ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย - บทที่ 904 พระปลอม
บทที่ 904 พระปลอม
บทที่ 904 พระปลอม
น้ำเสียงของกู้เสี่ยวหวานนั้นเย็นเยือก ไม่ถ่อมตัว หากแต่ไม่เอาแต่ใจ ดวงตาใสซื่อ หากแต่ไร้ซึ่งความกลัว
นางเป็นเพียงเด็กหญิงอายุสิบเอ็ดปี แต่กลิ่นอายบนร่างกายของนางทำให้เขารู้สึกเหมือนอีกฝ่ายเป็นผู้ใหญ่
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสายตาที่มองเหมือนบ่อน้ำที่นิ่งสงบไร้คลื่น และมองไม่เห็นก้นบึ้ง
หัวใจของอาจารย์ต้าวซิ่นเต้นระรัวไม่เป็นจังหวะ เขาไม่สามารถรู้สึกถึงชีพจรของกู้เสี่ยวหวาน ได้อีกต่อไป
อย่างไรก็ตาม เมื่อก้าวขึ้นเรือลำนี้แล้วก็ไม่มีเหตุผลใดที่จะต้องขึ้นฝั่งกลางคัน
“แม่นางผู้นี้เกิดวันอี้ซื่อ เดือนเจี่ยเฉินใช่หรือไม่?” อาจารย์ต้าวซิ่นถาม
กู้เสี่ยวหวานพยักหน้า “ถูกต้อง”
อาจารย์ท่านนี้กำลังพูดถึงวันเกิดของกู้เสี่ยวหวานผู้ล่วงลับ เป็นไปได้หรือไม่ว่าอาจารย์คนนี้สามารถคำนวณวันเกิดของนางได้?
ฝูงชนที่อยู่ไม่ไกลได้ยินว่าอาจารย์ต้าวซิ่นคำนวณวันเกิดของกู้เสี่ยวหวาน ดูเหมือนว่ากู้เสี่ยวหวานคนนี้จะเป็นดาวหายนะอย่างแน่นอน
ครั้นอาจารย์ต้าวซิ่นได้ยินกู้เสี่ยวหวานตอบว่า ใช่ ใบหน้าใจดีของเขาพลันเปลี่ยนไปทันที เขาชี้ไปที่กู้เสี่ยวหวาน และตะโกนอย่างดุดันว่า “โยมคือดาวหายนะ!”
ดวงตาแข็งกร้าวด้วยความโกรธ และท่าทางเหล่านั้นดูไม่เหมือนพระภิกษุผู้สูงส่ง
เมื่อได้ยินอาจารย์ต้าวซิ่นพูดเช่นนี้ อารมณ์ของฝูงชนก็เหมือนถูกกระตุ้น “ดาวหายนะ ดาวหายนะ”
“เจ้าคือดาวหายนะ ที่แท้ก็เป็นเจ้านี่เอง ไฟนั้นไม่ได้แผดเผาให้ตายตก แต่เจ้ากลับมาที่เมืองหลิวเจียเพื่อฆ่าเราอีกครั้ง”
“ท่านอาจารย์ ท่านอาจารย์ ท่านต้องช่วยเหลือพวกเรานะ อย่าให้ดาวหายนะนี้หนีไปอีก!”
“อย่ากังวลไปเลย นี่เป็นหน้าที่ของอาตมา อาตมาจะกำจัดภัยพิบัติและคืนความสงบให้พวกโยม” ดวงตาของต้าวซิ่นจ้องมองกู้เสี่ยวหวานอย่างดุร้ายเหมือนเพชฌฆาต
“ดาวแห่งความหายนะ อย่าลังเลที่จะกำจัดนางด้วยมือของพวกโยม” อาจารย์ต้าวซิ่นไม่มีท่าทางนิ่งสงบอีกต่อไป ในหัวใจมีแต่ความคิดว่าเพื่อกำจัดดาวแห่งหายนะ
ไม่รู้ว่าสายตาของคนเหล่านี้ถูกสุนัขกินหรือถูกลาเตะกันแน่ คนตรงหน้าเขาเห็นได้ชัดว่าไม่ใช่พระ แต่มีท่าทางราวกับคนฆ่าหมู ยังจะไปเรียกเขาว่าอาจารย์อีก
ช่างน่าขันยิ่งนัก
กู้เสี่ยวหวานเพิกเฉยต่อคำพูดของเขาและมองไปรอบ ๆ คนที่ยืนอยู่ข้างหน้า ด้านล่างสุดของขั้นบันไดคือ ต้าวซิ่น และเหล่าชายฉกรรณ์หลายคนยืนอยู่ด้านหลัง พร้อมจะพุ่งเข้าใส่นางได้ทุกเมื่อ
ท่ามกลางหมู่คนแน่นขนัด บางคนหวาดกลัว บางคนเศร้าหมอง และบางคนไม่เชื่อ
“พวกเจ้าอย่าเข้าใจแม่นางกู้ผิดไป นางไม่ใช่คนประเภทนั้น ข้าได้ยินมาว่าไม่เพียงแต่เมืองหลิวเจียแต่รวมถึงเมืองรุ่ยเสียนและมณฑลอื่น ๆ ฝนก็ไม่ตกมาหลายเดือนแล้ว” หนึ่งในนั้นพูดสิ่งที่รับรู้มาเพื่อปกป้องกู้เสี่ยวหวาน
แต่คนรอบข้างไม่ฟังคำอธิบายของเขาแม้แต่น้อย และโต้กลับอย่างรวดเร็ว “ทุกคนอย่าไปฟังเขา มันก็เป็นเพียงแค่คำบอกเล่า เราต้องฟังอาจารย์ต้าวซิ่น อาจารย์ต้าวซิ่นบอกว่านางเป็นดาวหายนะ นางคือดาวหายนะ”
เสียงที่คุ้นเคยเป็นเสียงเดียวกับที่ตะโกนว่า ‘นางถูกวิญญาณร้ายเข้าสิง’ เมื่อครั้งที่เกิดเหตุการณ์ในหมู่บ้านอู๋ซี
กู้เสี่ยวหวานเหลือบตามองดูคนผู้นั้น เพียงแค่มองก็รู้แล้วว่าไม่ใช่คนดี
เสียงรอบข้างเงียบลงแล้ว และพวกเขาทั้งหมดก็มองไปที่อาจารย์ต้าวซิ่นอย่างรอคอยคำตอบ
“ดาวหายนะ” อาจารย์ต้าวซิ่นเอ่ย “ไม่มีฝนตกสักหยดในเมืองหลิวเจียมาสามเดือนแล้ว เห็นได้ชัดว่านี่คือสิ่งที่สวรรค์ประณามเมืองหลิวเจียที่รับเจ้าเข้ามาในฐานะดาวหายนะ หากเจ้ารู้สึกผิดสักนิดก็ให้ออกจากเมืองหลิวเจียโดยเร็วที่สุด และคืนความสงบสุขให้ทุกคน มิฉะนั้น อย่าโทษอาตมาที่หยาบคายกับโยมเลย”
ถ้อยคำของอาจารย์ต้าวซิ่นเต็มไปด้วยความเมตตากรุณาและความชอบธรรม และเขาคิดถึงทุกคนในสิ่งที่เขาพูด
แต่กู้เสี่ยวหวานลอบมองเขาอย่างเย็นชา ไม่เพียงแต่ไม่มีร่องรอยของความกลัว นางยังพูดว่า “ท่านอาจารย์ต้าวซิ่น เหตุใดถึงหยาบคายเช่นนี้เล่า”
เขาเป็นแค่พระปลอมที่ติดสุราและอาหาร แล้วเขากำลังพูดถึงหายนะแบบไหนกัน
“ดาวแห่งหายนะ โยมกล้าดีอย่างไรที่พูดคำหยาบคาย ดูเถิด ในวันนี้อาตมาจะกำจัดโยมเอง” ต้าวซิ่นที่อ้างวว่าตนเป็นพระ แต่ความจริงแล้วเขาไม่ใช่พระ แต่เป็นนักฆ่า
“ข้าขอถามท่านอาจารย์ พระรัตนตรัยของศาสนาพุทธคืออะไร” กู้เสี่ยวหว่านถามขึ้นโดยไม่สนใจความโหดร้ายในสายตาอีกฝ่าย
“หืม เจ้ารู้ด้วยหรือว่าพระรัตนตรัยของพระพุทธศาสนาคือ พระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์” ต้าวซิ่นประสานมือของเขาเข้าด้วยกันและเอ่ยอย่างเคร่งคัด
กู้เสี่ยวหวานคลี่ยิ้ม “ท่านอาจารย์ ท่านรู้หรือไม่ว่าพระรัตนตรัยมีกี่ประเภท?”
เมื่อครั้นต้าวซิ่นได้ยิน ดวงตาของเขาก็สว่างวาบเล็กน้อย เขาไม่เคยได้ยินว่ามีความแตกต่างระหว่างพระรัตนตรัย แล้วมันแตกต่างกันอย่างไร
“ดาวหายนะ โยมอย่ามาพูดไร้สาระที่นี่” เห็นได้ชัดว่าอาจารย์ต้าวซิ่นไม่สามารถตอบได้ แต่เขายังคงวิพากษ์วิจารณ์กู้เสี่ยวหวานด้วยพูดคำหยาบคาย
กู้เสี่ยวหวานหัวเราะดังขึ้น และเอ่ยขึ้นว่า “ท่านอาจารย์ต้าวซิ่น ท่านไม่รู้หรือ? แต่ข้ารู้นิดหน่อยนะ พระรัตนตรัยมีหกประเภท ได้แก่ พระรัตนตรัย พระธรรม หลักธรรม การกระทำ ความหมายที่แท้จริงของสมบัติธรรม การถือสมบัติธรรม…”
“นี่โยม! อย่ามาพูดไร้สาระ” เมื่ออาจารย์ต้าวซิ่นได้ยินกู้เสี่ยวหวานเอ่ย ใบหน้าของเขาก็ขึ้นสีแดงก่ำ และตำหนิกู้เสี่ยวหวานทันที “โยมกำลังพูดเรื่องไร้สาระอะไร”
“ข้าไม่ได้พูดเรื่องไร้สาระ ท่านอาจารย์ต้าวซิ่นไม่รู้ และผู้คนตรงนี้ก็ไม่รู้ แต่ข้าเชื่อ และแน่นอนว่าบางคนจะเชื่อสิ่งที่ข้าพูด”
กู้เสี่ยวหวานกล่าวเสียงดังและชี้ไปที่ต้าวซิ่น นางพูดอย่างไร้ความปรานี “ท่านอาจารย์พูดอยู่เสมอว่าเป็นพระที่มีชื่อเสียง แต่กลับไม่รู้จักพระรัตนตรัยของศาสนาพุทธ ในมุมมองของข้า หากว่ารากทั้งหกนั้นไม่สะอาด เป็นไปได้หรือไม่ว่าท่านเป็นพระปลอมที่ดื่มเหล้าและกินเนื้อ”
เมื่อต้าวซิ่นได้ยินกู้เสี่ยวหวานบอกว่าเขาเป็นพระปลอม เขาก็สูดลมหายใจเข้าลึก ๆ ชี้ไปที่กู้เสี่ยวหวานและพูดกับเหล่าชายฉกรรณ์ว่า “รีบไปจับนางเอาไว้!”
หลังจากชายฉกรรณ์ได้ยินคำสั่งของอาจารย์ต้าวซิ่นก็ก้าวไปข้างหน้าทันทีเพื่อคว้าตัวกู้เสี่ยวหวานเอาไว้ แต่อาโม่เอาตัวเข้ามาขวางกู้เสี่ยวหวานอย่างรวดเร็ว และตะโกนเสียงดังว่า “ใครกล้าเข้ามา”
ชิ้ง!
เสียงดาบถูกชักออกมาจากฝัก แสงแวววาบสะท้อนออกมาทำให้ชายฉกรรณ์เหล่านั้นผงะ ครั้นมองไปที่ร่างของอาโม่ พลันเห็นเขาถือดาบด้วยท่าทางสง่างาม
พวกเขาลอบมองหน้ากัน และไม่มีผู้ใดกล้าเข้าไปใกล้
——————————————-