ทะลุมิติไปเป็นเศรษฐีนียุค 80 [重生八零致富记] - ตอนที่ 415 หาเอง!
ตอนที่ 415 หาเอง!
หลังจากเยียนเอ๋อร์ว่าจบ เธอวิ่งกลับเข้าไปขังตัวเองอยู่ในห้อง
ใช่แล้ว เธอไม่ชอบอาคนนี้แม้แต่น้อย และไม่ต้องการเห็นหน้า จึงทำเพียงเรียกย่าให้ ไม่มีทางจะเปิดประตูไปเจอ
คุณแม่จี้เดินมา บอกกับจี้อวิ๋นอวิ๋น “เยียนเอ๋อร์ยังเด็ก อย่าถือสาเธอเลยนะ”
“ไม่แปลกใจหรอกค่ะ เยียนเอ๋อร์โตมาที่บ้านเกิด เธอต้องได้ยินซูตานหงใส่ไฟหนูแน่ เป็นธรรมดาที่เยียนเอ๋อร์จะคิดแบบนี้” จี้อวิ๋นอวิ๋นเอ่ยอย่างเฉยชา
ตอนนี้เธอเข้าใจทุกอย่างอย่างถ่องแท้ และรู้สึกว่าโลกนี้ก็เป็นไปเช่นนี้
เมื่อมีเงินถึงจะได้รับการยอมรับ หากไม่มีเงินก็ไม่พ้นถูกดูแคลน สำหรับเยียนเอ๋อร์ หลานสาว เธอไม่ได้สนใจว่าอีกฝ่ายจะคิดเห็นเช่นไร เมื่อโตขึ้น หล่อนจะรู้เองว่ามีอาที่ประสบควา ามสำเร็จขนาดไหน แล้วจะนึกภาคภูมิใจ
“แล้วลูกล่ะ ทำไมถึงมาที่นี่ในวันอากาศหนาวแบบนี้?” คุณแม่จี้รีบนำชาร้อนมาให้ และถามขึ้น
“แม่บ้านดูแลลูกอยู่ที่บ้านค่ะ เขากินอิ่มนอนหลับดี” จี้อวิ๋นอวิ๋นบอก “แม่คะ ช่วงนี้แม่เป็นยังไงบ้าง?”
“ก็ดี ทุกอย่างก็ปกติ” ตอนนี้คุณแม่จี้ดีใจที่ได้เห็นลูกสาวเป็นคนใหม่ นางเอ่ย “แล้วสามีดูแลลูกดีไหม?”
“เหล่ากัวก็เหมือนเดิมตลอด หนูล่ะรำคาญ เขาโทรมาถามไถ่ตลอดเลย” จี้อวิ๋นอวิ๋นบอกพลางทำทีโวยวาย
แต่ดูจากหางคิ้วแล้ว เธอปลาบปลื้มใจมากทีเดียว
เธอต้องมีความสุขอยู่แล้ว ตั้งแต่เธอคลอดลูกชายให้เขา กัวต้งเหลียงแทบจะปรนนิบัติเธอราวกับไทเฮา ตอนนี้จ้างแม่บ้านถึง 2 คนมาดูแลเธอ
คนหนึ่งรับหน้าที่เลี้ยงลูก อีกคนรับผิดชอบงานบ้าน มีการแบ่งงานกันชัดเจน
ส่วนตัวเธอ ด้วยไม่ต้องดูแลลูกเอง ลูกจึงต้องดื่มนมผง ตอนนี้เธอพ้นช่วงอยู่ไฟมาแล้ว จึงออกมาสูดอากาศข้างนอกบ้าง
เธออึดอัดอยู่ 1 เดือนเต็ม เธอว่าจะพักอยู่ไม่กี่วันแล้วจะเลิก แต่เหล่ากัวใส่ใจสุขภาพเธอมากและรับปากเธอทุกอย่าง มีเพียงเรื่องนี้ที่เขาไม่ยอมให้เธอปฏิเสธ บังคับให้เธอทำ กร ระทั่งช่วงอยู่ไฟผ่านพ้นไป
ระหว่างช่วงนี้ เธอได้รับการบำรุงเต็มที่ จี้อวิ๋นอวิ๋นซึ่งอายุ 30 ต้น ๆ ในตอนนี้ จึงดูอ่อนเยาว์กว่าแต่ก่อนมาก
โดยเฉพาะผิวพรรณ ซึ่งดูผ่องใสเป็นพิเศษแม้ไม่ได้แต่งหน้า
ประกอบกับการรู้จักแต่งเนื้อแต่งตัว เธอจึงดูสวยหาตัวจับยาก ทำให้คุณแม่จี้ชื่นใจไม่น้อย
ดูสิ นี่คือลูกสาวนาง โชคดีเหลือเกินที่สุดท้ายเธอได้ใช้ชีวิตคู่กับสามีคนนี้ หลี่จื้อเทียบไม่ติดแม้แต่น้อย เหอะ!
“สามีดูแลลูกดีแบบนี้ น่าเสียดาย ที่จนถึงตอนนี้แม่ยังไม่ทันได้เจอเขาเลย” คุณแม่จี้บอกพร้อมส่งยิ้ม
นางยุ่งอยู่กับการช่วยเจี้ยนเหวินดูแลครอบครัวเช่นกัน
ส่วนลูกเขย นางได้ยินว่าเขาทำธุรกิจใหญ่โต แต่ละวันงานยุ่งจนไม่มีเวลาไปเจอใคร กระทั่งตอนนี้นางจึงยังไม่ได้พบหน้า
“อะไรกัน แม่คะ ถ้าแม่ไปอยู่กับหนูที่นั่น เดี๋ยวก็คงได้เจอเขาเอง ยังไงแม่ก็ควรแวะมาดูหลานสักหน่อย หนูมีหลานชายให้แม่เลยนะคะ!” จี้อวิ๋นอวิ๋นบอก
ช่วงเวลาแบบนี้เหมาะแก่การโอ้อวด
เมื่อครั้งที่คลอดหยวนหยวน เธอไม่พอใจเป็นพิเศษ เนื่องจากซูตานหงมีลูกชาย 2 คนก่อนเธอ ส่วนลูกคนเล็กก็ยังเป็นลูกชายอีก
แต่เธอกลับมีลูกสาว ทำไมกันล่ะ?
โชคยังดี เธอยังมีความสามารถและโชคชะตาจะมีลูกชายกับเขาบ้าง
ดูตอนนี้สิ เธอมีลูกชายให้เหล่ากัวได้ แต่สิ่งที่ทำให้เธอไม่พอใจลูกชายคนนี้อยู่บ้าง คือการที่เขาหน้าตาเหมือนลูกชายเนรคุณในชาติก่อนของเธอ
เป็นลูกของอวิ๋นต้าไห่แท้ ๆ แต่ทำไมกลับมีเค้าแววตาและคิ้วเหมือนโจวจื่อเสียได้? ถึงจะไม่เห็นชัดเจนมากนัก แต่จี้อวิ๋นอวิ๋นยังเข็ดกับลูกชายเนรคุณที่ทอดทิ้งและไม่ดูแลเธอเมื่ อชาติก่อน ด้วยเหตุนี้ เธอจึงไม่ได้รักใคร่ลูกชายคนนี้มากนัก
แต่เมื่อเรื่องมาถึงขนาดนี้ เธอมีคุณค่าเพราะลูกชาย จึงไม่มีหนทางอื่น นอกจากแสร้งทำให้ผู้คนเห็นว่าเธอรักลูกชายตน
“แม่รู้ แม่ก็ยินดีกับลูกด้วย แต่ตอนนี้ลูกก็เห็น พี่สี่ของลูกกับพี่สะใภ้กำลังใช้โอกาสช่วงวันหยุดหน้าหนาวทำธุรกิจ เยียนเอ๋อร์อยู่บ้านคนเดียว แม่จะไม่ห่วงได้ยังไง? ไม่ต้องกั งวลหรอก ถ้าแม่ว่าง หรือต่อให้ยุ่งก็จะไปเยี่ยมหลานชายให้ได้เลย!” คุณแม่จี้เอ่ยพลางยิ้มตอบ
“พี่สี่นี่ก็เหลือเกินจริง ๆ ทำไมถึงได้ดื้อด้านแบบนี้? พี่ติดหนี้ซูตานหงอีกเท่าไหร่กันคะ?” จี้อวิ๋นอวิ๋นถาม
“ยังเหลือมากกว่า 8,000 หยวนได้” คุณแม่จี้ไม่ค่อยแน่ใจนัก แต่น่าจะอยู่ราว ๆ นี้
“จำเป็นต้องอยู่อย่างลำเข็ญแบบนี้เพราะเงินแค่นี้ด้วยเหรอคะ?” จี้อวิ๋นอวิ๋นว่าข่ม “หนูจ่ายคืนให้ได้เดี๋ยวนี้เลยด้วยซ้ำ!”
“นี่ ถ้าพี่สี่เขาอยากจ่ายเองก็ให้เขาจ่ายเองเถอะ ปล่อยเขาไป ไม่งั้นลูกจะไม่มีปัญหากับเหล่ากัวเหรอ? ตอนนี้แม่เป็นห่วงลูกมากกว่า” คุณแม่จี้บอก
“หนูไม่ต้องกังวลอะไรหรอกค่ะ ไม่เป็นไรหรอก” จี้อวิ๋นอวิ๋นบอก ขณะควักเงินออกมาจากกระเป๋า “แม่คะ เอาเงินนี้ไปใช้จ่ายนะคะ ไม่ต้องประหยัดนะ เข้าใจไหม? ตอนนี้ลูกสาวแม่มีเงิน แม่ไ ไม่จำเป็นต้องทำงานหนักและอยู่แบบอดอยากหรอกค่ะ”
“ถึงจะมีเงินก็ต้องเก็บไว้บ้าง แม่มีของตัวเอง ใช้เงินลูกไม่ลงหรอก” คุณแม่จี้ปฏิเสธ
“รับไปเถอะค่ะ แค่ไม่กี่ 100 หยวนเอง” จี้อวิ๋นอวิ๋นยืนกราน
เงินนี้ถือเป็นแค่เรื่องเล็กน้อยสำหรับเธอ เธอไม่ได้เดือดร้อนสักนิด
“งั้นแม่จะเก็บไว้ก่อนแล้วกัน ถ้าต่อไปลูกเงินหมดก็มาบอกแม่ แม่จะคืนให้” คุณแม่จี้บอก
“ดูพูดเข้าสิคะ หนูจะพึ่งแม่ด้วยเงินแค่เกือบ 1,000 หยวนได้ยังไง?” จี้อวิ๋นอวิ๋นกลอกตาก่อนว่าสำทับ “แม่ก็ควรจะซื้อเสื้อผ้าใหม่บ้างนะคะ”
“มันก็ยังใหม่อยู่นี่ ไม่ต้องซื้อเปลี่ยนหรอก” คุณแม่จี้โบกมือปฏิเสธ
แม่ลูกคุยกันอยู่ครู่หนึ่ง จี้อวิ๋นอวิ๋นจึงขอตัวกลับ ก่อนจะกลับไป เธอเรียกเยียนเอ๋อร์ออกมาและให้เงิน 200 หยวน “เยียนเอ๋อร์ เงินนี้อาให้เอาไว้ ถ้าอยากได้อะไรก็เอาไปซื้อนะ”
เยียนเอ๋อร์กลับบอกปัด ก่อนเดินหนีไป
“ย่าคะ นี่เป็นเงินของอา หนูไม่อยากได้ ย่าเอาไปเถอะค่ะ!” เยียนเอ๋อร์ส่งให้ผู้เป็นย่าทันที
คุณแม่จี้ชะงัก ก่อนว่าปราม “เด็กโง่ อาให้มาทั้งที ทำไมไม่รับเอาไว้ล่ะ?”
“หนูแค่ไม่อยากได้ค่ะ ถึงยังไงก็ไม่อยากได้เงินของอา ถ้าหนูต้องการเงิน พอหนูโตขึ้นหนูจะหาเองค่ะ!” เยียนเอ๋อร์ว่าเสียงแข็ง
“เยียนเอ๋อร์ อย่าไปฟังคำพูดไร้สาระของซูตานหงเลย อาของหนูไม่ใช่คนแบบนั้นหรอกนะ สิ่งที่ได้ยินมาที่บ้านเกิดก่อนหน้านี้มันไม่จริงเลย อย่าเข้าใจอาเขาผิดสิ” คุณแม่จี้รีบบอก
“อาสะใภ้สามไม่เคยพูดถึงอาเลยค่ะ และหนูก็ไม่ได้เข้าใจอาผิดด้วย หนูแค่ไม่อยากรับเงินจากผู้ใหญ่ ย่าอย่าโกรธเลยนะคะ หนูไม่ได้จะว่าอา แต่หนูบอกแล้วไง หนูจะหาเงินด้วยตัวเอง แทนที่จะพึ่งพาคนอื่น แล้วก็จะไม่พึ่งพาพ่อแม่เหมือนกันค่ะ” เยียนเอ๋อร์เอ่ยหนักแน่น