ทะลุมิติไปเป็นเศรษฐีนียุค 80 [重生八零致富记] - ตอนที่ 140 ใกล้คลอดแล้ว
ตอนที่ 140 ใกล้คลอดแล้ว
ดูชีวิตคู่ตอนนี้ของซูตานหงสิ ช่างราบรื่นดีจริง ๆ
คุณแม่ซูถอนหายใจก่อนเอ่ยกับลูกชายคนโตที่ไม่เอาถ่าน “หลังจากนี้ก็ตั้งใจทำงานให้ดี ไม่อย่างนั้นฉันจะให้เจี้ยนอวิ๋นซ้อมแกต่อ!”
ซูจิ้นจวินกลัวจนตัวสั่น และนิ่งค้างไปเมื่อกลับมาถึงบ้าน
“เจี้ยนอวิ๋นให้ซาลาเปาคุณมา แม่สามีของน้องสาวก็ให้ไข่มา ทำไมไม่เห็นกลับมาบอกที่บ้านบ้างล่ะคะ?” สะใภ้ใหญ่ซูมีท่าทีไม่พอใจ
“ก็ผมกินหมดไปแล้วจะให้พูดอะไรล่ะ” ซูจิ้นจวินไม่รู้ว่าภรรยาของเขาหมายความว่าอะไร ทั้งตัวเขาเองยังอารมณ์ไม่ดีด้วย
“รู้ว่ากินหมดไปแล้ว แต่ไม่รู้ว่าตัวเองยังมีลูกชายสองคน ลูกสาวหนึ่งคน กับภรรยาอีกคนสินะคะ คิดถึงแต่ตัวเองหรือยังไง?” หล่อนกล่าวประชด
“มันจะเกินไปแล้วนะ ผมไปทำงานข้างนอกมาเหนื่อย ๆ ทำไมจะกินบ้างไม่ได้? เงินเดือนสักแดงเดียวก็ไม่ได้ มีแต่คุณที่ได้ไปตั้งครึ่งหนึ่ง!” เขาตอกกลับ
สะใภ้ใหญ่ซูแย้งขึ้น “แล้วฉันไม่ได้ทำเพื่อครอบครัวหรือยังไง? คุณก็เห็นว่าฉันเก็บเงินนี้เอาไว้ หลังผ่านไป 2-3 ปีค่อยไปถามจากคุณแม่ว่าเรามีเงินเท่าไหร่ ถึงตอนนั้นจะได้เอาไปสร้างบ้านใหม่ ฉันเข้าเมืองไปดูมาแล้ว คิดว่าจะสร้างสักสองสามชั้น!”
ได้ยินดังนั้นเขาก็นึกสนใจขึ้นมาก่อนเอ่ย “ผมเคยเห็นอยู่นะ แต่ว่ามันต้องใช้เงินเยอะเลยนี่ เราจะมีพอได้ยังไงกัน? ส่วนเรื่องแม่ก็ฝันไปเถอะ อย่าหวังจะได้เงินจากท่านเลย”
“งั้นคุณก็ตั้งใจทำงานให้มากขึ้นสิ ยังไงเจี้ยนอวิ๋นก็ขึ้นค่าแรงทุกปีอยู่แล้ว ปีหน้าก็คงขึ้นอีก ไม่ต้องห่วงเงินที่อยู่กับฉันหรอก จะไม่ให้ใครได้ใช้แม้แต่นิดเดียว ฉันเองก็กินข้าวกับลูก ๆ ที่บ้าน นอกจากค่าของใช้ทั่วไปก็ไม่ได้ใช้จ่ายอย่างอื่นอีก เดือนหนึ่งเก็บได้ถึง 15 หยวนเลยนะ!” สะใภ้ใหญ่ซูเอ่ย
เขาว่ากลับ “ผมคงไม่ต้องทำงานคนเดียวหรอกใช่ไหม? ปีนี้ดูท่าว่าผลผลิตที่สวนน่าจะมีเยอะ คงเก็บเกี่ยวกันเหนื่อยแน่ คุณก็มาช่วยบ้างสิ จะได้เงินเพิ่มไง”
“มันเป็นหน้าที่คุณไม่ใช่เหรอ? ฉันคุยกับคุณแม่ไปแล้วนะ ปีที่แล้วฉันก็ไปทำแล้ว ท่านคงไม่ต่อว่าอะไรหรอก แล้วถ้าท่านไม่แบ่งเงินไป ฉันน่าจะได้สิบหรือยี่สิบหยวนด้วยซ้ำ” หล่อนถอนหายใจ
“ไม่ต้องห่วงหรอก เดี๋ยวผมจะบอกแม่ไม่ให้แบ่งเงินไปเอง” เขาบอก
เงินนี้เป็นของพวกเขา แม่จะมาแบ่งไปไม่ได้
“งั้นคุณก็ไปพูดเลยสิ” สะใภ้ใหญ่ซูเร่งรัดทันที
เขาพยักหน้ารับ ส่วนภรรยาจะเอาเงินไปให้ครอบครัวตัวเองหรือไม่ เขาไม่ได้นึกกังวลแม้แต่น้อย
เงินจะอยู่ในมือภรรยาหรือแม่ก็ไม่ต่างอะไรกัน หล่อนอย่าหวังว่าจะได้แอบเอาไปใช้หรือเอาไปให้แม่ตัวเองเลย
เพราะสองสามีภรรยามีเป้าหมายใหม่ร่วมกันนี่เอง ทั้งคู่จึงทำงานหนักขึ้น
หากแต่พวกเขาก็ไม่คิดจะทำงานไปตลอด ขอเพียงมีบ้านสามชั้นก็พอแล้ว จะได้มีที่ซุกหัวนอนและไม่มีใครมาดูถูกได้อีก
เพราะมีเป้าหมายในใจ ซูจิ้นจวินจึงได้มาทำงานแต่เช้าวันรุ่งขึ้นหลังกินมื้อเช้าเสร็จ
เมื่อเห็นว่าเขาทำงานได้ดี จี้เจี้ยนอวิ๋นก็เอาซาลาเปามาให้ถึงสองลูกก่อนบอก “ช่วงนี้ทำงานหนักเลยนะครับ ไปช่วยงานแม่ผมที่แปลงสตรอเบอรี่หน่อยนะครับ”
“จะไม่ไปได้ยังไงล่ะ?” แม้ว่าเขาจะอิ่มโจ๊กไข่เค็มจากที่บ้านมาแล้ว แต่ใครใช้ให้ซาลาเปาอร่อยขนาดนี้ล่ะ? เมื่อได้ยินที่อีกฝ่ายบอกก็ขานรับทันที
เขารู้ว่าถ้าทำตามคำสั่งของน้องเขยก็จะต้องได้ของตอบแทนอย่างแน่นอน
“ดีครับ งั้นเราไปกันเถอะ” จี้เจี้ยนอวิ๋นยังคงดูพอใจ
ซูจิ้นจวินกินซาลาเปาจนหมดก่อนไปที่สวน
คุณแม่จี้ให้เขาช่วยถอนวัชพืชที่ขึ้นรกให้ มันไม่ใช่งานหนักเลย แต่ออกจะน่าเบื่อเสียมากกว่า เพราะนางไม่ใช้ยากำจัดศัตรูพืชที่ทั้งแพง มีสารพิษ และไม่ปลอดภัย! ดูจากคนที่อยู่ในโรงพยาบาลแล้ว จึงเป็นการดีที่จะสัมผัสพวกมันให้น้อยลง เพราะมันจะทำให้สุขภาพไม่ดี
และเพราะเหตุนั้นเอง ทุกอย่างที่นางปลูกถึงปลอดสารพิษ
ส่วนเรื่องแมลงก็หายห่วง เดี๋ยวทั้งโหวหวาจือ เสี่ยวเจิน เสี่ยวอวี้ก็คงพาเด็ก ๆ ในหมู่บ้านมาช่วยกันจับ
เด็ก ๆ สามารถเอาแมลงที่จับได้มาแลกไข่ได้
ไม่ว่าแมลงอะไรก็จับใส่ขวดแล้วเอามาแลกได้ทั้งนั้น
หากจับได้เยอะแล้วจะเอามาแลกถึงสองครั้งก็ไม่ใช่ปัญหา
แต่ส่วนใหญ่ไม่มีใครมาขอแลกสองครั้งต่อวัน พวกเขาจะมาขอแลกแค่หนึ่งวันครึ่ง โดยคุณแม่จี้จะให้ไข่แฝดกับพวกเขาไปฟองหนึ่ง
เด็ก ๆ ในหมู่บ้านต่างมีความสุข ส่วนพ่อแม่ก็ไม่ได้ว่าอะไรเมื่อเห็นว่าได้ไข่กลับมา
เด็กในหมู่บ้านต่างโตมาอย่างนี้ทั้งนั้น อีกทั้งในสวนของเจี้ยนอวิ๋นก็ปลอดภัยดี แต่แน่นอนว่าพวกเขาคงวิ่งเล่นไปทั่วไม่ได้เพราะสุนัขสามตัวบนเขาดุไม่ใช่เล่น แม้แต่ผู้ใหญ่ยังนึกหวั่น นับประสาอะไรกับเด็กเล็ก ๆ
จี้เจี้ยนเหอ สวี่อ้ายตั๋ง และจี้หงจวินเพิ่งจะขึ้นไปให้อาหารและทำความสะอาดเล้าไก่ พวกเขาต่างทำงานขยันขันแข็งและไม่ขาดตกบกพร่อง
ด้านซูตานหงก็อุ้มท้องลูกอยู่ที่บ้าน
หากแต่เธอก็เริ่มมีอาการในเช้านี้
อันที่จริงตอนที่เธอเข้านอนเมื่อคืนก็รู้สึกไม่สบายตัวบ้างแล้ว เพียงแต่อาการไม่ได้รุนแรงนัก
ตอนนี้เธอท้องแก่ขึ้นทุกวัน แม้จะเผื่อใจเอาไว้แต่ก็ไม่คิดว่าจะคลอดเร็วถึงเพียงนี้
เมื่อนับวันดูก็พบว่าเจ้าตัวเล็กอยากจะออกมาดูโลกก่อนที่เวลาอันควรถึงราว ๆ สองสัปดาห์
“คุณป้าหยางคะ ไปตามเจี้ยนอวิ๋นกลับมาให้หน่อยค่ะ ฉันต้องไปโรงพยาบาลแล้ว” ซูตานหงยังคงใจเย็น
เมื่อป้าหยางได้ยินเช่นนั้นก็รู้ได้ทันที นางช่วยประคองเธอให้นอนลงก่อนเอ่ย “ไม่ต้องกังวลนะ ตานหง รออยู่ที่นี่ ป้าจะไปตามเจี้ยนอวิ๋นลงมาเดี๋ยวนี้!”
“ไม่ต้องรีบมากนะคะ เดินระวัง ๆ บนทางด้วย” เธอเตือน
นางขานรับและรีบขึ้นเขาไปทันที
จี้เจี้ยนอวิ๋นจึงลงจากเขามาพร้อมกับคุณแม่จี้
คุณแม่จี้รีบเก็บของและบอกกับลูกชาย “แกรีบพาตานหงไปโรงพยาบาลก่อน เดี๋ยวแม่กับพ่อจะพาเหรินเหรินกับเยียนเอ๋อร์ตามไป”
“ได้ครับ ฝากบอกแม่ยายด้วยนะครับ” เขารับคำ
“แม่รู้น่า” นางตอบ
จี้เจี้ยนอวิ๋นขับรถพาซูตานหงไปโรงพยาบาล เขาดูเป็นกังวลมากผิดกับท่าทีของพยาบาล
พวกเขาต้องรอหลังจากมาถึง เพราะเจ้าหน้าที่บอกว่ายังไม่ถึงเวลาคลอด
“เจี้ยนอวิ๋น รีบบอกพวกเขาทีค่ะว่าฉันกำลังจะคลอดแล้ว!” เธอโพล่งขึ้น
เขาตอบกลับ “ได้ ผมจะไปเดี๋ยวนี้แหละ!”
เขาลากพยาบาลมา ซึ่งหล่อนก็แย้งขึ้น “ฉันบอกไปแล้วไงคะว่ายังไงก็คลอดคืนนี้ ไม่ใช่ตอนนี้หรอก”
“ภรรยาผมบอกว่าจะคลอดแล้ว คุณก็รีบหน่อยสิครับ” เขาท้วงกลับ
“คิดไปเองทั้งนั้นแหละค่ะ” พยาบาลว่าขึ้นอย่างไม่สบอารมณ์
แม้หล่อนจะออกอาการไม่เต็มใจแต่เมื่อเห็นหัวเด็กทารกก็เอ่ยรัวเร็ว “จะคลอดแล้วจริง ๆ ด้วย!”
สิ้นคำหล่อนก็เรียกคนมาและดันจี้เจี้ยนอวิ๋นออกไป “หลีกทางหน่อยค่ะ”
……………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
ตานหงจะคลอดแล้ว ได้ลูกผู้ชายหรือผู้หญิง ลุ้นกันต่อตอนหน้านะคะ
ไหหม่า(海馬)