ทะลุมิติไปเป็นเศรษฐีนียุค 80 [重生八零致富记] - ตอนที่ 291 จี้อวิ๋นอวิ๋นผู้ร้องไห้จนแทบไม่มีน้ำตา
- Home
- ทะลุมิติไปเป็นเศรษฐีนียุค 80 [重生八零致富记]
- ตอนที่ 291 จี้อวิ๋นอวิ๋นผู้ร้องไห้จนแทบไม่มีน้ำตา
ตอนที่ 291 จี้อวิ๋นอวิ๋นผู้ร้องไห้จนแทบไม่มีน้ำตา
“พี่สะใภ้สี่คะ!” เมื่อเห็นหล่อน จี้อวิ๋นอวิ๋นก็เรียกรั้งไว้
อวิ๋นลี่ลี่หันไปมองก่อนเอ่ยขึ้น “เธอมาทำอะไรที่นี่?”
“พี่สะใภ้สี่ พี่ไม่อยากเจอฉันขนาดนั้นเลยเหรอคะ?” จี้อวิ๋นอวิ๋นบอกด้วยสีหน้าเจ็บปวด
“ไม่ใช่ว่าฉันไม่อยากเจอเธอหรอกนะ เราก็แค่ไม่มีเรื่องต้องข้องเกี่ยวกันแล้ว และพี่สี่ของเธอก็ไม่อยากให้ฉันติดต่อเธอด้วย” อวิ๋นลี่ลี่บอก
หล่อนยกจี้เจี้ยนเหวินขึ้นมาอ้าง พี่ชายน้องสาวได้ตัดขาดกันแล้ว ไร้ซึ่งเยื่อใยเหลือ พี่สะใภ้อย่างหล่อนย่อมต้องเปลี่ยนตาม
“พี่สี่ไม่รู้ว่าฉันมาหาพี่เสียหน่อยนี่คะ ฉันเห็นเขาเข้าไปแล้ว” จี้อวิ๋นอวิ๋นกล่าว
อวิ๋นลี่ลี่รู้ดีว่าหล่อนคงดักรอเจอตนอยู่ จึงเอ่ยขึ้น “ตอนนี้ดึกมากแล้ว ฉันต้องรีบกลับไปทำอาหาร ถ้าไม่มีอะไร ฉันขอตัวก่อนนะ”
“พี่สะใภ้สี่ พี่สะใภ้สี่” จี้อวิ๋นอวิ๋นรีบคว้าตัวหล่อนไว้
“มีอะไรก็พูดมา อย่ามัวแต่ลีลา” อวิ๋นลี่ลี่บอก
จี้อวิ๋นอวิ๋นต้องการขอความช่วยเหลือ จึงทำได้เพียงบอก “พี่สะใภ้สี่ ฉันอยากจะขอยืมเงินพี่สักหน่อยค่ะ!”
“ยืมเงินงั้นเหรอ?” อวิ๋นลี่ลี่จ้องเธอเขม็งและเอ่ย “ยืมเงินอะไรกัน พวกเธอสองคนมีงานทำไม่ใช่เหรอ? และยังมีเงินที่เธอเอาไปด้วย ฉันได้ยินว่าเธอเอาเงินเดือนที่หลี่จื้อให้เธอเมื่อก่อนหน้านี้ไปด้วยนี่ เธอก็เอาเงินส่วนนั้นออกมาใช้เสียสิ ยังจะขาดเงินอยู่อีกเหรอ?”
“พี่สะใภ้ ฉันขาดเงินจริง ๆ นะคะ อีกอย่างฉันก็ท้องด้วย” จี้อวิ๋นอวิ๋นโพล่งขึ้น
หลังจากที่หล่อนกับโจวจื่อย้ายไปเมืองเจียงสุ่ยแล้ว พวกเขาก็ใช้เงินไปเป็นจำนวนมาก ทั้งค่าเช่าบ้าน ค่าเครื่องใช้ในบ้าน และค่าครองชีพแต่ละวัน
หล่อนนำเงินก้อนโตออกมาใช้จนเกือบหมด และเงินส่วนของโจวจื่อก็ถูกใช้ไปมากเช่นกัน ตอนนี้หล่อนตกงาน ส่วนโจวจื่อยังมีเงินเดือนเดือนละ 20 หยวน แต่มันจะเพียงพอได้อย่างไร?
เรื่องที่หล่อนตั้งท้องนั้นอวิ๋นลี่ลี่ดูออก จึงไม่ได้ออกความเห็นอะไร ทำเพียงเอ่ย “ถ้าท้องก็กลับไปเลี้ยงลูกให้ดีซะ พี่สี่ของเธอกับฉันไม่ได้มีเงินมากนักหรอกนะ ถึงจะจ่ายค่าบ้านหมดแล้ว แต่ไม่นานมานี้พี่รองของฉันเพิ่งเปิดกิจการ ก็เลยให้เขายืมเงินไปแล้วน่ะ”
“พี่สะใภ้สี่ พี่จะไม่ช่วยฉันจริง ๆ เหรอคะ?” จี้อวิ๋นอวิ๋นเม้มปากแน่น
“ไม่ใช่ว่าพี่ไม่ช่วยเธอตอนที่เธอลำบากหรอกนะ พี่ไม่ได้โกหก เงิน 200 หยวนนั้นพี่กับเจี้ยนเหวินให้พี่รองยืมไปแล้ว เงินจำนวนนี้คงอีกนานกว่าจะใช้คืนหมด” อวิ๋นลี่ลี่กล่าว
หล่อนย่อมยกเรื่องนี้มาอ้างกับจี้อวิ๋นอวิ๋น หากพี่รองกับพี่สะใภ้รองของหล่อนต้องการมายืมเงิน มันคงเป็นเรื่องเสียเปล่า กับพี่ใหญ่ยังพอให้ยืมได้บ้าง แต่กับพี่รองนั้นอย่าแม้แต่จะคิด
หล่อนเพียงแค่ไม่ต้องการให้จี้อวิ๋นอวิ๋นยืมเงิน ถ้าเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้นในครั้งแรก ต่อไปก็คงมีครั้งที่ 2 ถ้าเป็นคนอื่นหยิบยืมไปพวกเขาคงจ่ายคืนอย่างแน่นอน แต่การให้จี้อวิ๋นอวิ๋นยืมนั้นไม่ต่างกับโยนซาลาเปาเนื้อให้สุนัขเลย
“เธอรออยู่ตรงนี้แล้วกัน” อวิ๋นลี่ลี่บอกกับหล่อน
หล่อนเดินขึ้นไปยังชั้นบนและนำพุทราแห้งมาให้ ก่อนเอ่ย “เธอเอาพุทราแห้งนี้กลับไปกินเถอะ เธอตั้งท้องอยู่ กินพุทราแห้งแล้วร่างกายจะได้แข็งแรง”
จี้อวิ๋นอวิ๋นยืมเงินไม่สำเร็จ จึงกลับไปพร้อมกับพุทราแห้ง
อวิ๋นลี่ลี่ไม่ได้พูดมากไปกว่านี้และกลับเข้าบ้าน ตอนนี้เองจี้เจี้ยนเหวินก็เอ่ยถามขึ้นมา “เห็นคุณเอาพุทราแห้งออกไปข้างนอก คุณเอาออกไปไหนเหรอครับ?”
“อวิ๋นอวิ๋นมาที่นี่ค่ะ หล่อนบอกว่าตั้งท้องเลยมาขอยืมเงินจากฉัน แต่ฉันไม่ได้ให้ยืมไปนะคะ แค่ให้พุทราแห้งไปเท่านั้น” อวิ๋นลี่ลี่ตอบ
จี้เจี้ยนเหวินมีสีหน้าบึ้งตึงทันที “ต่อไปไม่ต้องสนใจหล่อนอีก! ผมจะไม่ให้เงินหล่อนสักแดงเดียว!”
เขาพูดว่าให้ ไม่ใช่ให้ยืม การให้น้องสาวของเขายืมเงินนั้นไม่ต่างกับการให้เปล่าแต่อย่างใด
อันที่จริงหากน้องสาวของเขาทำตัวดีสักหน่อย ยามใดที่ตกทุกข์ได้ยาก พี่ชายอย่างเขาก็พอมีใจช่วยเหลืออยู่บ้าง เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องปกติ แต่น้องสาวของเขากลับทำร้ายจิตใจคนในครอบครัวอย่างสาหัสสากรรจ์เหลือเกิน แม้แต่เงินเดือนของหลี่จื้อหล่อนยังเอาไปด้วย
หล่อนทำตัวไร้เกียรติจนถึงวินาทีสุดท้ายด้วยซ้ำ
ตอนนี้กลับมาโอดครวญว่าไม่มีเงินอย่างนั้นเหรอ? หากเขายอมให้เงินหล่อนล่ะก็อย่ามาเรียกเขาว่าจี้เจี้ยนเหวินเลย!
เมื่อจี้อวิ๋นอวิ๋นมาถึงบ้าน โจวจื่อก็เพิ่งกลับมาจากที่ทำงาน เขาถึงได้ดูอิดโรยไม่น้อย
เมื่อเขากลับมาถึง เขาก็ได้เห็นผลไม้และอาหารเต็มโต๊ะ มีทั้งไก่และเนื้อ ซึ่งเห็นชัดว่าใช้จ่ายเงินไปเป็นจำนวนมหาศาล
ไม่เพียงแต่จะไม่ทำให้เขาพอใจแล้ว เขายังแสดงอาการหัวฟัดหัวเหวี่ยงในทันทีอีกด้วย “จี้อวิ๋นอวิ๋น คุณนี่เก่งจริง ๆ ถึงได้ใช้เงินเดือนผมหมดภายในไม่กี่วัน!”
“คุณจะมาโวยวายอะไรคะ? ฉันท้องอยู่นะ จะไม่ให้กินของดี ๆ บ้างเหรอ? ตอนฉันอยู่กับหลี่จื้อ เขาไม่ได้สนใจว่าฉันจะซื้ออะไรมาด้วยซ้ำ เขาบอกให้ฉันซื้อของได้ตามใจ แต่คุณกลับไม่พอใจที่ฉันซื้อของพวกนี้มาเหรอคะ?” วันนี้จี้อวิ๋นอวิ๋นยืมเงินไม่สำเร็จ หล่อนจึงหงุดหงิดใจ ส่งผลให้ระเบิดอารมณ์ออกมา
“ถึงหลี่จื้อจะดีแค่ไหน แต่ก็เป็นคุณเองนะที่ออกมาคบชู้นอกบ้าน ทำไมล่ะ ตอนนี้คิดถึงเขาขึ้นมาแล้วเหรอ? ตอนที่คุณแอบคบกับผม ทำไมไม่คิดถึงเรื่องนี้บ้างล่ะ!” โจวจื่อตอกกลับทันที
“ไอ้บ้านี่ พูดอะไรของแก?!” จี้อวิ๋นอวิ๋นตาแดงก่ำ และขึ้นเสียงอย่างเกรี้ยวกราด “ฉันทำแบบนี้เพื่อใครกัน ก็เพราะคุณนี่ไง ไม่อย่างนั้นฉันได้ผลาญเงินหมดไปแล้ว ตอนนี้ฉันท้องอยู่ จะหาของกินดี ๆ บ้างไม่ได้เลยเหรอ?”
“ถ้าคุณจะเอาแต่กินของดี ทำไมไม่กินให้ท้องแตกตายไปเลยล่ะ ตั้งแต่ที่คุณอยู่กับผมมา คุณก็เอาแต่กิน ซื้อแต่ของดี กินแต่ของแพง คิดว่าตัวเองเป็นใครกัน คุณตามผมมา คุณต้องอยู่กับผม อย่ามาทำตัวเป็นคุณหนูแถวนี้!” โจวจื่อตะคอกใส่
“ฉันเนี่ยนะทำตัวเป็นคุณหนู ฉันก็แค่ใช้ชีวิตตามปกติ!” จี้อวิ๋นอวิ๋นแหวกลับอย่างหัวเสีย
“ปกติอย่างนั้นเหรอ? คุณกินของดีทุก 3 มื้อ ทุกมื้อต้องมีผักและเนื้อ ต้องซื้อผลไม้ประจำฤดูกาล คุณต้องใช้เงินเท่าไหร่ถึงจะพอ? ไม่แปลกที่หลี่จื้อจะหย่ากับคุณ ผมเข้าใจหัวอกของเขาแล้ว ผมว่าเขาคงสบโอกาสที่ถูกนอกใจ แล้วโยนของมือสองอย่างคุณมาให้ผมแน่ ๆ!” โจวจื่อขึ้นเสียงแข็ง
“คุณบอกว่าใครเป็นของมือสองนะ ถ้ากล้าก็ลองพูดอีกทีสิ!” จี้อวิ๋นอวิ๋นตวาดกลับ
“คุณไม่ใช่เหรอที่เป็นของมือสองน่ะ? คิดว่าตัวเองยังสดซิงอยู่เหรอ? ถึงคุณเป็นแบบนั้นแต่ผมก็ไม่คิดดูถูกคุณ ถ้าคุณไปถามคนอื่นที่รู้วีรกรรมและเรื่องงามหน้าที่คุณเคยทำ ใครจะยอมรับได้บ้าง? ลองดูสภาพตัวเองบ้างเถอะ!” โจวจื่อเหนื่อยล้าเหลือเกิน ทั้งยังไม่มีคำปลอบโยนยามกลับจากเลิกงาน เขาถึงอดบันดาลโทสะที่เห็นหล่อนทำตัวฟุ่มเฟือยไม่ได้ คำพูดของเขาเสมือนมีดคมกริบ เชือดเฉือนไปทั้งร่างจี้อวิ๋นอวิ๋น
จี้อวิ๋นอวิ๋นกรีดร้องด้วยความเดือดดาล คว้าข้าวของขว้างปาสะเปะสะปะใส่เขาอย่างบ้าคลั่ง
หากเป็นเมื่อก่อน โจวจื่อคงตบหล่อนสักฉาดไปแล้ว จะปล่อยให้หล่อนอวดดีอยู่ได้อย่างไร? นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่พวกเขาทะเลาะกันเช่นนี้ และเขาเองก็เคยลงไม้ลงมือกับหล่อนมาก่อน
หากแต่ตอนนี้หล่อนตั้งท้องอยู่ เขาเองยังต้องการลูก จึงทำได้เพียงกระแทกประตูใส่ด้วยความโมโห
สิ่งที่เหลืออยู่คือสภาพห้องที่เละเทะ และจี้อวิ๋นอวิ๋นที่ปิดหน้าร้องไห้จนแทบไม่เหลือน้ำตาให้ร้อง หล่อนทำผิดอะไรหรือ ทำไมทุกคนจึงปฏิบัติกับหล่อนเช่นนี้ เหตุใดหล่อนถึงลงเอยในสภาพนี้ได้ หล่อนเคยใช้ชีวิตร่วมกับหลี่จื้อ ซึ่งตอนนั้นหล่อนมีความสุขมากแท้ ๆ
หลี่จื้อเคยทำให้หล่อนทุกอย่าง เขายอมทำงานบ้านทั้งหมด ขอเพียงหล่อนดูแลตนเองให้แข็งแรงเท่านั้น
แม้แต่ในฤดูหนาว หลี่จื้อยังเป็นผู้ทำหน้าที่ล้างจานและถูพื้น เขาบอกว่าในฤดูหนาวน้ำจะเย็นเป็นพิเศษ ซึ่งทำให้ผู้หญิงป่วยได้ง่าย