ทะลุมิติไปเป็นเศรษฐีนียุค 80 [重生八零致富记] - ตอนที่ 406 เธอแอบตามฉันเหรอ?
ตอนที่ 406 เธอแอบตามฉันเหรอ?
“เงินเล็กน้อยแค่นั้นไม่ต้องประหยัดหรอกค่ะ” จี้อวิ๋นอวิ๋นบอก
สำหรับหล่อนแล้ว การประหยัดค่าน้ำค่าไฟเพียงไม่กี่หยวนต่อเดือนช่างไร้ประโยชน์ บางครั้งเงินที่หล่อนส่งให้โจวจื่อ ยังอยู่ที่ 100 ถึง 200 หยวน คิดเป็นค่าน้ำค่าไฟได้ตั้งกี่ปีกั น?
“ไม่เป็นไรหรอกน่า” คุณแม่จี้บอก “แกรอก่อนแล้วกัน เดี๋ยวแม่เอาน้ำแกงมาให้”
จี้อวิ๋นอวิ๋นพยักหน้า คุณแม่จี้จึงนำน้ำแกงไก่มาให้หล่อนกิน หลังจากกินเสร็จ จี้อวิ๋นอวิ๋นจึงบอก “น้ำแกงฝีมือแม่ถูกปากฉันที่สุดแล้วค่ะ น้ำแกงที่แม่บ้านทำให้รสชาติเทียบไม่ติด ดเลย”
“ถ้าชอบก็มาที่นี่บ่อย ๆ สิ แม่จะทำให้กินเอง” คุณแม่จี้ปลื้มใจมากและบอกพร้อมส่งยิ้มให้
จี้อวิ๋นอวิ๋นเอ่ย “ตอนนี้ท้องแก่แล้วค่ะ ใกล้จะคลอดแล้ว ต่อไปไม่น่าจะมาที่นี่ได้” หากต้องการมาหา หล่อนคงต้องรอให้คลอดลูกเรียบร้อยก่อน
“พี่สี่ยังไม่คิดจะย้ายบ้านอีกเหรอ ตอนนี้บ้านนี้คับแคบเกินไปแล้วนะคะ” จี้อวิ๋นอวิ๋นเอ่ย
“พี่สี่ของลูกยังไม่คิดเรื่องนี้หรอก ตอนนี้เขามีเงินไม่มาก ซูตานหงยังไม่รู้อีกว่าทำให้เขาลำบากแค่ไหน!” คุณแม่จี้เอ่ยฟึดฟัด
“พี่สี่ก็ดื้อด้านจริง ถ้าพี่เขายอมรับเงินจากฉันไป เขาก็จะใช้หนี้ได้หมดแล้ว ทำไมต้องทำให้ตัวเองลำบากด้วย?” จี้อวิ๋นอวิ๋นบ่น “ตอนนี้ถ้าพี่ไม่ซื้อบ้านที่ใหญ่กว่านี้ ต่อไ ไปถ้าอยากซื้อบ้านก็คงไม่ง่ายแล้ว”
“รอตอนที่พวกเขามีเงิน พวกเขาก็คงซื้อใหม่ได้ล่ะ” คุณแม่จี้บอก
“มีเงินเหรอคะ?” จี้อวิ๋นอวิ๋นเลิกคิ้ว “แม่คะ ฉันเคยบอกแล้วไง ต่อไปราคาบ้านจะพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ตอนนี้ก็ราคาขึ้นให้เห็นราง ๆ แล้ว ถ้าพี่สี่ไม่ซื้อตอนนี้ ต่อไปคงไม่ม มีปัญญาซื้อหรอกค่ะ”
“จะราคาแพงขนาดนั้นได้ยังไง” คุณแม่จี้ท้วง
“ทำไมจะไม่ได้ล่ะคะ?” จี้อวิ๋นอวิ๋นว่า “บ้านขนาดเท่าของพี่สี่ตอนนี้ ต่อไปจะราคาอย่างน้อย 500,000 หยวน…500,000 หยวนเลยนะคะ แพงสุด ๆ เลยล่ะค่ะ”
คุณแม่จี้ถึงกับอึ้ง “500,000 หยวนเหรอ?”
“ใช่ค่ะ ต่อไปราคาที่ต่อตารางเมตรจะแพงเท่ากับบ้านทั้งหลังนี้ เงินที่ใช้ซื้อที่ได้แค่ 2 ตารางเมตรในอนาคต สามารถซื้อบ้านตอนนี้ได้ทั้งหลังเลยนะคะ แม่คิดว่ายังไงล่ะ?” จี้ อวิ๋นอวิ๋นเลิกคิ้วและถามกลับ
หล่อนได้มาเกิดใหม่จากชาติที่แล้ว ราคาบ้านในตอนนั้นแพงจนน่าตกใจ มีคนมากมายแค่ไหนที่ดิ้นรนทั้งชีวิตแต่ยังไม่มีปัญญาซื้อบ้านได้?
อีกทั้งราคาบ้านในตอนนี้ยังแพงกว่าเมื่อก่อนมาก แต่ยังคงอยู่ในช่วงราคามาตรฐาน บ้านในเมืองเจียงสุ่ยราคาราว 8,000 ถึง 9,000 หยวน ได้ยินว่าในเมืองมหาวิทยาลัยราคาแพงกว่านี มาก ปีก่อนพุ่งไปถึง 10,000 หยวน ปีนี้ยังราคาขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ในสายตาของผู้คนสมัยนี้ ราคาบ้านถือว่าโหดร้ายมากแล้ว และหลายคนไม่สามารถซื้อได้
แต่ในมุมมองของจี้อวิ๋นอวิ๋น ราคาบ้านในตอนนี้ไม่ต่างกับราคาผักกาดขาวนัก ในตอนนั้นราคาบ้านในปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ กวางโจว และเสิ่นเจิ้นราคาขึ้นมาถึงเท่าไรแล้ว? ราคาเท่านี้นั บว่าถูกมาก
“เป็นไปไม่ได้หรอก เอาที่ไหนมาแพงขนาดนั้น” คุณแม่จี้บอก
“แม่ไม่เข้าใจหรอกค่ะ” จี้อวิ๋นอวิ๋นเอ่ย
“ในเมื่อต่อไปราคาบ้านจะแพงขนาดนั้น ทำไมแกไม่ซื้อไว้เองล่ะ?” คุณแม่จี้ถาม
“ฉันจะซื้อไปทำไม เหล่ากัวก็ทำธุรกิจอสังหาฯอยู่แล้ว ฉันจะซื้อไปเพื่ออะไรล่ะคะ?” จี้อวิ๋นอวิ๋นเลิกคิ้ว
ตอนนี้กัวต้งเหลียงเห็นช่องทางทำกำไรในกิจการอสังหาริมทรัพย์ เขาเบนเส้นทางธุรกิจทันที และหล่อนก็รู้ว่าเหล่ากัวใส่ใจหล่อนและลูกในท้องมากขนาดไหน เขายุ่งอยู่กับการทำธุร รกิจนอกบ้าน แต่ยังโทรมาหาหล่อนอยู่เสมอ
ทั้งยังมียาบำรุงต่าง ๆ ที่ส่งมาให้ทุกเดือน ทุกอย่างล้วนเป็นของที่ดีที่สุด
อันที่จริงจี้อวิ๋นอวิ๋นเคยต้องการซื้อบ้านมาก่อน ไม่อย่างนั้นหล่อนจะเก็บเอาไว้เผื่อในอนาคตได้อย่างไร? แต่เมื่อเห็นว่าเหล่ากัวดูแลหล่อนดีเพียงใด หล่อนก็รู้สึกว่าตนเองไม่จ จำเป็นต้องกังวลมากนัก
ตอนนี้มีระบบอัลตร้าซาวน์แล้ว หล่อนไปตรวจดูและมั่นใจว่าตนเองมีลูกชาย ซึ่งเป็นข่าวดีมาก เหล่ากัวเองยินดีมากเช่นกัน
ต่อไปทุกอย่างที่เหล่ากัวพยายามทำอยู่มีหรือจะไม่ตกเป็นของหล่อนกับลูกชาย? นอกจากนี้เขายังเป็นเจ้าของอสังหาริมทรัพย์เอง หากต้องการบ้านสักหลัง ยังจะต้องกังวลว่าหล่อนจะไม่ได้ ด้วยหรือ?
ยิ่งไปกว่านั้นแม้บ้านในอนาคตจะราคาแพง มีคนมากมายที่ไม่มีเงินซื้อ แต่ต่อไปหล่อนจะร่ำรวยเป็น 100 ล้านหยวน และสามารถซื้อบ้านพวกนั้นได้อย่างง่ายดาย แล้วหล่อนจะต้องคิดมากอะไร รอีก?
จี้อวิ๋นอวิ๋นอยู่ที่นี่ได้ราวครึ่งชั่วโมง เวลาก็ล่วงเลยใกล้ถึง 11 โมง หล่อนจึงกลับไป ตอนนี้พี่สี่ยังไม่ให้อภัยหล่อน ซ้ำยังไม่ติดต่อหล่อนด้วย
คุณแม่จี้มีท่าทางฝืนใจเหลือเกิน นางไปส่งหล่อนด้านล่าง ก่อนจะกลับขึ้นมา
จี้อวิ๋นอวิ๋นเดินเล่นไปเรื่อยเปื่อย และคิดจะกลับบ้านเหมือนทุกครั้ง แต่บังเอิญเจอสะใภ้ใหญ่อวิ๋นเสียก่อน
จี้อวิ๋นอวิ๋นยกมือปกป้องหน้าท้องตนเองโดยไม่รู้ตัว ต่อให้หล่อนเด็ดเดี่ยวและมั่นใจแค่ไหน หล่อนก็ยังรู้สึกผิดเล็กน้อยเมื่อพบหน้าภรรยาของพี่ใหญ่อวิ๋น
ถึงอย่างไรลูกในท้องหล่อนก็เป็นลูกของพี่ใหญ่อวิ๋น
“เธอจะให้พูดกลางถนนตรงนี้ หรือไปคุยกับฉันตรงโน้น” สะใภ้ใหญ่อวิ๋นกัดฟันกรอด และเหลือบมองหน้าท้องหล่อน ก่อนหันไปหาจี้อวิ๋นอวิ๋น และพูดขู่
จี้อวิ๋นอวิ๋นตอกกลับ “ฉันไม่มีอะไรจะคุยกับเธอ”
หล่อนปฏิเสธจะคุยกับอีกฝ่าย ใครจะรู้ว่าสะใภ้อวิ๋นอาจบ้าขึ้นมาอีกก็ได้ หล่อนมีไข่ทองคำอยู่ในท้อง ต้องพึ่งพาลูกคนนี้ไปตลอดชีวิต!
“ถ้าเธอไม่มากับฉัน ฉันจะตามเล่นงานและป่าวประกาศให้ทุกคนรู้เรื่องนี้ บอกว่าลูกในท้องเธอเป็นลูกของสามีฉัน เธอเอาเชื้อของสามีฉันไปหลอกผู้ชายรวย ๆ ว่าเป็นลูกของเขา!” ส สะใภ้ใหญ่อวิ๋นก้าวมาหาและกระซิบข่มขู่
เดิมทีจี้อวิ๋นอวิ๋นต้องการเลี่ยง แต่เมื่อได้ยินคำพูดเหล่านั้น หล่อนถึงกับชะงักไป
สะใภ้ใหญ่อวิ๋นรู้เรื่องนี้ได้อย่างไรกัน?
“ไร้สาระ นี่เป็นลูกของเหล่ากัว ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับอวิ๋นต้าไห่เลย อย่ามาพูดมั่ว ๆ นะ!” จี้อวิ๋นอวิ๋นกัดฟันกรอด
หากหล่อนไม่รู้ว่าในอนาคตการแพทย์จะทันสมัยจนสามารถตรวจพันธุกรรมได้ หล่อนคงจะไม่ตื่นตระหนกขนาดนี้
แต่หล่อนรู้ดีว่าถ้าลูกของเหล่ากัวเกิดมา เขาต้องรู้เรื่องนี้ในภายหลัง หล่อนจะปิดบังเรื่องนี้ได้อย่างไร?
“ยังจะมาพูดแบบนี้อีก ฉันเห็นกับตาว่าเธอขึ้นเตียงกับอวิ๋นต้าไห่ เธอคงยังไม่ลืมเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อช่วงปีใหม่หรอกนะ ดูท้องของเธอสิ นับเดือนดูแล้ว ก็พอดีกับที่เ เธอไปมีอะไรกับอวิ๋นต้าไห่เลยไม่ใช่เหรอ?” สะใภ้ใหญ่อวิ๋นพูดเหยียด
พูดจบหล่อนก็เชิดใส่อีกฝ่าย ก่อนจะเดินเข้าไปในตรอกเล็ก ๆ
จี้อวิ๋นอวิ๋นสูดหายใจลึก และทำได้เพียงเดินตามไป
“เธอแอบตามฉันอยู่เหรอ?” จี้อวิ๋นอวิ๋นกัดฟันกรอดและมองหน้าสะใภ้อวิ๋น ก่อนถามขึ้น
หล่อนครุ่นคิดไปมา ต้องใช่แน่ ๆ โจวจื่อหักหลังหล่อนอย่างนั้นหรือ? ไม่สิ โจวจื่อไม่รู้เรื่องนี้ของหล่อนด้วยซ้ำ หรือจะเป็นอวิ๋นต้าไห่ที่รวมหัวกับสะใภ้ใหญ่อวิ๋นกัน?
แบบนั้นยิ่งเป็นไปไม่ได้ คนอย่างอวิ๋นต้าไห่ไม่โง่ขนาดนั้น เขารู้ดีกว่าใครว่าตัวเองจะได้ผลประโยชน์มากกว่า หากเด็กคนนี้เกิดมา
อย่างนั้นก็มีเพียงความเป็นไปได้เดียว ต้องเป็นสะใภ้ใหญ๋อวิ๋นที่บังเอิญเห็นหล่อนตั้งท้องในคราวที่แล้วจึงแอบตามดูหล่อน หรืออาจตามจับตามองภายหลัง ถึงได้รู้เรื่องราวพวกนี้!
………………………………………………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
อยากซื้อบ้านก็ซื้อเองสิยะ ทำไมต้องบังคับให้คนอื่นซื้อตามด้วย เขาเข็ดขยาดกับธุรกิจที่เจ๊งไม่เป็นท่าเมื่อคราวที่แล้วน่ะสิ คนอื่นเขาไม่ได้กินหญ้านะนังอวิ๋น
ฉันต้องแปลพาร์ทของนางคนนี้ไปอีกนานแค่ไหนกันหนอ อยากแปลพาร์ทของตานหงแล้วหนอ
ไหหม่า(海馬)