ทะลุมิติไปเป็นหญิงพาลผู้งามเลิศประจำหมู่บ้าน - บทที่ 14 ข้าไม่ขอโทษสุนัข!
บทที่ 14 ข้าไม่ขอโทษสุนัข!
หลี่เยว่หานที่เพิ่งจะนั่งลงบนเตียง อดที่จะถอนหายใจออกมาไม่ได้เมื่อได้ยินเสียงที่ดังขึ้นจากหน้าประตู
ตามผู้ปกครองมาเมื่อตนเองสู้ไม่ได้ การกระทำของพวกนางเป็นพฤติกรรมของเด็กประถมไม่มีผิด
แต่โชคดีที่หญิงสาวล็อคประตูไว้ อีกฝ่ายมากันเป็นโขยง ถ้าตกลงกันไม่ได้ คนพวกนี้อาจลงไม้ลงมือ มีแต่คนโง่เท่านั้นที่จะเปิดประตูให้ในเวลานี้
เมื่อคิดได้ดังนั้น หลี่เยว่หานก็หยิบสำลีสองก้อนออกมายัดใส่หู ดึงผ้านวมมาคลุมและเตรียมที่จะพักสายตาสักพัก
แม้ว่าวันนี้เธอจะกินปลากับมันเทศไปแล้ว แต่หลี่เยว่หานก็ยังวางแผนที่จะไปหยิบของกินบางอย่างออกมาจากครัวในตอนกลางคืน
ในท้ายที่สุดได้อะไรมาบ้างก็ย่อมดีกว่าไม่มีอะไรเลย
ด้านนอก อู๋ไหลทำการเคาะประตูเป็นเวลานาน แต่เมื่อเห็นว่าไม่มีการตอบสนองในห้อง เขาจึงหันศีรษะขวับไปมองหวังเฟิ่งที่กำลังเฝ้าดูความตื่นเต้น “หลี่เยว่หานอยู่หรือไม่?”
หวังเฟิ่งที่ จู่ ๆ ก็ถูกสังเกตเห็นพลันตกใจ นางย่นคอแล้วตอบว่า “อยู่ข้างในจ๊ะ ข้าเห็นนางเข้าไปแล้ว”
“มารดามันเถอะ ดูเหมือนว่านังสารเลวตัวนี้จะตั้งใจไม่ออกมา!” อู๋ไหลกล่าวพลางพับแขนเสื้อขึ้นก่อนจะถอยหลังไปสองก้าว
เมื่อเห็นเช่นนี้ หวังเฟิ่งรีบถาม “บ้านอู๋ เจ้าคิดจะทำอะไรน่ะ?”
“ข้าจะเตะประตู! พานังสารเลวหลี่เยว่หานตัวน้อยของเจ้าออกมาสั่งสอนบทเรียน!” อู๋ไหลพูดด้วยความโกรธ
ในเวลานี้ หลี่ต้าเฉิงก็กลับมาจากที่ทำงานและรีบตรงเข้ามาเมื่อเขาได้ยินคำพูดของอู๋ไหล
“อู๋ไหล! เจ้ากำลังทำอะไร!” หลี่ต้าเฉิงผลักอู๋ไหลและพูดเสียงดัง “เจ้าที่เป็นพ่อคนหนึ่งกล้าคิดจะเตะประตูห้องลูกสาวของข้าซึ่งยังไม่ได้ออกเรือนหรือ ไร้ยางอายไปหรือไม่!”
“ถ้าอย่างนั้นเจ้าก็เรียกลูกสาวของเจ้ามาให้ข้า!” อู๋ไหลถูกหลี่ต้าเฉิงผลักจนเกือบล้มลงกับพื้น “นางรังแกหลานหลานและจวนเอ๋อร์ ข้าให้นางมาขอโทษยัยหนูทั้งสองคนไม่ได้หรือ!”
หลังจากได้ยินสิ่งนี้ หลี่ต้าเฉิงก็มองผู้มาเยือนอย่างสงสัย
อู๋หลานหลานและเจิ้งจวนดูเหมือนจะเพิ่งร้องไห้มา ซึ่งดวงตาของพวกนางยังคงบวมอยู่
ทั้งบ้านอู๋และบ้านเจิ้งต่างมีสีหน้าโกรธเคือง ซึ่งดูไม่เหมือนการเสแสร้ง
“หวังเฟิ่ง เกิดอะไรขึ้น!” หลี่ต้าเฉิงมองไปที่หวังเฟิ่งที่ย่อตัวลงและไม่กล้าพูดอันใด
“ยัยหนูเยว่หานรังแกบุตรสาวของพวกเขา พวกเขาจึงมาหานางที่ประตู… ” หวังเฟิ่งหดคอของนางลงอีกครั้ง
หลังจากได้ยินเช่นนี้ หลี่ต้าเฉิงที่ยืนอยู่ตรงนั้นก็คิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นหันกลับมาเตะเปิดประตูห้องของหลี่เยว่หานด้วยตนเอง
หลี่เยว่หานกำลังหลับอยู่บนเตียง แต่เท้าของหลี่ต้าเฉิงทำเธอตกใจมากจนลุกขึ้นมานั่ง
หลังจากนั้น ผู้คนจำนวนมากก็กรูกันเข้ามาจากทางประตู ซึ่งทำให้หลี่เยว่หานตกตะลึงกว่าเดิม
“เจ้ายังมีหน้ามาหลับอยู่อีก!” หวังเฟิ่งกระโดดออกมาทันที “ดูสิ่งที่ดีที่เจ้าทำสิ ในฐานะชาวบ้านคนหนึ่ง เจ้ากล้าดียังไงไปรังแกเด็กสาวคนอื่น!”
หลังจากที่หวังเฟิ่งพูดจบ หลี่เยว่หานซึ่งยังไม่ฟื้นคืนสติจากการงีบหลับ ก็ถูกมือของหลี่ต้าเฉิงลากลงจากเตียง
เขาไม่ให้โอกาสเธอใส่รองเท้าด้วยซ้ำ ก่อนจะผลักหญิงสาวไปอยู่ต่อหน้าทั้งสองครอบครัว “ขอโทษซะ!”
ทันทีที่เสียงของหลี่ต้าเฉิงดังขึ้น หลี่เยว่หานก็ตื่นขึ้นเต็มตา
หญิงสาวมีเรื่องแบบนี้อยู่ในความทรงจำด้วย เมื่อตอนยังเด็กเธอเคยถูกสหายร่วมชั้นรังแก เธอทนไม่ไหวเลยผลักเพื่อนร่วมชั้นแล้ววิ่งกลับบ้านไปร้องไห้กับหลี่ต้าเฉิง
ใครจะรู้ว่าหลี่ต้าเฉิงได้รับโทรศัพท์จากบ้านของเพื่อนร่วมชั้นนานแล้ว และเขายืนยันที่จะลากเธอไปที่บ้านอีกฝ่ายเพื่อขอโทษ
ไม่ต่างกันเลย
หลี่เยว่หานสูดหายใจเข้า ก่อนมองไปที่ทั้งสองครอบครัวที่ยืนอยู่ข้างหน้าเธออย่างดุร้ายแล้วยกยิ้ม แต่ดวงตาของหญิงสาวช่างเย็นชานัก “เกิดอะไรขึ้น?”
ขอโทษ?
เธอไม่ขอโทษสุนัขอย่างแน่นอน!
“ดูสิ!” อู๋ไหลด่าพร้อมกับกระโดดถีบ “หลี่ต้าเฉิง ดูลูกสาวของเจ้าสิ! ข้าจะบอกเจ้าให้ว่าครั้งนี้มันเป็นเรื่องร้ายแรงมาก! นังเด็กสารเลวผู้นี้หลู่เกียรติหลานหลานของครอบครัวข้า เจ้าคิดจะทำอย่างไรเกี่ยวกับเรื่องนี้!”
“ข้าหลู่เกียรติหลานหลานของครอบครัวของท่าน?” หลี่เยว่หานขมวดคิ้วและมองไปที่อู๋ไหลอย่างจริงจัง “ข้าไม่ใช่บุรุษ ข้าจะหลู่เกียรติหลานหลานของท่านได้อย่างไร? ทำไม? หลานหลานของท่าน บอกว่านางท้องลูกของข้ารึ? ”
อู๋ไหลอยู่ในอารมณ์โกรธอยู่แล้ว แต่เมื่อหลี่เยว่หานพูดตอกกลับไปเช่นนั้น เขาก็ระเบิดอารมณ์ออกมาทันที อีกฝ่ายกำลังจะตบหลี่เยว่หาน หากแต่เมื่อเขายกมือขึ้น หลี่เยว่หานก็หลบเลี่ยงเขาได้ทัน
“เป็นอะไรไป? ถ้าท่านจะบอกว่าอู๋หลานหลานกำลังตั้งท้องลูกของข้า ข้าไม่ได้บอกว่าข้าไม่รับผิดชอบเสียหน่อย แต่ถ้าท่านยังคิดทำอะไร ข้าจะไม่รับผิดชอบนางแล้ว”
“หลี่เยว่หาน! เจ้ากำลังพูดบ้าอะไร!” เจิ้งซื่อโก่วบิดาของเจิ้งจวนก็โมโหเช่นกัน “เจ้าเป็นสตรี เหตุใดเจ้าถึงไร้ยางอายเช่นนี้!”
หลี่เยว่หานมองไปที่พวกเขาราวกับว่าเขากำลังดูกลุ่มตัวตลก “นี่คือห้องของข้า ข้ายังไม่ได้แต่งงาน แต่พวกท่านชายชราสองคนกลับบุกเข้าไปในห้องส่วนตัวของหญิงสาวด้วยวิธีอวดเบ่งกลับบอกว่าข้าไร้ยางอายหรือ?”
คนสมัยก่อนมีคำกล่าวเช่นนี้ไม่มากนัก ไม่จำเป็นต้องทำอะไร หลี่เยว่หานก็สามารถทำให้บรรพบุรุษของพวกเขากระโดดออกจากหลุมฝังศพพร้อมสาดคำด่าทอออกมาแล้ว
“หลี่ต้าเฉิง นี่เจ้าสอนลูกสาวมาอย่างไรกัน!” อู๋ไหลหันไปถามหลี่ต้าเฉิงอีกครั้ง
หลี่ต้าเฉิงทนไม่ได้เมื่อถูกซักไซ้เอาความ ดังนั้นเขาจึงขมวดคิ้วและตะโกนใส่หลี่เยว่หาน “เยว่หาน! เจ้าแค่ก้มหัวขอโทษสำหรับเรื่องนี้ มันก็จะจบแล้ว! ถ้าเจ้ายังเอะอะโวยวายอีก ข้าจะตีเจ้า!”
“ท่านรู้หรือไม่ว่ามันเกิดอะไรขึ้น?” หลี่เยว่หานมองไปที่หลี่ต้าเฉิงอย่างเย้ยหยัน “ท่านรู้ไหมว่าอู๋หลานหลานและเจิ้งจวนรังแกข้าอย่างไร? ถ้าท่านไม่รู้อะไรเลย ทำไมท่านถึงต้องการให้ข้าขอโทษ? บุตรสาวของคนอื่นคือของล้ำค่า ส่วนบุตรสาวของท่านต่ำต้อยหรือไร้ความสามารถ จนใครต่อใครก็เหยียบย่ำได้งั้นรึ?”
หลี่ต้าเฉิงเคยถูกบุตรสาวต่อว่าแบบนี้มาก่อนเสียที่ไหน ใบหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นสีแดงด้วยความโกรธทันควัน
เมื่อเห็นท่าทางโกรธของหลี่ต้าเฉิง หลี่เยว่หานก็กลอกตาขึ้น
แม้ว่าหญิงสาวจะสามารถด่าคนกลุ่มนี้จนบรรพบุรุษฟื้นจากหลุมได้ แต่เธอก็ยังกลัวว่าคนพวกนี้จะลงมือกับตนอยู่ดี
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ หลี่เยว่หานก็ย่อตัวลง แล้วพุ่งหนีออกจากห้องอย่างว่องไว โดยแสร้งทำเป็นวิ่งไปที่บ้านของท่านปู่หัวหน้าหมู่บ้าน
บ้านอู๋และบ้านเจิ้งคิดว่านางกำลังจะขอความคุ้มครองจากปู่หัวหน้าหมู่บ้าน ดังนั้นพวกเขาจึงวิ่งออกไปโดยไม่พูดอะไรสักคำ
ไม่เพียงแต่ผู้ที่มาจากบ้านอู๋และบ้านเจิ้งเท่านั้น แต่แม้แต่หลี่ต้าเฉิงและหวังเฟิ่งก็ตามไปด้วยเช่นกัน
“เป็นอะไรไปเล่า! เจ้าไม่หนีแล้วหรือ?” เมื่อเห็นหลี่เยว่หานหยุด อู๋ไหลก็อดไม่ได้ที่จะชะลอความเร็วพร้อมประดับรอยยิ้มพึงพอใจ “ข้าจะบอกเจ้าให้ แม้ว่าท่านปู่หัวหน้าหมู่บ้านจะอยู่ที่นี่วันนี้ เจ้าก็ต้องขอโทษหลานหลานของข้า!”
“จวนเอ๋อร์ของข้าด้วย!” เจิ้งซือโก่วกล่าวเสริม
ฉากการไล่ล่าที่ถูกจัดฉากโดยกลุ่มคนดังกล่าว ได้ดึงดูดความสนใจของหลาย ๆ คน หลังจากที่ได้ยินสิ่งที่ทั้งสองคนพูด ผู้ชมก็อดสงสัยไม่ได้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น
หลี่เยว่หานยิ้ม เขย่าหินในมือของตนและพูดว่า “พวกท่านสองคนรู้ไหมว่าบุตรสาวของพวกท่านพูดอะไรกับข้าในวันนี้? ท่านไม่สงสัยหรือว่าทำไมข้าถึงด่าพวกนาง?”
แน่นอนว่าอู๋ไหลและเจิ้งซื่อโก่วรู้ว่าลูกสาวของพวกเขาพูดอะไร แต่หลี่เยว่หานด่ากลับหนักกว่า!
“เพราะข้าไปยกเลิกการแต่งงานระหว่างตระกูลหลี่กับตระกูลหลิ่วด้วยตนเอง หลี่หรงหรงจึงอาจไม่สามารถแต่งงานกับครอบครัวที่ร่ำรวยได้ ที่นางสัญญาไว้ว่าหลังแต่งงานกับหลิ่วจื้อหย่วนแล้วนางก็จะแต่งบุตรสาวทั้งสองของท่านเข้าไปในฐานะอนุย่อมมิอาจทำได้ อู๋หลานหลานกับเจิ้งจวนที่ไม่สามารถเป็นอนุของตระกูลหลิ่วได้จึงมาหยุดข้าไว้และด่าทอข้า ข้าทำการด่ากลับแล้วมันผิดหรือ?”