ทะลุมิติไปเป็นเศรษฐีนียุค 80 [重生八零致富记] - ตอนที่ 425 ธุรกิจกำไรงาม
ตอนที่ 425 ธุรกิจกำไรงาม
แนวทางการบริหารงานของผู้อำนวยการเหอช่างแยบยลนัก
เดิมทีโรงงานรองเท้าหนังมีเพียงมื้อเที่ยงให้ แต่ภายหลังได้มีการเพิ่มอาหารเช้าเข้ามาด้วย
อาหารเช้าคือโจ๊กพร้อมผักกาดดอง รวมถึงไข่ไก่หรือไข่เป็ดเค็มอีกครึ่งฟอง ขึ้นอยู่กับว่าวันนั้นมีของอะไรเข้าบ้าง
ทั้งหมดไม่เสียค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด
มื้อเที่ยงในตอนนี้ยังไม่เสียค่าใช้จ่าย แต่ในอนาคตอาจต้องมีการคิดเงินบ้างเล็กน้อย โดยผู้อำนวยการเหอได้บอกไว้ตั้งแต่แรกแล้ว ว่ามันเป็นสวัสดิการสำหรับคนงานในชุดแรก
ส่วนจะเก็บค่าอาหารกลางวันเมื่อไรนั้น ค่อยตัดสินใจในภายหลัง
ถึงกระนั้นลำพังแค่อาหารเช้าที่จัดหาให้ มันก็เป็นสิ่งที่ทำให้คนงานพึงพอใจมากแล้ว
หลายปีมานี้ แม้ว่าชีวิตความเป็นอยู่จะดีขึ้นมาก แต่ใครจะเก็บเงินได้เยอะแยะกัน? ยิ่งไปกว่านั้น คนที่มาทำงานที่โรงงานรองเท้าหนังส่วนใหญ่ล้วนมีครอบครัวแล้ว หากมีครอบครัวก็จะทำให้เก็บเงินได้ไม่มาก
ดังนั้นต่อให้มีเพียงอาหารเช้าง่าย ๆ แต่ทุกคนค่อนข้างพึงพอใจกันแล้ว
อย่างน้อยในโรงงานอื่นก็ไม่มีสวัสดิการอะไรเลย แม้จะมีอาหารเที่ยง แต่ก็แพงมาก อีกทั้งอาหารยังไม่อร่อยเท่าโรงงานนี้
เนื่องจากมียอดสั่งซื้อจากโรงงานเพิ่มขึ้นมา ธุรกิจไข่ไก่และไข่เป็ดเค็มของจี้เจี้ยนอวิ๋นจึงขายดีขึ้นมาก
หากจัดส่งให้โรงงาน ย่อมต้องมีส่วนลด แต่ก็ยังเป็นการค้าขายอยู่ จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะไม่มีกำไรเลย ทั้งเขายังต้องส่งของไปทุกวัน กำไรจึงสะสมไปเรื่อย ๆ
ที่สำคัญคือไข่ไก่ไข่เป็ดเค็มของเขาล้วนหอมอร่อย
ปีนี้จี้เจี้ยนอวิ๋นเลี้ยงเป็ดที่อ่างเก็บน้ำเพิ่มขึ้นอีก โดยเลี้ยงเป็ดมากกว่า 100 ตัวแล้ว
ฟากหนึ่งของอ่างเก็บน้ำถูกใช้เป็นพื้นที่ในการเลี้ยงเป็ด หากนำเป็ดลงน้ำหมด ปลาในอ่างเก็บน้ำคงจะถูกกินไปไม่น้อย
เดี๋ยวนี้พวกมันกินข้าวโพดและธัญพืชหยาบเป็นหลัก แน่นอนว่ายังกินปลาและกุ้งเล็กๆ บ้าง หากแต่ไม่ได้มากนัก
วันนี้ซูตานหงแวะมาที่อ่างเก็บน้ำกับจี้เจี้ยนอวิ๋น นาน ๆ เธอจะมาที่นี่สักที เธอบอกให้จี้เจี้ยนอวิ๋นพาเธอไปเดินเล่น หลังจากเติมน้ำพุวิเศษปริมาณมากลงในอ่างเก็บน้ำ
ทุกปีเธอจะแวะมาเติมน้ำพุวิเศษเป็นครั้งคราว แม้อ่างเก็บน้ำจะไม่เล็ก มีสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมกับปลาและกุ้งอยู่แล้ว แต่เมื่อมีน้ำพุวิเศษมาเสริม อัตราการอยู่รอดของพวกมันก็ยิ่งมากขึ้น ซ้ำยังอวบอ้วนอุดมด้วยรสชาติ
พวกเป็ดได้กินน้ำพุวิเศษเช่นกัน เธอเติมน้ำจนเต็ม และนำถังไปที่นั่น ปล่อยให้พวกมันอยากกินและมาดื่มกันเอง
อาจเป็นเพราะว่าสัตว์เหล่านี้สัมผัสได้ พวกมันรู้สึกได้ถึงความมหัศจรรย์ของน้ำนี้ จึงเข้ามาล้อมวงดื่มกัน
“ทุกครั้งที่เธอมาให้น้ำ พวกมันจะมากินกันตลอดเลย ตอนฉันให้ พวกมันไม่สนใจเลยสักนิด” คุณป้าสวี่เอ่ยพร้อมรอยยิ้ม
“มันคงบังเอิญหิวน้ำเวลาเจอฉันมากกว่าค่ะ” ซูตานหงบอก
แต่คุณป้าสวี่กลับไม่คิดเช่นนั้น ด้วยคนเฒ่าคนแก่เชื่อในสิ่งเหนือธรรมชาติมาก
นางรู้สึกว่าซูตานหงมีพลังพิเศษ เมื่อใดที่เธอมา นอกจากปลาในบ่อจะโผล่พ้นผิวน้ำแล้ว ต่อมาไม่นาน เป็ดก็ยังจะออกไข่มากขึ้นด้วย ที่สำคัญที่สุดคือเป็ดพวกนี้ล้วนไม่มีตัวไหนผอมแห้งเลย
เป็ดต้องใช้กำลังและเลือดลมในการออกไข่มาก แต่หลังจากซูตานหงแวะมาหา ต่อให้ออกไข่มากมาย พวกมันก็ยังไม่ซูบผอมลง
คุณป้าสวี่คิดว่ามันเป็นพลังพิเศษของซูตานหง พลังแห่งความอุดมสมบูรณ์!
ซูตานหงทำเพียงส่งยิ้มและให้อาหารเป็ดกับคุณป้าสวี่ เมื่อจี้เจี้ยนอวิ๋นคุยกับคุณลุงสวี่เสร็จ เธอจึงกลับไปพร้อมจี้เจี้ยนอวิ๋น
“ภรรยา เราไม่ได้ออกมาข้างนอกตามลำพังกันนานเท่าไหร่แล้วครับเนี่ย?” จี้เจี้ยนอวิ๋นถามขึ้นระหว่างทางกลับบ้าน
ซูตานหงเลิกคิ้ว เธอรู้เรื่องนี้ดี เพียงแค่คิดว่าเขาจะไม่รู้สึก
ดูเหมือนว่าเธอจะไม่ได้ออกมาข้างนอกตามลำพังกับเขาตั้งแต่ที่มีเหรินเหริน เธอมีลูก ๆ ตามเป็นพรวนตลอดไม่ใช่หรือ?
วันอย่างวันนี้ช่างหาได้ยาก เหรินเหรินกับฉีฉีไปโรงเรียน ส่วนเสียงเสียงกับหยวนหยวนไปขี่ม้าเล่นที่สวนแห่งที่ 4
เธอจึงอยู่ที่บ้านกับจี้เจี้ยนอวิ๋นเพียง 2 คน เมื่อเห็นว่าอยู่ว่าง เธอจึงคิดแวะมาที่อ่างเก็บน้ำ
“ทำไมอยู่ ๆ พูดเรื่องนี้ล่ะคะ?” ซูตานหงถามกลับ
“ผมแค่คิดน่ะ พอลูก ๆ โตขึ้น ครอบครัวเราก็น่าจะมีเงินเหมือนเคย ผมจะพาคุณไปเที่ยวให้ทั่วเลยครับ” จี้เจี้ยนอวิ๋นเอ่ย
“เอาสิคะ” ซูตานหงตอบ
เธอต้องการออกมาเดินเล่น ยิ่งตอนนี้จี้เจี้ยนอวิ๋นขับรถพาเธอไปไหนมาไหนเองได้ การออกมาข้างนอกจึงสะดวกมากขึ้น
ตั้งแต่ครั้งที่เธอไปปักกิ่งก่อนหน้านี้ ซูตานหงก็ไม่ได้อยากออกไปเที่ยวมากนัก แม้ในยุคสมัยนี้จะสะดวกและรวดเร็วกว่าเมื่อชาติที่แล้วของเธอก็ตาม
หากแต่มันยังไม่สบายใจเท่าอยู่บ้าน ไม่กี่ปีที่ผ่านมา ถนนข้างนอกถูกพัฒนาขึ้นมาก มีรถยนต์มากขึ้นเช่นกัน แต่การจราจรยังไม่หนาแน่นเท่าไรนัก
ทุกครั้งที่เจินเหมียวหงมาหา หล่อนมักเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นภายนอกให้ฟัง ซึ่งทำให้เธออยากรู้อยากเห็นเล็กน้อย
มาตุภูมิอันกว้างใหญ่ไพศาล ถ้าเธอมีเวลา เธอคิดอยากไปเห็นกับตาตัวเองบ้าง หากแต่มันไม่ได้สลักสำคัญนักไม่ใช่หรือ?
เป็นช่วงสายกว่าเธอจะถึงบ้าน พอถึงสิบโมงครึ่ง ซูตานหงจึงได้เตรียมทำอาหารกลางวัน
จี้เจี้ยนอวิ๋นนำสมุดบัญชีออกมาบันทึกรายการต่าง ๆ
เดี๋ยวนี้ค่าใช้จ่ายแต่ละวันไม่ใช่น้อย ๆ บ้างเป็นส่วนที่ไปรับซื้อของ บ้างเป็นส่วนที่จี้เจี้ยนเหอกับจี้ต้าหยงไปรับซื้อของแห้ง บ้างเป็นค่าสินค้าอื่น ๆ ซึ่งจี้เจี้ยนอวิ๋นต้องลงรายการอย่างละเอียดทุกวัน แต่เมื่อคืนก่อนเขาถูกภรรยาหยอกเย้าจนความเครียดหายไปเป็นปลิดทิ้ง และเข้านอนพร้อมเธอโดยไม่ได้ทำบัญชี จึงต้องยกยอดมาทำในวันนี้แทน
ปัจจุบันรายได้ของเขาไม่ได้น้อยหน้าไปกว่าเศรษฐีข้างนอก
รายได้แต่ละวันเมื่อรวมกันแล้ว คิดเป็นจำนวนมหาศาล กำไรสุทธิต่อเดือนมากกว่า 10,000 หยวน ซึ่งถือว่าน่าพึงพอใจมาก
หากแต่จี้เจี้ยนอวิ๋นยังไม่คิดหยุดเพียงเท่านี้ ไม่มีทางหรอก เขาจึงตัดสินใจตั้งโรงงานรองเท้าหนังกับผู้อำนวยการเหอ
เพียงแต่ในระยะเวลาอันสั้น โรงงานรองเท้าหนังนี้คงยังไม่สามารถคืนทุนได้ ตอนนี้ทุกอย่างดำเนินการอย่างเป็นปกติ เรียกได้ว่าราบรื่นดีทีเดียว เขาจำเป็นต้องร่วมลงทุนกับผู้อำนวยการเหอต่อไป
เมื่อเริ่มส่งสินค้าไปขาย ถึงจะเริ่มมีรายได้กลับมา
มีฟาร์มไก่ที่สวนแห่งแรกและแห่งที่ 3 โดยเฉพาะสวนแห่งที่ 3 ซึ่งเป็นฟาร์มไก่ขนาดใหญ่
อย่างไรก็ตามความต้องการไข่ไก่มีมากขึ้นเรื่อย ๆ ต่อให้มีมากขนาดนี้ มันก็ยังไม่พอขาย เมื่อจี้เจี้ยนอวิ๋นต้องการทำฟาร์มไก่ให้เป็นล่ำเป็นสัน เหล่าจางจึงมาหาเขา และบอกให้สร้างอีกที่หนึ่งที่สวนแห่งที่ 4
“ถ้าเธอไม่ใช้ประโยชน์จากพื้นที่ที่มีอยู่มากมาย จะซื้อที่ไปทำไมล่ะ? ยังมีพื้นที่ที่นั่นเหลือตั้งเยอะ” เหล่าจางบอก
“แต่กลิ่นของฟาร์มไก่มันแรงมากเลยนะครับ” จี้เจี้ยนอวิ๋นท้วง
พ่อบุญธรรมของเขาเป็นอาจารย์อาวุโส เขาเลี้ยงไก่เพียงไม่กี่ตัวที่สวนแห่งที่ 4 คงไม่ไหวแน่
หากจะทำฟาร์มไก่ มันคงกลิ่นแรงอย่างแน่นอน
“แล้วมันยังไงล่ะ? เธอก็ไปทำฝั่งตะวันตกสิ อยู่ห่างจากบ้านฉันขนาดนั้น กลิ่นคงไม่โชยมาถึงฝั่งนี้หรอกน่า” เหล่าจางเอ่ย
……………………………………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
ภายนอกดูเหมือนไม่รวย แต่จริง ๆ ครอบครัวพี่รวยมากนะคะ คนรวยบางคนก็ใช่ว่าจะแสดงออกความรวยผ่านรูปลักษณ์ภายนอก พวกผ้าขี้ริ้วห่อทองก็มีอยู่ถมไปค่ะ
ไหหม่า(海馬)