ทะลุมิติไปเป็นหญิงพาลผู้งามเลิศประจำหมู่บ้าน - บทที่ 15 โล่งใจ
บทที่ 15 โล่งใจ
เสียงของหลี่เยว่หานดังมาก เพราะหญิงสาวกลัวว่าคนรอบข้างจะได้ยินไม่ชัดเจน
เมื่อได้ยินเช่นนี้ สีหน้าของอู๋ไหลและเจิ้งซื่อโก่วก็เปลี่ยนสีทันที “พูดบ้าอะไรของเจ้ากัน!”
การเป็นอนุไม่ใช่สิ่งที่น่ายกย่อง แต่การเป็นอนุในตระกูลร่ำรวยเป็นสิ่งที่หลายคนใฝ่ฝันถึงมัน
แต่เรื่องแบบนี้ใครอยากจะโอ้อวดกันบ้าง ใครจะกล้าเอามาเปิดเผยกันเช่นนี้!
หลี่เยว่หานถอดผ้าคาดเอว*[1]พวกเขาออกโดยไม่ลังเลเลย ทางอู๋ไหลและเจิ้งซื่อโก่วต่างดูเหมือนจะหมดความฮึกเหิม ตอนนี้พวกเขาก็ไม่ได้มีท่าทีก้าวร้าวเหมือนก่อนหน้านี้อีกต่อไป
“ข้าไม่คิดจริง ๆ ว่าเจิ้งจวนซึ่งปกติจะทำตัวสูงส่งแทบตาย กลับคิดปรี่ไปเป็นอนุของผู้อื่น…”
“ไม่ถูกหรือ? เราไม่อาจตัดสินผู้คนได้เพียงรูปร่างหน้าตา โดยปกติแล้วอู๋หลานหลานและเจิ้งจวนมักเป็นสหายกับหลี่หรงหรง ซึ่งหลี่หรงหรงคนนี้กล้าถึงขนาดปีนขึ้นเตียงของพี่เขยในอนาคต บางที…”
“หุบปากซะ!” อู๋ไหลหมดความอดทนเมื่อเขาได้ยินคนรอบข้างพูดคุยกัน “หลานหลานของครอบครัวเรา ไม่ได้ไร้ยางอายอย่างนังแพศยาน้อยหลี่หรงหรงนั่น!”
“โอ้? จริงหรือ?” หลี่เยว่หานปัดผมที่ยุ่งเหยิงของเธอไปด้านหลัง “เช่นนั้นแล้วพวกนางก็ยังหยุดข้าและด่าทอข้าเพื่อทวงความยุติธรรมให้กับหลี่หรงหรง? ที่ทำไปทั้งหมดนี่เพื่อสนับสนุนนางเพียงเท่านั้นหรือ?”
“เจ้า…” อู๋ไหลไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหลี่เยว่หาน เขาได้แต่ชี้มือที่สั่นเทาไปที่นางด้วยความกรุ่นโกรธ “เจ้ามันนังสารเลวไร้ยางอาย!”
เมื่อได้ยินคำด่าทอนี้ของอีกฝ่าย หลี่เยว่หานก็มองไปที่หลี่ต้าเฉิง และพูดด้วยใบหน้าที่โศกเศร้าว่า “ท่านพ่อ เขาดุข้า! ท่านพ่อจะปกป้องบุตรสาวของคนอื่นเมื่อถูกด่าทอ แต่ไม่ปกป้องข้าที่เป็นบุตรสาวของท่านหรือ? ท่านพ่อ?”
ทันทีที่ถูกเรียกชื่อ หลี่ต้าเฉิงก็ปวดหัวขึ้นมาทันที
ในเรื่องนี้ เขายืดหัวออกไปก็โดน และหดหัวไปก็ยังโดนอยู่ดี! เขายืดหัวออกไปเลยดีกว่า อย่างน้อยก็ได้ชื่อเสียงกลับมา!
“อู๋ไหล หากอยากพูดก็พูดดี ๆ! หมายความว่าอย่างไรที่มาด่าบุตรสาวข้า!”
“ข้าด่านางแล้วจะทำไม? ใครใช้ให้เจ้าสั่งสอนบุตรไม่ได้เรื่องเล่า!”
“เยว่หานลูกสาวข้า เป็นที่รู้จักกันดีในหมู่บ้านว่ามีความรู้และเที่ยงธรรม หากอู๋หลานหลานของครอบครัวเจ้าไม่ได้มารังแกเยว่หานของเรา นางจะสาปแช่งผู้คนได้อย่างไร!”
“เจ้าลูกเต่าหลี่ต้าเฉิง เจ้าอยากต่อสู้กับข้ารึ!”
“สู้ก็สู้สิ! ข้ากลัวเจ้าที่ไหน!”
เมื่อสิ้นคำพูด หลี่ต้าเฉิงก็ถูกอู๋ไหลต่อย
ว่ากันว่าคนที่ซื่อสัตย์ก็มีไฟสามดวงอยู่ในใจเช่นกัน หลี่ต้าเฉิงโกรธยิ่ง เวลานั้นเขาไม่สนว่าจะเสียหน้าอย่างไรแล้ว เขาพุ่งไปข้างหน้าเพื่อทำการต่อสู้กับอู๋ไหลทันที ทางเจิ้งซื่อโก่วเห็นอู๋ไหลต่อสู้กับหลี่ต้าเฉิงก็เข้าร่วมวงด้วยโดยไม่พูดอะไรสักคำ
เมื่อเห็นเช่นนี้ ผู้ชมรอบ ๆ ก็พุ่งเข้าไปสุมไฟ
หลี่เยว่หานใช้ประโยชน์จากความวุ่นวายนี้ เพื่อออกจากฝูงชนและกลับบ้านอย่างสบายใจ
กลับมาถึงบ้านหลี่ หลี่เยว่หานก็หยิบขวานจากลานบ้านกลับไปที่ห้อง และหาท่อนฟืนเล็ก ๆ จากกองฟืน กลอนประตูถูกถีบจนพัง หญิงสาวจึงต้องหาอะไรบางอย่างมาทำกลอนประตู
ขวานถูกวางไว้ข้างหมอน เผื่อมีคนบุกเข้ามาในห้องของเธอตอนกลางคืน
เมื่อมันมืดสนิท หลี่เยว่หานก็ได้ยินเสียงเคลื่อนไหวในลานหน้าห้อง
หลี่เยว่หานมองออกไปผ่านรอยแตกของประตู หลี่หรงหรงกำลังถือตะเกียง โดยมีหลิ่วจื้อหย่วนอยู่ข้าง ๆ
ไม่น่าแปลกใจที่เธอไม่เห็นหลี่หรงหรงเลยในวันนี้ ปรากฏว่านางกำลังไปมีความสัมพันธ์กับหลิ่วจื้อหย่วน
“เอ๊ะ? ทำไมบ้านถึงมืดนัก ไม่มีใครอยู่หรือ? ท่านแม่! ข้ากลับมาแล้วเจ้าค่ะ!” เสียงของหลี่หรงหรงเต็มไปด้วยความสุข
“ไม่มีใครก็ดีหรงหรงเมื่อครู่นี้ข้ายังสัมผัสเจ้าไม่พอ…” เสียงอันคลุมเครือของหลิ่วจื้อหย่วนดังขึ้น ซึ่งในขณะที่พูดชายหนุ่มก็เอื้อมมือไปแตะหน้าอกของหลี่หรงหรง
“อย่าสร้างปัญหาสิเจ้าคะ…” แม้ว่าหลี่หรงหรงจะปฏิเสธ แต่ก็แทนที่จะถอยกลับ นางกลับก้าวไปข้างหน้า
หลิ่วจื้อหย่วนสอดมือเข้าไปในเสื้อผ้าของหลี่หรงหรงอย่างราบรื่น และเมื่อเขากำลังจะไปต่อ หวังเฟิ่งก็ปรากฏตัวขึ้นโดยนางพยุงหลี่ต้าเฉิงที่ได้รับบาดเจ็บเข้ามา
“ท่านพ่อ ท่านแม่ เกิดอันใดขึ้นเจ้าคะ!” หลี่หรงหรงรีบจับมือของหลิ่วจื้อหย่วนออกไป และเอ่ยทักหวังเฟิ่งกับหลี่ต้าเฉิงอย่างตื่นตระหนก
เมื่อได้ยินเสียงของหลี่หรงหรง หวังเฟิ่งก็กำลังจะพูดอะไรบางอย่าง แต่เห็นหลิ่วจื้อหย่วนยืนอยู่ด้านข้าง น้ำตานางพลันร่วงหล่นราวกับเหรียญเงิน “คุณชายหลิ่ว ท่านต้องตัดสินให้พวกเรา!”
หลิ่วจื้อหย่วนสับสน
ตัดสิน? พวกเขาทำอะไรไปกัน???
หลังจากที่หวังเฟิ่งเล่าให้หลิ่วจื้อหย่วนฟังว่าเกิดอะไรขึ้นโดยมีน้ำมูกและน้ำตาไหลอาบหน้า หลิ่วจื้อหย่วนก็มองไปที่หลี่ต้าเฉิงผู้ซึ่งถูกทุบตีจนจมูกฟกช้ำและใบหน้าบวมฉึ่ง ก่อนพูดว่า “เรื่องนี้… นี่มันก็สายมากแล้ว ข้าคงต้องกลับไปก่อน!”
หลังจากพูดจบ หลิ่วจื้อหย่วนก็รีบผลักหลี่หรงหรงออกไปและเผ่นหนีจากบ้านหลี่ไปอย่างรวดเร็ว บ้านนี้วุ่นวายมากเกินไป ดังนั้นเขาจึงไม่ต้องการมีส่วนร่วมในเรื่องเปื้อนโคลนเหล่านี้!
“คุณชายหลิ่ว…” หลี่หรงหรงยังคงต้องการรั้งหลิ่วจื้อหย่วนให้ค้างคืน แต่นางไม่คาดคิดว่าหลิ่วจื้อหย่วนจะจากไปทันทีที่เขาพูดเช่นนั้น หญิงสาวตะลึงงันไปชั่วขณะ “คุณชายหลิ่ว ท่านจะจากไปเช่นนั้นหรือเจ้าคะ!”
“การแต่งงานระหว่างสองตระกูลของเราเป็นโมฆะ” เสียงของหลิ่วจื้อหย่วนดังมาจากระยะไกล “ในอนาคตอย่ามาหาข้าเพราะเรื่องของครอบครัวเจ้าอีก!”
เมื่อหลี่หรงหรงถูกหลิ่วจื้อหย่วนทิ้งขว้างกะทันหันพลันนิ่งอึ้งไปอย่างงงงวย
“ท่านพ่อ ดูสิหลี่เยว่หานสามารถสร้างปัญหาได้มากเกินไปแล้ว ตอนนี้คุณชายหลิ่วพูดเช่นนี้ แล้วหรงหรงของเราจะทำเช่นไรเล่า!” หวังเฟิ่งตอบสนองอย่างรวดเร็วและน้ำตาของนางก็ไหลออกมาทันที
“ท่านต้องตัดสินให้หรงหรงนะ! พรุ่งนี้ พรุ่งนี้ให้เยว่หานไปขอโทษตระกูลหลิ่ว ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม เราจะปล่อยให้หรงหรงกลายเป็นตัวตลกเช่นนี้ไม่ได้!”
หลังจากได้ยินเช่นนี้ หลี่ต้าเฉิงก็อดที่จะเงียบไม่ได้
หลี่เยว่หานเป็นบุตรสาวของเขา และวันนี้เขาก็ถูกทุบตีเพื่อนาง
หลี่หรงหรงเองก็เป็นบุตรสาวของเขา แต่เพราะการขัดขวางของหลี่เยว่หาน ตอนนี้หลี่หรงหรงไม่เพียงสูญเสียความบริสุทธิ์ของนางไป แต่ยังสูญเสียการแต่งงานกับตระกูลหลิ่วไปอีกด้วย
นี่มันช่าง…มีปัญหาเข้ามาไม่หยุดหย่อน… ตอนนี้เรื่องที่สำคัญที่สุดไม่ใช่บ้านอู๋และบ้านเจิ้ง แต่เป็นหลี่หรงหรง!
หลี่เยว่หานในห้องเกือบจะหัวเราะออกมาดัง ๆ เมื่อเธอเห็นหลิ่วจื้อหย่วนเดินออกไป
หลิ่วจื้อหย่วนคิดแค่เพียงอยากเล่นสนุกกับหลี่หรงหรงเท่านั้น สำหรับนายน้อยเช่นเขาเมื่อปราศจากข้อผูกมัดโดยสัญญาการแต่งงานแล้ว อย่างมากสุดก็อาจยอมรับหลี่หรงหรงในฐานะอนุเพราะความรับผิดชอบ
แต่ตอนนี้ช่างดีนัก หลิ่วจื้อหย่วนคิดว่าตระกูลหลี่มีปัญหามากเกินไป และแม้แต่หลี่หรงหรง เขาก็ทอดทิ้ง!
นี่ถือได้ว่าเป็นการบรรเทาความโกรธให้เจ้าของร่างเดิมอย่างหนึ่ง!
ชั่วครู่ลานบ้านก็เงียบจนเหลือเพียงเสียงร้องสะอื้นไห้ของหวังเฟิ่ง ทางหลี่หรงหรงเงียบเสียงลงอย่างหาได้ยาก
“ท่านพ่อท่านแม่ พูดตามตรง พี่สาวของข้ารู้ตั้งแต่เนิ่น ๆ ว่าข้ากับคุณชายหลิ่วมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกัน” หลี่หรงหรงกล่าวในทันที
“ตั้งแต่นั้นมา พี่สาวของข้าจึงผิดปกติไปมาก ข้าคิดว่านางอาจจะเสียสติไปเพราะมีสิ่งกระทบกระเทือนจิตใจมากเกินไป ดังนั้นนางจึงเอ่ยถอนหมั้น”
หลังจากได้ยินเช่นนี้ หวังเฟิ่งและหลี่ต้าเฉิงก็มองไปที่หลี่หรงหรงในเวลาเดียวกัน
“ตราบใดที่ท่านบอกตระกูลหลิ่วเช่นนั้น ก็ยังสามารถแก้ไขสำหรับการยกเลิกเรื่องถอนหมั้นนี้ได้” ตอนนี้สิ่งต่าง ๆ เกิดขึ้นแล้ว หลี่หรงหรงรู้ว่าการร้องไห้นั้นไร้ประโยชน์ ดังนั้นนางจึงได้แต่พยายามอย่างเต็มที่เพื่อชดเชยสิ่งที่ผิดพลาดไป ไม่ว่าตระกูลหลิ่วจะรับรู้หรือไม่ก็ตาม นางก็ไม่สามารถควบคุมมันได้อีกต่อไป!
หลังจากได้ยินคำพูดของหลี่หรงหรง หลี่เยว่หานที่นั่งยอง ๆ อยู่หลังประตูและแอบฟังอยู่ยังอดที่จะยกนิ้วให้กับน้องสาวคนนี้ที่มีสติปัญญาเพิ่มขึ้นไม่ได้
[1] ถอดผ้าคาดเอว(เปิดเผยเรื่องน่าอับอาย)