ทะลุมิติไปเป็นเศรษฐีนียุค 80 [重生八零致富记] - ตอนที่ 343 บ้าน 2 ชั้น
ตอนที่ 343 บ้าน 2 ชั้น
ฉีฉีจึงไม่มีทางเลือก นอกจากไปส่งอาหารด้วยตัวเอง
จากนั้นเขาก็มาตัดพ้อกับซูตานหง “น้องชายคนอื่นกลัวพี่ชายกันทั้งนั้นเลยครับ ทำไมบ้านเราถึงไม่เป็นอย่างนั้น เสียงเสียงไม่เห็นจะกลัวผมสักนิดเดียว”
“ลูกก็ไม่ได้กลัวพี่ชายใหญ่เหมือนกันนี่” ซูตานหงบอก
ฉีฉีถึงกับพูดไม่ออก ก่อนเอ่ยกลับ “พี่ใหญ่ไม่เหมือนกันนี่ พี่ใหญ่น่ารัก ไม่ต้องให้ผมช่วยทำงานสักนิด พี่เขาทำคนเดียวหมดเลย”
“งั้นลูกภูมิใจที่มีพี่ชายแบบนี้ไหมล่ะ?” ซูตานหงถาม
“แน่นอนสิครับ” ฉีฉีพยักหน้ารับ
พี่ชายของเขาเรียนเก่งมาก เขาสอบได้คะแนนเต็มถึง 2 วิชา กระดาษคำตอบของเขาทำให้หลายคนรู้สึกทึ่ง
อีกทั้งพี่ชายใหญ่ของเขายังลายมือสวย ได้ยินมาว่าครูมอบหมายให้เขาเขียนกระดานข่าวที่โรงเรียนด้วย สุดยอดไปเลย!
“อย่างนั้นลูกก็ควรเป็นพี่ชายที่ทำให้น้องชายภูมิใจด้วยสิจ๊ะ” ซูตานหงบอก
ฉีฉีเอ่ย “เสียงเสียงยังเด็กอยู่ จะไปรู้เรื่องแบบนี้ได้ยังไงครับ”
“ตอนลูกอายุเท่าน้อง ก็เป็นเหมือนกันนั่นแหละ” ซูตานหงกล่าว
ฉีฉีไม่เชื่อ ตอนเขายังเด็ก เขาไม่มีทางดื้อแบบเสียงเสียงแน่ เขาแค่ออกคำสั่ง แต่น้องกลับไม่เชื่อฟังเขาซึ่งเป็นพี่ชายแม้แต่น้อย
“ผมอยากเปลี่ยนกับเสียงเสียงครับ” ฉีฉีบอก
“ลูกจะสลับแขนขากับน้องได้ยังไง? ต่อให้สลับได้ ที่ลูกกินไปก็เสียของแย่น่ะสิ” ซูตานหงเอ่ย
ฉีฉีถอนหายใจ
ซูตานหงรู้ว่าเขายังขุ่นเคืองใจอยู่ แต่ต่อให้เป็นเช่นนั้นเขาก็ยังต้องไปส่งอาหารอยู่ดี เธอจึงบอก “เดี๋ยวต่อไปแม่จะให้ค่าขนมลูกวันละ 1 เหมา”
“วันละ 1 เหมาเองเหรอครับ?” ฉีฉีส่งสายตาดูถูก
เขาเคยได้ตั้งแต่ตอนที่ยังเด็ก มาตอนนี้เขาไม่อยากได้แค่ 1 เหมาแล้ว เก็บไว้หลอกเสียงเสียงเถอะ
“1 เหมาแล้วมันยังไง? มันเป็นหน้าที่ของลูกอยู่แล้วด้วย ลูกไม่อยากได้เงินเดือนเหรอ?” ซูตานหงถาม
“แม่จะให้ผมตอนไหนครับ?” ฉีฉีตอบ ด้วยคิดว่าดีกว่าไม่ได้สิ่งใดตอบแทนเลย จริงไหม?
“เดี๋ยวแม่จะคิดรวมตอนสิ้นเดือนให้ ถึงตอนนั้นก็คงจะได้สัก 3 หยวน จะได้เอาไปซื้อของเล่นใหม่ไง” ซูตานหงบอก
“ดีครับ” ฉีฉีพึงพอใจไม่น้อย
เสียงเสียงเข้ามาถามแม่ของตน “แม่ให้รางวัลอะไรพี่รองเหรอครับ?”
“ทำไมถึงคิดแบบนั้นล่ะ?” ซูตานหงถามกลับ
“ก็ตอนนี้พี่รองดูมีความสุขกับการวิ่งไปส่งอาหารมาก แถมไม่ได้บังคับให้ผมไปส่งแทนอีกแล้วน่ะครับ” เสียงเสียงอธิบาย
“เพราะว่าพี่รองของลูกมีเหตุผลอย่างไรล่ะจ๊ะ” ซูตานหงเอ่ย
“แม่บอกว่าพี่ใหญ่ทำทุกอย่าง พี่รองเลยไม่ต้องทำอะไร แต่ว่าพี่รองไม่เห็นดีเลย พี่ขี้เกียจกว่าผมอีก เมื่อวานก็ตั้งท่าจะตีผม แถมบังคับให้ผมไปส่งอาหารแทนด้วย” เสียงเสียงฟ้อง
“จริง ๆ แล้วพี่รองของลูกก็เป็นเด็กดีนะ ครั้งที่แล้วลูกถูกรังแก ก็เป็นพี่รองที่เข้าไปช่วยเอาคืนให้ไม่ใช่เหรอ?” ซูตานหงเอ่ย
เสียงเสียงพยักหน้า ครั้งก่อนพี่รองมาช่วยเอาคืนคนที่มารังแกเขา
“เมื่อไหร่พี่ใหญ่จะกลับมาเหรอครับ?” เสียงเสียงถามขึ้น
ถึงอย่างนั้นเขายังคงชอบพี่ใหญ่มากกว่า
“อีกสักพักแหละลูก” ซูตานหงตอบ “พี่ใหญ่เขาต้องไปข้างนอก กว่าจะกลับก็คงครึ่งเดือนได้”
“ผมไม่เคยเห็นด้วยซ้ำว่าปักกิ่งหน้าตาเป็นยังไง” เสียงเสียงถอนหายใจ
“พอลูกโตจนรู้ความเหมือนพี่ใหญ่แล้ว จะให้ปู่บุญธรรมพาไปที่นั่นนะจ๊ะ ว่าแต่ที่นั่นก็น่าสนใจมากเลยนะ” ซูตานหงบอก
ความยิ่งใหญ่ของพระราชวังต้องห้ามยังคงตราตรึงใจ
“ผมได้ยินว่าที่นั่นน่าอยู่มากเลยครับ” เสียงเสียงเอ่ย
“ตอนนี้พ่อเขายุ่งอยู่ ไม่อย่างนั้นคงจะพาลูกไปที่นั่นได้” ซูตานหงกล่าว
“แม่หลอกผม ครั้งนี้แม่ก็ไม่ให้ผมไปกับปู่บุญธรรมนี่ครับ” เสียงเสียงตัดพ้อ
“พี่รองก็ไม่ได้ไปเหมือนกัน ลูกเด็กกว่าพี่เขาอีก ลูกจะไปได้ยังไงกันล่ะ? เดินไปไม่เท่าไหร่ก็คงเหนื่อยแล้ว แล้วก็ต้องให้ปู่บุญธรรมอุ้ม ปู่บุญธรรมอายุมากแล้ว จะอุ้มลูกเดินไปมาไหวได้ยังไงกัน?” ซูตานหงแจง
“ผมโตแล้วครับ ถึงจะอยากให้คนอุ้ม แต่ก็วิ่งไปไหนมาไหนเองได้แล้วนะครับ!” เสียงเสียงโวยขึ้นด้วยท่าทีแสนงอน
“ตอนนี้หิมะที่นั่นตกหนาชั้นมาก ลูกลงไปยืนก็ครึ่งตัวเข้าไปแล้ว เดินไม่ได้หรอกลูก”
“หนาวขนาดนั้นเลยเหรอครับ?”
“หนาวมากเลยล่ะ!”
ทุกครั้งที่เจ้าเด็กคนนี้ต่อปากต่อคำ ซูตานหงเหนื่อยใจไม่น้อย
เธอต้องเผชิญกับความสงสัยและวีรกรรมของลูกชายทุกวัน คอยตอบคำถามล้านแปดของเขา จนเธอแทบหมดเรี่ยวแรง
ดังนั้นเมื่อจี้เจี้ยนอวิ๋นออกไปนอกบ้าน เขาก็มักจะถูกขอให้พาเจ้าลูกคนนี้ไปด้วยเสมอ
ตอนที่จี้เจี้ยนอวิ๋นพาเขาไปด้วย เสียงเสียงเป็นเด็กว่าง่ายไม่น้อย โดยเฉพาะตอนที่อยู่กับผู้เป็นพ่อ ด้วยเขามุ่งมั่นที่จะเป็นผู้ชายอย่างพ่อของตน!
เขาจึงมาที่อ่างเก็บน้ำ เพื่อช่วยเก็บไข่เป็ดและทำงานอื่น ๆ
พูดถึงอ่างเก็บน้ำแล้ว ตอนนี้ลุงสวี่กับป้าสวี่ต่างทำหน้าที่ได้อย่างไม่บกพร่อง
ป้าสวี่ปลูกผักผลไม้เอาไว้ แน่นอนว่านางปลูกไว้กินเองที่บ้าน นางยังนำไข่เป็ดมากิน แต่แน่นอนว่าไข่เป็ดทั้งหมดถูกลงรายการบัญชีไว้ครบถ้วน
บางวันกินไป 1 ฟอง บางครั้ง 2 ฟอง หลังจากจดบันทึกไว้เสร็จสรรพ ก็ส่งไปรายงานกับจี้เจี้ยนอวิ๋นทุกสิ้นเดือน เพื่อนำไปหักจากเงินเดือนของนาง
จี้เจี้ยนอวิ๋นเคยบอกเอาไว้ว่าไม่จำเป็นต้องหัก แต่ป้าสวี่ยืนกรานว่าควรหักจากเงินเดือน จี้เจี้ยนอวิ๋นจึงยอมทำตามใจนาง เช่นเดียวกับปลา หากพวกเขาจับปลามากินก็จะลงรายการเอาไว้ และนำมาหักจากเงินเดือนทุกสิ้นเดือน
สองสามีภรรยาสูงวัยมีความสุขกับชีวิตปัจจุบันมากเหลือเกิน พวกเขาดูแลอ่างเก็บน้ำของจี้เจี้ยนอวิ๋นได้เป็นอย่างดี
อีกทั้งยังมีซูอันปังคอยช่วยอีกแรง จี้เจี้ยนอวิ๋นจึงหมดห่วงเรื่องที่นี่ พวกเขาสามารถจัดการกันเองได้ดี
จี้เจี้ยนอวิ๋นมาที่นี่เพื่อเก็บไข่เป็ด เพราะลูกค้าจากฝั่งเซียวต้าจวินสั่งเอาไว้ เขาจึงเข้ามาเก็บของไปส่ง
ส่วนที่เหลือจากนี้เป็นไข่เป็ดที่ผู้อำนวยการเหอจองเอาไว้ เขาสั่งไข่เป็ดและไข่ไก่เป็นจำนวนมาก จี้เจี้ยนอวิ๋นสั่งกล่องบรรจุมาเป็นพิเศษ เป็นกล่องอย่างดีที่เขาสามารถนำไปแจกจ่ายให้คนงานได้
วันนั้นเสียงเสียงติดตามพ่อเขามา ทั้งขึ้นไปที่อ่างเก็บน้ำและเข้าไปในเมือง เห็นว่าพ่อมีการงานต้องทำมากมาย
เมื่อกลับมาถึงบ้าน เจ้าถ่านน้อยยังบอกว่าพรุ่งนี้จะตามไปทำงานกับพ่ออีก
ซูตานหงเอ่ยขัด “พรุ่งนี้ลูกต้องไปบ้านยายกับแม่ คุณยายไม่ค่อยสบาย เราไปเยี่ยมคุณยายกันนะ”
“ครับ” เสียงเสียงมุ่ยหน้า แต่ยังพยักหน้ารับ
ซูตานหงช่วยไม่ได้ จะปล่อยให้เจ้าเด็กนี้ติดสอยห้อยตามพ่อไปอย่างนี้ได้อย่างไร? พ่อของเขาคงทำงานไม่สะดวกนัก
แม้เขาจะเป็นถึงเถ้าแก่ แต่ยังมีหลายอย่างที่ต้องทำด้วยตนเอง
วันต่อมาซูตานหงจึงพาเสียงเสียงกับฉีฉีไปบ้านคุณแม่ซู
บ้านของคุณแม่ซูสร้างเสร็จแล้ว ใช้เวลาราว 3 เดือนได้ เป็นอาคาร 2 ชั้นดูน่าอยู่มากทีเดียว
เสียงเสียงไม่ได้คิดเช่นนั้น เพียงแต่จำได้ว่าบ้านของคุณยายไม่ได้เป็นแบบนี้
“โห บ้านคุณยายเปลี่ยนไปขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ครับ?” ฉีฉีถาม “เป็นบ้านปูนด้วย คุณลุงเป็นคนสร้างเหรอครับ?”
“โอ้ ฉีฉีพูดขนาดนี้ ทำให้ป้าดีใจมากเลยนะเนี่ย” ทันทีที่สะใภ้ใหญ่ซูเดินออกมา ใบหน้าหล่อนก็เปื้อนยิ้มพราย
“คุณป้าใหญ่ สร้างบ้านใหม่ไม่บอกผมเลยนะครับ” ฉีฉีบอกเมื่อเห็นหล่อนเดินออกมา
“บอกสิ ต้องบอกอยู่แล้ว” สะใภ้ใหญ่ซูฟังแล้วชอบใจมาก หล่อนยิ้มกว้างทีเดียว
…………………………………………………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
สองพี่น้องคู่นี้ก็บลัฟกันไปบลัฟกันมาตลอด แสบแพคคู่เลย
ฉีฉีไปเอาความปากหวานมาจากไหนกันนะ
ไหหม่า(海馬)