ทะลุมิติไปเป็นเศรษฐีนียุค 80 [重生八零致富记] - ตอนที่ 388 เกาตรงจุดคัน
ตอนที่ 388 เกาตรงจุดคัน
รอจนกระทั่งสะใภ้ใหญ่อวิ๋นจากไป โจวจื่อจึงหยิบบุหรี่ออกมาจากกล่องบุหรี่แล้วจุดสูบ ดวงตาของเขาแฝงแววเยาะเย้ยถากถางอย่างเห็นได้ชัด
จี้อวิ๋นอวิ๋นกับอวิ๋นต้าไห่ เขาจะไม่มีวันปล่อยสุนัขสองตัวนี้ไปแน่!
แต่จะปล่อยให้พวกเขาสองคนจบลงง่าย ๆ ได้อย่างไร?
การทำให้ครอบครัวของอวิ๋นต้าไห่ระส่ำระสายเป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น ส่วนจี้อวิ๋นอวิ๋นนั้นเขายังสามารถหาเงินจากหล่อนได้อยู่ ตราบใดที่ได้เงินเพียงพอ หล่อนก็ไม่มีทางหนีไป ปไหนได้!
แต่ตอนนี้เขาต้องแสร้งทำเป็นชายแสนดีต่อไป
ทว่าสำหรับวันนั้นก็คงอีกไม่นาน เขาเชื่อว่ามันจะมาถึงในเร็ว ๆ นี้!
โจวจื่อคิดอย่างใจเย็น จากนั้นจึงหาที่เรียกผู้หญิงแล้วขึ้นโรงแรม ไม่ใช่แค่จี้อวิ๋นอวิ๋นเท่านั้น ในความเป็นจริงแล้วตราบใดที่มีคนเต็มใจทำธุรกิจประเภทนี้ มันก็ซื้อง่ายขายคล่ องเป็นธรรมดา
ทว่ามันเกิดขึ้นเร็วมาก และจบลงภายในเวลาเพียงไม่ถึง 2 นาที
โจวจื่อมีท่าทางดูไม่ค่อยดีอย่างเห็นได้ชัด
นี่เป็นผลพวงจากการถูกอวิ๋นต้าไห่พาคนมาทุบตีเขา จากนั้นเขาก็ไม่สามารถใช้ความเป็นชายได้ถึงหนึ่งเดือนเต็ม ต่อให้เขาจะฟื้นตัวได้ในภายหลัง แต่การใช้งานของเขาก็มีปัญหา!
เหมือนกับที่เป็นอยู่ตอนนี้ มันจบลงก่อนที่จะเริ่มต้นเสียด้วยซ้ำ
โจวจื่อให้เงินแล้วไล่คนออกไป ตอนบ่ายเขาก็ทำหน้าที่ขับรถจนถึงห้าโมงครึ่ง
ตอนที่เขากลับมา จี้อวิ๋นอวิ๋นยังไม่รู้เรื่องที่เกิดขึ้นกับอวิ๋นต้าไห่เลย
เมื่อเห็นโจวจื่อมาหาหล่อน จี้อวิ๋นอวิ๋นก็หรี่ตาลง “คุณมาทําอะไรที่นี่? ”
“ไม่มีอะไรหรอกครับ ผมแค่จะมาขอยืมเงินคุณนิดหน่อย” โจวจื่อกล่าวพร้อมกับโค้งตัว
“ยืมเงิน? คุณยังต้องยืมเงินจากฉันอีกเหรอคะ? เงินเดือนที่เหล่ากัวส่งให้ทุกเดือนก็มีไม่น้อย” จี้อวิ๋นอวิ๋นกล่าวพร้อมกับเลิกคิ้วสูง
เมื่อมองดูชายสวะที่มาพัวพันกับทั้งชีวิตชาติก่อนและชีวิตชาตินี้ของตนกลับต้องมาอ้อนวอนขอความเมตตาต่อหน้าหล่อน แน่นอนว่าหล่อนรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง
“เงินเดือนของผมไม่น้อยก็จริง แต่ผมติดบุหรี่มากเกินไป เลยเหมือนกับเผาเงินทิ้งน่ะครับ” โจวจื่อกล่าว
“ต้องการเท่าไหร่?” จี้อวิ๋นอวิ๋นเลิกคิ้ว
“ให้เงินผมสัก 10 ถึง 20 หยวนก็พอแล้ว” โจวจื่อยิ้มด้วยความพอใจ
“นี่ 100 หยวน รับไปสิ” จี้อวิ๋นอวิ๋นยื่นเงิน 100 หยวนให้
ธนบัตร 100 หยวนที่ตีพิมพ์ในปี 1990 นั้นค่อนข้างห่างไกลจากยุคนี้ และตอนนี้ยังไม่มีการใช้กันอย่างแพร่หลาย
“นี่คือ?” เห็นได้ชัดว่าโจวจื่อไม่รู้จัก
เงินที่มีราคามากที่สุดที่เขาเคยเห็น คือเงินก้อนใหญ่ 10 หยวน
“นี่คือเงิน 100 หยวนที่มาจากเมืองหลวง ตอนนี้พวกเราเริ่มใช้เงินนี้แล้ว แต่พวกคุณยังไม่เคยเห็นมันมาก่อน” จี้อวิ๋นอวิ๋นพูดขณะเชิดคางขึ้น
“เป็นแบบนี้นี่เอง ขอบคุณมากครับ” โจวจื่อรับมา
ตอนนี้เขาเป็นคนขับรถประจำตัวของกัวต้งเหลียงแล้ว แต่ต้องใช้ความพยายามอย่างมากในการเป็นคนขับ และเขาก็เคยได้ยินเรื่องแบบนี้มาบ้าง ดังนั้นเขาจึงไม่สงสัยว่ามันเป็นของปลอม
“มีข่าวอะไรจากเหล่ากัวบ้าง?” จี้อวิ๋นอวิ๋นกล่าว
แน่นอนว่าหล่อนไม่ได้มอบเงินให้โจวจื่อโดยเปล่าประโยชน์ หล่อนจ่ายเงินให้โจวจื่อและขอให้เขาสอบใบขับขี่กลับมาเพื่อใช้ประโยชน์จากช่วงเวลานี้ โจวจื่อจะได้กลายเป็นคนขับรถของ งกัวต้งเหลียง ดังนั้นหลังจากทำงานมาเป็นเวลานานแล้ว โดยปกติมักจะไม่ลาออก
นั่นจึงทำให้หล่อนสามารถจับตาดูความเป็นไปของกัวต้งเหลียงได้
โจวจื่อบอกหล่อนโดยไม่คิดปิดบังเรื่องเหล่านี้
เนื่องจากจี้อวิ๋นอวิ๋นมีแผนการที่มากกว่านั้น และมันเป็นเรื่องไร้ค่าสำหรับเขา เขาจึงไม่มีปัญหาที่จะบอกหล่อน
และด้วยเหตุนี้ จี้อวิ๋นอวิ๋นจึงยินดีให้เงินรางวัลแก่โจวจื่อเป็นครั้งคราว
100 ถึง 200 หยวน สำหรับจี้อวิ๋นอวิ๋นตอนนี้ไม่นับว่าเป็นเงินจำนวนมาก จึงสามารถให้ได้
สําหรับหล่อนแล้ว การรู้ความเคลื่อนไหวของเหล่ากัวนั้นสําคัญที่สุด
วันนี้โจวจื่อบอกบางสิ่งที่เป็นประโยชน์กับหล่อน ดูเหมือนว่ากัวต้งเหลียงจะไม่พอใจเป็นอย่างมาก ที่ได้เจรจากับหุ้นส่วนหลายราย
เมื่อกัวต้งเหลียงอารมณ์เสีย เขาจะมาหาหล่อน มาหาลูกชายของหล่อน และเขาจะอารมณ์ดีขึ้นมาก
ใช่แล้ว จากประสบการณ์หลายปีของพี่เลี้ยงก็ได้บอกว่าลูกของหล่อนเป็นลูกชายมากถึงแปดเก้าส่วน ดังนั้นกัวต้งเหลียงจึงให้ความสําคัญเป็นพิเศษ
เมื่อคิดถึงกิจการใหญ่โตของครอบครัว หากไม่มีบุตรชายมารับช่วงต่อ ถึงตอนนั้นจะไม่น่าเสียดายแย่หรือ?
แม้ว่าจะมีลูกสาวอยู่แล้ว แต่ลูกสาวและลูกชายนั้นแตกต่างกัน
เมื่อจี้อวิ๋นอวิ๋นได้ยินเรื่องนี้ก็รีบกลับมา ตอนเหล่ากัวกำลังกินข้าวอยู่ที่บ้านตามปกติ
และหล่อนยังขอให้พี่เลี้ยงทำซุปรังนกไว้จำนวนหนึ่งด้วย
ใช่แล้ว ตั้งแต่ตั้งครรภ์ เหล่ากัวก็ให้ความสําคัญกับเด็กคนนี้เป็นพิเศษ รังนก หอยเป๋าฮื้อ ปลิงทะเล ของฟุ่มเฟือยราคาแพงแบบนี้ เขาซื้อมาให้หล่อนไม่น้อย
นอกจากนี้ ยังมีอาหารมื้อใหญ่ที่พี่เลี้ยงทำ ดังนั้นผิวพรรณของจี้อวิ๋นอวิ๋นจึงดูดีมากขึ้นตั้งแต่ที่หล่อนตั้งครรภ์
อีกทั้งยังดูอวบอิ่มขึ้นอีกด้วย นับว่าการตั้งครรภ์ครั้งนี้มีวาสนาอยู่หลายส่วน
“กลับไปเถอะ ที่นี่ไม่ต้องให้เธอเฝ้าแล้ว” เมื่อกัวต่งเหลียงมาถึง เขาก็พูดกับพี่เลี้ยง
พี่เลี้ยงพยักหน้าแล้วเดินจากไปพร้อมกับถุงหิ้ว
ของในถุงใบนั้นคืออาหารที่เหลือหลังจากจี้อวิ๋นอวิ๋นกินในคืนนี้
จะว่าไปก็ไม่ใช่ของเหลือทั้งหมด หล่อนทำอาหาร 4 จานและแกงหนึ่งอย่างตามธรรมเนียม แต่จี้อวิ๋นอวิ๋นไม่ได้กินอะไรมาก กินข้าวเพียงครึ่งชามกับน้ำแกงหนึ่งชาม และผักกับเนื้ออีกนิ ดหน่อย ที่เหลือก็ไม่มีแล้ว
พี่เลี้ยงเองก็แนะนําให้กินให้มากขึ้น แต่จี้อวิ๋นอวิ๋นไม่อยากกิน กลัวว่าจะอ้วนเกินไป
พี่เลี้ยงจึงนำอาหารส่วนที่เหลือไปจนหมด
มีอาหารเหล่านี้รวมกัน ทำให้โดยทั่วไปแล้วไม่จำเป็นต้องทำอาหารเองที่บ้านเลย และยังจ่ายเงินเดือนถึง 150 หยวน ซึ่งดีมากจริง ๆ
“พี่เลี้ยงดูแลคุณยังไงบ้างครับ?” กัวต้งเหลียงถาม
“พี่เลี้ยงคนนี้ไม่เลวเลยค่ะ แต่พูดมากไปหน่อย ฉันไม่อยากกินแล้ว หล่อนยังบอกให้ฉันกินอีกหน่อย ดูสิคะว่าฉันอ้วนขึ้นขนาดไหนแล้ว?” จี้อวิ๋นอวิ๋นพูด
กัวต้งเหลียงได้ยินดังนั้นก็ยิ้มแล้วพูดขึ้น “กินให้มากหน่อยสิครับจะได้เป็นผลดีกับเด็ก”
พูดไปเขาก็ใช้ไม้จิ้มฟันจิ้มผลไม้ที่พี่เลี้ยงหั่นไว้ก่อนกลับไปให้หล่อนกิน แล้วกล่าวขึ้น “กินผลไม้ให้เยอะ ๆ จะได้ดีต่อตัวเด็กนะครับ”
“สำหรับพวกเราสองแม่ลูกคุณไม่ต้องเป็นห่วงหรอกค่ะ แต่ไม่ได้เจอกันหลายวัน ทําไมคุณถึงคิ้วขมวดแบบนี้ล่ะคะ คุณต้องดูแลตัวเองด้วยนะคะ!” จี้อวิ๋นอวิ๋นพูดด้วยสีหน้าเป็นกังวล
“ผมรู้แล้ว แค่เรื่องเล็กน้อยเกี่ยวกับธุรกิจน่ะ” เหล่ากัวพูด
“เรื่องอะไรเหรอคะ?” จี้อวิ๋นอวิ๋นพูด
“ผู้หญิงอยู่แต่ในบ้าน อย่าฟังเรื่องพวกนี้เลย” เหล่ากัวพูดด้วยรอยยิ้ม “พี่เลี้ยงบอกว่าเดี๋ยวรังนกตุ๋นก็จะสุกแล้ว คุณค่อยกินทีหลังก็ได้”
“อย่าเปลี่ยนเรื่องเลยค่ะ ฉันอยากฟังเรื่องข้างนอกของคุณบ้าง ไม่ใช่แค่ฉันคนเดียวที่ฟัง แต่ลูกชายของคุณก็ฟังด้วย คุณควรบอกเขาบ้างนะคะ นี่เรียกว่าเป็นการสอนลูกรู้ไหม? ? รอจนคลอดออกมาแล้ว เขาจะต้องเป็นนักธุรกิจที่ดีเหมือนพ่อของเขาแน่นอนค่ะ” จี้อวิ๋นอวิ๋นพูด
ด้วยความสามารถในการพูดและเกาตรงจุดคันของเหล่ากัวพอดี หล่อนจึงเกลี้ยกล่อมเหล่ากัวจนเขาคลายความโกรธลงได้และยอมเล่าให้หล่อนฟัง
…………………………………………………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
จะคอยดูแผนของนางชั่วคนนี้ต่อไปค่ะว่าคิดจะทำอะไร อึดอัดใจเหลือเกิน
ไหหม่า(海馬)