ทะลุมิติไปเป็นเศรษฐีนียุค 80 [重生八零致富记] - ตอนที่ 402 ยุคแห่งการพัฒนา
ตอนที่ 402 ยุคแห่งการพัฒนา
ถึงอย่างไรลูก ๆ ของพวกเขาก็สนิทสนมกับลูกคนเล็กของครอบครัวเจี้ยนอวิ๋นอยู่ ซึ่งมันไม่ใช่เรื่องเสียหายอะไร ต่อไปอาจหวังพึ่งพาพวกเขาได้ไม่ใช่หรือ?
ที่สำคัญก็คือซูตานหง ในบางครั้งที่เด็ก ๆ เกิดหิวน้ำขณะออกไปเล่นนอกบ้าน คนที่ไม่ได้กลับบ้านก็จะวิ่งไปขอน้ำจากบ้านของเธอ บางครั้งเจ้าเด็กตะกละพวกนี้ยังได้เค้กกลับ บมากินอีกด้วย
และในตอนที่ซูตานหงทำบะหมี่และขนมต่าง ๆ เป็นจำนวนมาก และมีมากเกินกว่าจะกินหมด ตอนที่เด็ก ๆ ไปขอน้ำจากซูตานหงดื่ม พวกเขาก็มักจะได้ของพวกนี้กลับมากินด้วย แต่ก็ไม่ใ ใช่ทุกครั้ง ใน 10 ครั้งจะได้มาสักครั้งหรือ 2 ครั้ง แต่เพียงเท่านั้นมันก็ทำให้พวกเขาคาดหวังได้แล้ว
ซูตานหงไม่ได้นำเรื่องหยุมหยิมพวกนี้มาใส่ใจ ชาวบ้านจึงประทับใจในตัวเธอมากทีเดียว
อย่างเรื่องระหว่างจี้อวิ๋นอวิ๋นกับอวิ๋นต้าไห่ แม้เรื่องนี้จะแพร่สะพัดไปทั่วหมู่บ้าน แต่เพราะเห็นแก่จี้เจี้ยนอวิ๋นกับซูตานหง ชาวบ้านจึงไม่ได้ซุบซิบนินทาเรื่องนี้กันอย่างโจ่ง งแจ้งนัก
มีเพียงบรรดาสะใภ้สาว ๆ ที่ยังไม่รู้จักวางตัวให้ดีเท่านั้นที่นินทากันอย่างสนุกปาก ในขณะที่บรรดาคนมีอายุยังรู้จักสงบปากไว้บ้าง
จนถึงตอนนี้เรื่องวุ่นวายของจี้อวิ๋นอวิ๋นยังไม่จางหายไป ต่อให้ไม่มีชาวบ้านในหมู่บ้านนี้คนไหนพูดถึงเรื่องนี้ แต่มันได้กระจายไปยังหมู่บ้านอื่น ๆ
มีความเห็นจากคนนอกหมู่บ้านหลายคน ซึ่งส่วนใหญ่ตำหนิแต่จี้อวิ๋นอวิ๋น
ในขณะเดียวกัน พวกเขากลับรู้สึกเห็นใจจี้เจี้ยนอวิ๋นกับซูตานหง
ในมุมมองของพวกเขา จี้เจี้ยนอวิ๋นกับซูตานหงเป็นคู่สามีภรรยาชื่อดัง และภาพลักษณ์ของพวกเขาก็ดีมาก
เหตุใดถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้?
น้าหลี่ซึ่งเป็นแม่ของหลี่จื้อรู้เรื่องนี้ในภายหลัง และรู้สึกว่าตอนนั้นนางโชคดีมากจริง ๆ
เมื่อหลี่จื้อกลับมา นางจึงดึงตัวหลี่จื้อมาคุย “โชคดีนะที่แกหย่ากับนังหน้าด้านไปตั้งแต่ตอนนั้น แถมตอนที่หล่อนกลับมาหา แกก็ไม่ยอมคืนดีกับหล่อน ดูหล่อนในตอนนี้สิ แม้ แต่พี่ใหญ่ของพี่สะใภ้ก็ยังไม่วายจะไปมีชู้ด้วย ไม่เคยเห็นผู้หญิงคนไหนหน้าด้านเท่านี้มาก่อนเลย!”
“แม่ครับ อย่าพูดถึงเรื่องนี้เลย เรื่องมันจบไปแล้วนะครับ” หลี่จื้อบอก
“โชคดีที่มันจบไปแล้วน่ะสิ ไม่อย่างนั้นแม่ก็ไม่รู้ว่าจะทุกข์ทรมานขนาดไหน!” น้าหลี่ขึ้นเสียง “แต่ตอนนี้หยวนหยวนมีลุงสามกับป้าสะใภ้สามดูแลอยู่ แม่ละห่วงจริง ๆ ได้ยินมาว่าย ยายของหยวนหยวนยังไม่ได้สติดีเลยนี่ หล่อนไปก่อเรื่องให้พี่สะใภ้สามด้วยใช่ไหม?”
“เรื่องมันผ่านไปแล้วครับ แม่อย่าถามอีกเลยนะ” หลี่จื้อเอ่ย
เขาไม่ชอบพูดถึงเรื่องทำนองนี้ของครอบครัวคนอื่น เพราะตัวเขาเป็นเพียงอดีตสามีเท่านั้น
หลี่จื้อไม่รู้เรื่องราวแต่อย่างใด แต่อดีตแม่ยายของเขาคงรีบไปต่อว่าพี่สะใภ้สามที่เลี้ยงดูหยวนหยวนเพราะเรื่องของจี้อวิ๋นอวิ๋น เขารู้สึกรับเรื่องนี้ไม่ค่อยได้นัก
อดีตแม่ยายของเขาเปลี่ยนไปแล้ว เปลี่ยนไปจนไม่เหลือเค้าเดิม ราวกับเป็นคนละคนกับเมื่อก่อน
นางเคยเป็นคนดี น่านับถือ และมีเหตุผล ตอนนี้กลับไร้ซึ่งตรรกะ ในตอนแรกแม้นางจะผิดหวังที่เขาหย่ากับจี้อวิ๋นอวิ๋น แต่ยังเข้าใจและไม่คิดโทษเขา ซ้ำยังเห็นใจเขาด้วย
แต่ในเวลาต่อมา นางกลับโยนความผิดให้เขา ซึ่งไม่มีเหตุผลแม้แต่น้อย
จี้อวิ๋นอวิ๋นทำเรื่องแบบนั้นลงไป นางยังคิดให้เขากลับไปคืนดีด้วย มากไปกว่านั้นนางยังหวังให้เขายอมรับจี้อวิ๋นอวิ๋นอีกต่างหาก
ช่างน่าขบขันไม่น้อย
นอกจากนี้มันยังไม่ใช่ครั้งแรกที่นางไปก่อเรื่องกับหยวนหยวนและลูกชายสามของนาง เขาคิดว่าคุณแม่จี้ต้องการให้จี้เจี้ยนอวิ๋นช่วย แต่จี้เจี้ยนอวิ๋นคงไม่ยอมช่วย
นางไม่สามารถโทษลูกชายตนได้ จึงพาลไปลงกับลูกสะใภ้แทน
แม้เขาจะไม่เห็นกับตาตนเอง หลี่จื้อยังพอคาดเดาได้คร่าว ๆ
“ได้ข่าวว่าตอนนี้หล่อนอยู่กับลูกชายที่เมืองเจียงสุ่ย แล้วหยวนหยวนกับพี่สะใภ้สามก็ส่งของไปให้เขาเสียเยอะเลย เรื่องนี้จริงหรือเปล่า?” น้าหลี่ถาม
“ครับ พี่สะใภ้สามก็กตัญญูมาตลอดนั่นแหละครับ” หลี่จื้อพยักหน้า
น้าหลี่ว่าขึ้นหลังได้ยินเช่นนั้น “ไม่มีใครในสิบลี้แปดหมู่บ้านที่บอกว่าหล่อนเป็นคนไม่ดี หล่อนถูกปฏิบัติแย่ ๆ ใส่ขนาดนี้ ยังมีใจคิดกตัญญู ไม่รู้ว่ายัยแก่ตระกูลจี้ทำบ บุญอะไรสะสมมาเมื่อชาติปางก่อนกันนะถึงมีลูกสะใภ้แสนดีขนาดนี้ได้?”
หลี่จื้อยิ้ม
“เมื่อก่อนครอบครัวของเหล่าซูกับแม่เคยไปมาหาสู่กัน แม่ว่าจะทาบทามหล่อนให้แกอยู่ แต่ทางนั้นขอสินสอดมาเยอะเกินไป น่าจะเป็นช่วงหลังจากพี่ใหญ่ของแกแต่งงานไปได้ไม่นาน เราเลย ยยังมีเงินไม่มาก” น้าหลี่บอก
“แม่ครับ นี่มันเรื่องเก่าตั้งหลายปีมาแล้วนะครับ” หลี่จื้อโพล่งขึ้น
ตอนนั้นเขาเองก็รู้เรื่องนี้เช่นกัน แม่ของเขาบอกเอาไว้ว่าตอนนั้นคุณพ่อซูกำลังร้อนเงิน และครอบครัวเขาก็มีเงินไม่พอ…
“แม่ก็แค่เล่าให้ฟังเท่านั้นเอง” น้าหลี่เอ่ยด้วยความรู้สึกเสียดายเล็กน้อย ไม่อย่างนั้นลูกสะใภ้แสนกตัญญูคนนี้คงได้มาอยู่ในตระกูลหลี่ของนางแล้ว
“แล้วเหอเชี่ยนเป็นยังไงบ้างล่ะ?” น้าหลี่หันไปถามเขา
“ทุกอย่างก็ปกติดีครับ แต่ช่วงนี้หล่อนหลับยาวแล้วก็ง่วงเร็วมากเลย” หลี่จื้อบอก
“ตอนนี้หล่อนก็ท้องแก่แล้ว แกน่าจะออกไปยืดเส้นยืดสายบ้าง อย่าเอาแต่ทำงาน ถ้ามีเวลาก็พาหล่อนออกไปเดินเล่นบ้าง เข้าใจไหม?” น้าหลี่กำชับ
“ครับ” หลี่จื้อพยักหน้ารับ
“นี่เป็นงาที่เพิ่งจะเก็บเกี่ยวปีนี้ แกเอากลับไปตุ๋นกับไก่ให้หล่อนกินนะ ถั่วเหลืองพวกนี้ก็มีประโยชน์มาก อยากจะเอาถั่วลิสงกลับไปบ้างไหมล่ะ?” น้าหลี่เก็บของพลางถามขึ้ น
“เอามาสักหน่อยก็ได้ครับ เรา 2 คนชอบเอาไปตุ๋นกับขาหมู” หลี่จื้อตอบ
น้าหลี่พยักหน้า นางห่อให้เขา และให้เขานำกลับไปที่บ้าน
หลี่จื้อแวะมาที่บ้านตระกูลจี้เพื่อมาหาลูกสาว ก่อนจะกลับเข้าไปในเมือง
ตั้งแต่แต่งงานครั้งใหม่ หลี่จื้อก็มีน้ำหนักเพิ่มขึ้นมาก และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นไปอีกเรื่อย ๆ แสดงให้เห็นว่าภรรยาที่เลือกมาเป็นคนที่เหมาะสมกับเขา
ตอนที่แต่งงานกับจี้อวิ๋นอวิ๋น ลูกชายของนางกลับมาครั้งใด น้าหลี่ก็นึกไม่พอใจที่ได้เห็นทุกครั้งไป ทำไมเขาถึงได้ผอมแห้งขนาดนั้น?
ตอนนี้คงเรียกได้ว่าแต่งงานถูกคน และยังดูอุดมสมบูรณ์ขึ้น
ไม่ได้มีเพียงแต่น้าหลี่ที่คิดเช่นนั้น ซูตานหงกับจี้เจี้ยนอวิ๋นก็รู้สึกแบบนั้นเช่นกัน “หลี่จื้อมาหาหยวนหยวนปีนี้ ฉันว่าเขาดูอ้วนขึ้นเยอะเลยนะคะ”
“ครอบครัวกลมเกลียว การงานก็มั่นคง ตอนนี้ยังมีลูกอีกคน เป็นธรรมดาที่จะอ้วนขึ้นน่ะครับ” จี้เจี้ยนอวิ๋นบอกอย่างไม่คิดมาก
ครั้งก่อนเขาเข้าเมืองไปและบังเอิญเจอหลี่จื้อ เขาก็เห็นว่าอีกฝ่ายกำลังเดินมากับเหอเชี่ยน ดูผิดหูผิดตากับเมื่อก่อนลิบลับ
เมื่อพูดถึงหลี่จื้อ มันก็ชวนให้นึกถึงจี้อวิ๋นอวิ๋นด้วย จี้เจี้ยนอวิ๋นจึงมีสีหน้าหม่นหมองลง
ซูตานหงไม่รู้ว่าเขาคิดอะไรอยู่จึงเอ่ยขึ้น “ฉีฉีบอกว่าจะมีประชุมผู้ปกครองวันมะรืนนี้ คุณไปสิคะ”
“ให้พ่อบุญธรรมไปเถอะครับ” จี้เจี้ยนอวิ๋นบอก
“คุณไปเองดีกว่าค่ะ คุณจะให้พ่อบุญธรรมออกหน้าจัดการทุกอย่างไม่ได้นะคะ คุณต้องไปในฐานะพ่อ” ซูตานหงเอ่ย
“ก็ได้ครับ” จี้เจี้ยนอวิ๋นรับคำ
ตอนเหรินเหรินเรียนอยู่ยังไม่มีการประชุมผู้ปกครอง ตอนนี้ถึงมีการกำหนดขึ้นมา เห็นได้ชัดว่าเป็นยุคสมัยแห่งการพัฒนา
………………………………………………………………………………………………………………………..
สารจากผู้แปล
มีคนรักถูกคน ชีวิตก็มีความสุขแบบนี้แหละค่ะ
เจี้ยนอวิ๋นจะได้รับรู้วีรกรรมที่โรงเรียนของลูกชายก็คราวนี้แหละมั้งคะ ๕๕๕
ไหหม่า(海馬)