ทะลุมิติไปเป็นเศรษฐีนียุค 80 [重生八零致富记] - ตอนที่ 385 เรื่องราวถูกเปิดเผย
ตอนที่ 385 เรื่องราวถูกเปิดเผย
ซูตานหงค่อนข้างเปิดใจยอมรับความจริงในเรื่องที่เธอยังไม่มีลูกสาวเสียที
การมีลูกชายถึง 3 คน ว่าตามความจริงก็คือชีวิตของเธอสมบูรณ์แบบมากแล้ว หากมีลูกสาวอีกคน นั่นคงจะทำให้สิ่งที่ สวยงามอยู่แล้วยิ่งสวยงามขึ้นไปอีก แต่จะมีชีวิตที่สมบูรณ์แบบขนาดนั้นได้อย่างไร?
การประสบความสำเร็จถึง 9 ใน 10 ส่วนนั้นนับว่าสมบูรณ์แบบไม่เลวเลย
ซูตานหงจึงไม่กดดันอีกต่อไป
และในไม่ช้า ความสนใจของเธอก็เลือนหายไป
เพราะเรื่องอื้อฉาวครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้นในเมืองเจียงสุ่ย!
ตอนแรกซูตานหงยังไม่รู้ แต่เมื่อเห็นสีหน้าของจี้เจี้ยนอวิ๋นหม่นหมองจนไม่สามารถมืดครึ้มไปมากกว่านี้ได้อีก จึงเ เอ่ยปากถามเขา
จี้เจี้ยนอวิ๋นยากจะกล่าวออกมา เขาไม่แม้แต่อยากจะบอกภรรยาของเขาเกี่ยวกับเรื่องนี้ เพราะไม่อยากทำให้หูของเธอต ต้องแปดเปื้อน!
แต่ไม่มีทางที่จะปิดบังเรื่องนี้ ซูตานหงยังคงรู้ และเมื่อรู้ว่าจี้อวิ๋นอวิ๋นมีความสัมพันธ์กับพี่ชายคนโตของอ วิ๋นลี่ลี่ เธอก็ตกตะลึงไปเช่นกัน
“มีเรื่องแบบนี้ด้วยเหรอคะ?” ซูตานหงตะลึงงัน
ใบหน้าของจี้เจี้ยนอวิ๋นดูมืดครึ้มอย่างยิ่งและพูดขึ้น “ไม่ต้องไปสนใจเรื่องนี้หรอกครับ พวกเรากำลังยุ่งอยู่!”
แม้เขาจะต้องการอยู่ให้ห่างจากเรื่องนี้ ทว่าคุณแม่จี้กลับไม่ยินยอม หลังจากที่นางรู้ว่าเรื่องนี้ถูกเปิดเผย ก็ รีบเข้ามาขอร้องจี้เจี้ยนอวิ๋นในทันที
“เจี้ยนอวิ๋น เจี้ยนอวิ๋น แกต้องจัดการกับเรื่องนี้นะ แกสามารถช่วยน้องสาวของแกได้ ถือว่าช่วยหล่อนเป็นครั้งสุด ดท้ายเถอะ”คุณแม่จี้กล่าว
จี้เจี้ยนอวิ๋นมองไปยังแม่ของเขา เรียกได้ว่าผิดหวังเป็นอย่างมาก
แต่เขาจะไม่มีวันเข้าไปแทรกแซงในเรื่องนี้ มันไม่เกี่ยวอะไรกับเขาตั้งแต่ต้นจนจบ แล้วทําไมเขาถึงต้องเข้าไปยุ่ง ด้วย?
“ผมช่วยหล่อนไม่ได้หรอกครับ ผมไม่ได้มีหน้าที่แก้ไขในสิ่งที่หล่อนทำ พวกเราตัดขาดจากกันตั้งแต่ 4 ปีที่แล้ว!” จี เจี้ยนอวิ๋นพูดอย่างเฉียบขาด
ใช่แล้ว หลังจากจี้อวิ๋นอวิ๋นหย่ากับหลี่จื้อ เขาก็ไม่ได้คิดว่าหล่อนเป็นน้องสาวของเขาอีกเลย
เขาไม่มีน้องสาวที่ดื้อรั้นเช่นนี้แน่นอน!
“ทำไมแกถึงใจร้ายนัก ทำไมแกถึงใจร้ายขนาดนี้ ก่อนหน้านี้แกก็ทำร้ายหล่อนมามากพอแล้ว!”คุณแม่จี้ร้องไห้ออกมา
ซูตานหงยืนอย่างไม่ยินดียินร้ายใด ๆ เธอย่อมรู้ความคิดของคุณแม่จี้ดี ในบรรดาลูกชายหลายคน มีเพียงจี้เจี้ยนอวิ๋น นเท่านั้นที่มีอำนาจออกหน้าให้จี้อวิ๋นอวิ๋นได้ แน่นอนว่านางจะต้องมาหาจี้เจี้ยนอวิ๋น
เพียงแต่ว่าเจี้ยนอวิ๋นของเธอบอกว่าจี้อวิ๋นอวิ๋นไม่ใช่น้องสาวของเขาอีกต่อไป ดังนั้นจึงไม่มีที่ว่างให้หันหลังกลับ
เมื่อเป็นเช่นนี้คุณแม่จี้จะอยู่ที่นี่ไปเพื่ออะไร
คุณแม่จี้เห็นสีหน้าของเธอในชั่วพริบตา จึงรีบชี้ไปที่เธอแล้วพูด “เป็นเพราะเธอ ทั้งหมดนี้เป็นเพราะเธอใช่ไหม? ? ที่ยุยงเจี้ยนอวิ๋นและบอกให้เจี้ยนอวิ๋นไม่ต้องสนใจแม้กระทั่งน้องสาวแท้ ๆ ของตัวเองใช่หรือเปล่า?!”
ก่อนที่ซูตานหงจะได้พูดอะไร นางก็กล่าวต่อ “ตอนนั้นฉันตาบอดจริง ๆ ถึงได้ขอให้เจี้ยนอวิ๋นแต่งงานกับเธอแล้วพา กลับเข้ามาแบบนี้ เธอถึงได้แว้งกลับมาทำร้ายอวิ๋นอวิ๋นของครอบครัวฉันแบบนี้!”
“ใช่ค่ะ ฉันทำให้จี้อวิ๋นอวิ๋นเป็นแบบนี้ และฉันยังทำให้คุณกลายเป็นนางมารร้ายได้ขนาดนี้ด้วย ตั้งแต่ฉันซูตานห หงแต่งเข้ามา ฉันไม่เคยดูหมิ่นคุณเลย คิดไม่ถึงว่าความกตัญญูทั้งหมดจะกลายเป็นการเลี้ยงสุนัข!” ซูตานหงยิ้มเยาะ “ว วันนี้ฉันพูดเรื่องนี้แล้ว อย่าว่าแต่ลูกชายคุณจะไม่สนใจเรื่องเลวร้ายของจี้อวิ๋นอวิ๋นเลย ต่อให้เขาอยากจะสนใจ ฉ ฉันก็จะไม่มีวันเห็นด้วยเด็ดขาด เว้นแต่ว่าเขาจะหย่ากับฉัน!”
“หย่าก็หย่าสิ ครอบครัวของฉันขาดแคลนอะไรกัน ถ้าไม่มีเจี้ยนอวิ๋น เธอจะแผลงฤทธิ์ได้ขนาดนี้เหรอ!” คุณแม่จี้พูดอย่า างโมโห “หลังหย่ากับเธอแล้ว เจี้ยนอวิ๋นก็ยังแต่งงานกับคนที่สวยกว่าและสาวกว่าเธอได้ มีอะไรให้กลัวล่ะ!”
จี้เจี้ยนอวิ๋นมองแม่ของเขาด้วยสายตาเย็นชา
ซูตานหงโกรธจัดแต่ยังคงสงบนิ่งและยิ้ม ก่อนจะพูดขึ้น “ที่พูดมานั่นก็ถูกค่ะ ถ้าลูกชายของคุณหย่ากับฉัน ลูกชา ายของคุณก็สามารถแต่งงานได้อีกครั้ง แต่คุณถามเขาหรือยังคะว่าเขาจะหย่ากับฉันหรือเปล่า”
“ผมจะไม่หย่า!” จี้เจียนอวิ๋นสูดหายใจเข้าลึก ๆ พูดเสียงดัง และกวาดสายตาไปทางคุณแม่จี้ “คุณกลับไปเถอะ ถ้าคุณไม่ พอใจที่จะอยู่กับผมก็ออกไปได้เลย ต่อไปผมจะส่งค่าเลี้ยงดูในทุกเดือนให้คุณเอง”
คุณแม่จี้มองดูลูกชายตัวเองด้วยสายตาไม่อยากเชื่อ “แกกลายเป็นแบบนี้เพราะซูตานหง จนไม่ต้องการแม่ของแกแล้วใช่ไหม ม?”
“เขาบอกไปแล้วไม่ใช่เหรอคะ ว่าจะส่งค่าใช้จ่ายให้คุณทุกเดือน นั่นก็นับว่าไม่เลวแล้วนี่” ซูตานหงพูดเสียงเบา
“นี่ไม่ใช่ที่ให้เธอมาสอดปากพูด!” คุณแม่จี้เอ่ยเสียงแหว
ซูตานหงโบกมือ ส่วนต้าเฮยกำลังจะกระโจนเข้าใส่คุณแม่จี้ด้วยท่าทางดุร้าย ทำให้คุณแม่จี้ตกใจกลัวจนขวัญหนีดีฝ่อ
“นี่คือบ้านของฉัน ออกไปเดี๋ยวนี้ค่ะ ไม่งั้นฉันคงควบคุมสิ่งที่ต้าเฮยทำไม่ได้” ซูตานหงกล่าวอย่างเย็นชา
“แกดูซะ นี่น่ะภรรยาที่แสนดีของแก!” คุณแม่จี้ตวัดสายตามองจี้เจี้ยนอวิ๋น แล้วเดินจากไปอย่างโกรธเคือง
จี้เจี้ยนอวิ๋นสูดหายใจเข้าลึก ๆ แล้วพูดขึ้น “สิ่งที่ท่านพูด ภรรยา คุณอย่าเก็บมาใส่ใจเลยนะ”
ตอนนี้ชายผู้กตัญญูคนนี้ไม่ยอมเรียกหญิงชราว่าแม่แม้แต่คําเดียว เท่านี้ก็เพียงพอที่จะเห็นแล้วว่าท่าทางของนา างในครั้งนี้ ทําให้จิตใจของเขาเย็นชาขนาดไหน
ซูตานหงย่อมไม่เก็บมาใส่ใจ แล้วพูดขึ้น “ตอนนี้เรากำลังยุ่งมาก คุณต้องให้กำลังใจฉันสิ อย่าฟุ้งซ่านสิคะ!”
จี้เจี้ยนอวิ๋นพยักหน้า แต่เขาก็ยังคงรู้สึกเศร้าใจ
ในตอนที่คุณแม่จี้มาโวยวาย เด็ก ๆ ได้ออกไปแล้ว ไม่ได้อยู่ที่บ้าน จึงไม่รู้เรื่องนี้
แต่ทุกคนต่างก็ดูออก โดยเฉพาะตอนที่เห็นว่าคุณแม่จี้ร้องไห้ออกจากบ้าน พลางด่าทอซูตานหงไปตลอดทาง
เมื่อจี้เจี้ยนอวิ๋นรู้ว่าคุณแม่จี้ออกไปแล้วยังทําแบบนี้อีก สีหน้าก็ยิ่งดําคล้ำ
“ผมจะส่งท่านไปที่บ้านของเจี้ยนเหวิน ต่อไปก็ให้ท่านอยู่ที่นั่นนะครับ” จี้เจี้ยนอวิ๋นกล่าวกับซูตานหงหลังจาก กลับมา
“ดีแล้วค่ะ” ซูตานหงคาดหวัง เพราะตอนนี้เธอเห็นคุณแม่จี้คราใดก็ให้รู้สึกเหนื่อยและรำคาญใจเป็นอย่างมาก
ส่วนคุณแม่จี้เองก็ไม่อิดออดต่อไป นางขึ้นไปบนภูเขาเพื่อเก็บของและหยิบสมุดบัญชีเงินฝากเตรียมจะไปที่เมืองเจียง งสุ่ย แต่ตอนนี้ไม่มีรถแล้ว
ดังนั้นนางจึงทะเลาะกับจี้เจี้ยนอวิ๋นเพื่อให้เขาไปส่งนาง
ทว่าจี้เจี้ยนอวิ๋นไม่สนใจนาง และขอให้ซูจูเหมาขับรถไปส่งนางที่นั่น เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด เขาจึงขนส่งสินค้าบ บางส่วนไปที่ร้านค้าในเมืองเจียงสุ่ยด้วย
เมื่อคุณแม่จี้ถูกพามาส่งยังบ้านของจี้เจี้ยนเหวิน ซูจูเหมาก็ได้บอกข้อความที่ฝากมา “เถ้าแก่ขอให้ผมแวะมาบอก ว ว่าจากนี้ไปแม่เฒ่าจะมาอยู่ที่นี่ คงอยู่ที่บ้านเกิดของท่านไม่ได้แล้ว ส่วนค่าเลี้ยงดูรายเดือน เถ้าแก่จะส่งมาให้ครั บ”
“ได้ครับ” จี้เจี้ยนเหวินเข้าใจอย่างชัดแจ้ง
สามารถบีบบังคับคนอย่างพี่สามของเขาถึงขั้นนี้จนกระทั่งส่งคนมาอยู่กับเขาโดยไม่ยอมให้กลับไปได้แบบนี้ แม่ของเขา าต้องก่อเรื่องอะไรไว้ที่บ้านเกิดกัน
คุณแม่จี้เองก็ได้ยินคําพูดเหล่านี้ ถึงนางจะโมโหจนอยากด่าซูตานหง แต่สิ่งที่สําคัญที่สุดตอนนี้ก็คือเรื่องของจ จี้อวิ๋นอวิ๋น
ทันทีที่ซูจูเหมาจากไป คุณแม่จี้ก็รีบพูดขึ้นมา “เจี้ยนเหวิน อวิ๋นอวิ๋นเป็นยังไงบ้าง? ตอนนี้หล่อนเป็นยังไง?”
“จะเป็นยังไงได้อีกล่ะครับ พวกเราทะเลาะกัน หล่อนไม่ยอมเสนอหน้าออกมาเลยแม้แต่น้อย!” น้ำเสียงของจี้เจี้ยนเหวิน ก็เกรี้ยวกราดเช่นกัน
เขาไม่ใช่แค่โกรธเท่านั้น แต่ขบเขี้ยวเคี้ยวฟันจนแทบอยากจะบีบคอจี้อวิ๋นอวิ๋นให้ตาย
หากจี้อวิ๋นอวิ๋นปรากฏตัวต่อหน้าเขาในตอนนี้ เขาคงจะยกเท้าขึ้นมาถีบหล่อนสัก 2 ถึง 3 ทีอย่างแน่นอน!
………………………………………………………………………………………………………………………..
สารจากผู้แปล
แปลตอนนี้แล้วก็เหนื่อยใจ เด็กดื้อยังพอสอนได้ แต่คนแก่ดื้ออย่างแม่จี้นี่คงสอนไม่ได้แล้ว ต้องลอยแพตามยถากรรม มอย่างเดียวค่ะ
เหนืออื่นใดคืออยากตามไปบีบคอนางสองอวิ๋นด้วยค่ะ
ไหหม่า(海馬)