ทะลุมิติไปเป็นเศรษฐีนียุค 80 [重生八零致富记] - ตอนที่ 304 มิตรภาพของลูกผู้ชาย
ตอนที่ 304 มิตรภาพของลูกผู้ชาย
ทันทีที่ปีใหม่ผ่านไป ทางบ้านตระกูลจี้ก็เข้าสู่ความยุ่งวุ่นวายรอบใหม่
ก่อนอื่นต้องทำความสะอาดและฆ่าเชื้อฟาร์มไก่ แล้วจึงนำลูกหมูกลับไปเลี้ยง ซึ่งในปีนี้เลี้ยงลูกหมูถึง 35 ตัว เช่นเดียวกับเมื่อปีที่แล้ว
ที่อ่างเก็บน้ำยังมีหมูอยู่ 5 ตัว ปีนี้ป้าสวี่ผู้เป็นภรรยาของลุุงสวี่จะมาอยู่ด้วย ดังนั้นกำลังคนฝั่งอ่างเก็บน้ำจึงมีค่อนข้างเพียงพอ แต่ก็มีงานอีกหลายอย่างต้องทำเช่นกัน เนื่องจากจี้เจี้ยนอวิ๋นได้เพิ่มการเพาะพันธุ์เป็ดและซื้อเป็ดกลับมามากกว่า 50 ตัว
เนื่องจากผลประกอบการของไข่เป็ดในเมืองมหาวิทยาลัยเข้าขั้นดีมากจนมีไม่พอขาย ดังนั้นในปีนี้เลยเลี้ยงเป็ดเพิ่มอีก 50 ตัว
ป้าสวี่บอกว่ายังน้อยไป ไหน ๆ แล้วน่าจะเลี้ยงเพิ่มอีก อ่างเก็บน้ำก็ใหญ่เสียขนาดนี้
จี้เจี้ยนอวิ๋นยิ้มพลางบอกว่าเลี้ยงเท่านี้ก็พอแล้ว และเพราะเห็นแก่หน้าลุงสวี่ ป้าสวี่จึงได้เงินเดือนเท่ากับคนอื่น ๆ
ปีนี้เงินเดือนของทุกคนเพิ่มขึ้นแล้ว ไม่กี่วันมานี้จี้เจี้ยนอวิ๋นก็เพิ่งจะเพิ่มให้ จาก 50 หยวนในปีที่แล้วจึงเพิ่มเป็น 55 หยวนในปีนี้ ซึ่งป้าสวี่เองก็ได้เหมือนกัน หลังรวมเงินของลุงสวี่ด้วยก็จะมีรายได้เท่ากับ 110 หยวน ถือเป็นกลุ่มคนที่ได้เงินเดือนเยอะมาก ๆ
แต่คนภายนอกไม่รู้ว่าจี้เจี้ยนอวิ๋นให้เงินเดือนป้าสวี่เท่าใด และจี้เจี้ยนอวิ๋นเองก็ขอให้ทั้งสองไม่พูดเรื่องนี้ออกไปเช่นกัน
การมาของป้าสวี่ทำให้ต้องจ่ายมากขึ้น แต่จี้เจี้ยนอวิ๋นกลับรู้สึกว่ามันคุ้มค่ามาก เพราะว่าป้าสวี่ทำงานได้เป็นอย่างดี ทั้งเป็ดและแพะต่างได้รับการดูแลเป็นอย่างดีทั้งหมด สิ่งที่สำคัญที่สุดคือทั้งคู่อาศัยอยู่ตรงฝั่งอ่างเก็บน้ำและมีสุนัขสามตัวคอยอารักขา ให้ความรู้สึกปลอดภัยเป็นอย่างมาก
บางครั้งจี้เจี้ยนอวิ๋นก็เอากระดูกมาให้พวกเขาได้ต้มซุปกินกัน
ทั้งสองจะฝากซื้อของกินก็ตอนที่ซูอันปังผ่านมา เขาผ่านตรงไหนก็ขอให้แวะซื้อมาฝาก เพราะว่างานที่อ่างเก็บน้ำค่อนข้างยุ่ง ในวันหนึ่งไม่รู้ว่ามีเรื่องอะไรบ้างที่ต้องจัดการ
จี้เจี้ยนอวิ๋นรู้สึกว่าคุ้มค่าเอามาก ๆ
ปีนี้นอกจากป้าสวี่แล้ว ก็ยังเพิ่มมาอีกหนึ่งคน ซึ่งก็คือจี้ต้าหย่งที่ไปช่วยฆ่าปลาเมื่อปีที่แล้ว
พอเข้าปีใหม่ เขาก็มาหาจี้เจี้ยนอวิ๋นทันที
อันที่จริงภรรยาของเขาเร่งเร้าเขาหนักมากในตอนอยู่ที่บ้าน เป็นเพราะงานชั่วคราวเมื่อปีที่แล้ว และเรื่องของขวัญปีใหม่ที่ทำให้ภรรยาเขาสงบลงได้
ดังนั้นเขาจึงรีบมาถามว่าต้องการคนไหม หากต้องการล่ะก็… เขาก็พร้อมจะทำงาน
บังเอิญกับที่จี้เจี้ยนอวิ๋นต้องการคนอยู่พอดี เพราะพ่อบุญธรรมของเขากำลังจะมาในฤดูร้อนนี้ เขาจึงวางแผนให้พ่อบุญธรรมของเขาอยู่ที่สวนผลไม้ที่ 4
สวนผลไม้ที่ 4 นั้นเลี้ยงแพะเอาไว้ ปีที่แล้วมันถูกล้อมรอบด้วยต้นไม้ ซึ่งปีนี้ก็ใกล้ถึงเวลาที่ไม้ผลจะออกผลได้ แต่ในตอนนี้ยังไม่ได้สร้างบ้านพักในสวนผลไม้แห่งที่ 4 ไว้และยังไม่ได้ติดตั้งอุปกรณ์อื่น ๆ ซึ่งเรื่องนี้จี้ต้าหย่งมารายงานให้จี้เจี้ยนอวิ๋นรับรู้แล้ว
“ตอนนี้นายไม่ต้องทำงานภาคสนามแล้ว ฉันให้กวงซงไปช่วยนายแล้วละ” จี้เจี้ยนอวิ๋นเอ่ย
“ได้เลย!” จี้ต้าหย่งรีบตอบรับ
พอกลับมาถึงบ้าน ภรรยาของเขาก็ย่อมดีใจกับเรื่องนี้ ซึ่งหล่อนเองก็เป็นคนน่าสนใจเช่นกัน หล่อนมาหาซูตานหงโดยตรง และพูดคุยกับซูตานหงเป็นเวลานาน หลังจากผ่านไปหลายวัน หล่อนก็มาคุยเรื่องราวสัพเพเหระที่นี่ทุกวัน ซึ่งในวันแรก ๆ ซูตานหงยังคงรู้สึกสนใจอยู่ แต่เธอก็ค่อย ๆ หมดความอดทนลงไปทุกวัน
เมื่อเห็นท่าทางไม่แยแสของเธอ ภรรยาของต้าหย่งก็ไม่มารบกวนอีก แต่ก็ไม่มีความคิดเห็นใด ๆ เช่นกัน หลังจากพูดคุยกับซูตานหงแล้ว หล่อนก็รู้สึกชื่นชมซูตานหงมาก โดยเฉพาะบุคลิกของเธอที่ดูเหมือนกับคนรวย
ตอนนี้ซูตานหงเป็นเถ้าแก่เนี้ยของหล่อน ภรรยาของต้าหย่งจึงปกป้องซูตานหงจากคนภายนอกมาก โดยเฉพาะครั้งก่อนที่สะใภ้เล็กว่าซูตานหง หล่อนก็จัดการจนสีหน้าดูไม่ได้เลยทีเดียว
หลังจากที่ซูตานหงรู้เรื่องนี้แล้วเธอก็ส่ายหน้า เป็นคนเหมือนกันมันก็ทำได้เหมือนกันหมดนั่นแหละ
ถึงภรรยาของต้าหย่งจะปากร้าย แต่กลับมีจิตใจดี ทว่านั่นก็ไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไรนัก สิ่งสำคัญคือจี้ต้าหย่งทำงานได้ดี
ตอนนี้เขากำลังสร้างบ้านบนภูเขาร่วมกับจี้กวงซงทุกวัน ขณะที่ทั้งคู่กำลังยุ่ง ซูตานหงก็พาเหรินเหรินกับเสียงเสียงไปดูงาน และพบว่าผลงานทั้งหมดค่อนข้างมีประสิทธิภาพมาก
บนภูเขามีแพะที่ถูกเลี้ยงแบบปล่อยเอาไว้ด้วยจำนวนมากเกือบ 40 ตัว ส่วนหญ้าอาหารสัตว์บนภูเขาในตอนนี้ก็งอกงามเขียวขจีแล้ว ทันทีที่เข้าสู่ต้นฤดูใบไม้ผลิ มันก็จะทยอยเติบโตเต็มที่เป็นระยะ
ลูกแพะเริ่มกินอาหารได้แล้ว ซูตานหงให้น้ำพุวิเศษกับพวกมันเป็นปริมาณไม่น้อย และยังใช้น้ำพุวิเศษปริมาณมากในการรดแปลงหญ้าอาหารสัตว์กับต้นไม้ผล ส่งผลให้ต้นไม้ทั้งหมดเจริญเติบโตดีขึ้นกว่าเดิม
คุณแม่จี้รู้สึกว่าพื้นที่ของสวนผลไม้ที่ 4 ยังว่างอยู่มาก เกรงว่าจะสูญเปล่าไปเฉย ๆ จึงต้องการที่จะปลูกสตรอว์เบอร์รี่ แต่จี้เจี้ยนอวิ๋นก็ปฏิเสธ
“ตรงนั้นเลี้ยงแพะก็พอแล้วครับ ไม่ต้องทำอะไรให้มันวุ่นวายหรอก” จี้เจี้ยนอวิ๋นเอ่ย
เมื่อใดที่พ่อบุญธรรมของเขามาถึง ก็ให้มาช่วยดูแลแพะก็พอ เรื่องอื่นไม่ต้องให้เขาทำ เพื่อให้เขาได้ใช้ชีวิตในบั้นปลายอย่างสุขสงบ
หลังจากที่ลุงจางมาถึง เขาก็ปล่อยให้คุณแม่จี้นำสตรอว์เบอร์รี่ไปปลูก ไม่ใช่แค่นั้น ยังมีแตงโมอีกด้วย พื้นที่ว่างขนาดนั้นปล่อยทิ้งไว้เปล่า ๆ มันออกจะน่าเสียดายไม่น้อย
เมื่อถึงปลายเดือนเมษายน บ้านในสวนผลไม้ที่ 4 ก็สร้างเสร็จแล้ว แต่ที่นี่ไม่มีไฟฟ้าให้ใช้เพราะว่ามันอยู่ค่อนข้างห่างไกล อย่างไรก็ตามบนภูเขามีต้นไม้ผลขึ้นอยู่มากมาย ต่อให้เป็นวันที่อากาศร้อนก็คงไม่ร้อนนัก และไม่เพียงแต่บ้านที่นี่จะไม่มีไฟฟ้าใช้ บ้านที่อื่น ๆ อย่างตรงอ่างเก็บน้ำก็ไม่มีไฟฟ้าเช่นกัน ยกเว้นบ้านบนภูเขาลูกแรกเท่านั้น
ให้เขาลองอยู่ที่นั่นไปก่อน และถ้ามันร้อนมากเกินไป เขาถึงค่อยส่งน้ำแข็งมาคลายความร้อน
หลังบ้านในสวนผลไม้ที่ 4 สร้างเสร็จแล้ว งานของจี้ต้าหย่งก็หยุดชะงัก อย่างไรก็ตามจี้เจี้ยนอวิ๋นไม่คิดจะฆ่าลาเมื่อเสร็จงานโม่แป้ง*แต่อย่างใด จึงส่งให้เขาไปเรียนขับรถมอเตอร์ไซค์ เพื่อไปส่งของกับจี้เจี้ยนเหอและติดต่อกับตลาดใกล้เคียง ดูว่ามีร้านไหนต้องการของบ้าง จากนั้นก็จดจำนวนไว้เพื่อนำไปส่ง
*ใช้ประโยชน์เสร็จแล้วก็ผลักไสไล่ส่งหรือกำจัดทิ้ง ความหมายเดียวกับเสร็จนาฆ่าโคถึกเสร็จศึกฆ่าขุนพล
เดือนหนึ่งผ่านไป เขาก็ได้คำสั่งซื้อมาไม่น้อย และยังมีงานในที่ดิน 30 หมู่กับงานขนธัญพืชหยาบไปเลี้ยงหมู เป็ด ไก่อีก ดังนั้นจี้ต้าหย่งจึงกลายเป็นคนรับผิดชอบงานตรงนี้แทน ด้วยจี้เจี้ยนอวิ๋นรู้สึกว่ามันสมควรที่จะต้องมีคนมาทำ
แต่จี้ต้าหย่งจะเป็นคนงานคนสุดท้าย เพราะโดยพื้นฐานแล้วการดำเนินงานกิจการภายใต้ชื่อของเขาในตอนนี้ไม่จำเป็นต้องรับคนเพิ่มอีก
สตรอว์เบอร์รี่และแตงโมในสวนผลไม้เริ่มทยอยออกสู่ตลาด ปีนี้พวกมันเจริญเติบโตเร็วกว่าปีก่อน ๆ แต่คุณภาพยังดีเหมือนเดิม
ปีที่แล้วเสียงเสียงยังกินไม่ได้ ปีนี้พอมีฟันให้แทะได้ทีละนิดแล้ว เด็กน้อยคนนี้ชอบรสชาติสตรอว์เบอร์รี่เป็นอย่างมาก เขาทำคิ้วขมวดแต่ปากกลับกินไม่หยุด แถมยังไม่ยอมปล่อยมือด้วย
วันนี้จี้เจี้ยนอวิ๋นกลับมาที่บ้านด้วยสีหน้าไม่สู้ดีนัก
เป็นเรื่องหาดูได้ยากที่เขาจะมีสีหน้าไม่สู้ดีเช่นนี้ แต่ในเมื่อตัวเขาไม่ยอมพูด ซูตานหงก็ไม่เอ่ยถาม เธอเพียงรอให้เจ้าตัวอดทนไม่ไหวแล้วพูดออกมาเอง
“ภรรยา ผมว่าจะมาขอเงินไปเยี่ยมเพื่อนที่เคยอยู่ในกองทัพด้วยกันน่ะครับ” จี้เจี้ยนอวิ๋นรู้สึกผิดยามที่มองไปยังภรรยาของเขา
ซูตานหงไม่เข้าใจ “ทำไมเหรอคะ?”
เธอรู้แค่ว่าต่อให้เขาปลดประจำการออกมาแล้ว เขาก็ยังติดต่อไปหาเพื่อน ๆ ที่เคยอยู่ในกองทัพด้วยกันทุกปี มันเป็นมิตรภาพลูกผู้ชายที่ผู้หญิงไม่เข้าอาจเข้าใจได้
ในหมู่ผู้หญิงด้วยกันจะมีบางครั้งที่ผิดใจกันเพราะเธอดูดีกว่าฉัน บ้านของเธอดีกว่าฉัน เธอสวมเสื้อผ้าสวยกว่าฉัน เป็นต้น ซึ่งมีแต่เรื่องที่ไม่เป็นเรื่อง ทว่ากับผู้ชายมันไม่เป็นแบบนั้น
ถ้ามีเรื่องแบบนั้นแล้วคงไม่ใช่ลูกผู้ชาย
เมื่อปีที่แล้ว เขาส่งเนื้อ 20 กว่าชั่งไปให้เพื่อนที่อยู่กองทัพด้วยกันกับเขา ให้พวกเขาเอาไปทำเป็นกับแกล้ม!
เรื่องพวกนี้ซูตานหงไม่ได้สนใจ จึงไม่ได้คิดถึงเรื่องที่เขากำลังพูดอยู่ตอนนี้