ทะลุมิติไปเป็นเศรษฐีนียุค 80 [重生八零致富记] - ตอนที่ 294 ทำหมูแดดเดียวหรือเปล่า?
ตอนที่ 294 ทำหมูแดดเดียวหรือเปล่า?
“หล่อนรู้ตัวว่าตัวเองทำผิดจริงเหรอ?” จี้เจี้ยนเหวินถาม
“ดูเหมือนหล่อนจะไม่เอาแต่ใจเหมือนเมื่อก่อนแล้วนะคะ” อวิ๋นลี่ลี่บอก
“หล่อนอยู่ที่ไหนนะ?” จี้เจี้ยนเหวินถามซ้ำ
อวิ๋นลี่ลี่บอกชื่อโรงแรมไป จี้เจี้ยนเหวินจึงเอ่ยขึ้น “คุณซื้อไก่แล้วเคี่ยวเป็นน้ำแกงไก่ไปให้หล่อนสักหน่อยเถอะ ส่วนเรื่องอื่นไม่ต้องเป็นห่วงหล่อนหรอก”
อวิ๋นลี่ลี่งุนงง นี่เรียกว่าไม่เป็นห่วงเหรอ? สุดท้ายสามีของหล่อนก็ยังใจอ่อนอยู่วันยังค่ำ
หล่อนไม่ได้ขี้เหนียว เพียงแต่ไก่เป็นสิ่งที่หาซื้อได้ยาก ซึ่งหล่อนซื้อมาได้เพียงตัวเดียว แบ่งไว้กินเองที่บ้านครึ่งตัว ส่วนอีกครึ่งตัวนำไปเคี่ยวเป็นน้ำแกง หลังจากเคี่ยวเสร็จและนำออกมาจากครัวแล้ว หล่อนก็เห็นร่องรอยฟกช้ำบนใบหน้าของจี้เจี้ยนเหวิน
“คุณไปทำอะไรมาคะ?” อวิ๋นลี่ลี่ชะงักไป
“ไปจัดการไอ้เวรนั่นมาไงล่ะ!” จี้เจี้ยนเหวินบอก
แม้น้องสาวเขาจะทำผิด แต่มาทำร้ายจิตใจน้องสาวเขาเช่นนี้ ครั้งนี้โจวจื่อเองต้องรับผิดชอบเช่นกัน!
อวิ๋นลี่ลี่มีท่าทางไม่พอใจและเป็นกังวล “คุณจะไปยุ่งกับเขาทำไมคะ? เรื่องมันก็จบไปแล้ว คุณจะไปฟื้นฝอยหาตะเข็บให้ได้อะไรขึ้นมา?”
จี้เจี้ยนเหวินไม่ตอบ แต่ตอนที่เขาไปเล่นงานโจวจื่อ เขารู้สึกสบายใจขึ้นมาก!
“เอาน้ำแกงไก่ไปให้หล่อนแล้วกลับมาเถอะ” จี้เจี้ยนเหวินบอก
“ค่ะ” อวิ๋นลี่ลี่รู้ถึงสภาพของน้องสามีดี หล่อนดูอาการไม่ค่อยดีนัก
จี้อวิ๋นอวิ๋นกำลังนอนพักผ่อน อาการของหล่อนดีขึ้นมาก เมื่อเห็นพี่สะใภ้สี่นำน้ำแกงไก่มาให้ ดวงตาก็พลันแดงก่ำ “พี่สะใภ้สี่ ขอบคุณมากนะคะ ขอบคุณที่ไม่ทอดทิ้งฉัน!”
“รีบกินตอนที่ยังร้อน ๆ อยู่เถอะ กินแล้วก็พักผ่อนเสีย ตอนนี้อากาศเย็น อย่าปล่อยให้ตัวเองป่วยนาน” อวิ๋นลี่ลี่บอก
จี้อวิ๋นอวิ๋นดื่มน้ำแกง หล่อนกินหมดไปเกือบครึ่ง
“พี่สี่ของเธอไปหาโจวจื่อมาด้วย” อวิ๋นลี่ลี่เอ่ย
“ไปหาเขาทำไมล่ะคะ?” จี้อวิ๋นอวิ๋นถามกลับ
“ไปเล่นงานไงล่ะ พี่สี่ของเธอเองก็เจ็บตัวมาเหมือนกัน” อวิ๋นลี่ลี่บอก “เอาละ เธอพักผ่อนไปเถอะนะ พี่ต้องกลับไปดูแลพี่สี่ของเธอแล้ว”
หลังเก็บจานและตะเกียบ หล่อนก็ขอตัวกลับ
เหลือเพียงจี้อวิ๋นอวิ๋นที่นอนอยู่บนเตียง เมื่อก่อนพี่สี่ของหล่อนรักหล่อนมาก แต่หลังจากหย่าเขาก็ไม่ใส่ใจหล่อนอีก เนื่องจากเขาไม่เห็นด้วยกับการหย่าครั้งนั้น เขาเกลียดชังโจวจื่อมาตั้งแต่ต้นจนถึงบัดนี้ เขาไม่เคยพูดคุยกับโจวจื่อ เพียงบอกกับหล่อนว่าหากเสียใจในภายภาคหน้า ก็อย่าซมซานกลับมาที่บ้าน!
หากแต่หล่อนรู้ว่าพี่สี่ยังรักหล่อนอยู่ ที่ผ่านมาพี่สะใภ้สี่มักส่งเงินมาให้ใช้บ้าง ซึ่งก็คงเป็นคำสั่งของพี่ชายหล่อน
“ฉันผิดไปแล้ว ฉันทำผิดไปแล้วจริง ๆ” จี้อวิ๋นอวิ๋นนอนอยู่บนเตียงพร้อมน้ำตาที่ไหลพรากเป็นสาย
โชคดีที่ยังไม่สายสำหรับการกลับไปของหล่อน หล่อนกับหลี่จื้อยังมีหวังกลับไปคืนดีกัน และมันคงเป็นเป็นความสุขของหล่อนไปตลอดชีวิต!
คิดได้เช่นนี้ จี้อวิ๋นอวิ๋นจึงเริ่มบำรุงร่างกาย และพยายามดูแลตัวเองอย่างดีที่สุด ด้วยหวังที่จะกลับไปพบหลี่จื้อกับพ่อแม่ของหล่อนในสภาพที่ดูดีที่สุด!
สถานการณ์ในเมืองเจียงสุ่ยย่อมอยู่ในการรับรู้ของครอบครัว
หลังจากได้ยินเรื่องนี้ ซูตานหงก็ไม่ได้ใส่ใจและเมินเฉย
สำหรับเธอแล้วจี้อวิ๋นอวิ๋นเลวร้ายเสียยิ่งกว่าคนแปลกหน้า อย่างน้อยหากเธอเห็นคนแปลกหน้าลำบากตามท้องถนน เธอยังพอคิดช่วยจนถึงที่สุด แต่กับจี้อวิ๋นอวิ๋นนั้น เธอกลับนึกเหตุผลที่จะช่วยไม่ออกเลย
หลังจากจี้เจี้ยนอวิ๋นซื้อรถคันใหม่มา เขาก็เห่อรถคันใหม่อยู่หลายวัน ช่วงนี้เขาใช้มันขนของไปเมืองมหาวิทยาลัยตลอด โดยมีซูจูเหมาไปด้วย ส่วนจี้เจี้ยนเยี่ยกับสวี่เหอซานนั้นถูกส่งไปเลี้ยงหมูที่สวนแทน
ตอนนี้ใกล้ถึงช่วงที่ต้องเชือดหมูแล้ว ช่วงนี้หมูกำลังโตวันโตคืน เหลือเวลาเพียงไม่มาก ทำให้พวกเขาต้องเร่งขุนให้พวกมันโต
จี้เจี้ยนอวิ๋นถึงได้ส่งพวกเขาไปเลี้ยงหมู
ตลาดที่เมืองมหาวิทยาลัยกำลังขายปลากัน ตอนนี้ใกล้สิ้นปีแล้ว กิจการถึงได้เฟื่องฟูเป็นพิเศษ ทุกวันต้องไปส่งสินค้าถึงหนึ่งรถบรรทุกคันใหญ่
เรื่องนี้แน่นอนอยู่แล้ว เนื่องจากทุกคนรู้ดีว่าไม่ว่าจะเป็นสินค้าอะไร ทุกอย่างล้วนสดใหม่ ลูกค้าถึงได้ติดใจ เมื่อขายดิบขายดี คนอื่นจึงแวะมาซื้อด้วย
ส่วนใหญ่พวกเขากลายเป็นลูกค้าประจำไปแล้ว
ร้านค้าทั้ง 2 ร้านมีซุนต้าซานกับเหอเจี่ยเป็นผู้ดูแล ทำให้พวกเขายุ่งกันมาก
มีคนงานเพียง 2 คนที่ร้าน พวกเขาจึงยุ่งจนดึกอยู่ทุกวัน เนื่องจากพวกเขานำไก่สดและปลามาขาย ก็เป็นหน้าที่ของพวกเขาที่ต้องฆ่าพวกมัน พวกเขาขายของตอนกลางวัน ขณะที่เชือดไก่เตรียมไว้ตอนกลางคืน เมื่อเชือดเสร็จก็นำไปแช่แข็งเก็บไว้ในตู้เย็น ไม่เช่นนั้นจะมีขายในวันต่อไปได้อย่างไร?
เดิมทีพวกไก่จะถูกจัดการเชือดในช่วง 5 ทุ่มหรือเที่ยงคืน ส่วนพวกปลาจะถูกฆ่าก่อนและนำไปแช่แข็ง ถึงอย่างนั้นเนื้อสัตว์ทั้งคู่ต่างก็สดใหม่มาก
ลูกค้าใหม่บางคนรู้สึกกังขาเล็กน้อย เมื่อไม่เห็นว่าพวกเขาจัดการพวกมันแบบสด ๆ ซุนต้าซานกับเหอเจี่ยจึงพยายามทำให้พวกเขาสบายใจที่สุด แต่พวกเขางานยุ่งกันมาก จึงต้องให้ซื้อแบบแช่แข็งไป หากไม่ต้องการแบบแช่แข็งก็ไม่มีทางเลือกอื่นอีก
บรรดาลูกค้านำเนื้อสัตว์แบบแช่แข็งกลับไปทำอาหารกิน และพบว่าไม่ได้แตกต่างกับแบบที่ฆ่าสด ๆ เนื่องจากเนื้อสัตว์ทั้งหมดถูกแช่แข็งอยู่ในตู้เย็น จึงสามารถเก็บไว้ได้ 2 ถึง 3 วัน
ไม่ต้องพูดถึงปลาที่แทบไม่ต้องเสนอขาย หากฆ่าในตอนกลางคืน วันถัดมาก็ขายหมดแล้ว
ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นลูกค้าประจำ ร้านค้าทั้ง 2 แห่งของจี้เจี้ยนอวิ๋นมีลูกค้าประจำแวะเวียนมาเสมอ
พวกเขาไม่ได้กว้านซื้อเป็นจำนวนมาก ทำเพียงเลือกซื้อของในทันทีที่มาถึงหน้าร้าน และมักไม่ค่อยถามมากเหมือนกับลูกค้าใหม่ เพราะผ่านมาหลายปีแล้ว พวกเขาก็ยังแวะมาซื้ออยู่เสมอ อีกทั้งสินค้าต่าง ๆ ไม่เคยทำให้พวกเขาผิดหวังสักครั้ง!
ช่วงนี้จี้เจี้ยนอวิ๋นมาส่งสินค้าด้วยตนเอง และยังมาช่วยงานที่ร้านอีกด้วย
เขานำน้ำผึ้ง 2 ขวดมาให้ลุงเกาเป็นพิเศษ
“แค่ 2 ขวดเองเหรอ?” ลุงเกาว่ากับเขาอย่างเป็นกันเอง เขาเห็นว่าน้อยเกินไป
“เพียงพอจะดื่มแล้วล่ะครับ” จี้เจี้ยนอวิ๋นส่งยิ้ม น้ำผึ้ง 2 ขวด คิดเป็นน้ำผึ้งถึง 4 ชั่งได้
“ไม่ให้ฉันแบ่งคนอื่นบ้างเหรอ?” ลุงเกาบอก
“ไม่ต้องห่วงเรื่องนั้นหรอกครับ ลุงเก็บไว้กินเองเลยครับ ผมไม่ได้เจอลุงมานาน ดูแข็งแรงกว่าคราวก่อนที่เจอกันมากเลยนะครับ” จี้เจี้ยนอวิ๋นเอ่ยพร้อมรอยยิ้ม
“เธอจะบอกว่าสินค้าจากบ้านเธอทำให้ฉันแข็งแรงขึ้นใช่ไหม?” ลุงเกาถามกลับด้วยรอยยิ้ม
หากแต่ไม่นับรวมถึงเรื่องนี้ สินค้าของร้านเขาก็มีคนชมถึง 99 เปอร์เซ็นต์ 1 เปอร์เซ็นต์ที่เหลือคือพวกที่หากระดูกในไข่* ไม่ควรไปใส่ใจ
*หากระดูกในไข่ = ชอบจับผิด
เขาไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลเมื่อวานก่อน ตรวจซ้ำถึง 2 ครั้ง เกณฑ์ทุกอย่างเป็นปกติดี อีกทั้งหมอยังชมว่าเขาแข็งแรงมากอีกด้วย
จะไม่ให้แข็งแรงได้อย่างไร? เขากินดื่มแต่ของจากร้านจี้เจี้ยนอวิ๋น และไม่เคยคิดเบื่อแม้แต่น้อย
เขาแทบเป็นลูกค้ากิตติมศักดิ์ของร้านนี้ ไม่เพียงเท่านั้น มีผู้สูงวัยคนไหนบ้างล่ะที่ไม่ขอบคุณเขาในการแนะนำร้านนี้ให้?
อาหารที่ขายล้วนช่วยบำรุงร่างกาย เขาไม่อาจรู้ได้ว่าเหตุใดอาหารชนิดเดียวกัน ถึงได้มีรสชาติต่างจากของคนอื่นนัก
ยิ่งได้กินก็ยิ่งทำให้ร่างกายแข็งแรง!
“ได้ยินมาว่าปีนี้กลับมาเลี้ยงหมูเหรอ?” ลุงเกาถามขึ้น
“ครับ แต่อีกสักพักถึงจะชำแหละ ตอนนี้ยังเร็วไปครับ” จี้เจี้ยนอวิ๋นตอบ
“เธอจะเอามาทำหมูแดดเดียวอีกหรือเปล่า?” ลุงเกาถามซ้ำ
เมื่อปีก่อนซูตานหงทำหมูแดดเดียว แน่นอนว่ารสชาติของหมูแดดเดียวนั้นอร่อยล้ำ เขาคิดถึงเรื่องนี้มาตลอดปี แต่ยังไม่มีโอกาสได้เจอซูตานหงจนถึงป่านนี้ เธอจะมีเวลาทำหรือเปล่านะ?