ทะลุมิติไปเป็นเศรษฐีนียุค 80 [重生八零致富记] - ตอนที่ 381 วาดภาพ
ตอนที่ 381 วาดภาพ
หายากที่คุณป้าหูคนปลูกดอกไม้จะได้มาแบบในวันนี้ เหตุผลหลักที่นางจะมาก็คือการนำถุงเมล็ดพันธุ์ดอกไม้มาให้ซู ตานหง เมื่อเห็นดอกกุหลาบจีนที่ปลูกในสวนหลังบ้านของเธอนั้นเติบโตได้เป็นอย่างดี นางจึงเอ่ยปากถาม “ตานหง เ เธออยากจะขายดอกกุหลาบพวกนี้ไหม?”
หลังจากปลูกดอกไม้มาทั้งชีวิต คุณป้าหูก็ไม่เคยเห็นใครปลูกดอกไม้ได้ดีขนาดนี้มาก่อน
ครอบครัวของนางหาเลี้ยงชีพด้วยการปลูกดอกไม้ และทุกฤดูที่ดอกไม้บานสะพรั่ง จะมีรถบรรทุกมาขนส่งไปขายในเมืองใหญ่
กิจการนั้นรุ่งเรืองเป็นอย่างมาก
และครอบครัวของนางยังถือว่าการปลูกดอกไม้เป็นรากฐานอันมั่นคง และถือว่าดอกไม้มีความสำคัญมากกว่าลูก ๆ ของตัวเอ องเสียอีก
ไหนเลยจะเป็นเหมือนซูตานหง ดูสิ่งที่เธอทำสิ ในขณะที่นางทำทุกอย่าง เธอแค่รดน้ำสบาย ๆ ในยามว่าง ทว่าพวกมัน นกลับเติบโตได้ดีขนาดนี้!
เช่นเดียวกับดอกกุหลาบจีนพวกนี้ ครอบครัวของนางก็ปลูกมันเช่นกัน ทว่ามีแค่สีแดงเพียงสีเดียว
แม้จะเป็นสีมงคล แต่ก็ค่อนข้างดูซ้ำซากจำเจอยู่
ส่วนดอกกุหลาบจีนที่ซูตานหงปลูก 1 ต้นสามารถผลิดอกได้ 2 ถึง 3 แบบและสีเลยทีเดียว
นี่นับเป็นความสามารถอย่างแน่นอน
แต่เมื่อถามว่าเธอมีเคล็ดลับอะไรบ้าง ซูตานหงเองก็ไม่รู้เช่นกัน บอกได้เพียงว่า อาจจะใช้มูลไก่ของที่บ้านตั วเองเล็กน้อย? รวมถึงมูลแกะของเธออีกนิดหน่อยด้วย
กล่าวได้ว่าการปลูกไม้ดอกนั้นจำเป็นต้องใส่ปุ๋ย หากไม่ใส่ปุ๋ย ต้นไม้ดอกก็ไม่มีทางเติบโตได้ดีอย่างแน่นอน
แต่สำหรับงานประเภทนี้ เธอมักจะมอบหมายให้ฉีฉีไปทำ ทั้งเก็บมูลไก่และมูลแกะ แล้วนำไปฝังไว้ใต้โคนไม้ดอก
บนภูเขามีปุ๋ยคอกมากมายที่จี้เจี้ยนอวิ๋นใช้สำหรับพื้นที่หลายสิบไร่ของเขา และยังมีปุ๋ยในสวนผลไม้ด้วย ดังนั้น ต่อให้มีปุ๋ยคอกมาก แต่ก็มีที่ให้ใช้เป็นของตัวเอง นับว่าไม่เสียเปล่าเลย
คนในหมู่บ้านทราบกันดีว่าปุ๋ยคอกบนเนินเขาของสวนผลไม้นั้นอุดมด้วยสารอาหารขนาดไหน บางครั้งพวกเขาจะเก็บผลผลิต ส่วนที่ไม่ต้องการแล้วมาเลี้ยงหมู ซึ่งหลังจากนั้นมูลหมูบางส่วนก็จะเปลี่ยนมาเป็นปุ๋ย
คุณป้าหูเองก็ไม่ชอบติดหนี้บุญคุณ ปกติแล้วมักจะนำเมล็ดพันธุ์ดอกไม้และต้นกล้าดอกไม้มาให้ซูตานหง จากนั้นจึงไป ปเลือกปุ๋ย
สําหรับคําถามของคุณป้าหูนั้น ซูตานหงเอาแต่ยิ้มและปฏิเสธ “ฉันปลูกแค่นี้เอง ขายแล้วก็ไม่คุ้มกับเงินหรอกค่ะ เ เลยปลูกไว้ดูเองที่บ้านเฉย ๆ พวกเด็ก ๆ ชอบมันมากเลยค่ะ”
คุณป้าหูรู้สึกเสียดายเล็กน้อย แต่ก็รู้จักนิสัยของเธอดี ขอเพียงเธอชอบ ต่อให้เป็นกระถางกุหลาบสามสีที่สามารถ ถขายได้มากกว่า 200 หยวน เธอก็จะไม่ขายมัน
ถึงอย่างไรครอบครัวของเธอก็ไม่ได้ขาดแคลนเงิน เธอไม่จําเป็นต้องอาศัยการขายดอกไม้เพื่อหาเงิน เธอมักจะขายสิ่งที่ เธออยากขายโดยเฉพาะ อย่างเช่น ดอกเบญจมาศ ส่วนอย่างอื่น เธอไม่ยินดีที่จะขาย
คุณป้าหูคุยกับเธออยู่ครู่หนึ่ง และเมื่อนางจะกลับไป ซูตานหงก็ให้ตะกร้าเชอร์รี่เล็ก ๆ แก่นางด้วย “คุณป้า เ เอากลับไปให้หลานชายกินเถอะค่ะ”
“ได้เลย” ด้วยคุ้นเคยกันดีกับซูตานหง ดังนั้นคุณป้าหูจึงไม่ปฏิเสธและรับมันกลับไป ไม่นานก็ให้หลานชายส่งตะกร้า ากลับมา
“ป้าสะใภ้สาม ทำไมถึงไม่ขายดอกไม้ล่ะคะ มันได้เงินเยอะมากเลยนะคะ” หยวนหยวนมองเธอแล้วพูดขึ้น
แม้ว่าเธอจะยังเด็กและไม่มีแนวคิดเรื่องเงินมากขนาดนั้น แต่เธอก็รู้ว่าเงินสามารถซื้อของได้ เช่น เธอกับพี เสียงเสียงจะได้เอาเงินไปซื้อขนมอึหนูคลุกผงบ๊วยเปรี้ยวมากิน
“บ้านเราไม่ขาดแคลนเงิน ดังนั้นจึงไม่ขายแล้วเก็บไว้ชื่นชมเองน่ะจ้ะ หยวนหยวนชอบดอกไม้ไหมจ๊ะ?” ซูตานหงถาม
“ชอบค่ะ ดอกไม้สวยมาก” หยวนหยวนกล่าว
ซูตานหงพยักหน้าและให้บัวรดน้ำอันเล็กกับเธอ “ไปรดน้ำดอกไม้เถอะ ตอนนี้แดดกำลังแรงขึ้นเรื่อย ๆ แล้ว ต้องรดน น้ำให้พวกมันนะ”
“ได้ค่ะ” หยวนหยวนพยักหน้า
ซูตานหงชอบสาวน้อยที่อ่อนโยนและน่ารักคนนี้มาก ทุกคนบอกว่าเธอดูเหมือนคนแก่เมื่ออายุ 3 ขวบ ตอนนี้หยวนหยวนอ อายุ 4 ขวบ โตพอที่จะมองนิสัยของเธอออกแล้ว ซึ่งโชคดีที่หนูน้อยไม่ได้สืบทอดลักษณะใดๆ ของแม่มาเลย
นิสัยของเธอช่างอ่อนโยนและว่านอนสอนง่ายมาก
แต่ก็ไม่ได้ทําให้ความเฉลียวฉลาดลดลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านการวาดรูป แม้ว่าจะยังเล็ก ทว่าสิ่งที่วาดออกมานั้น กลับดูเป็นการเป็นงานมาก
นานมากแล้วที่เหล่าจางไม่ได้ลงจากภูเขามากินข้าว เนื่องจากปีนี้จวี้จื่อโตขึ้นมาก จี้เจี้ยนอวิ๋นจึงให้เธอเป็น แม่ครัว รับหน้าที่ดูแลอาหาร 3 มื้อต่อวัน ส่วนเหล่าจางมีหน้าที่ซื้อผักและเนื้อสัตว์ เขาซื้อมันแล้วส่งไปให้จว วี้จื่อเป็นคนทำ
นอกจากทำอาหารแล้วจวี้จื่อยังทำงานอย่างอื่นด้วย เธอขยันมาก ไม่เกียจคร้านเลยแม้แต่น้อย
เนื่องจากมีการทําอาหารบนภูเขาแล้ว โดยทั่วไปจึงกินอาหารกันบนภูเขา ไม่จำเป็นต้องกลับมากินที่บ้าน อาหารบนภูเขา นั้นยอดเยี่ยมมาก แม้ตอนแรกยังไม่ค่อยชินกับการกินอาหารบนภูเขา แต่เมื่อผ่านไปก็ค่อย ๆ ชินกับมัน
สาวน้อยคนนี้เป็นคนขยันขันแข็งและเต็มใจทำงาน โดยพื้นฐานแล้วเธอจัดการงานบ้านทั้งหมด และยังช่วยเก็บไข่ เลี้ย ยงไก่อีกด้วย
เมื่อจวี้จื่อทำเช่นนั้น เหล่าจางจึงวางมือได้ และนั่นก็ทำให้เขาสังเกตเห็นว่าภาพวาดที่วาดด้วยมือเล็ก ๆ ของหย ยวนหยวนนั้นมีศักยภาพมาก
ถึงเธอจะยังเด็ก แต่เมื่อเธอวาดแกะและม้า มันสามารถดูออกได้อย่างชัดเจนว่ากำลังวาดภาพอะไร ไม่ใช่แค่ 4 กีบ 1 หัว แต่มีจิตวิญญาณอยู่ในนั้น
เพียงเพราะยังเด็ก จึงไม่สามารถวาดอะไรได้มากนัก
ทว่าหลังจากที่เหล่าจางเห็นแล้วเขาก็รู้สึกชอบมาก ทั้งยังจับพู่กันวาดภาพการแข่งม้าให้หยวนหยวนอย่างมีชีวิตชีว วา
บรรดาสามพี่น้องของเหรินเหรินต่างรู้สึกชื่นชม
จี้เจี้ยนอวิ๋นกับซูตานหงก็ชื่นชมเช่นกัน สมแล้วที่เป็นศาสตราจารย์อาวุโสของมหาวิทยาลัยปักกิ่ง ไม่มีทางที่เขาจะ ะทำไม่ได้!
แต่เหล่าจางก็หยิบมันขึ้นมาแล้วถามหยวนหยวน “หนูคิดว่าปู่วาดได้ดีไหม?”
“ดีค่ะ” หยวนหยวนมองด้วยความทึ่ง เธอกะพริบตาและมองไปที่ภาพวาด เห็นได้ชัดว่าชื่นชมเป็นอย่างมาก
“ถ้าอย่างนั้นหนูอยากเรียนการวาดภาพกับปู่ไหม?” เหล่าจางพูดด้วยรอยยิ้ม
“ได้เหรอคะ?” หยวนหยวนมองมาที่เขาแล้วเอ่ยถาม
เธอรู้ว่าผู้เฒ่าคนนี้สอนพี่เหรินเหรินมาโดยตลอด
“ตราบเท่าที่หนูต้องการที่จะเรียนรู้ ย่อมทำได้” เหล่าจางพยักหน้า
หยวนหยวนกลับมาถามซูตานหง แน่นอนว่าซูตานหงไม่มีข้อโต้แย้ง เพียงแต่ถามขณะเหล่าจางลงมากินข้าว “พ่อบุญธรรมสอนเด็ก ก 2 คนจะเหนื่อยเกินไปหรือเปล่าคะ?”
“เหนื่อยอะไรกัน ฉันเคยสอนตั้งหลายห้อง” เหล่าจางกล่าว
คําพูดนี้เป็นความจริง ซูตานหงจึงยิ้มและไม่สนใจอีก
ดังนั้น หยวนหยวนจึงเริ่มเรียนรู้การวาดภาพกับเหล่าจาง พรสวรรค์ในการวาดภาพของหยวนหยวนนั้น แม้แต่เหรินเหริน ยังประหลาดใจ พวกเขาสามคนพี่น้องไม่มีฝีมือเช่นนี้ แต่คาดไม่ถึงว่าหยวนหยวนวัย 4 ขวบจะทำได้!
ด้วยเหตุนี้หยวนหยวนจึงไม่ได้อยู่กับเสียงเสียงอีกต่อไป เธอชอบวาดรูปมาก หลังจากได้รับการชี้แนะจากเหล่าจางแล้ว ว เธอก็ก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว
“ปู่บุญธรรมคิดว่าผมควรเรียนอะไรดีครับ?” เสียงเสียงรู้สึกว่าตัวเองไม่ควรอยู่เฉย ๆ จึงเข้ามาถาม
“เธอเรียนการคัดลายมือด้วยพู่กันกับพี่ใหญ่ของเธอดีไหม?” เหล่าจางถาม
เสียงเสียงฟังแล้วก็คิดว่าดี จึงอดทนได้อยู่ 2 วัน จากนั้นเขาก็โยนพู่กันทิ้งและไปเล่น เหล่าจางไม่ได้พูดอะไร ร เจ้าเด็กนี่นั่งนิ่งได้ก็แปลกแล้ว ซุกซนมากขนาดนี้
สัปดาห์นี้หลี่จื้อมาที่นี่ ทั้งยังนำขนมขบเคี้ยวจากในเมืองมาด้วย
“พ่อคะ ดูรูปที่หนูวาดสิคะ” หยวนหยวนรู้ว่านี่คือพ่อของเธอ และมีความตั้งใจเอาไว้ว่าเมื่อเห็นเขามา เธอจะ ะไปเอาภาพวาดของเธอออกมาแสดงให้ผู้เป็นพ่อดู
………………………………………………………………………………………………………………………..
สารจากผู้แปล
เด็ก ๆ น่ารักกันทุกคนเลย อนาคตหยวนหยวนมีแววน่าจะได้ไปสายศิลปะนะคะเนี่ย
ไหหม่า(海馬)