขวบ
เด็กสาวแสนดีคนนี้จะหาได้จากที่ไหน ยิ่งหงซื่อคิดถึงมัน นางก็ยิ่งรู้สึกว่านี่คือเนื้อชิ้นดี และนางไม่สามารถดูมันถูกศัตรูฉกฉวยไปได้
เมื่อคิดถึงสิ่งนี้ หงซื่อก็เชิดยืดหลังตรง และพูดโดยไม่ยอมอ่อนข้อ “ฮูหยิน ตระกูลจ้าวคือตระกูลใหญ่ของเมืองหลิวเจีย ท่านเพียงแค่ตัดสินโดยไม่ปรึกษากับนายท่าน ไม่กลัวว่านายท่านจะตำหนิเอาหรือ”
ทันทีที่เอ่ยคำเหล่านี้มา หงซื่อก็รู้ว่ากู้เสี่ยวหวานจะต้องขุ่นเคืองอย่างแน่นอน
แต่ตอนนี้นางรู้แล้วว่าตนเองไม่สามารถคว้ากู้เสี่ยวหวานมาครอบครองได้อีกต่อไป ดังนั้นนางจะไม่ปล่อยให้ฮูหยินจ้าวได้เด็กคนนี้ไป
ในเมื่อนางไม่ได้สิ่งอีก คนอื่นก็อย่างคิดจะได้
กู้เสี่ยวหวานยืนอยู่ข้าง ๆ ด้วยรอยยิ้มจาง ๆ
หงซื่อเหลือบมองกู้เสี่ยวหวาน ถ้ารับนางไม่ได้ก็ช่างมันเถอะ
เมื่อฮูหยินจ้าวได้ยินคำพูดหงซื่อนางก็ดีใจเช่นกัน
คำพูดของหงซื่อกำลังดูแคลนกู้เสี่ยวหวาน