ทะลุมิติไปเป็นเศรษฐีนียุค 80 [重生八零致富记] - ตอนที่ 413 เด็กแถวบ้าน
ตอนที่ 413 เด็กแถวบ้าน
ทั้งครอบครัวย่อมยินดีที่เหรินเหรินได้ที่ 1 กลับมา
ประกาศนียบัตรถูกแขวนไว้บนผนังบ้าน บนผนังมีประกาศนียบัตรแขวนเต็มอยู่แล้ว ทั้งหมดเป็นของเหรินเหริน
ส่วนของฉีฉียังไม่มี เขาเพิ่งเข้าเรียนประถมปีนี้ และอาจได้ประกาศนียบัตรมาในช่วงปลายภาค
น่าจะเป็นเช่นนั้น เด็กคนนี้เจริญรอยตามพี่ชาย เขาสอบได้คะแนนเต็มถึง 2 วิชา แม้ว่าจะซนไปหน่อย แต่ผลการเรียนของเขาดีมาก
ตอนนี้ผลไม้ที่สวนใกล้เก็บเกี่ยวได้แล้ว หลังจากลูกพลับรอบสุดท้ายถูกเก็บ พวกมันจะถูกนำมาทำลูกพลับแห้งเก็บเอาไว้ ไม่กี่วันก็จะมีรสชาติหวานฉ่ำ
ต้นเดือนพฤศจิกายน อากาศหนาวเย็นขึ้นมาก
จี้เจี้ยนอวิ๋นซื้อผ้านวมมาใหม่ เพื่อมอบให้แก่ผู้อาวุโสในหมู่บ้าน ผู้เฒ่าผู้แก่เหล่านี้จึงได้ผ้านวมผืนใหม่ไปใช้
มันทั้งนุ่มนิ่ม ผืนใหญ่ และอุ่นสบาย
จี้เจี้ยนอวิ๋นใช้เงินซื้อผ้านวมไปมากทีเดียว แต่เขาไม่ได้คิดมาก เขาเปลี่ยนผ้านวมใหม่ในรอบ 3 ปี จะเสียเงินสักเท่าไรกันเชียว?
อีกทั้งผู้หลักผู้ใหญ่ในหมู่บ้านต่างมีความสุขกัน
หลายปีที่ผ่านมา จี้เจี้ยนอวิ๋นช่วยเหลือชาวบ้านมาตลอด ในช่วงวันปีใหม่ เขาไม่เพียงแต่จะให้ของขวัญปีใหม่ แต่ยังให้ผ้านวมในหน้าหนาวอีกด้วย ลูกชายของพวกเขายังไม่กตัญญูเท่าเขาเลย
อย่างไรก็ตามจี้เจี้ยนอวิ๋นดูแลเพียงชาวบ้านในหมู่บ้านของตน ส่วนหมู่บ้านอื่น เขาไม่ได้ทำเช่นนี้
ต่อให้เขาต้องการดูแลจริง ๆ เขาคงไม่สามารถดูแลได้หมดเช่นกัน
เพียงดูแลคนในหมู่บ้านของตนได้ ก็นับว่าดีมากแล้ว
ช่วงนี้เขาเริ่มขุนหมูให้อ้วนท้วน เนื่องจากเดือนหน้าจะถึงเวลาชำแหละแล้ว จึงต้องให้อาหารหมูเป็นจำนวนมากทุกวัน
ลุงจี้ยุ่งกับงานที่สวนเช่นกัน จี้เจี้ยนอวิ๋นจึงจ้างเด็ก ๆ ให้ไปทำงานที่สวน เช่นจี้เสี่ยวตงและคนอื่น ๆ โดยบอกให้พวกเขาขึ้นไปช่วยงานในวันหยุด ไม่อย่างนั้นลุงจี้กับคนงานคนอื่ นจะได้พักได้อย่างไร?
เด็กเหล่านี้ทำงานกันดีมาก เลิกงานแล้วพวกเขาจะได้ค่าจ้าง 2 หยวน พวกเขาจึงตั้งใจกันมาก
สมัยนี้เนื้อหมูขายดี ทั้งยังราคาสูงทีเดียว เพียงแค่การเลี้ยงหมูใช้เวลามากและต้องเสียค่าแรง ช่วงแรกยังมีหลายคนเลี้ยงพวกมันกัน ภายหลังจำนวนคนเลี้ยงกลับค่อย ๆ ลดลงจนเหลือไม่ มากนัก
หากแต่กิจการขายหมูของจี้เจี้ยนอวิ๋นยังเติบโตอย่างต่อเนื่อง
เขาถนัดด้านการเลี้ยงหมูเป็นพิเศษ หลังเลี้ยงหมูมาหลายปี เขาไม่เคยเจออุปสรรคสักครั้ง ทุกตัวทั้งอ้วนท้วนและแข็งแรง ปกติแล้วจะได้มากกว่า 300 ชั่งหลังจากชำแหละ เรียกได้ว่าเป็น นหมูขนาดมหึมา!
ไม่แปลกที่ตอนนี้ลุงจี้กับคนงานจะเน้นไปที่การเลี้ยงหมู ไม่มีเล้าไก่ที่สวนแห่งที่ 2 แล้ว ขณะที่สวนแห่งที่ 3 มีไว้สำหรับการเลี้ยงไก่ ซึ่งเหมือนกับสวนแห่งแรก
ส่วนสวนแห่งที่ 4 มีเพื่อการเลี้ยงสัตว์อื่น ๆ ทั้งวัว ม้า และแกะ รวมถึงไก่ โดยเลี้ยงพวกมันไว้หลายตัว เมื่อถึงช่วงออกไข่ มีไข่ 7 ถึง 8 ฟองทุกวัน ไม่กี่วันให้หลัง จะได้ไข่ไก่ ตะกร้าใหญ่กลับบ้าน
ตอนนี้เป็นช่วงที่งานที่สวนแห่งที่ 2 ยุ่งที่สุด หลังจากหมูรอบนี้ถูกชำแหละ การจัดการลูกหมูชุดใหม่ไม่ใช่งานหนัก และพวกเขาจะมีเวลาว่างมากขึ้น
ซูตานหงขึ้นมากับเสียงเสียงและหยวนหยวนในวันนั้น ถึงหยวนหยวนจะย่นจมูก แต่เธอไม่คิดโวยวาย เป็นเสียงเสียง เจ้าเด็กแสบที่ว่าออกมา “กลิ่นแรงจังเลยครับ!”
“กลิ่นแรงอะไรกัน หมูที่ลูกกินเมื่อวานก็มาจากที่นี่ทั้งนั้น” ซูตานหงบอก
ท่าทีเสียงเสียงแปลกใจขึ้นมา เขาอึ้งไป ด้วยไม่อยากจะเชื่อเรื่องนี้
“ไปได้แล้ว ไปให้อาหารหมูสิ” ซูตานหงสั่ง
“ผมไม่ไปหรอก” เสียงเสียงโพล่งบอก
“เดี๋ยวแม่จะให้ 5 เหมา” ซูตานหงเอ่ย
เสียงเสียงพลันลังเลใจ สำหรับเด็กวัยนี้ เขาถูกหลอกล่อได้ง่าย
แต่เสียงเสียงยังคิดต่อรอง “พี่เสี่ยวตงขึ้นมาทำงาน พวกพี่ยังได้กันตั้ง 2 หยวนเลยนะครับ!”
“พี่เสี่ยวตงทำงานทั้งวันยังได้แค่ 2 หยวนเอง การหาเงินมันไม่ง่ายนะลูก แต่ลูกให้อาหารหมูแค่นี้ยังได้มากถึงขนาดนี้? แม่ให้ตั้ง 5 เหมาเลยนะ” ซูตานหงอธิบาย
หยวนหยวนบอก “น้าสะใภ้สามคะ หนูก็อยากให้น้ำหมูค่ะ”
“หยวนหยวน ดีมาก ทำเป็นตัวอย่างให้พี่ชาย ไม่สิ ให้เสียงเสียงดูนะ” ซูตานหงเอ่ย
เธอเกือบเรียกผิดไป โดยแทบจะคิดว่าเสียงเสียงเป็นพี่ชาย แต่หยวนหยวนเป็นน้องสาวไปเสียแล้ว
“หึ!” เสียงเสียงไปให้อาหารหมู เขาไม่ได้เห็นแก่เงิน 5 เหมาหรอกนะ
หลังจากให้อาหารและน้ำหมูเสร็จ เขาวิ่งไปขอเงินกับผู้เป็นแม่
ซูตานหงเอาให้เขาก่อนบอก “ดีมาก นี่รางวัลของลูก”
เสียงเสียงดีอกดีใจ ซูตานหงให้เงินหยวนหยวน 5 เหมาเช่นกัน
“ลูกรีบร้อนจะเป็นพี่ชาย แต่กลับไม่ใส่ใจอย่างหยวนหยวนเลยนะ” ซูตานหงบอกเมื่อเด็กชายมาหา
“ผมเองก็ตั้งใจทำงานนะครับ!” เสียงเสียงท้วงขึ้น
“ต่อให้ลูกไม่ตั้งใจก็ช่วยไม่ได้หรอก ผู้หญิงทำงานเลอะเทอะมากไม่ได้ พวกผู้ชายอย่างลูกนั่นแหละต้องทำ” ซูตานหงบอก
เสียงเสียงฟึดฟัด ก่อนจะพาหยวนหยวนไปซื้อผงบ๊วยเปรี้ยวมากิน ตอนนี้เธอชอบกินผงบ๊วยและขนมขี้หนูมาก ไม่นึกเบื่อเลยสักนิด
ในขณะที่หยวนหยวนซื้อขนมพวกนี้ เสียงเสียงกลับใช้เงิน 5 เหมาซื้อลูกแก้ว และพาหยวนหยวนไปเล่นลูกแก้วกับเด็กคนอื่น
เขากลับมาในสภาพเลอะเทอะและเปื้อนฝุ่น แต่เขาชนะได้ลูกแก้วกลับมามากทีเดียว
ทีแรกซูตานหงแปลกใจเมื่อเห็นลูกแก้วพวกนี้ ไม่สิ เธอแปลกใจที่ยังได้เห็นลูกแก้วพวกนี้ต่างหาก
เมื่อชาติก่อนของเธอ ลูกแก้วพวกนี้มีชื่อเฉพาะ เรียกว่าหลิวหลี
แต่ว่ามันราคาแพงมาก เรียกว่าล้ำค่ายังไม่เกินจริง
นึกไม่ถึงว่าจะเป็นของธรรมดาในชาตินี้ ในทางกลับกันแจกันและโถที่เธอคิดว่าเป็นของสามัญในชาติที่แล้ว ตอนนี้กลับเป็นของเก่าแก่ และมีมูลค่าสูงมากได้อย่างไร?
คงจริงที่สิ่งต่าง ๆ ล้วนไม่เที่ยง
ซูตานหงยังดุเสียงเสียง เมื่อเห็นหยวนหยวน เธอออกไปเล่นและกลับมาโดยตัวไม่เลอะเลยแม้แต่น้อย เขาจะทำตัวเหมือนเธอบ้างได้ไหม? เสื้อผ้าเขาเปรอะไปหมด ไม่ต้องบอกว่าเธอต้องเอา มาซักทุกวัน
อย่างไรก็ตาม เสียงเสียงเคยชินกับการถูกดุแบบนี้ เขาไม่สะทกสะท้านแต่อย่างใด
ซูตานหงไม่รู้ว่าเขาได้เชื้อใครมาก ตอนเด็กเขายังน่ารักว่าง่าย ตอนนี้กลับซนเหลือเกิน
แม้เขาจะทำให้เธอปวดหัว แต่ส่วนใหญ่ เธอก็ค่อนข้างเอ็นดูลูกชายอยู่มาก
“กินซุปงาดำไหม?” ซูตานหงถามเขา หลังจากต้มซุปงาดำเสร็จ
“หวานหรือเปล่าครับ?” เสียงเสียงถาม
“ใส่น้ำตาลกรวดลงไปแล้ว” ซูตานหงบอก
เสียงเสียงจึงยอมตกลงกิน แต่ชิมเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เสียงเสียงกินไปไม่มาก เพราะมันไม่หวานสักนิด เขากินซุปงาดำไปชามเล็ก ก่อนที่ซูตานหงจะปล่อยเขาไป