ทะลุมิติไปเป็นเศรษฐีนียุค 80 [重生八零致富记] - ตอนที่ 400 บ้านทางแม่ยืมเงิน
ตอนที่ 400 บ้านทางแม่ยืมเงิน
“เจี้ยนอวิ๋นถามเราว่าจะซื้อไหม ถ้าจะซื้อก็รีบซื้อ ก่อนที่มันจะขึ้นราคามากกว่านี้” ซูจิ้นตั๋งเอ่ย
“ราคาสูงขนาดนี้แล้ว ยังจะสูงได้อีกเหรอ แล้วจะไปขายใครได้คะ!” สะใภ้รองซูอดว่าออกมาไม่ได้
“คนภายนอกที่มีเงินยังมีอีกตั้งมากมาย จี้เจี้ยนอวิ๋นเล่าว่าห้องชุดขนาด 80 ตารางเมตรในชุมชนเปิดตัวด้วยราคานั้น พอคนซื้อได้ยินก็ไม่มีการต่อรองราคาใด ๆ และตกลงซื้อมันทันท ทีเลยล่ะ” ซูจิ้นตั๋งเอ่ย
สะใภ้รองซูนึกเสียดาย ตอนที่ซูตานหงมาหา เธอยังบอกว่าให้ซื้อเก็บไว้ให้สือโถว ไม่ต้องสนใจว่าจะไปอยู่หรือไม่ มันยังเก็บเอาไว้ได้ ในเมืองยังมีมหาวิทยาลัย สือโถวต้องสอบ เข้าที่นั่น มันคงจะสะดวกกับหล่อนไม่น้อย
ตอนนั้นหล่อนไม่ได้คิดอะไรมาก และไม่คิดว่าราคาบ้านจะโหดขนาดนี้
“ถ้าพวกเราเอาเงินไปซื้อบ้าน เงินที่บ้านก็คงหมดเกลี้ยงแน่ ๆ ค่ะ” สะใภ้รองซูเอ่ย
หากต้องการที่จะให้ราคาเติบโตต่อไปในอนาคต ก็ควรซื้อมันตอนนี้ มิฉะนั้นจะหาเงินที่ไหนมาจ่าย ถ้าราคายังคงเพิ่มขึ้นต่อไปแบบนี้?
ถึงแม้ว่าธุรกิจร้านค้าจะดี แต่การเพิ่มขึ้นของร้านค้าอื่น ๆ ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาก็ส่งผลกระทบกับธุรกิจครอบครัวของหล่อนด้วย ถึงแม้จะยังขายดีมาก แต่รายได้ต่อเดือนหลังจากวิเคร ราะห์ราคาต้นทุนทั้งหมดแล้วก็ได้กำไรเพียงประมาณ 600 หยวนต่อเดือน
แน่นอนว่ารายได้นี้ดีมากเพราะราคาสินค้าสูงขึ้น กำไรจึงเพิ่มขึ้นเป็นธรรมดา
รายจ่ายไม่ได้มีมากนัก ต้องจ่ายค่าจ้างหยางต้าหยาเป็นจำนวนหนึ่ง แต่มันก็ถูกรวมเข้าไปแล้ว
ก่อนหน้านี้เก็บเงินได้มากก็จริง แต่มันก็ถูกใช้ไปจำนวนมากกับการสร้างบ้านในบ้านเกิดของตัวเอง
ถึงครอบครัวนี้จะเก็บเงินไว้มาก แต่ถ้าต้องใช้เงินมากกว่า 10,000 หยวนไปกับการซื้อบ้านในครั้งนี้ มันก็จะไม่มีเหลือเก็บเลย
“ยังไงครอบครัวเรายังมีเงินเก็บอยู่ 20,000 หยวนนะ จะใช้หมดได้ยังไง” ซูจิ้นตั๋งพูดอย่างมีอารมณ์
เขาทำเงินได้มากมายทุกเดือน และครอบครัวของเขาไม่มีค่าใช้จ่ายมากมาย แค่อาหารสามมื้อต่อวันที่สามารถซื้อได้ด้วยราคาไม่แพง ดังนั้นแน่นอนว่ามีเงินเหลือพอที่จะเก็บ
“บ้านแม่ฉันมาขอยืมไป 3,000 หยวนค่ะ” ตอนนี้เองที่สะใภ้รองซูเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงเบาหวิว
ซูจิ้งตั๋งอึ้ง “คุณให้พวกเขายืมไปตอนไหน?”
“จิ้นตั๋ง คุณอย่าเพิ่งโมโหนะคะ ก่อนหน้านี้แม่ฉันมาหา คุณออกไปข้างนอกเลยไม่รู้ หล่อนร้องไห้อยู่เป็นวัน ๆ ว่าจะต้องซ่อมบ้าน แต่มีเงินไม่พอ ก็เลยมาขอยืมเงินฉันไป 3,000 หย ยวนน่ะค่ะ” สะใภ้รองซูรีบพูดอย่างรวดเร็ว
แม้หล่อนจะไม่ชอบคนที่บ้านแม่ แต่มันยังเป็นครอบครัวของหล่อนอยู่วันยังค่ำ ยามที่ครอบครัวหล่อนย่ำแย่ หล่อนก็ต้องการให้ครอบครัวอยู่รอดไปให้ได้ ตอนนี้ครอบครัวของหล่อนมีธุรกิจ จมั่นคงในเมือง ครอบครัวของสามีหล่อนยังสร้างบ้านแล้ว ทั้งยังมีร้านค้าในเมืองนี้ ดังนั้นชีวิตตอนนี้จึงสุขสบายดี
ทว่าตอนที่แม่มาขอความช่วยเหลือจากหล่อน หล่อนไม่มีเงินของตัวเองจะให้ มีเพียงเงินเก็บของที่บ้านซึ่งมีไม่น้อย
ตอนนั้นหล่อนจึงใจอ่อน และให้แม่ยืมไป
ครั้งแรกมายืมเงิน 3,000 หยวน ครั้งที่สองมายืมอีก 2,000 หยวน สองครั้งรวมเป็น 5,000 หยวนแล้ว
ซูจิ้นตั๋งถึงกับตะลึงค้าง
3,000 หยวนครั้งแรกเขายังพอที่จะเข้าใจได้ แต่ยังมีครั้งที่สองอีก 2,000 หยวน เท่ากับว่ายืมเงินไปถึง 5,000 หยวนแล้ว ทว่าเขากลับไม่รู้เรื่องแต่อย่างใด
“ที่บ้านหลังนี้ผมไม่มีตัวตนเลยใช่ไหม?” ซูจิ้นตั๋งกัดฟัน
แต่งงานกันมาหลายปีแล้ว นี่เป็นครั้งแรกที่เขาทำหน้าบึ้งตึง
สะใภ้รองซูเห็นดังนั้นรีบเอ่ย “จิ้นตั๋ง คุณวางใจได้ แม่บอกว่าจะเอามาคืนแน่นอนค่ะ”
“เงินที่ให้บ้านคุณยืมไป ผมไม่คิดว่าจะได้กลับคืนมาหรอก แต่ช่างเรื่องนี้เถอะ ผมขอถามคุณหน่อย ตอนที่คุณเอาเงินให้แม่คุณยืม ทำไมถึงไม่คิดจะบอกผมสักหน่อย?” ซูจิ้นตั๋งเอ่ ย
เรื่องนี้สะใภ้รองซูทำผิดจริง หล่อนกังวลว่าเขาจะคัดค้าน ดังนั้นจึงให้ยืมไปเป็นการส่วนตัว
“แต่ว่าจิ้นตั๋ง คุณวางใจได้ เงินพวกนั้นฉันเอากลับคืนมาให้ได้แน่ ๆ ค่ะ!”สะใภ้รองซูให้คำสัญญากับเขา
ซูจิ้นตั๋งไม่อยากฟังคำหล่อนต่อ เขารู้สึกโมโหเป็นอย่างมาก
คนนอกอาจจะไม่รู้เรื่องพวกนี้ แต่สือโถวรู้ดี สือโถวจึงเล่าให้เหรินเหรินที่เรียนห้องเดียวกันฟัง
เหรินเหรินกลับมาบอกกับซูตานหง “สือโถวบอกว่าลุงรองกับป้าสะใภ้รองทะเลาะกัน”
“ทะเลาะกัน? เป็นไปไม่ได้ พวกเขารักกันดีจะตายไป” ซูตานหงเอ่ย
ก่อนหน้านี้ตอนที่ครอบครัวลำบาก สองสามีภรรยาก็ดีต่อกันมาก ตอนนี้สือโถวโตขนาดนี้แล้ว สภาพการเงินทางบ้านดีขึ้นเรื่อย ๆ จะทะเลาะกันด้วยเรื่องอะไร?
ซูตานหงไม่รู้ยังไม่เป็นไร แต่เมื่อได้รู้แล้ว ประกอบกับตอนนี้อยู่ว่าง ๆ ที่บ้าน เธอจึงไปหาสะใภ้รองซู
สะใภ้รองซูไม่ได้ปิดบังอะไร ซูตานหงจึงพูดไปตามตรง “เรื่องนี้พี่สะใภ้รองก็ไม่สมควรทำจริง ๆ นะคะ พี่รองเขามีนิสัยแบบนั้น ไม่ค่อยสนใจอะไรตั้งแต่แรกแล้ว เขาแค่โกรธที่พี่ไ ไม่ยอมพูดกับเขาตรง ๆ”
“ตานหง เรื่องแบบนี้เธอจะกล้าบอกเจี้ยนอวิ๋นตรง ๆ ได้งั้นเหรอ?” สะใภ้รองซูถามกลับ
หล่อนรู้ว่าผู้หญิงตรงหน้านั้นมีน้ำใจต่อครอบครัวทางบ้านของตัวเองเป็นอย่างมาก
“ฉันจะบอกเขาไปตามตรง ไม่ว่าจะเป็นเงินหรือสิ่งของ เจี้ยนอวิ๋นจะต้องเป็นคนแรกที่รู้เรื่องค่ะ” ซูตานหงกล่าว
อันที่จริงเธอเองก็ไม่แน่ใจนัก โดยเฉพาะหลายปีผ่านมานี้ ซูตานหงไม่ได้เอาเงินหรือสิ่งของอะไรไปให้ใครที่ไหน เพราะจี้เจี้ยนอวิ๋นเป็นคนจัดการเองทั้งหมด
รวมถึงเงินที่ส่งให้ครอบครัวเธอด้วย จี้เจี้ยนอวิ๋นล้วนเป็นคนส่งไปให้
สะใภ้รองซูถอนหายใจ “ฉันเองก็รู้ว่าเรื่องนี้มันไม่ถูกต้อง แต่ตอนนี้เงินก็ให้ยืมไปแล้ว ย้อนกลับไปทำอะไรไม่ได้อีก”
“มันเป็นเรื่องปกติที่ผู้หญิงแต่งงานออกไปแล้วจะต้องให้เงินกับทางบ้านบ้าง แต่ครั้งนี้มันเยอะเกินไปค่ะ” ซูตานหงกล่าว
เงิน 5,000 หยวนเชียวนะ แม้ว่าที่บ้านจะต้องการเงินไปซ่อมแซมบ้าน เธอส่งเงินไปช่วยสัก 1,000 หยวนน่าจะเพียงพอแล้ว
ยิ่งไปกว่านั้นตอนที่บ้านแม่เธอต้องซ่อมแซม เธอส่งเงินกลับไปให้ไม่มากนัก จี้เจี้ยนอวิ๋นยังช่วยเอาโทรทัศน์ไปให้เครื่องหนึ่ง
สำหรับเธอ เธอให้เงินส่วนตัวกับแม่ไป 200 หยวน นางจะได้ไม่ต้องประหยัดจนเกินไป นางจะได้มีเงินหาซื้อของกินได้ตามใจ
และมันก็ถูกบันทึกเอาไว้เช่นกัน
ทว่าดูจากสถานการณ์ของบ้านสะใภ้รองซูแล้ว เห็นท่าว่าจะขอเงินพี่สะใภ้รองไปออกค่าสร้างบ้านเกือบหมด น่าขันสิ้นดี
นอกจากนี้ ราคาวัสดุก่อสร้างยังสูงขึ้นมากในปีนี้ ค่าสร้างบ้านจึงมีราคาแพงขึ้นมาก
“ค่อยพูดค่อยจากับพี่รองเถอะค่ะ จริงสิ มีบ้านที่เมืองมหาวิทยาลัยที่อยากจะซื้อไหมคะ ถ้าจะซื้อ ฉันช่วยทำเรื่องให้ได้นะคะ” ซูตานหงเอ่ย
“ซื้อสิ ๆ ขอขนาด 80 ตารางเมตรนะ” สะใภ้รองซูเอ่ย
ซูตานหงพยักหน้าตอบรับ และไปถามหยางต้าหยา แต่หล่อนตอบปฎิเสธไปอย่างน่าเสียดาย
10,000 หยวน เงินหล่อนรวมกับจี้กวงซงน่าจะได้อยู่ราว 6,000 หยวน
ถึงแม้มันจะไม่น้อย แต่กว่าจะเก็บได้ถึง 10,000 หยวนก็ไม่ใช่เรื่องง่านเช่นกัน อีกทั้งซูตานหงยังให้พี่สะใภ้รองซูยืมเงินไปแล้ว หล่อนเองจึงไม่กล้าที่เอ่ยปากยืม
ยังขาดเงินอยู่ราวเกือบครึ่งหนึ่ง ไม่ใช่น้อย ๆ เลย
“ถึงเงินไม่พอก็ยังซื้อได้นะ หลังจากนี้ค่อยทยอยใช้คืนทีละเดือน ไม่งั้นก็ไม่รู้ว่ามันจะราคาสูงไปอีกแค่ไหนเลยนะ” ซูตานหงเห็นหล่อนเป็นเช่นนั้นจึงเอ่ยขึ้น
สำหรับคนรอบตัวเธอ เธอคาดหวังให้พวกเขาพบเจอแต่ความสุข การแต่งงานของหยางต้าหยามีเธอกับเจี้ยนอวิ๋นอยู่เบื้องหลัง เธอก็ย่อมหวังว่าหยางต้าหยากับจี้กวงซงจะพบเจอแต่เรื่อ องดี ๆ
………………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
ยืมเยอะมาก แถมไม่บอกสามีด้วย ไม่แปลกที่จิ้นตั๋งจะโมโห เอ็นดูเขาเอ็นเราขาดโดยแท้
สวัสดีปีใหม่จันทรคตินะคะ ขอให้ได้อั่งเปากันเยอะ ๆ เงินทองไหลมาเทมาค่ะ
ไหหม่า(海馬)