ทะลุมิติไปเป็นเศรษฐีนียุค 80 [重生八零致富记] - ตอนที่ 201 แบ่งหมู
ตอนที่ 201 แบ่งหมู
หลังจากปล่อยลูกปลาทั้งหมดลงอ่างเก็บน้ำแล้ว จี้เจี้ยนอวิ๋นจึงขอให้ซูอันปังกับลุงสวี่ช่วยให้อาหารปลา
มีเรืออยู่ 2 ลำ แต่ลำหนึ่งใช้งานไม่ได้ ทว่าทั้งสองก็ใช้เรืออีกลำที่เหลือในการให้อาหารปลาอย่างรวดเร็ว เนื่องจากอ่างเก็บน้ำไม่ได้มีขนาดใหญ่มาก
“ให้อาหารปลาเสร็จแล้ว พวกคุณช่วยไปขุดหลุมตรงเนินเขาที่อยู่รอบบริเวณนี้หน่อยนะครับ อีกสักพักผมจะไปบรรทุกต้นกล้าผลไม้มาปลูก” รอจนพวกเขาให้อาหารปลาเสร็จแล้ว จี้เจี้ยนอวิ๋นก็พูดขึ้นมา
ตรงนั้นมีเนินเขาอยู่ 2 ลูก แม้ขนาดจะไม่ใหญ่นัก แต่จี้เจี้ยนอวิ๋นก็ยังวางแผนที่จะปลูกผลไม้เพราะไม่อยากให้พื้นดินบริเวณนั้นโล่งเตียนไปเปล่า ๆ อีกอย่างหนึ่งหากไม่ปลูกผลไม้แล้ว เวลาฝนตกลงมาก็จะชะล้างหน้าดินจนทำให้น้ำในอ่างเก็บน้ำทั้งหมดขุ่นมัวได้
“อ่างเก็บน้ำนี้ยังต้องซ่อมแซมอีกนะ” ลุงสวี่พูดกับจี้เจี้ยนอวิ๋นขณะสูบบุหรี่มวนใหญ่
“ผมรู้ครับ แต่การซ่อมแซมอ่างเก็บน้ำไม่ใช่เรื่องเล็ก ถึงตอนนั้นคงต้องรบกวนลุงสวี่ช่วยหาแรงงานผู้ชายที่ขยันขันแข็งในหมู่บ้านต้าวาหน่อยนะครับ” จี้เจี้ยนอวิ๋นพูดกับเขา
“เรื่องนี้วางใจเถอะ ขอแค่มีเงินจ้าง พวกเขาก็ยินดีมา” ลุงสวี่ตอบ
ในตอนนี้ซูอันปังก็รีบพูดขึ้น “เจี้ยนอวิ๋น ฉันแนะนําคนดี ๆ สัก 2 ถึง 3 คนมาช่วยได้นะ พวกเขาทั้งหมดต่างมีฝีมือในการทำงานทั้งนั้น”
“ได้ รอใกล้ถึงเวลาก็ไปเรียกพวกเขามาเถอะ” จี้เจี้ยนอวิ๋นพยักหน้า
อ่างเก็บน้ำนี้เก่ามากจริง ๆ เขาจึงวางแผนที่จะสร้างอ่างเก็บน้ำใหม่ในปีนี้ แต่ตอนนี้เขาไม่มีเงินและยังเป็นช่วงที่ยุ่งมากของการทำสวน ถึงช่วงว่างจากงานเมื่อใด ตอนนั้นเขาคงจะมีเงินทุนเพื่อจ้างทุกคน ค่อยเริ่มซ่อมกันใหม่ก็ไม่สาย
เนื่องจากอ่างเก็บน้ำอยู่ไม่ไกลจากหมู่บ้านซูเจีย ใช้เวลาเดินทางเพียงหนึ่งชั่วโมงต่อวัน ดังนั้นจี้เจี้ยนอวิ๋นจึงซื้อจักรยานมือสองให้ซูอันปัง แม้ว่ามันจะค่อนข้างเก่าแต่ก็ใช้งานได้ดี
สําหรับตัวจี้เจี้ยนอวิ๋นเองที่ซื้อของมาหลายชิ้นแล้ว เขาก็ยังมีเงินซื้อรถสามล้อคันใหม่อีกด้วย
ไม่มีทางที่รถยนต์คันเดียวของบ้านจะพอใช้งานหรอก ส่วนรถบรรทุกคันใหญ่นั้นจี้เจี้ยนเยี่ยก็จำเป็นต้องใช้ขนส่งสินค้า ดังนั้นจึงต้องไปขอยืมรถจากซูจิ้นตั๋งเท่านั้น เดิมทีเขาซื้อรถคันนี้ให้ซูจิ้นตั๋ง แต่ในตอนท้ายซูจิ้นตั๋งก็นำเงินมาจ่ายให้ จึงถือว่ารถเป็นของซูจิ้นตั๋งไปโดยปริยาย ตอนนี้จี้เจี้ยนอวิ๋นซื้อรถมาอีกคันจึงทำงานได้สะดวกสบายมากขึ้น
เมื่อพวกเขาออกไปปล่อยปลา ซูตานหงไม่เพียงเติมน้ำพุวิเศษลงในถังน้ำ แต่ยังเติมลงไปในอ่างเก็บน้ำอีกด้วย ในอนาคตลูกปลาเหล่านี้จะต้องเติบโตได้ดียิ่งขึ้นอย่างแน่นอน
“ปลา ปลา ปลา ปลา”
ฉีฉียังคงรู้สึกอาวรณ์อยู่เล็กน้อยขณะที่กําลังจะกลับ เขาทอดมองอ่างเก็บน้ำพลางตะโกนเรียกปลา
“คราวหน้าให้พ่อพามาที่นี่อีกก็ได้นะจ๊ะ” ซูตานหงเกลี้ยกล่อม
แม้ว่าฉีฉีจะยังพูดไม่เก่ง แต่เขาก็พอเข้าใจบ้างแล้ว เมื่อรู้ว่าแม่ของเขาหมายความว่าจะพาเขามาอีก จึงพอใจเป็นอย่างมาก
เขาโบกมือให้ลุงสวี่และซูอันปังเป็นการบอกลา
ครอบครัวคนทั้งสามพากันกลับไปก่อน
หลังจากกลับถึงหมู่บ้านก็ได้พบกับป้าหลี่ ทว่าป้าหลี่ไม่แม้แต่จะมองพวกเขาด้วยซ้ำ
ซูตานหงกับจี้เจี้ยนอวิ๋นจึงไม่ได้ใส่ใจนัก
แน่นอนพวกเขารู้ดีว่าป้าหลี่เป็นอะไร ไม่ใช่เพราะถูกจี้เจี้ยนอวิ๋นบอกปัดไปหรอกหรือ คราวก่อนที่มาของานทำ จี้เจี้ยนอวิ๋นก็บอกว่าจะไม่จ้างคนงานอีก แต่ตอนนี้กลับรับสมัครคนงานไปแล้ว เห็นได้ชัดว่าไม่ไว้หน้านางและไม่ต้องการจ้างจี้เจี้ยนเหอลูกชายของนางทำงานให้
เมื่อกลับถึงบ้าน สีหน้าของป้าหลี่ยิ่งดูน่าเกลียดมาก
“แม่ แม่ไปทำหน้าแบบนี้ให้ใครดูกันครับเนี่ย?” จี้เจี้ยนเหอลูกชายคนรองของนางเอ่ยถาม
“เพิ่งเจอกับครอบครัวของเจี้ยนอวิ๋นน่ะสิ เห็นแล้วยังเจ็บใจไม่หาย” ป้าหลี่กล่าว
จี้เจี้ยนเหอจึงรีบพูด “แล้วแม่ได้ด่าเขารึเปล่า? เขาทำเหมือนไม่เห็นแม่อยู่ในสายตาเลย!”
ถ้าไม่จ้างคนก็แล้วไป แต่ตอนนี้กลับรับสมัครคนงานไปแล้ว ต่อให้แม่ของเขาจะเคยไปขอร้องไอ้เวรนั่นเอาไว้ แต่จี้เจี้ยนอวิ๋นกลับไม่ไว้หน้ากันเลย
“ตอนนี้เขารวยใหญ่แล้ว เลยไม่ต้องเห็นหัวฉันก็ได้!” ป้าหลี่แค่นเสียง เดิมทีนางเคยคิดจะเข้าไปก่อเรื่อง แต่เมื่อตรองดูอีกทีก็เปลี่ยนใจ อย่างไรเสียสามีกับลูกชายคนโตก็ยังทํางานอยู่ที่นั่น
แต่ในใจยังไม่สามารถสงบลงได้
“กลิ่นอะไรน่ะ เมียแกล่ะ วันนี้หล่อนไม่ได้ล้างคอกหมูเหรอ?” ป้าหลี่ถามขึ้นมาทันทีเมื่อได้กลิ่นไม่พึงประสงค์
ปีนี้ครอบครัวของนางเลี้ยงหมู 2 ตัว เพียงพอที่จะทำให้ที่บ้านได้กินเนื้อหมูแสนอร่อยได้ตลอดทั้งปี แต่เมื่อคิดถึงตลาดหมูในปัจจุบัน นางจึงยอมอดทนไว้
ไม่ใช่แค่ครอบครัวนี้เท่านั้น ปีนี้หลายครอบครัวในหมู่บ้านต่างเลี้ยงหมูกันคนละ 1 ถึง 2 ตัว ช่วยไม่ได้ ใครใช้เนื้อหมูขึ้นราคาขนาดนั้นล่ะ?
“วันนี้หล่อนไม่ค่อยสบายน่ะครับ บอกว่าถ้ารู้สึกดีขึ้นแล้วจะลุกขึ้นมาทำงาน” จี้เจี้ยนเหอตอบ
“ผู้หญิงคนนี้ทำตัวขี้เกียจสันหลังยาวอีกแล้ว!” ป้าหลี่สบถออกมา
จากนั้นนางจึงเข้าไปเคาะประตู ภรรยาของจี้เจี้ยนเหอลุกขึ้นอย่างอิดออด ก่อนจะพูด “คุณแม่ทำอะไรคะ หนูแค่พักผ่อนสักหน่อยก็ไม่ได้เหรอ?”
“ใกล้จะถึงเวลามื้อเที่ยงแล้ว เธอยังมีหน้ามาบอกฉันว่าพักผ่อนอยู่อีกเหรอ เธอคิดว่าฉันโง่รึยังไง? ไปทำความสะอาดคอกหมูซะ ไม่อย่างนั้นก็ไม่ต้องกินข้าวเที่ยง!” ป้าหลี่พูด
“ไม่กินก็ไม่กินค่ะ งั้นคุณแม่ก็ทำงานเองเถอะ!” เมื่อภรรยาเจี้ยนเหอพูดจบก็ปิดประตูเสียงดังอีกครั้ง
ป้าหลี่ตะลึงงัน ก่อนจะระเบิดอารมณ์ขึ้นมาทันที “ให้ตายเถอะสวรรค์ เธอกล้าดียังไงมาพูดกับฉันแบบนี้?” จากนั้นก็หันไปพูดกับลูกชายที่กำลังตกตะลึง “เจี้ยนเหอ เข้าไปจัดการเมียแกซะ แม้แต่แม่ของแกยังกล้าไม่เคารพ หล่อนดื้อด้านเกินไปแล้ว!”
จี้เจี้ยนเหอพับแขนเสื้อขึ้น มุ่งหน้าเข้าไปหมายจะสั่งสอนผู้เป็นภรรยา แต่ภรรยาของจี้เจี้ยนเหอกลับแค่นเสียงอย่างเย็นชา “ถ้ากล้าแตะต้องตัวฉันแม้แต่นิดเดียว ฉันจะหย่ากับคุณแล้วหาสามีใหม่!”
แค่ประโยคเดียวก็ทําให้จี้เจี้ยนเหอสงบลงได้ แต่เขายังคงพูดขึ้น “คุณกำลังทำอะไรอยู่ เกิดอะไรขึ้น แม่แค่บอกให้คุณไปทำงานไม่ใช่เหรอ? ก็แค่โผล่หน้าออกไปให้เห็นก็พอแล้ว!”
“ฉันทำงานแล้วได้อะไร ต่อให้ตั้งใจทำงานอย่างดีแต่ก็ไม่เคยได้รับผลประโยชน์อะไรเลย จากนี้ไปก็อย่าแม้แต่จะคิดเลยค่ะ!” ภรรยาเจี้ยนเหอแค่นเสียง
“ทำไมถึงจะไม่ได้ผลประโยชน์ ถึงตอนนั้นถ้าขายหมูก็จะได้เงินมาไงล่ะ” จี้เจี้ยนเหอกล่าวด้วยสีหน้าโง่งม
เมื่อได้ยินดังนั้น ภรรยาของเขาก็กลอกตาและพูดขึ้น “ถึงตอนนั้นเงินจะอยู่ในมือฉันเหรอคะ?”
หล่อนจะถือว่าได้รับผลประโยชน์ก็ต่อเมื่อเงินเป็นของหล่อนเท่านั้น แต่ถ้าเงินอยู่ในกำมือของแม่สามี ก็อย่าหวังว่าหล่อนจะได้เงินแม้แต่เฟินเดียว
เมื่อตอนที่กลับไปเยี่ยมบ้านแม่ในช่วงปีใหม่ แม่ของหล่อนบอกว่าต้องหาโอกาสเหมาะในการสร้างปัญหา ไม่อย่างนั้นอย่าหวังว่าจะได้เงินสักครึ่งเหมา ทั้งยังต้องเหนื่อยเปล่า!
“คุณกำลังคิดอะไรอยู่ เงินที่อยู่ในมือแม่ก็เหมือนเป็นเงินของเราไม่ใช่เหรอครับ?” จี้เจี้ยนเหอพูดขึ้นมาอย่างอดไม่ได้
“เหลวไหล คุณลองไปขอเงินคุณแม่มาสัก 2 หยวน แล้วบอกว่าจะไปซื้อของอร่อย ๆ มาให้ฉันกินดูสิ คุณคิดว่าท่านจะให้ไหม?” ภรรยาของเจี้ยนเหอกล่าว “แต่ถ้าฉันมีเงินอยู่ในมือ พวกเราอยากจะซื้ออะไรก็ซื้อได้ คุณดูเอาเถอะว่าเงินที่อยู่กับแม่คุณ เหมือนเงินที่อยู่ในมือของฉันตรงไหน?”
จี้เจียนเหอสับสนกับสิ่งที่หล่อนพูด จึงถามอย่างตรงไปตรงมา “แล้วคุณจะทำยังไง?”
“ฉันต้องการแบ่งหมู 1 ตัว เมื่อถึงเวลาขายหมูทั้ง 2 ตัวนี้ หนึ่งในนั้นต้องเป็นของพวกเรา ไม่อย่างนั้นฉันจะไม่ทำงานเด็ดขาด” ภรรยาของเจี้ยนเหอพูด
“เป็นไปได้ยังไง แม่ไม่มีทางเห็นด้วยอย่างแน่นอน” จี้เจี้ยนเหอเข้าใจนิสัยแม่ของเขาดี
“ถ้าไม่ตกลง งั้นฉันจะทำงานให้ท่านไปทำไมกันคะ!” พูดจบภรรยาของเจี้ยนเหอก็ทิ้งตัวลงนอนบนเตียงเตาทันที