ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย - บทที่ 997 ผลการสอบมีบางอย่างแปลกไป
บทที่ 997 ผลการสอบมีบางอย่างแปลกไป
บทที่ 997 ผลการสอบมีบางอย่างแปลกไป
สิ่งที่แปลกยิ่งกว่าคือ คะแนนของกู้หนิงอัน เมื่อพูดตามเหตุผลแล้ว คำตอบที่ดีขนาดนั้น อย่างน้อยการมีชื่ออยู่ในรายชื่อก็คงไม่เป็นปัญหา
อย่างไรก็ตาม แม้แต่คนสุดท้ายก็ไม่ใช่ชื่อของกู้หนิงอัน
มันแปลกมาก
เมื่อสวีเฉิงเจ๋อบอกสวีเซียนหลินเกี่ยวกับเรื่องนี้ สวีเซียนหลินก็รู้สึกว่ามันแปลกมาก
สองพ่อลูกครุ่นคิดเกี่ยวกับการสอบถงชื่อครั้งนี้เป็นเวลานานในห้อง และหลังจากครุ่นคิดอยู่นาน พวกเขาก็ได้แต่ดูว่าพวกเขาจะสามารถไปดูกระดาษคำตอบของกู้หนิงอันได้หรือไม่
สวีเซียนหลินเป็นขุนนางมาก่อนที่จะสอนหนังสือ และเขายังรู้จักขุนนางหลายคนอีกด้วย
อดีตเพื่อนร่วมงานบางคนก็มีตำแหน่งที่ไม่ธรรมดา และพวกเขาบังเอิญเกี่ยวข้องกับการทดสอบของเด็กคนนี้
ดังนั้นเขาจึงเขียนจดหมายและสั่งให้คนรีบส่งไปทันที
ไม่มีอะไรมากไปกว่าการเขียนว่าต้องการดูรูปแบบข้อสอบ และเอกสารที่มีคะแนนสูงเพื่อที่เขาผู้เป็นอาจารย์จะได้ถ่ายทอดความรู้ที่ถูกต้องในอนาคต
ไม่กี่วันก็มีคนส่งจดหมายมา
และยังเขียนจดหมายรับรอง
โดยอาศัยจดหมายนี้ จึงสะดวกมากในการไปที่สถานที่ทางการเพื่อตรวจสอบข้อมูล
สวีเซียนหลินได้รับจดหมายรับรองและขอให้สวีเฉิงเจ๋อนำจดหมายดังกล่าวไปที่สถานที่ทางการทันที
หลังจากที่เขาออกมา ใบหน้าของสวีเฉิงเจ๋อก็บิดเบี้ยวไม่น่ามอง
เอกสารทั้งหมดถูกปิดผนึก สามารถดูคำตอบของผู้เข้าสอบได้เท่านั้น แต่ข้อมูลส่วนบุคคลเช่นชื่อจะไม่สามารถเปิดเผยได้
สวีเฉิงเจ๋อตรวจสอบคำตอบทั้งหมด และในที่สุดก็พบคำตอบของกู้หนิงอันและกู้จือเหวิน
ลายมือของทั้งสองคน สวีเฉิงเจ๋อที่สอนพวกเขามามาหลายปีแล้ว และเขาก็รู้ได้ทันทีว่ามันเป็นลายมือของลูกศิษย์เขา
หลังจากเห็นคำถามที่ตอบโดยกู้หนิงอันและกู้จือเหวิน สวีเฉิงเจ๋อก็แทบจะระเบิดอารมณ์
กระดาษคำตอบของกู้หนิงอันเขียนขึ้นอย่างประณีต และกระดาษทดสอบที่เป็นลายลักษณ์อักษรก็มีพื้นฐานที่ดีเช่นกัน ซึ่งสามารถเรียกได้ว่าเป็นตัวอย่าง ผู้ตรวจสอบที่ทำเครื่องหมายกระดาษทดสอบก็เขียนว่าดีเยี่ยมลงไปด้วย
แต่เมื่อมองย้อนกลับไปที่กระดาษทดสอบของกู้จือเหวิน มันไม่ค่อยน่าดูนัก
ลายมือของกู้จือเหวินถือว่าดี แต่เมื่อเทียบกับกู้หนิงอันแล้วก็นับว่าแย่กว่ามาก
เนื่องจากกู้จือเหวินเป็นคนใจร้อน
ช่วงแรกที่เขียน ลายมือค่อนข้างเรียบร้อย แต่หลัง ๆ เขียนน่าเกลียดขึ้นเรื่อย ๆ ยิ่งเขียนก็ยิ่งมองไม่ออกว่าเขียนอะไร
มีแม้กระทั่งกระดาษทดสอบครึ่งหนึ่งที่ดูเปื่อยยุ่ยราวกับว่ามันถูกแช่อยู่ในน้ำ
เมื่อเห็นสิ่งนี้ สวีเฉิงเจ๋อก็นึกถึงความจริงที่ว่า มีคนบอกว่ากู้จือเหวินหลับไปครึ่งชั่วยามในการทดสอบ ดูเหมือนว่ากู้จือเหวินจะเป็นแบบนั้นจริง ๆ
ผู้ตรวจสอบให้คะแนนเอกสารสอบของกู้จือเหวินในระดับพอใช้และอ่อนมาก คะแนนที่ดีที่สุดคือระดับดีเท่านั้น
เอกสารการทดสอบของกู้หนิงอันล้วนเป็นระดับดีเยี่ยม
การแข่งขันเพื่อตัดสินผลของกู้จือเหวินและกู้หนิงอันนั้นสลับกันอย่างเห็นได้ชัด
เมื่อสวีเฉิงเจ๋อกลับมาที่เมืองหลิวเจียและบอกสวีเซียนหลินในสิ่งที่เขาเห็น สวีเซียนหลินก็ตกใจเช่นกัน
“เจ้าหมายความว่ามีคนเล่นตุกติกและเปลี่ยนคะแนนของพวกเขาสองคนหรือ?” สวีเซียนหลินขมวดคิ้ว จุดประสงค์ของการสอบคือส่งคนที่มีความสามารถยอดเยี่ยมไปยังราชสำนัก แต่บางคนกลับกล้าสร้างปัญหาให้เบื้องบน ทำในสิ่งที่ผิดกฎหมายและผิดวินัย”
“ท่านพ่อ คะแนนของกู้หนิงอันและกู้จือเหวินถูกสลับกัน ท่านคิดว่าใครกันที่สลับคะแนนของพวกเขาทั้งสอง”
สวีเซียนหลินก็จนปัญญาเช่นกัน
ไม่ใช่ว่าเขาไม่เคยได้ยินเรื่องแบบนี้มาก่อนตอนที่ยังเรียน แต่ส่วนใหญ่เป็นข่าวลือและไม่มีมูลความจริง
ในเวลานี้จู่ ๆ เขาก็เจอเรื่องของกู้จือเหวินและกู้หนิงอัน ซึ่งทำให้เขาลำบากใจจริง ๆ
ทั้งกู้จือเหวินและกู้หนิงอันต่างก็เป็นลูกศิษย์ของเขา และทุกคนในหอหนังสืออวี้สามารถเห็นลักษณะนิสัยและคุณธรรมของพวกเขาได้
เมื่อกู้จือเหวินเข้าเรียนครั้งแรก ผลการเรียนของเขาก็ยังดี ท้ายที่สุด กู้ฉวนลู่ก็เป็นบัณฑิตเช่นกัน ดังนั้นเขาจึงสอนความรู้บางอย่างให้กับกู้จือเหวินโดยธรรมชาติ
เมื่อศิษย์คนอื่นเข้ามา พวกเขาเกือบจะเป็นกระดาษเปล่า ดังนั้นพวกเขาจึงไม่สามารถเปรียบเทียบกับกู้จือเหวินได้
กู้จือเหวินเป็นคนขยันขันแข็ง แต่หลงระเริงในตนเองมากไป หยิ่งยโสและลำพองใจโดยคิดว่าเขารู้ทุกอย่าง แต่ในความเป็นจริงเขาเป็นเพียงน้ำครึ่งถังที่ยังไม่เต็ม
ในวันธรรมดา ที่หอหนังสือวี้เขาสามารถโกงได้ง่าย ๆ คราวนี้ไม่เป็นไร และเขาได้เห็นความจริงในห้องสอบ กู้จือเหวินจะเป็นคู่ต่อสู้ของกู้หนิงอันได้อย่างไร
กู้หนิงอันขยันหมั่นเพียร และเขาจะค้นหาสิ่งที่เขาไม่เข้าใจได้ตลอดเวลาจนกว่าเขาจะเข้าใจ เขาไม่พยายามที่จะหยุดแม้เพียงแวบเดียว และเป็นเพราะความเพียรเช่นนี้ ความรู้ของเขาจึงมากมาย
เมื่อมาถึงห้องสอบ เขาก็มีคำตอบอยู่ในใจ โดยธรรมชาติมันอยู่เพียงแค่ปลายนิ้ว
สวีเซียนหลินไม่กังวลเลยสักนิดว่าสวีเฉิงเจ๋อจะดูคะแนนของทั้งสองคนผิด
ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อกู้หนิงอันออกมาจากห้องสอบและบอกรายละเอียดว่าเขาตอบคำถามอย่างไร สวีเซียนหลินเดาว่าผลการสอบของกู้หนิงอันจะต้องไม่ธรรมดา
แน่นอนว่าผลการเรียนนั้นไม่ธรรมดา แต่เขากลับไปทำประโยชน์ให้คนอื่น
“เฉิงเจ๋อ สำหรับเรื่องนี้พวกเขาสามารถติดสินทางการเพื่อดำเนินการฉ้อฉลได้ พวกเขาจึงจะเตรียมพร้อมตามธรรมชาติ ยิ่งกว่านั้น รายชื่อได้รับการเผยแพร่ไปแล้ว แม้ว่าเราจะไปโวยวาย ข้าเกรงว่ามันจะเป็นไก่ก็บินหนี ไข่ก็แตก*[1] ซึ่งจะไม่ช่วยเรื่องนี้” สวีเซียนหลินถอนหายใจ
แม้ว่าเขาจะรู้เช่นกันว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล็ก แต่เขาก็ยังไม่รู้ว่าใครเกี่ยวข้องกับมัน
“ท่านพ่อ เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับอนาคตของกู้หนิงอันและเกี่ยวข้องกับตระกูลกู้ด้วย เราไม่สามารถปล่อยให้เรื่องนี้ดำเนินต่อไปแบบนี้ได้ วันนี้กู้จือเหวินขโมยผลการทดสอบถงชื่อของหนิงอัน พรุ่งนี้กู้จือเหวินอาจจะขโมยผลการทดสอบเซียงชื่อของหนิงอันก็ได้ การเพียรศึกษาอย่างหนักของหนิงอันเพียงเพื่อที่จะก้าวไปข้างหน้าโดยเร็วที่สุดเพื่อที่เสี่ยวหวานจะไม่ต้องทำงานหนัก เราไม่สามารถมองดูหนิงอันถูกคนอื่นรังแกได้” เมื่อสวีเฉิงเจ๋อนึกถึงท่าทางบูดบึ้งของกู้หนิงอันในช่วงเวลานี้ ในใจก็รู้สึกเป็นทุกข์มาก
สิ่งที่บัณฑิตทุกคนกลัวที่สุดคือ เขาสอบได้ดี แต่ไม่ได้จดหมายตอบรับ แล้วจู่ ๆ เขาก็รู้ว่ามีคนอื่นสอบผ่านได้ในนามของเขา
*[1] สุดท้ายแล้วก็ไม่ได้อะไรสักอย่าง
————————————-