ทะลุมิติไปเป็นเศรษฐีนียุค 80 [重生八零致富记] - ตอนที่ 405 ได้ชื่อว่าเป็นแม่สามีที่ดี
ตอนที่ 405 ได้ชื่อว่าเป็นแม่สามีที่ดี
นางมาซื้อไก่ ซึ่งหนักราว 5 ชั่งได้ ถือว่าเป็นไก่ที่ตัวโตทีเดียว
ปกติแล้วไก่ของจี้เจี้ยนอวิ๋นจะมีน้ำหนักประมาณ 2 ถึง 3 ชั่ง ตัวค่อนข้างเล็ก ไม่ใหญ่เท่าของเจ้าอื่น
หากแต่กลับขายดีเป็นเทน้ำเทท่า ถึงแม้ไก่จะตัวเล็ก แต่กลับมีสารอาหารทัดเทียมกัน ดังนั้นหากจะกินให้อิ่ม จึงไม่จำเป็นต้องซื้อตัวใหญ่นัก ทำให้ช่วยประหยัดเงินด้วย
คุณแม่จี้มาซื้อไก่ตัวโตขนาดนี้ อวิ๋นลี่ลี่จึงทำท่าจะออกเงินให้ แต่คุณแม่จี้กลับห้ามไว้ ก่อนจะยื่นเงินให้เจ้าของร้านแทน
“คุณเป็นแม่สามีที่ดีจังเลยนะครับ” เจ้าของร้านเอ่ยพร้อมส่งยิ้ม
“แน่นอนอยู่แล้วค่ะ เราสองสามีภรรยาทำงานหาเงินอย่างหนัก ลูกเรายังเด็กและต้องไปโรงเรียน แม่สามีเป็นคนดูแลบ้านให้ฉัน ถ้าไม่มีท่าน เราคงไม่ได้กินข้าวร้อน ๆ ตรงเวลาหรอกค่ะ ” อวิ๋นลี่ลี่บอก
หล่อนเป็นคนช่างเจรจาอยู่แล้ว จึงเริ่มพูดคุยกับเจ้าของร้าน ภรรยาเจ้าของร้านได้ยินเช่นนั้นก็พูดถึงแม่สามีของตนขณะที่ชำแหละไก่ ซ้ำบอกว่าต่างกันราวฟ้ากับเหว เทียบไม่ได้เลยสั กนิด
คุณแม่จี้ยิ้มแก้มปริตลอดทางกลับบ้าน นางปลาบปลื้มใจกับคำชมของเจ้าของร้านไม่น้อย
นางคิดว่าตนเป็นแม่สามีแสนประเสริฐที่หาได้ยาก เป็นที่ต้องการของทั้งลูกชาย ลูกสะใภ้ และหลานสาว แน่นอนว่านางย่อมยินดีช่วยเต็มที่
นึกถึงสภาพของเจี้ยนเหวินตอนที่นางมาถึงครั้งแรกสิว่าซูบผอมขนาดไหน? อย่าว่าแต่เจี้ยนเหวินเลย แม้แต่เยียนเอ๋อร์ยังหน้าตอบลงไปมาก ทำให้นางปวดใจนัก
หลานสาวของนางผอมกะหร่องเพียงนี้ แต่ดูเหรินเหรินกับน้อง ๆ ของเขาสิ พวกเขาแข็งแรงอย่างกับอะไรดี
พอตอนนี้นางมาอยู่ที่นี่ อาหารในครอบครัวจึงมีมากขึ้น หน้าตาผิวพรรณของเธอก็ดีขึ้นตามไปด้วย เจี้ยนเหวินเองก็มีกล้ามเนื้อขึ้นบ้าง
“คุณแม่คะ ไก่ตัวหนึ่งมันเยอะเกินไป แบ่งไว้เคี่ยวสัก 2 ครั้งเถอะค่ะ” อวิ๋นลี่ลี่บอก
หล่อนรู้ว่าคุณแม่จี้คิดอะไรอยู่ แต่ไม่ได้นึกใส่ใจ ถึงอย่างไรหล่อนก็ไม่ได้ออกเงินอยู่แล้ว ไก่ตัวนี้ราคา 12 หยวน เรียกได้ว่าแพงหูฉี่ โชคดีที่หล่อนไม่ต้องจ่ายเอง ทำเพี ยงแค่พูดประจบสอพลอเท่านั้น
“ได้สิ คืนนี้กินน้ำแกงกระดูกหมูแล้วกัน พรุ่งนี้กับวันมะรืนค่อยเคี่ยวน้ำแกงไก่กิน” คุณแม่จี้บอก
อวิ๋นลี่ลี่พยักหน้าและเอ่ย “เอาตามที่คุณแม่บอกเลยค่ะ”
“เธอเองก็ทำงานหนักมา คืนนี้ซดน้ำแกงบำรุงสักหน่อยเถอะ” คุณแม่จี้กล่าว
อวิ๋นลี่ลี่พยักหน้า ลับหลังกลับส่ายศีรษะเมื่อเห็นนางเป็นเช่นนี้ พี่สะใภ้สามของหล่อนทำมากถึงเพียงนี้กลับไม่อาจเปลี่ยนความคิดของนางได้ ในขณะที่ตัวหล่อนไม่ได้ทำอะไร เพียงแ แค่พูดยกยอปอปั้น กลับได้รับคำชมเสียมากมาย
แต่ถึงอย่างไรพักนี้อาหารการกินที่บ้านก็ดีขึ้นมาก
สำหรับครอบครัวของพวกเขา คุณแม่จี้ยินดีดูแลทุกอย่างให้ ด้วยนางหวังให้พวกเขาสุขสบาย
หลังจากทำโจ๊กเป็นมื้อเช้าให้ คุณแม่จี้ก็ผัดหมูกับขึ้นฉ่ายและผักกาดดอง แม้จะใส่หมูไม่มากแต่ก็มีรสชาติอร่อย หลังจากกินเสร็จ คนที่มีหน้าที่เรียนหนังสือก็ออกไปโรงเรียน ส่วน นคนที่ควรไปทำงานก็ออกไปทำงาน
คุณแม่จี้นำไก่ครึ่งตัวออกมาเคี่ยว และเริ่มซักเสื้อผ้าและทำความสะอาดบ้าน
ที่บ้านมีเครื่องซักผ้าและตู้เย็นอยู่ ซึ่งจี้เจี้ยนเหวินกับอวิ๋นลี่ลี่ซื้อมาหลังจากใช้หนี้ค่าบ้านหมด
อย่างไรก็ตามการใช้เครื่องซักผ้านั้นต้องเสียค่าไฟและค่าน้ำ ที่นี่มีคนอยู่ไม่มาก และพวกเขาไม่ต้องไปทำสวนทำไร่ ทำให้เสื้อผ้าสะอาดสะอ้าน คุณแม่จี้จึงเลือกที่จะซักมือ และนำไปต ตากลมหลังจากซักเสร็จ
นางเริ่มทำความสะอาดห้อง จนทั้งห้องสะอาดเอี่ยมอ่อง
ที่นี่เป็นบ้านที่ลูกชายนาง ลูกสะใภ้ และนางจะอยู่ไปตลอดชีวิต แน่นอนว่านางต้องทำความสะอาดให้ดี ไม่เช่นนั้นจะดูน่าอยู่อาศัยได้อย่างไร?
เมื่อนางทำทุกอย่างเสร็จสิ้น น้ำแกงไก่ก็เริ่มส่งกลิ่นหอม แต่ตอนนี้ยังไม่สามารถกินได้ ต้องเคี่ยวต่ออีกสักพักหนึ่ง
นางเริ่มหยิบเสื้อผ้าของจี้เจี้ยนเหวิน เยียนเอ๋อร์ และอวิ๋นลี่ลี่ออกมา ทั้งหมดเป็นเสื้อผ้าฤดูหนาว ตอนนี้ถึงเวลาต้องเตรียมเอาไว้แล้ว พวกมันถูกนำออกมาตาก หากจำเป็นต้องซ ซักอีกครั้ง นางจะแยกพวกมันออกไปซัก
เวลาราว 10 โมงครึ่ง จี้อวิ๋นอวิ๋นก็แวะมาหา
เมื่อหล่อนมาหา คุณแม่จี้จึงปล่อยให้หล่อนเข้ามา ตอนนี้นางอยู่คนเดียว แน่นอนว่าต้องยอมให้ลูกสาวเข้ามาอยู่แล้ว
“ทำไมกลิ่นหอมจัง แม่เคี่ยวอะไรอยู่เหรอ?” จี้อวิ๋นอวิ๋นถาม
“แม่กำลังเคี่ยวไก่อยู่ เสร็จแล้วล่ะ เดี๋ยวจะตักมาให้แกกินให้ชุ่มคอสักชาม รอเดี๋ยวนะ” เมื่อได้เจอลูกสาว คุณแม่จี้มีความสุขมากและบอกด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม
เหตุผลที่นางเรียกร้องจะกินไก่เมื่อวาน ย่อมเป็นเพราะว่านางตกลงกับลูกสาวไว้แล้วว่าหล่อนจะมาหาในวันนี้ นางจึงต้องการเตรียมอาหารบางอย่างไว้ให้กิน สำหรับผู้หญิงที่กำลังตั งครรภ์ ไม่มีอะไรจะดีไปกว่าน้ำแกงไก่แล้ว
ยิ่งได้น้ำแกงไก่ที่ทำมาจากไก่ที่สวนยิ่งช่วยบำรุง นางจึงอยากได้สักตัวมาทำอาหารให้ลูกสาว
เพียงแค่นึกไม่ถึงว่าซูตานหงจะไม่ได้ส่งมาให้ ทำให้นางหงุดหงิดใจมาก
“จากบ้านจี้เจี้ยนอวิ๋นหรือเปล่าคะ? อย่างนั้นฉันไม่กินนะ!” จี้อวิ๋นอวิ๋นเอ่ยฟึดฟัด
ด้วยสถานะของหล่อนในตอนนี้ หล่อนจะต้องการอะไรอีก? หล่อนไม่คิดกินของจากบ้านของจี้เจี้ยนอวิ๋นและซูตานหงแม้แต่น้อย!
ตอนนี้จี้อวิ๋นอวิ๋นเกลียดขี้หน้าจี้เจี้ยนอวิ๋นกับซูตานหง ต่อให้พวกเขาไม่พอใจอย่างไร ก็ไม่ควรทอดทิ้งแม่ของหล่อนและส่งมาอยู่ที่นี่
แม้นางจะยินดีมาอยู่กับพี่สี่ เขาคงไม่ทิ้งขว้างแม่ของตนอย่างแน่นอน แต่ทัศนคติของพวกเขาก็มีปัญหา!
“ไม่ได้มาจากที่นั่นหรอก ซูตานหงไม่ได้ส่งไก่มาให้แม่เลย แม่ออกไปซื้อกับพี่สะใภ้สี่เมื่อวานน่ะ” คุณแม่จี้บอก
“พี่สะใภ้เป็นคนออกเงินหรือแม่ออกเงินซื้อคะ?” จี้อวิ๋นอวิ๋นถาม
“แม่ออกเอง” คุณแม่จี้ตอบ
“แม่เป็นคนออกเองเหรอ?” จี้อวิ๋นอวิ๋นมุ่ยหน้า
ไม่ทันที่หล่อนจะได้พูดอะไร คุณแม่จี้ทำทีไม่คิดมากและบอก “จะเป็นอะไรไปล่ะ? เรื่องระหว่างแม่กับพี่สี่ของลูกไม่มีข้อกังขา แล้วเมื่อวานพี่สะใภ้สี่ก็รีบชิงยื่นเงินให้ก่อนแล้ วด้วย พี่สี่ลำบากพออยู่แล้ว หลายปีที่ผ่านมานี้ เขาต้องคอยจ่ายหนี้ตลอดเลย”
จี้อวิ๋นอวิ๋นไม่ได้พูดอะไร หล่อนเห็นว่าพี่สะใภ้สี่ใช้ชีวิตอย่างยากลำบากจริง ๆ ในช่วงแรกอวิ๋นลี่ลี่ช่วยพี่สี่ใช้หนี้ค่าบ้าน ภายหลังกลับสูญเสียงานไปและเป็นหนี้ก้อนโตเพรา าะมาทำธุรกิจกับหล่อน
“อีกอย่างแม่ช่วยจ่ายค่าอาหารบ้างจะเป็นอะไรไป? ตอนนี้แม่มีเงินอยู่ แกไม่ต้องกังวลเรื่องนี้หรอก เงินที่แม่ใช้จ่ายค่าอาหาร แกจะเป็นห่วงเรื่องนี้ไปทำไมกัน?” คุณแม่จี้บอก
“ค่ะ” จี้อวิ๋นอวิ๋นพยักหน้า ก่อนจะหันไปทางห้องนอนพี่สี่ “ฉันเคยชอบห้องนี้นะคะ แต่ตอนนี้มันดูเหมือนรูหนูไปแล้ว”
“ที่นี่เทียบกับที่อยู่ของแกไม่ได้อยู่แล้วล่ะ” คุณแม่จี้เอ่ย
นางเคยได้ยินเรื่องนี้มา ว่าตอนนี้บ้านของลูกสาวนางอยู่ในย่านคนรวยในเมืองเจียงสุ่ย มีพื้นที่มากกว่า 100 ตารางเมตร ซึ่งหล่อนอยู่เพียงลำพังกับแม่บ้าน ย่อมต้องกว้างขวางกว่า เป็นธรรมดา
“แม่ ทำไมแม่ต้องซักผ้าเองด้วย?” จี้อวิ๋นอวิ๋นเดินมาที่ระเบียงและมองสำรวจ ก่อนมุ่ยหน้า “เครื่องซักผ้าก็มีนี่คะ”
“แม่อยู่บ้านว่าง ๆ ไม่มีอะไรทำ ค่าน้ำกับค่าค่าไฟก็ไม่ใช่ถูก ๆ ซักด้วยเครื่องซักผ้ามันเปลืองเงินมากเกินไป พี่สี่กับพี่สะใภ้ลูกจะได้ประหยัดเงินเอาไว้” คุณแม่จี้บอก
…………………………………………………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
อ้อ ที่นังแม่จี้เรื่องมากแบบนี้ก็เพราะมีลับลมคมในอย่างนี้นี่เอง คิดว่าตานหงอยากจะให้ไก่ไปเลี้ยงลูกสาวเนรคุณของแกเหรอ
นังสองอวิ๋นนี่ก็ขยันมาจริง ๆ อยากหมดเวรหมดกรรมกับนางแล้วหนอ
ไหหม่า(海馬)