ทะลุมิติไปเป็นเขยมาร Devil’s Son-in-Law - ตอนที่ 1
Ch.1 – บทแรกเริ่ม
Translator : Abcd25348 / Author
บทที่ 1
เฉินรุย โอตาคุเพศชายอายุ 24 ปี ว่างงานตั้งแต่สำเร็จการศึกษา ทำงานในร้านที่แทบจะไม่สามารถพบปะใครและใช้ชีวิตในขนาดห้องรถยนต์กับเพื่อนสามคน
วันนี้เขาหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นที่ตกอยู่บนถนนขึ้นมา แม้ว่ามันจะดูเป็นของโบราณ แต่มันก็ยังมีกล้องอยู่ เฉินรุยกดปุ่มเปิดทันที เขาเห็นหน้าจอสว่างขึ้นและมีกล่องสี่เหลี่ยมโผล่ออกมาตรงกลางพร้อมคำจำนวนหนึ่งแถว:“ คุณแน่ใจหรือว่าคุณต้องการจะทำสิ่งนี้”
เขากดปุ่มยืนยันและข้อความปรากฏขึ้น:“ คุณแน่ใจหรือไม่”
คนงี่เง่าคนไหนที่ไหนตั้งค่าแอนิเมชั่นรีบูตเครื่องแสนน่าเบื่อแบบนี้?
เฉินรุยไม่ลังเลที่จะกดปุ่มยืนยันอีกครั้ง จากนั้นข้อความก็ปรากฏขึ้นตรงกลางหน้าจอ“ ขอแสดงความยินดีด้วยสำหรับการชนะรางวัล! ยินดีต้อนรับสู่ระบบสุดยอด” ตัวอักษรมีขนาดใหญ่มาก จากนั้นโทรศัพท์ก็ได้ระเบิด
เฉินรุยยังไม่ได้พูดว่า เxี้ย ออกมา ก็ได้สลบไปเสียก่อน
เขาไม่รู้ว่ามันนานแค่ไหนแล้ว ตาของเขาได้เปิดขึ้นมาและรู้สึกปวดหัวมากๆ เขาจำได้ว่าโทรศัพท์ได้ระเบิดและนั้นคงจะเป็นเหตุผลที่ทำให้เขามีอาการแบบนี้ ตอนนี้มีความทรงจำหลายอย่างในหัวของเขา ก่อนที่เขาจะตระหนักได้ว่าเขาได้ยินคนๆหนึ่งพูดขึ้นมา”ตื่นเถิด?”
พอมองไปที่คนๆนั้นแล้ว เขาดูมีใบหน้าที่แสนหล่อเหลา มีผิวคล้ำผมสีเงินเข้ม หูแหลมและตาสีฟ้าพร้อมกับใบหน้าที่แสนงงงวย
ในขณะที่เผชิญหน้ากับคนๆนี้ เฉินรุยดูสงบมาก เขาเคยเห็นพวกที่ชอบการ์ตูนอยู่ทั่วตามอินเทอร์เน็ต โดยที่พวกเขามักจะคอสเพลย์เป็นตัวการ์ตูนที่ชอบกัน จากนั้นเขาจึงได้ตอบกลับไปในทันที: “นายเป็นคนที่ช่วยฉันไว้ใช่ไหม? ขอบคุณมาก!”
มันยากมากเลยที่จะหาคนจิตใจดีแบบนี้ได้ในรอบปี
“ ช่วยเจ้างั้นหรือ?” พอได้เห็นการแสดงความขอบคุณของเฉินรุยแล้ว ผู้ที่ชื่นชอบการ์ตูนแสนประหลาดก็ได้พึมพำว่า:“ เป็นปัญหาที่ปริมาณยาหรือยาผิดประเภทหรือเปล่านะ?”
พอได้ฟังการตอบกลับมาจากคนๆนี้แล้ว เฉินรุยก็รู้สึกผิดปกติกับภาษาของคนๆนี้และเขายังไม่เคยได้ยินมาก่อนเลยด้วยซ้ำ อย่างไรก็ตาม เขาไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงสามารถเข้าใจความหมายได้และดูเหมือนว่านั้นจะเป็นภาษาธรรมดาๆด้วย
“ เพื่อน ร่างกายของนายมีรูปร่างที่เหมือนจริงมากและผิวหนังก็ยังมีสีเข้มมากด้วย … … ” เฉินรุยส่ายหัวของเขาอย่างงงงวยและพยายามลุกขึ้นนั่ง แต่กลับรู้สึกเจ็บไปทั้งตัว เขาได้แต่มองไปรอบๆยังสภาพแวดล้อมที่แปลกประหลาด:“ จริงสิ ว่าแต่เราอยู่ที่ไหนกัน”
“ กล้าที่จะเหยียดสีผิวของดาร์คเอลฟ์ยังงั้นเรอะ! เจ้ามนุษย์บ้า!” ผู้ที่ชื่นชอบการ์ตูนได้ตอบโต้กลับมาด้วยความโกรธพร้อมกับมือของเขาที่เกิดเสียง ชี่ ขึ้น …ใช่แล้ว เสียงชี่ เฉินรุยเห็นแสงประกายไฟฟ้าและมันกระทบเข้ากับเขาทันที ร่างของเขาลอยขึ้นไปและยังอัมพาตอีก ร่างของเขากระตุกโดยไม่ได้ตั้งใจ กลิ่นอากาศที่รับรู้ได้นั้นเต็มไปด้วยกลิ่นเผาไหม้
“แซลลี่! รีบถอยออกมาเร็ว!” แม้จะลงโทษเฉินรุยไปแล้ว แต่ผู้ที่ชื่นชอบการ์ตูนผู้นี้ก็ยังคงรู้สึกโกรธอยู่ดี
จู่ๆก็ได้มีเงาเล็กๆพุ่งผ่านมา คนผู้นี้มีผิวหนังที่เป็นสีแดง เขาเตี้ยมากและยังดูน่าเกลียดอีก ปากของเขาใหญ่และยังมีฟันแหลมอีก
“ มาสเตอร์อัลดัซผู้แสนน่าเคารพนับถือ ข้ารับใช้แซลลี่ผู้นี้กำลังรอคำสั่งของท่าน ท่านผู้เป็นหนึ่งในปรมาจารย์ร้านยาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของมาร … …
เสียงนี้เต็มไปด้วยคำเยินยอมากมาย แต่อารมณ์ของอัลดัซนั้นแย่มากและไม่คิดที่จะฟังคำเยินยอที่น่าเบื่อพวกนี้พร้อมกับตะโกนว่า:“ เอาชุดแห่งคำหลวงหลอกออกมา! เจ้าช่างเป็นมารที่ขี้เกียจเหลือเกิน นี้เจ้าได้ให้ยาพิษผิดขวดกับเขาหรือเปล่า?”
แซลลี่ตกใจมากและพูดขึ้นว่า“ ไม่อย่างแน่นอน ก็เหมือนกับที่มาสเตอร์ได้บอก ข้าได้ใช้ยาที่แท้จริงขวดที่ 3”
“ ยาที่แท้จริงอะไรกัน จากที่ฟังเมื่อครู่ข้ากลับได้ยินอะไรบางอย่าง?” น้ำเสียงเศร้าหมองของอัลดาซทำให้เหงื่อของแซลลี่เริ่มเย็นลง:“ ตอนนี้เจ้าเอาเลือดหนึ่งขวดออกมาให้ข้า จากนั้นให้ยาพิษขวดที่ 6 ‘น้ำตาตก’ กับเขา!”
แซลลีไม่กล้าประวิงเวลา เขาทำตามคำสั่งทันทีพร้อมเดินเข้าไปที่โต๊ะเพื่อหยิบขวด
ถ้าไม่มีสายฟ้าตะกี้นี้ เฉินรุยคงคิดว่านี่เป็นอนิเมชั่นหรือกำลังถ่ายทำภาพยนตร์ เมื่อมองดูการก้าวเดินของมารตัวนี้ หัวใจก็เต็มไปด้วยความหวาดกลัวที่จะต้องสู้ แต่ร่างกายของเขาก็ยังเป็นอัมพาตอยู่ ร่างกายของเขากลับไม่สามารถตอบสนองต่อคำสั่งของสมองได้
แซลลี่ไปที่ด้านหน้าของเฉินรุย เขาไม่ได้ใช้ใบมีดอะไรเลย เพียงแค่เหยียดปลายนิ้วที่แหลมไปทางแขนของเขา ทันใดนั้น เลือดก็ได้โผล่ออกมา ดวงตาเล็กๆของแซลลี่เปล่งประกาย ริมฝีปากของเขาเผยอขึ้นขณะที่บีบมัน เพื่อเก็บเลือดเข้าไปใส่ในขวดใสๆ
ความจุขวดนั้นไม่เล็กเลย เมื่อเลือดค่อยๆเติมเต็มลงไปในขวด ร่างกายของเฉินรุยก็รู้สึกเย็นวิงเวียนศีรษะและสมองก็เหมือนกับกำลังมึนๆ ในที่สุด แซลลี่ก็ได้เก็บเลือดเข้าไปในขวดทั้งหมดและนำเลือดที่ติดอยู่ในเล็บดูดเข้าไปในปากราวกับกำลังกลืนกินสิ่งล้ำค่า เส้นขนทุกเส้นของเฉินรุยนั้นลุกตั้งขึ้นแทบจะทันที
อย่างไรก็ตาม การกระทำนี้กลับทำให้อัลดาซรู้สึกไม่พอใจ แวลลี่เองก็ไม่กล้าที่จะทำอะไรขัดคำสั่งเขา จากนั้นก็ได้รินยาหมายเลข 6 ไปยังปากของเฉินรุย
ยานี้มีรสหวาน แต่มันกลับตรงกันข้ามกับผลกระทบของมัน หลังจากนั้นครู่หนึ่ง ร่างกายของเฉินรุยก็เริ่มเจ็บปวดไปทั่วร่างราวกับร่างของเขาผลิแตก นับตั้งแต่เขาเกิดมา ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่เขาได้รับความเจ็บปวดจนอดไม่ได้ที่จะกรีดร้องออกมา
เมื่อเห็นอาการที่เจ็บปวดของเฉินรุย อัลดาซก็หายโกรธและพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ:“ ดูเหมือนว่ายานี้จะมีประสิทธิภาพมาก ไม่รู้ว่าร่างกายของมนุษย์มีความต้านทานต่อยาก่อนหน้านี้หรือว่าขวดยาเองที่เป็นปัญหา ? “
อัลดาซรู้ว่าผลกระทบที่แข็งแกร่งที่สุดของน้ำตานกพอเขาขี้เกียจฟังเสียงโหยหวนของเฉินรุยแล้ว เขาก็ได้สั่งออกมาว่า:“ แซลลี่! พาเขาไปที่ดันเจี้ยนพร้อมกับรักษา แล้วอย่าปล่อยให้มันหิวไปทั้งคืน! หากวันหนึ่งเขาตายจากการทดลอง ข้าไม่เกี่ยงหรอกนะที่จะใช้ร่างแกเป็นอาหาร”
แซลลี่รู้สึกมีความสุขอย่างยิ่งและได้โพล่งคำเยินยอออกมามากมาย จากนั้นอัลดาซก็ได้กล่าวเสียงแข็งออกมา:“ แต่ว่า หากข้าพบว่าแกพยายามขโมยอาหารอีกครั้ง แกจะกลายเป็นตัวทดลองตัวต่อไป!”
แม้ว่าแซลลี่จะทำงานในห้องทดลองไม่นานนัก แต่เขาก็รู้ดีถึงความสะพรึงกลัวที่ตัวทดลองต้องทำได้รับ เขาจึงได้แต่สั่นกลัวพร้อมกับพยักหน้าอย่างไม่หยุด ก่อนที่จะพาเฉินรุยไปยังในดันเจี้ยน
แซลลี่ไม่ใช่ว่าจะไม่แข็งแรงเลย เขาสามารถลากเฉินรุยไปได้นานมากและได้โยนเขาไปยังห้องมืดที่ชื้น
“ รีบๆตายสักทีเถอะ ไอ้บ้าเอ้ย! แซลลี่ผู้นี้ยังไม่เคยลิ้มรสชาติของมนุษย์เลยนะ!” แซลลี่ต่อหน้าอัลดาซนั้นอาจจะดูอ่อนน้อมถ่อมตนและให้เกียรติ แต่ลับหลังเขาก็ยิ่งผยองมาก เขาเตะเฉินรุยไปหลายฟุต ก่อนที่จะเลียนิ้วที่เปื้อนเลือดอย่างลังเล ดวงตาเล็กๆของเขากระพริบถี่ๆด้วยความโลภ ในท้ายที่สุด เขาก็ไม่กล้าที่จะขัดขืนคำสั่งของอัลดาซและปิดห้องพร้อมกับก้าวเดินจากไป
เฉินรุยพยายามดิ้นรนอย่างมาก เพื่อที่จะทำให้ร่างกายของเขาหายเจ็บ แต่มันกลับเจ็บปวดขึ้นกว่าเดิมสิบเท่า จนเขาได้แต่กรีดร้องออกมาอีกครั้ง ทันใดนั้นก็ได้มีเสียงลึกลับจากสมองดังขึ้น:“ ค้นพบสารพิษที่ไม่รู้จัก จะเริ่มดูดซับและเริ่มระบบสุดยอดเลยหรือไม่?”
เฉินรุยนั้นเจ็บปวดเป็นอย่างมาก แค่การพูดก็แทบจะทำให้เขาเจ็บปวดอย่างเหลือทน หัวใจของเขาจู่ๆก็เย็นอย่างไม่มีเหตุผล มันแพร่กระจายไปทั่วร่างของเขาอย่างรวดเร็วและเริ่มที่จะหายปวด
“ ขาดแหล่งพลังงาน ความคืบหน้าของการเริ่มต้นระบบอยู่ที่ 0.5 ต้องการพลังงานมากขึ้นเพื่อให้เสร็จสมบูรณ์” เป็นอีกครั้งที่สมองได้ส่งสัญญานอะไรบางอย่าง ‘คลิ๊ก’ จากนั้นเสียงนั้นก็ได้หายไป
เดี๋ยวก่อน ระบบคืออะไร
เมื่อเฉินรุยตอบกลับไป ก็ไม่ได้มีเสียงอะไรปรากฏขึ้นอีก ภาพลวงตางั้นเหรอ?
เฉินรุยคิดถึงเรื่องนี้สักแปปหนึ่ง จู่ๆก็ได้มีข้อมูลจำนวนมหาศาลจนทำให้เขาตกตะลึงในทันที ตะกี้นี้เหมือนกับเขาไม่มีความทรงจำอะไรเลยอยู่ในหัว หลังจากที่คิดไปคิดมา ก็เหมือนกับความทรงจำได้ถูกกลั่นออกมาโดยอัตโนมัติ
ดังนั้นในตอนนี้ เขาไม่ใช่เฉินรุยคนเดิมแล้ว แต่เขาคือเด็กชายที่มีชื่อว่า อาเธอร์และนี่ไม่ใช่โลกของเขาด้วย
การเปลี่ยนถ่ายวิญญาณ! ในฐานะที่เป็นสุดยอดโอตาคุในเว็บนิยาย เฉินรุยรู้ได้โดยพลัน
พ่อแม่ของเฉินรุยเสียชีวิตในช่วงต้นปีที่ผ่านมา คุณย่าที่รักเพียงคนเดียวก็เสียชีวิตเมื่อปีที่แล้ว ปัญหาก็คือ เขาได้ยินเรื่องเกี่ยวกับการเกิดใหม่มามาก แต่ไม่เคยคิดถึงเหตุการณ์ที่จะต้องเจอแบบนี้เลยสักนิด!
เฉินรุยได้ต่อเศษเสี้ยวชิ้นส่วนความทรงจำที่ไม่สมบูรณ์ของอาเธอร์ พร้อมกับได้เรียนรู้ว่าพื้นที่นี้เป็นโลกเวทมนตร์ ‘อาเธอร์’ ดูเหมือนว่าจะเป็นลูกหลานขุนนางอายุ 20 ปีที่มีชีวิตที่เรียบง่ายมาก สองวันก่อน เขาออกมาเล่นข้างนอก จากนั้นก็ได้ถูกส่งไปที่ๆมีมารอยู่ทุกหนทุกแห่งและก็ได้ถูกจับกุมตัวไปยังห้องทดลองของอัลดาซ แล้วก็ได้เริ่มกลายเป็นตัวทดลอง
อาเธอร์อาศัยอยู่ในโลกมนุษย์ มีเผ่าพันธุ์เช่น มนุษย์ เอลฟ์คนแคระและเผ่าพันธุ์อื่นๆ และตอนนี้สถานที่แห่งนี้น่าจะเป็นโลกของโมซูที่เป็นศัตรูต่อโลกมนุษย์!
โมซู เป็นเผ่าพันธุ์ที่ทรงพลัง แต่ก็ได้พ่ายแพ้ต่อกองกำลังพันธมิตรมนุษย์ที่เป็นพันธมิตรในสงครามโบราณ จากนั้นก็ได้ถูกขับไล่ไปยังโลกเบื้องล่าง ประตูที่เป็นทางไปก็ได้ถูกปิดลงด้วยอาคม
อย่างไรก็ตาม แม้จะเป็นแบบนี้ โมซูกลับไม่เคยยอมแพ้ต่อความพยายามที่จะกลับสู่พื้นดินเลย ทุกๆ 500 ปี พลังอาคมจะอ่อนแอลง นั่นจะทำให้เกิดสงครามสองด้านขึ้น แต่มีสิ่งย้ำเตือนแทบจะทุกๆครั้ง นั่นก็คือพวกเขาไม่เคยชนะเลยสักครั้ง
เมื่อเร็วๆนี้เมื่อ 300 ปีก่อนในการต่อสู้ ผู้บัญชาการลูซิเฟอร์ซึ่งเรียกได้ว่าเป็น ลูซิเฟอร์คืนสีขาว เขาแข็งแกร่งมากจนทำให้มนุษย์ตกตายมากมาย แต่ประวัติศาสตร์ก็เหมือนเดิม ชัยชนะครั้งล่าสุดก็ยังคงเป็นของกองกำลังพันธมิตรของ ‘แสงสว่างและความถูกต้อง’ ลูซิเฟอร์คืนสีขาวได้ถูกสังหารโดยมนุษย์ที่แข็งแกร่งและกองทัพโมซูก็แตกพ่ายพร้อมถูกบังคับให้ต้องถอนตัวออกสู่นรก
ความทรงจำของอาเธอร์ในความเข้าใจเกี่ยวกับโมซูมีแค่นี้ ในความเป็นจริง โลกมนุษย์นั่นแทบทุกคนสามารถฟันน้ำขาดสะบั้นเป็นสองฟากได้และยังใช้กำปั้นทุบภูเขาได้ด้วย อย่างไรก็ตาม อาเธอร์เป็นวัสดุเหลือใช้ ไม่มีทั้งความขุ่นเคืองใจและเวทย์มนต์ สำหรับเขาสิ่งที่ยอดเยี่ยมที่สุดคงจะได้กลายเป็นอาหารหรือไม่ก็เครื่องดื่ม ถ้าวิญญาณของอาเธอร์ยังคงอยู่ เฉินรุยคงจะคว้าคอเด็กคนนี้พร้อมกับตะโกนว่า:“แกกล้ามอบประสบการณ์สุดแสนพิเศษอย่างนี้ให้ฉันได้ยังไงกันฟร๊ะ!”
ความจริงก็คือ ผู้ชายคนนี้ได้ถูกทรมานในร้านขายยาของอัลดาซ ซึ่งตอนนี้เขาก็ได้เป็นอิสระอย่างสมบูรณ์และทำให้เฉินรุยมาอยู่ในร่างของเขา
หากไม่มีพลังแม้แต่เล็กน้อย มนุษย์ที่แสนอ่อนแอในโลกของโมซูจะเป็นยังไงงั้นเหรอ? หนูทดลอง? อาหาร?
เฉินรุยกลัวมากขึ้นเรื่อยๆที่เขากด ‘ยืนยัน’ และเสียใจกับพฤติกรรมที่ไม่ยั้งคิดของเขามาก ก่อนหน้านี้ ในใจของเขาได้แต่ด่าโทรศัพท์ว่าเxี้ยๆเป็นนับพันครั้ง แต่มันก็ไม่มีอะไรกลับคืนมาแล้ว
ชีวิตในอดีตเขาเป็นโอตาคุเล่นเกมและอ่านฟอรัม แต่เขาไม่เคยคิดว่าตัวเองจะมาอาศัยอยู่ในโ,กเวทย์มนต์ที่แทบจะเอาตัวไม่รอดได้เลย เขาจะรอดได้ยังไงกันเนี้ย?
เฉินรุยคิดเรื่องนี้เป็นเวลานาน แต่ก็ยังไม่สามารถทำอะไรได้ ตัวของเขาทั้งรู้สึกเหนื่อยและก็เผลอหลับไป