ทะลุมิติไปเป็นหญิงพาลผู้งามเลิศประจำหมู่บ้าน - บทที่ 32 เหอฮวาที่รักมาอีกแล้ว
บทที่ 32 เหอฮวาที่รักมาอีกแล้ว
ในที่สุด ภายใต้ความต้องการอย่างรุนแรงของหลินซีทำให้หญิงสาวต้องมายังห้องโถง เธอค่อย ๆ นั่งยองลงด้านนอกประตู คนตัวใหญ่และคนตัวเล็กทั้งสองจึงเริ่มฟังอยู่ที่มุมกำแพง
“พี่เมิ่ง วันนี้ข้าเพียงแค่อยากดูว่าหลิงซีเป็นเช่นไรบ้าง” น้ำเสียงของหวังเหอฮวาดูอ่อนโยนนุ่มนวล ราวกับตอนที่หลี่เยว่หานอยู่ในยุคศตวรรษที่ 21 แล้วได้พบเพื่อนร่วมทีมในการเล่มเกมส์ ซึ่งมักจะบีบเสียงให้ดูเล็กน่าเอ็นดูเช่นนี้ ดูแตกต่างกับเมื่อวานในตอนที่นางกล่าวหาว่าเธอทำหลิงซีจมน้ำโดยสิ้นเชิง
“หลิงซีดีขึ้นแล้ว” เมิ่งฉีฮ่วนตอบอย่างเรียบง่าย
“คือว่า…” เหอฮวาลังเลอยู่ครู่หนึ่ง “ให้ข้าดูหลิงซีเสียหน่อยเถิด ข้าถึงจะแน่ใจได้ว่านางไม่เป็นอะไรแล้วจริง ๆ อย่างไรเสีย ข้าก็เคยดูแลพวกเขาสองพี่น้องมาหลายวัน เมื่อวานข้าเห็นว่าผู้หญิงคนนั้นในบ้านท่าน กดหัวหลิงซีลงไปในน้ำ ข้าก็เลยกังวล…”
“กังวล?” ไม่รู้ว่าเหตุใดเสียงของเมิ่งฉีฮ่วนจึงแฝงไปด้วยความเย็นชา “ถ้าหากเจ้าในตอนนั้นรู้สึกกังวลถึงความเป็นความตายของหลิงซีจริง ๆ ก็ควรจะเข้าไปหยุดเยว่หานไว้ทันที ไม่ใช่กลับวิ่งไปยังกลุ่มคนแล้วตะโกนร้องบอกเยว่หานทำให้หลิงซีจมน้ำ”
“ตอนที่เจ้าป่าวประกาศไปทั่ว ถ้าหากเยว่หานคิดจะทำอะไรหลิงซีจริง ๆ หลิงซีคงจะตายไปนานแล้ว”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น หวังเหอฮวาจึงตกตะลึงขึ้นมา ครู่หนึ่งจึงคิดที่จะพูดแก้ตัวออกมา “ไม่ใช่เช่นนั้นพี่เมิ่ง ข้าเพียงแค่…ข้าเพียงแค่กลัว ข้ากลัวว่าหญิงสาวในบ้านท่านผู้นั้นจะจัดการข้าเช่นกัน…”
“เจ้าพูดเรื่องตลกใดกัน” เมิ่งฉีฮ่วนแทบจะไม่คิดเช่นนั้น “ในตอนที่ข้าอุ้มเยว่หานกลับมาจากหมู่บ้านเฮยถู่ ผู้คนทั่วทั้งหมู่บ้านไป๋อวิ๋นต่างรู้ดีว่าเยว่หานป่วยและมีร่างกายอ่อนแอ นางไม่ได้ตัวใหญ่ไปกว่าเจ้าเลยแม้แต่น้อย นางจะจัดการเจ้าได้อย่างไรกัน?”
เมื่อได้ยินคำพูดนี้ของชายหนุ่ม หลี่เยว่หานและหลิงซีที่นั่งยองแอบฟังอยู่ด้านนอกแทบจะส่งเสียงหัวเราะออกมา
การพูดว่านางตัวใหญ่ต่อหน้าผู้หญิงคนหนึ่งนั้น ไม่เท่ากับเมิ่งฉีฮ่วนกำลังแหย่รังแตนหรือ! หลี่เยว่หานมองไปยังหลิงซีโดยไม่รู้ตัว เห็นเพียงเด็กหญิงตัวน้อยหัวเราะจนยกมือทั้งสองข้างขึ้นมา นิ้วชี้ของเด็กหญิงปาดที่ใต้ตา จากนั้นจึงชี้นิ้วไปด้านใน ส่งสัญญาณให้หลี่เยว่หานไม่ส่งเสียง
“ข้ารู้แล้ว!” หวังเหอฮวาร้องไห้ออกมาในที่สุด “ข้ารู้ว่าท่านชอบผู้หญิงคนนั้น! แต่ท่านจะมาดูถูกน้ำใจข้าเช่นนี้ไม่ได้! พี่เมิ่ง ข้าจริงใจต่อท่านจริง ๆ ถ้าหากท่านคิดว่าข้าไม่ดีตรงไหน ท่านสามารถบอกข้ามาได้ ข้าจะเปลี่ยนแปลง! แต่ผู้หญิงที่ท่านพากลับมานั้น เพียงข้ามองก็รู้แล้วว่านางโหดเหี้ยม ต้องไม่หวังดีต่อมู่ชวนและหลิงซีเป็นแน่!”
เมื่อได้ยินข้อกล่าวหาที่ชวนน้ำตาไหลเหล่านั้นทีละคำ ๆ หลี่เยว่หานจึงอดยกนิ้วโป้งไปยังหลิงซีไม่ได้ เด็กหญิงตัวน้อยยกมุมปากขึ้นมา พลางโน้มตัวไปกระซิบเบา ๆ ข้างหูของหญิงสาว “พี่สาวหลี่ นางกำลังพูดจาให้ร้ายท่าน เหตุใดท่านถึงไม่โกรธแม้แต่น้อย?”
“ไม่โกรธ” หลี่เยว่หานตอบกลับเบา ๆ “ไม่เพียงแต่ไม่โกรธ ข้ายังรู้สึกดีใจด้วยซ้ำ หวังเหอฮวาผู้นี้น่าสนใจเกินไปเสียแล้ว!”
ใช่
เมื่อพูดถึงเรื่องนี้แล้ว หญิงสาวที่ยังไม่ออกเรือนคนหนึ่ง วิ่งมายังบ้านที่มีคู่สามีภรรยา และเปิดเผยความในใจกับฝ่ายชาย ไม่ว่าจะดูอย่างไร นางก็ควรจะโกรธถึงจะถูก
แต่หลี่เยว่หานไม่ได้มีความรู้สึกใด ๆ ต่อเมิ่งฉีฮ่วน และยิ่งเห็นหวังเหอฮวาพูดจาด้วยความเป็นห่วงเป็นใยต่อหลิงซีจริง ๆ เมื่อคิดเช่นนี้แล้ว หญิงสาวไม่เพียงแต่ไม่โกรธ แต่กลับอยากเห็นอีกฝ่ายแสดงต่อไป
แต่หลิงซีไม่คิดว่าทุกอย่างจะซับซ้อนเช่นนี้ เมื่อนางเห็นหลี่เยว่หานไม่มีท่าทางโกรธเคือง และไม่พูดอะไรออกมา นางจึงนั่งเอาหูแนบกำแพงและฟังต่อไป
“ข้าคิดว่า เจ้ามาเผยความจริงใจต่อข้าเช่นนี้นับว่าไม่ดีนัก” เมิ่งฉีฮ่วนพูดขึ้นว่า “อย่างที่เจ้าเห็น ข้าแต่งงานกับเยว่หานแล้ว ถึงแม้จะไม่ได้จัดงานเลี้ยงเอิกเกริกอะไรนัก แต่ก็ได้จดทะเบียนกันแล้ว หลี่เยว่หานเป็นภรรยาของเมิ่งฉีฮ่วนโดยสมบูรณ์ เจ้าพูดเช่นนี้จึงไม่เหมาะสมนัก”
หลี่เยว่หานเกือบจะหัวเราะออกมา
เมิ่งฉีฮ่วนดูเป็นสุภาพบุรุษขึ้นมาทันที เธออยากจะปรบมือให้เขานัก!
“แต่ข้าจริงใจต่อท่าน หรือความจริงใจของข้าผิดงั้นหรือ!” หวังเหอฮวาร้องไห้หนักยิ่งขึ้น เสียงบีบเล็กนั่นหายไป และมันถูกแทนที่ด้วยน้ำเสียงที่เล็กแหลม “หญิงผู้นั้นมีอะไรดีกัน! จึงทำให้ท่านหลงใหลหัวปักหัวปำได้เช่นนี้!”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น หลี่เยว่หานก็พยักหน้าออกมาโดยไม่ทันรู้ตัว ใช่ เธอมีอะไรดีกัน เหตุใดเมิ่งฉีฮ่วนจึงต้องนำเธอผู้มีหนี้สินก้อนโตมาเป็นลูกไม้ในการป้องกันเช่นนี้!
“ข้ารู้สึกโมโหแล้ว!” จู่ ๆ หลิงซีก็พูดด้วยเสียงที่เบาบางออกมา
หลี่เยว่หานยังไม่ทันได้ตอบ ๆ เด็กหญิงตัวเล็กก็เดินเข้าไปในห้องโถงโดยไม่พูดไม่จาอันใดสักคำ หลี่เยว่หานอยากจะคว้าตัวนางไว้ แต่ก็สายไปเสียแล้ว
และในขณะนั้นเอง หลี่เยว่หานจึงเห็นหวังเหอฮวากำลังจะเปลื้องผ้าต่อหน้าเมิ่งฉีฮ่วน
“พี่เมิ่ง ท่านต้องการข้า ทั้งชีวิตของข้าอยากเป็นเพียงผู้หญิงของท่าน!”
“พรึบ…” เมิ่งฉีฮ่วนมีสีหน้าเรียบเฉย หลี่เยว่หานเกือบจะสำลักน้ำลายตัวเองออกมา
นี่เป็นยุคที่มีการใช้ชีวิตที่เรียบง่ายและเคร่งเรื่องอนุรักษ์นิยมมิใช่หรือ? เหตุใดสตรีนางนี้จึงคิดยอมเป็นอนุของผู้อื่นได้ง่ายดายเช่นนี้!
“พี่เหอฮวา! วันนี้ท่านทำเรื่องน่าอายเกินไปแล้ว!” เด็กหญิงตัวน้อยวิ่งไปยังด้านข้างหวังเหอฮวาทันที ออกแรงดึงแขนนาง “แม้แต่ข้ายังรู้ว่าเป็นผู้หญิงไม่ควรจะมาเปลื้องผ้าง่าย ๆ เช่นนี้ แล้วเหตุใดท่านจึงมาเปลื้องผ้าต่อหน้าอาเมิ่งเช่นนี้ หน้าไม่อายจริง ๆ!”
“ยังมีอีก!” ไม่รอให้หวังเหอฮวาที่มีสีหน้าสับสนได้ตอบกลับ เด็กหญิงตัวน้อยไปยืนอยู่ตรงหน้าเมิ่งฉีฮ่วนที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ มือเล็ก ๆ ทั้งสองข้างเท้าสะเอวไว้พลางพูดขึ้น “พี่สาวหลี่ทำอาหารอร่อยกว่าเจ้า ไม่ว่าจะต่อหน้าหรือลับหลังอาเมิ่ง ก็พูดเป็นเพียงเสียงเดียว!”
“ที่สำคัญคือ พี่สาวหลี่งดงามกว่าท่านมากนัก!” เด็กหญิงตัวน้อยจึงออกแรงพูดประโยคสุดท้ายออกมา “นางยังสัญญากับข้าว่าจะทำถังหูลู่ให้ด้วย!”
หวังเหอฮวาไม่คิดว่าหลิงซีจะปรากฏตัวออกมา จึงรู้สึกตื่นตระหนกและลนลานจนพูดไม่ออก
เมิ่งฉีฮ่วนโน้มตัวลงไปอุ้งหลิงซีขึ้นมา พลางเอ่ยถาม “เหตุใดเจ้าจึงวิ่งมาเพียงลำพังเช่นนี้ พี่สาวหลี่ของเจ้าล่ะ?”
“ข้าได้ยินพี่เหอฮวากำลังพูดให้ร้ายพี่สาวหลี่ ข้าก็เลยเข้ามา!” หลิงซีพูดด้วยสีหน้าโกรธเคือง “ถ้าหากข้าไม่มา พี่เหอฮวาก็คงเปลื้องผ้าออกหมดแล้ว!”
เมื่อถูกเด็กน้อยพูดใส่เช่นนี้ หวังเหอฮวาก็หน้าร้อนผ่าวขึ้นมาทันที
“ข้าและพี่หลี่ฟังอยู่ด้านนอกนานแล้ว! ข้าทนฟังไม่ไหวแล้ว!” หลิงซีพูดพลางยกมือเล็ก ๆ ขึ้นมา เมิ่งฉีฮ่วนและหวังเหอฮวาจึงมองไปยังหลี่เยว่หานที่นั่งยอง ๆ โดยมีศีรษะโผล่ออกมาเพียงครึ่งเดียวพลางแอบฟังอย่างตั้งใจอยู่ด้านหลังประตู
เมื่อถูกจ้องมอง สมองของหลี่เยว่หานจึงว่างเปล่าขึ้นมาทันที
หวังเหอฮวารู้สึกตกใจเช่นกัน ทันใดนั้นนางจึงเริ่มร้องไห้ออกมา ราวกับเป็นฝ่ายถูกกระทำ
เมื่อเห็นเช่นนั้น หลี่เยว่หานจึงทำได้เพียงลุกขึ้นยืนอย่างยอมรับชะตากรรม ตั้งใจจะพูดอะไรบางอย่างเพื่อให้สถานการณ์ที่อึดอัดใจเช่นนี้คลี่คลายลง หลิงซีที่นั่งอยู่บนตักของเมิ่งฉีฮ่วนจึงเริ่มร้องไห้ออกมา “ฮือ พี่เหอฮวารังแกพี่สาวหลี่ อาเมิ่งต้องช่วยพี่สาวหลี่!”
หลี่เยว่หานพูดไม่ออกอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นจึงรีบเดินเข้าไปอุ้มเด็กหญิงตัวน้อยที่นั่งอยู่บนตักของเมิ่งฉีฮ่วน มองเมิ่งฉีฮ่วนด้วยแววตารังเกียจก่อนจะพูดขึ้น “เจ้าเป็นตัวอย่างที่ดีให้แก่เด็กไม่ได้หรือ? คนแบบใดกันถึงมีคนมายั่วยวนถึงในบ้านได้!”
พูดจบ หญิงสาวจึงอุ้มหลิงซีและเดินออกจากที่นี่ไป
เดินออกไปด้วยความรวดเร็ว ถึงแม้จะเซเล็กน้อยก็ตาม…