ทะลุมิติไปเป็นเศรษฐีนียุค 80 [重生八零致富记] - ตอนที่ 391 ไม่เป็นอะไร
ตอนที่ 391 ไม่เป็นอะไร
“แต่ตอนนี้จะทำยังไงดีคะ หล่อนทำชื่อเสียงฉันเสียหายป่นปี้หมดแล้ว” จี้อวิ๋นอวิ๋นกล่าว
“วางใจเถอะ ถ้าแม่กลับไปแล้ว จะอธิบายให้พี่ชายสี่กับพี่สะใภ้สี่ให้เข้าใจได้แน่!” คุณแม่จี้รีบพูดขึ้นมาทันที
จี้อวิ๋นอวิ๋นได้ยินดังนั้นก็พยักหน้าก่อนจะพูดขึ้นอีกว่า “งั้นแม่ต้องพูดให้ฉันนะคะ ตอนนี้ฉันเหลือญาติพี่น้องแค่พี่สี่กับพี่สะใภ้สี่แล้ว”
“แม่ทำได้แน่นอน วางใจได้เลย” คุณแม่จี้เอ่ย
“จริงสิ ทำไมแม่ถึงมาอยู่ที่เมืองเจียงสุ่ยล่ะคะ? ได้ยินมาว่าแม่ถูกจี้เจี้ยนอวิ๋นไล่ออกมาเหรอ?” พอพูดถึงตรงนี้ จี้อวิ๋นอวิ๋นรู้สึกโมโห
ชื่อของจี้เจี้ยนอวิ๋นถูกเอ่ยออกมาโดยตรง โดยที่หล่อนไม่ได้รู้สึกว่ามันสำคัญอะไร
ตอนนี้หล่อนเองก็ไม่ได้ใส่ใจพวกบรรดาพี่ ๆ ของหล่อนที่บ้านเกิดสักเท่าใดนัก เดือนหนึ่งหล่อนมีเงินตั้งมากมาย เปรียบเทียบกับพวกเขาที่ทำงานกันเหนื่อยแทบตาย ฐานะหล่อนดีกว่าตั้ งเยอะ!
หล่อนอยู่คนละระดับกับพวกเขาไปแล้ว
“ไม่ใช่จี้เจี้ยนอวิ๋นหรอก พี่ชายสามของแกยังมีความกตัญญูอยู่” คุณแม่จี้เอ่ยขึ้นมา
ถึงแม้การที่จี้เจี้ยนอวิ๋นเอาแต่มองอย่างเย็นชาไม่ว่าลูกสาวของนางจะเป็นหรือตายนั้นทำให้คุณแม่จี้ผิดหวังมาก แต่ลูกชายคนนี้ก็ยังเป็นลูกที่กตัญญูอย่างยิ่งมาตลอด
เหตุผลที่นางถูกส่งตัวมาที่เมืองเจียงสุ่ย เป็นเพราะซูตานหง หล่อนยุยงลูกชายของนาง!
ไม่เช่นนั้นจี้เจี้ยนอวิ๋นจะใจร้ายใจดำส่งผู้เป็นแม่อย่างนางมาอยู่ที่เมืองเจียงสุ่ยได้อย่างไร?
“เป็นเพราะซูตานหงอีกสินะคะ! ” จี้อวิ๋นอวิ๋นกัดฟัน
“ใช่แล้ว ถ้าไม่ใช่เพราะหล่อน พี่ชายสามของแกจะเปลี่ยนไปขนาดนี้ได้ยังไง ช่างโหดร้ายนัก ครั้งนี้แม่ลงมาจากภูเขาเพื่อขอร้องในเรื่องของแกด้วยตัวเอง แต่เขากลับไม่ใจอ่อนเลย ส่ว วนซูตานหงก็คอยเป่าหูเขาอยู่ข้าง ๆ ทำให้แม่ถูกส่งมาที่นี่และอาจจะไม่ได้กลับบ้านอีกเลย” คุณแม่จี้ระบายออกมา
“แม่ ถ้าพวกเขาไม่เลี้ยงแม่ ฉันจะเลี้ยงแม่เองค่ะ กลับไปกับฉันเถอะ เหล่ากัวจ้างแม่บ้านมาพอดี แม่แค่อยู่คุยเล่นกับฉันไม่ต้องทำอะไรเลย!” จี้อวิ๋นอวิ๋นเอ่ย
“จ้างแม่บ้านเลยเหรอ?” คุณแม่จี้ได้ยิน นางนึกดีใจ ก่อนเอ่ยอย่างยินดี “งั้นเขาก็ดีกับแกมากเลยสินะ”
“ใช่ไหมล่ะคะ? ฉันได้กินแต่ของมีประโยชน์ดี ๆ ทั้งนั้น ทั้งรังนกและปลิงทะเล แม่คงยังไม่เคยกิน ถ้าแม่อยู่กับฉัน อยากจะกินอะไรก็กินได้ตามใจชอบเลยค่ะ” จี้อวิ๋นอวิ๋นกล่าว
“แม่รู้ว่าแกกตัญญู แต่แม่คงอยู่บ้านของพี่สี่ได้ พี่สี่ของแกเป็นคนกตัญญู เขาจะปฏิบัติกับแม่ดีอย่างแน่นอน” คุณแม่จี้กล่าว
“ปฏิบัติกับแม่ดียังไงคะ ให้แม่ออกไปซื้อกับข้าวเนี่ยนะ ทำอย่างกับแม่เป็นคนรับใช้อย่างนั้นแหละ” จี้อวิ๋นอวิ๋นขมวดคิ้ว
“ทำไมพูดแบบนั้นล่ะ? พี่สะใภ้สี่ของแกต้องหาเงินมาใช้หนี้ พี่สี่ก็กลับไปสอนหนังสืออีกครั้ง เยียนเอ๋อร์ก็กำลังเรียนอยู่ ทั้งบ้านก็มีแค่แม่คนเดียว แม่ก็ต้องทำอาหารให้พวกเข ขากินสิ เยียนเอ๋อร์ชอบกินซุปปลาฝีมือแม่ แกก็ช่วยพี่สี่บ้างก็ได้ แกคงไม่รู้หรอกว่าเรื่องของแกทำให้พี่สี่มีผมหงอกเพิ่มขึ้นไม่น้อยเลย” คุณแม่จี้เอ่ยไปเช่นนั้น
“ฉันรู้ค่ะว่าในบรรดาพี่ชายทั้งหมด พี่สี่ดีกับฉันมากที่สุด เขาดีกับฉันมาตั้งแต่เด็กจนโต” จี้อวิ๋นอวิ๋นเอ่ย
“แต่ตอนนี้เขารำคาญแกแล้ว แกไม่ต้องไปหรอก” คุณแม่จี้เอ่ย “นี่ก็สายมากแล้ว อวิ๋นอวิ๋น พรุ่งนี้ค่อยมาใหม่นะ แม่ต้องออกไปซื้อของแล้ว พรุ่งนี้มาตอนเช้า ๆ ได้ไหม?”
“ได้ค่ะ พรุ่งนี้ฉันจะมาหาใหม่” จี้อวิ๋นอวิ๋นพยักหน้าก่อนบอก “นี่เงิน 4,000 หยวน เหล่ากัวให้ฉันติดตัวเอาไว้ใช้ เงินนี่ฉันมีเหลือพอดี แม่เอาเงินไปให้พี่สะใภ้สี่นะคะ เงินค ครั้งนี้รวมกับครั้งที่แล้ว 5,000 หยวน ก็น่าจะพอใช้หนี้ที่ติดจี้เจี้ยนอวิ๋นไว้แล้ว!”
“เงิน 5,000 หยวนครั้งก่อนที่พี่ชายสี่ส่งมาให้ แม่ใส่ไว้ในสมุดบัญชีเงินฝากและเก็บไว้ให้แกแล้ว” คุณแม่จี้กล่าว
“ทำไมล่ะคะ?” จี้อวิ๋นอวิ๋นถาม “แม่รีบไปถอนออกมาเลย และเอาเงิน 4,000 หยวนนี่ไปรวม แล้วเอาเงินไปคืน จะได้ไม่ต้องมองหน้าคนพวกนั้นอีก!”
“ก็ได้ แม่จะเอาไปพูดกับเขาแล้วกัน” เมื่อคุณแม่จี้เห็นว่าลูกสาวของตนไม่ขาดเงินใช้จ่าย จึงรับเอาไว้
คุณแม่จี้นำเงินกลับไปก่อน จากนั้นจึงเดินลงไปซื้อผัก
จี้อวิ๋นอวิ๋นเดินทางกลับไป
แต่เงินที่หล่อนมอบให้กับคุณแม่จี้กลับไม่รอดพ้นสายตาของสะใภ้ใหญ่อวิ๋น ทำให้หล่อนนึกอยากได้มัน
คน ๆ นั้นพูดเอาไว้ไม่มีผิด ตราบใดที่เกาะจี้อวิ๋นอวิ๋นได้ พวกเขาก็ไม่ต้องกังวลเรื่องเงินอีกต่อไป!
ส่วนจี้เจี้ยนเหวินกับอวิ๋นลี่ลี่เหนื่อยล้ามาทั้งวัน ยังดีที่เมื่อกลับมาถึงบ้านก็มีกับข้าวของคุณแม่จี้จัดเตรียมเอาไว้ให้
แม้ว่ามันจะดูค่อนข้างเรียบง่าย แต่เนื่องจากคุณแม่จี้มาอยู่ที่นี่ จี้เจี้ยนอวิ๋นจึงส่งปลาและเนื้อสัตว์มาให้เป็นครั้งคราว แม้กระทั่งไข่และของอื่น ๆ อาหารเย็นบนโต๊ะจึงดูอุดมสมบ บูรณ์มากกว่าเดิม
“พอคุณแม่มาที่นี่ บ้านหลังนี้ก็มีกลิ่นเนื้อเต็มไปหมดเลยนะคะ” อวิ๋นลี่ลี่เอ่ย “พวกเราเองก็พลอยได้อานิสงส์จากคุณแม่ไปด้วย”
เดิมทีหล่อนยังคิดเล็กคิดน้อยเรื่องที่แม่ของสามีมาอาศัยอยู่ด้วย ไม่ใช่แค่คิดธรรมดา หล่อนคิดมากเลยทีเดียว
ครอบครัวเป็นหนี้อยู่มาก เมื่อเก็บเงินไว้ได้อยู่มากโข จึงอยากจะแบ่งเงินไปใช้หนี้ แต่ตอนนี้มีคุณแม่จี้มาอาศัยอยู่ด้วย อย่างที่รู้กันว่าค่าอาหารของคุณแม่จี้ไม่ใช่เรื่องเล็ กเลย!
การที่นางมาอาศัยอยู่ด้วยเช่นนี้ บ้านหลังนี้ยังจะเก็บเงินได้อยู่ไหมล่ะ? เรื่องนี้เป็นไปไม่ได้เลย
ยังไม่ทันที่หล่อนจะได้องค์ลง จี้เจี้ยนอวิ๋นก็โทรศัพท์มาหาจี้เจี้ยนเหวิน อธิบายเรื่องบางอย่างให้ฟัง
ในหนึ่งเดือนเขาจะให้ข้าว 50 ชั่ง ปลา เนื้อ และไข่ นอกจากนี้เขายังให้เงินเบี้ยงเลี้ยงคุณแม่จี้เพิ่มอีก 50 หยวน
ของมากมายขนาดนั้นถูกส่งมา นอกจากที่บ้านจะไม่ต้องออกเงินแล้ว ตรงข้ามกันพวกเขากลับได้รับผลประโยชน์ไปด้วย
ลำพังหล่อนออกไปตั้งแผงขายของก็เหนื่อยมากแล้ว ตอนนี้มีคุณแม่จี้อยู่ทำกับข้าวให้กิน หล่อนกลับมามีหน้าที่แค่กินเท่านั้น มันมีความสุขมากจริง ๆ
หล่อนยังไม่ทันให้เงินค่าเบี้ยเลี้ยงของคุณแม่จี้ จี้เจี้ยนอวิ๋นก็มอบเงินให้นางมาแล้ว 50 หยวน แต่ก็ไม่ได้มีเหตุอะไรให้ต้องใช้จ่าย ถ้าเอาไว้ให้จี้อวิ๋นอวิ๋นซึ่งทำให้ต้องลำบา ากกัน ไม่สู้ให้หล่อนมาช่วยจุนเจือครอบครัวไม่ดีกว่าหรือ
“คุณแม่คะ เยียนเอ๋อร์ไม่ได้กินน้ำแกงซี่โครงหมูมานานแล้ว พรุ่งนี้แม่ซื้อซี่โครงหมูมาทำให้หน่อยสิคะ” อวิ๋นลี่ลี่พูดอย่างไม่เกรงใจ
“ได้สิ” คุณแม่จี้ตอบตกลง
จี้เจี้ยนเหวินกินอาหารเย็นอย่างอิ่มหน่ำ กินเสร็จก็ออกไปสอนเสริมให้กับนักเรียนต่อ เขาจึงไม่ค่อยสนใจเรื่องในบ้านสักเท่าใด
เมื่อจี้เจี้ยนเหวินออกจากบ้านไป เยียนเอ๋อร์ก็ไปล้างจานในห้องครัว ตอนนี้สาวน้อยคนนี้สามารถช่วยงานเล็ก ๆ น้อย ๆ ได้แล้ว ทั้งยังไม่ขี้เกียจอีกด้วย งานพวกนี้เธอเป็นคนทำ ทั้งหมด
ในตอนนี้เองคุณแม่จี้ก็หยิบเงินออกมาให้อวิ๋นลี่ลี่
“เงินพวกนี้เอามาจากไหนกันคะ?” อวิ๋นลี่ลี่ตกตะลึง เมื่อถามออกไป ใบหน้าของหล่อนก็บึ้งตึงขึ้นมาทันที “จี้อวิ๋นอวิ๋นมาที่นี่สินะคะ?”
“เปล่า” คุณแม่จี้รีบตอบ
“เปล่า?” อวิ๋นลี่ลี่หัวเราะ “ถ้าหล่อนไม่ได้มา แล้วเงินมาจากไหน คุณแม่คะ ฉันขอบอกเอาไว้เลยนะคะ สองสามวันมานี้เจี้ยนเหวินเพิ่งได้พักผ่อนเต็มที่ แต่แม่กลับเรียกจี้อวิ๋นอ อวิ๋นมา ถ้าเขารู้เข้าคงต้องโมโหถึงขนาดงดสอนในวันพรุ่งนี้แน่ ๆ แม่รู้หรือเปล่าคะ?”
“รู้สิ เพราะแบบนั้นถึงได้รอให้เขาออกไปก่อนมาบอกเธอไง” คุณแม่จี้ตอบ
……………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
ทำไมไม่ไปอยู่กับลูกสาวนะนังแม่จี้ กลัวไม่ได้ก่อเรื่องให้บ้านสี่หรือยังไง สูนแท้
ไหหม่า(海馬)