ทะลุมิติไปเป็นเศรษฐีนียุค 80 [重生八零致富记] - ตอนที่ 424 ลงทุนโรงงานรองเท้าหนัง
ตอนที่ 424 ลงทุนโรงงานรองเท้าหนัง
สุดท้ายป้าหลี่จึงคว้าน้ำเหลวกลับไป และไม่ได้ผลประโยชน์แต่อย่างใด
ถึงกระนั้นซูตานหงยังให้ปลาเค็มกับนางไป ถือเสียว่าเป็นการปลอบใจ
เดิมทีป้าหลี่โมโหไม่น้อย นางรู้สึกว่าพักนี้ภรรยาของจี้เจี้ยนอวิ๋นชักอวดดีขึ้นทุกที แต่หลังจากฉีฉีนำปลาเค็มมาให้ ป้าหลี่ก็ดูอารมณ์ดีขึ้น พลันคิดว่าแม้ภรรยาของเจี้ยนอวิ๋น จะนิสัยแย่ แต่เธอยังพอมีส่วนดีอยู่บ้าง
อย่างน้อยเธอก็ยังดีกว่าภรรยาของเจี้ยนกั๋วกับเจี้ยนเยี่ย พวกหล่อนไม่เคยคิดช่วยเหลือกันแม้แต่น้อย
ซูตานหงไม่ได้สนใจป้าหลี่ เธอเพียงเห็นแก่หน้าลุงจี้เท่านั้น ลุงจี้ดูแลสวนแห่งที่ 2 มานานหลายปี ไม่มีเรื่องผิดพลาดเกิดขึ้นที่สวนสักครั้ง เห็นได้ชัดว่าลุงจี้ดูแลอย่างรอบคอบ ตอ อนนี้เจี้ยนอวิ๋นจึงฝากฝังให้ลุงจี้ดูแลเต็มที่
ลุงจี้สมควรได้รับการให้เกียรติเช่นนี้แล้ว
หลายปีผ่านไป ไม่เพียงแต่จี้เจี้ยนอวิ๋นจะขึ้นค่าแรงเกือบเท่าตัว แต่บริเวณโดยรอบก็ขึ้นเงินเดือนเช่นกัน ด้วยค่าครองชีพที่สูงขึ้น หากไม่ขึ้นค่าแรงคงไม่ได้การ จุดประสงค์ก็เพื่อรักษา าคนงานเอาไว้
สำหรับตำแหน่งผู้จัดการโรงงานในโรงงานนั้นเพิ่มเงินเดือนขึ้นเป็น 180 หยวนแล้ว มากกว่าที่จี้เจี้ยนอวิ๋นให้อยู่ 20 หยวน
หากแต่ต้องบอกว่าสิ่งที่เขาทำนั้นได้ผล ไม่มีคนงานคนไหนต้องการลาออก ในทางกลับกับมีคนหนุ่มสาวจากโรงงานอื่นที่ต้องการลาออก และมีจำนวนค่อนข้างมากเสียด้วย
สถานการณ์แบบนี้เริ่มเกิดขึ้นตั้งแต่ต้นปี ยาวไปถึงเดือนมีนาคม จนกระทั่งโรงงานแห่งหนึ่งต้องปิดตัวลง
มันคือโรงงานรองเท้าหนัง แม้กิจการจะดีมาก แต่เจ้าของโรงงานมีนิสัยแย่เหลือเกิน โรงงานนี้ให้ค่าแรงเดือนละ 150 หยวน โดยไม่มีสวัสดิการอื่น ๆ
ด้วยเหตุนี้ คนงานจึงลาออกกันไปหมด
อยู่มาวันหนึ่งผู้อำนวยการเหอก็มาหาจี้เจี้ยนอวิ๋น
ในตอนแรกจี้เจี้ยนอวิ๋นยังไม่เข้าใจนัก แต่เมื่อได้ยินเรื่องที่ผู้อำนวยการเหอบอก เขาก็นึกสนใจขึ้นมา
ผู้อำนวยการเหอต้องการร่วมลงทุนกับเขา ในเรื่องเปิดกิจการโรงงานรองเท้าหนังด้วยกัน!
เพียงแต่มันต้องใช้เงินจำนวนมาก แม้ผู้อำนวยการเหอจะร่ำรวย แต่การลงทุนครั้งใหญ่ขนาดนี้ยังเป็นเรื่องที่ทำให้เขาคิดหนัก เขาจึงมาชักชวนจี้เจี้ยนอวิ๋น
การทำสัญญาร่วมลงทุนมีมูลค่า 80,000 หยวน โดยออกเงินกันคนละครึ่ง และแบ่งรายได้ในอนาคตของโรงงานรองเท้านี้อย่างเท่าเทียมกัน
“เธอแค่ต้องออกเงิน แล้วเราจะแบ่งรายได้ในอนาคตกัน ฉันมีประสบการณ์บริหารมาก่อน ถ้าเชื่อใจฉันก็เอาเงินมาให้ฉันได้เลย แต่เงินเดือนโรงงานฉันค่อนข้างสูงนะ เธอต้องเตรียมใจไว้ด ด้วย” ผู้อำนวยการเหอบอก
“มันไม่ใช่ปัญหาหรอกครับ ติดอยู่ที่จะขายได้หรือเปล่าเท่านั้น” จี้เจี้ยนอวิ๋นเอ่ย
“ไม่ต้องกังวลเรื่องนี้เลย ฉันมีแหล่งขายอยู่ ฉันจะบอกให้เหล่าหลิวส่งต่อลูกค้าเก่าให้ฉันด้วย” ผู้อำนวยการเหอว่าขึ้น
เหล่าหลิวเคยทำธุรกิจถังพลาสติกจนร่ำรวยมาก่อน ตอนนั้นเขายังหนุ่ม ย่อมไฟแรงเป็นธรรมดา แต่เมื่อธุรกิจรองเท้าของเขาไปไม่รอด ผู้อำนวยการเหอจึงตัดสินใจซื้อกิจการต่อ!
อย่างไรก็ตามหากต้องการหาหุ้นส่วน เขาจำเป็นต้องเลือกคนที่วางใจได้
เขาคิดว่าจี้เจี้ยนอวิ๋นเหมาะสมมากทีเดียว
จี้เจี้ยนอวิ๋นบอกว่าเขาจะเก็บไปคิด เรื่องใหญ่ขนาดนี้ เขาต้องปรึกษากับภรรยาเสียก่อน
ผู้อำนวยการเหอเอ่ย “อย่างนั้นฉันจะมาเอาคำตอบพรุ่งนี้แล้วกัน เราไม่ได้จะซื้อแต่โรงงานรองเท้าของเหล่าหลิว แต่ยังมีที่อื่นด้วย”
จี้เจี้ยนอวิ๋นรับคำ
เมื่อผู้อำนวยการเหอใกล้จะกลับ จี้เจี้ยนอวิ๋นให้สตรอเบอร์รี่ถุงหนึ่งกลับไป โดยบอกให้เขาเอากลับไปให้คุณนายเหอกิน
ผู้อำนวยการเหอลองชิมที่สวนเล็กน้อย ก่อนจะสั่งสตรอเบอร์รี่เพิ่ม เขาต้องการนำไปแจกให้คนงานเอากลับไปกิน
จี้เจี้ยนอวิ๋นสั่งให้คนงานไปเก็บสตรอเบอร์รี่ เขาอยู่ส่งผู้อำนวยการเหอกลับ ก่อนลงจากสวนไปหาภรรยา
“ฉันไม่เข้าใจเลยค่ะ” ซูตานหงบอก “แต่ถ้าคุณคิดว่าดี ก็ลองร่วมลงทุนกับเขาดูเถอะค่ะ ฉันคิดว่าเขาก็เป็นคนดี คุณน่าจะไว้ใจเขาได้”
ผู้อำนวยการเหอไปมาหาสู่กับครอบครัวเธอบ่อย เขาเป็นคนแน่วแน่และใจถึง ทั้งยังไม่นำเรื่องหยุมหยิมมาใส่ใจ
ปีก่อนเขามาที่นี่เพื่อสั่งไข่เป็ดและไข่ไก่จำนวนมาก พร้อมบอกให้จัดใส่กล่องให้ เขาจะนำไปเป็นของขวัญวันปีใหม่ให้คนงาน
ไม่ได้มีเพียงไข่เป็ดและไข่ไก่ ยังมีปลาเค็มอีกจำนวนมาก
อันที่จริงผู้อำนวยการเหอต้องการหมูแดดเดียวด้วย เพียงแต่ที่บ้านเธอมีเหลือไม่มาก ซูตานหงจึงบอกให้จี้เจี้ยนอวิ๋นนำให้เขาไปลองชิมบางส่วน หากต้องการมากกว่านี้คงจะไม่มีอีก
แม้แต่ร้านค้าที่ปักกิ่งกับเมืองมหาวิทยาลัยยังมีไม่พอขาย
จี้เจี้ยนอวิ๋นพยักหน้าเป็นการรับรู้
หากเขาจะร่วมลงทุนกับใคร ปกติแล้วเธอจะไม่ได้คิดมาก ด้วยมั่นใจว่าเขาพิจารณามาดีแล้ว ส่วนใหญ่แล้วเธอจึงยอมตามใจเขา
ดังนั้นแทนที่จะรอวันถัดไป เขากลับขับรถไปส่งสตรอเบอร์รี่ด้วยตนเอง เพื่อพูดคุยเรื่องนี้กับผู้อำนวยการเหอ
ทั้งคู่ไปหาเหล่าหลิวซึ่งจะกำลังปิดโรงงานรองเท้าของตน เอกสารถูกดำเนินการอย่างรวดเร็ว จากนั้นการซื้อกิจการต่อก็เสร็จสมบูรณ์ในวันรุ่งขึ้น
เหล่าหลิวพาภรรยาและลูก ๆ ลงทางใต้ไปแสวงหาโอกาสเจริญก้าวหน้า
จี้เจี้ยนอวิ๋นกับผู้อำนวยการเหอเริ่มจ้างคนงาน กำหนดเงินเดือนอยู่ที่ 180 หยวน แต่พวกเขาต้องการแรงงานมีฝีมือ โดยเฉพาะคนงานเก่าที่ลาออกไปก่อนหน้านี้ ผู้อำนวยการเหอบอกให้คนไปตาม มพวกเขากลับมาด้วยซ้ำ
มีคนไม่มากนักที่ยอมกลับมา แต่ผู้อำนวยการเหอก็แต่งตั้งให้พวกเขาเป็นฝ่ายบริหารจัดการ และคอยอบรมดูแลพนักงานใหม่
เงินเดือนที่ให้นับว่าค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับเมื่อก่อน แน่นอนว่าบรรดาคนงานเก่าต่างพึงพอใจ ยิ่งผู้อำนวยการเหอรับปากว่าต่อไปเงินเดือนจะขึ้นเรื่อย ๆ ตอนนี้เป็นเพียงขั้นพื้นฐาน หากในอนาคตกิจการก้าวหน้า จะขึ้นเงินเดือนให้อีก
ไม่ว่าในอนาคตจะเกิดอะไรขึ้น เขาต้องกระตุ้นแรงจูงใจไว้ก่อน
ไม่ใช่เพียงเพื่อการดูแลคนงานปัจจุบัน แต่ยังรวมถึงคนงานที่จะจ้างเข้ามาใหม่ด้วย ด้วยการตั้งใจทำงานจะทำให้เกิดการพัฒนาตนเอง!
ผู้อำนวยการเหอสั่งให้พ่อครัวจากโรงงานของเขาขับรถมาถึงโรงงานรองเท้า เพื่อทำอาหารกลางวันให้คนงานทุกวัน
อาหารมื้อกลางวันนับว่าอุดมสมบูรณ์มาก ทั้งปริมาณที่เพียงพอ และยังมีเนื้อให้กินด้วย
จากทั้งหมดทั้งมวลนี้เอง เพียงผ่านไปครึ่งเดือน โรงงานรองเท้าโฉมใหม่ที่บริหารโดยผู้อำนวยการเหอก็สร้างความประทับใจมากทีเดียว
เมื่อจี้เจี้ยนอวิ๋นขับรถมาหาเขา การดำเนินการต่าง ๆ ก็เข้าที่เข้าทางเรียบร้อยแล้ว
“แต่คนงานก็ยังน้อยอยู่นะครับ” จี้เจี้ยนอวิ๋นบอก
ตอนนี้ต้องบริหารโรงงานรองเท้าอย่างรอบคอบ ด้วยมีคนงานเพียงไม่มาก เมื่อก่อนโรงงานรองเท้านี้มีคนงานมากกว่า 40 คน เห็นได้ชัดว่าตอนนั้นโรงงานรองเท้านี้ใหญ่โตแค่ไหน
“เป็นแค่ตอนนี้เท่านั้นแหละ รอเวลาสักหน่อย ต่อไปเรื่องเงินเดือนและสวัสดิการของโรงงานเราจะแพร่สะพัดไปทั่ว ไม่ต้องกังวลว่าจะไม่มีคนงานหรอก” ผู้อำนวยการเหอบอก
สำหรับเรื่องการบริหารงานแล้ว เขามั่นใจในตนเองมาก
แม้ปีนี้ผู้คนจะแห่ลงไปทำงานในภาคใต้กัน แต่ตราบใดที่การทำงานที่นี่คุ้มค่า ได้เงินเดือนสูง มีสวัสดิการดี ซ้ำสภาพแวดล้อมยังไม่แย่ ก็ไม่มีใครต้องการถ่อไปถึงทางใต้แน่นอน
เงินเดือนทางใต้สูงกว่าก็จริง แต่ไม่ต้องเสียค่ากิน ค่าอยู่ หรือซื้อเสื้อผ้าหรอกหรือ? เมื่อออกไปทำงานข้างนอกแล้วคงไม่มีเงินเหลือ ด้วยต้องเสียค่าใช้จ่ายมากเมื่ออยู่ห่างบ้าน และสุดท้ายถึงจากบ้านไปก็เหลือเงินไม่มากอยู่ดี
หากไม่อับจนหนทางจริง ๆ ใครจะต้องการจากบ้านเกิดไปให้คนอื่นดูถูกกันล่ะ?
…………………………………………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
พี่จี้มีกิจการในมือกี่อย่างแล้วคะเนี่ย บริหารไม่หวาดไม่ไหวเลย
อารมณ์เหมือนคนต่างจังหวัดมาทำงานในกทม.เลยค่ะ เงินดีจริง แต่ค่าใช้จ่ายก็หนักเอาเรื่อง
ไหหม่า(海馬)