ทะลุมิติไปเป็นเศรษฐีนียุค 80 [重生八零致富记] - ตอนที่ 432 สละตนเป็นเหยื่อหมาป่า
ตอนที่ 432 สละตนเป็นเหยื่อหมาป่า
กัวต้งเหลียงค่อนข้างเห็นด้วยกับจี้อวิ๋นอวิ๋น ในเมื่อเรื่องมาถึงขนาดนี้แล้ว และเห็นเถ้าแก่หลี่มีนิสัยเช่นนี้ มันต้องเป็นการเล่นตัวอย่างแน่นอน ไม่เหมือนเถ้าแก่โจว ซึ่งไม่มีที ท่าจะสนใจเรื่องทำนองนี้ตั้งแต่แรก
กัวต้งเหลียงจึงพยายามนัดพบกับเถ้าแก่หลี่
เถ้าแก่หลี่ยินดีเป็นอย่างยิ่ง เขาออกมาพบทันที ครั้งนี้เขาออกมาเพียงลำพัง ไม่แม้แต่จะพาภรรยาน้อยมาด้วย
เหล่ากัวพร้อมจ่ายค่าดื่มกินมากเช่นกัน อาหารที่เขาสั่งมาล้วนเป็นของอร่อยล้ำ ซ้ำยังมีเครื่องดื่มราคาแพง ซึ่งมื้อนี้คิดเป็นมูลค่าอย่างน้อย 500 หยวน
อย่างไรก็ตาม เขาได้แสดงเจตนารมณ์ของตนชัดเจน อย่างน้อยเถ้าแก่หลี่ก็มีสีหน้าดีขึ้นเมื่อได้เห็นอาหาร
“ไม่เสียดายเวลาคืนนี้เลยครับที่ได้มาร่วมโต๊ะอาหารกับเหล่ากัว” เถ้าแก่หลี่เอ่ยพร้อมส่งยิ้ม
“แค่เถ้าแก่หลี่ยอมออกมาร่วมโต๊ะด้วยกัน ผมก็ยินดีมากเหมือนกัน” เหล่ากัวบอก
“ใช่เลยค่ะ เหล่ากัวยังกังวลว่าเถ้าแก่หลี่จะไม่ยอมมาอยู่เลยนะคะ” จี้อวิ๋นอวิ๋นเสริมพลางยิ้มแย้ม หล่อนบอกขณะรินไวน์ให้เขา ไม่รู้ว่าเป็นเหตุจงใจหรือไม่ ในตอนที่หล่อนก้มตัวเ เทไวน์ไปทางเถ้าแก่หลี่ หน้าอกหล่อนก็โน้มไปด้านหน้าเล็กน้อย เผยให้เห็นนวลเนื้อขาวผ่องราง ๆ เป็นที่สะดุดตา
อย่างน้อยหล่อนก็เห็นสายตาเถ้าแก่หลี่จ้องมองมา
เหล่ากัวไม่ทันได้รู้ตัวว่ากำลังจะถูกสวมเขา เขายกยิ้มและเอ่ยเชิญเถ้าแก่หลี่กินอาหาร
เถ้าแก่หลี่ส่งสายตาแฝงความนัยไปหาจี้อวิ๋นอวิ๋น เขายิ้มตอบและพูดคุยกับเหล่ากัว เหล่ากัวเป็นคนช่างเจรจา อย่างน้อยเถ้าแก่หลี่ก็คุยกับเขาได้ไม่เบื่อ
อันที่จริงแล้ว หากจะว่ากันเรื่องอายุ เถ้าแก่หลี่ซึ่งยิ้มแย้มอยู่ตรงหน้านั้นมีอายุน้อยกว่าเถ้าแก่โจวเล็กน้อย อย่างมากก็เพียง 32 ถึง 33 ปี อาจจะเด็กกว่าจี้อวิ๋นอวิ๋นหนึ่งปีหรือ อสองปีด้วยซ้ำ
เขาเป็นนักรักตัวยง อีกทั้งตระกูลหลี่ยังค่อนข้างเป็นตระกูลดังในเมืองมหาวิทยาลัย
ตระกูลของเขาทำธุรกิจมาตั้งแต่บรรพบุรุษรุ่นที่ 2 เป็นธรรมดาที่เขาจะยังหนุ่มกว่าเหล่ากัว แต่ไม่มีทางที่เขาจะตั้งตัวขึ้นมาเองได้ เพียงแต่มีทรัพยากรอยู่ในมือแล้วเท่านั้น
เถ้าแก่หลี่รินเหล้าให้เหล่ากัวมากมาย จนเขาต้องขอไปเข้าห้องน้ำกลางคัน
ร้านอาหารแห่งนี้เป็นของเถ้าแก่หลี่ มันใช้เวลาเพียง 10 นาทีในการไปกลับจากห้องน้ำ ซึ่งถือว่าเร็วมาก
“ได้ยินว่าพี่สะใภ้เป็นคนแนะนำเหล่ากัวให้ใช้กลยุทธ์สาวงามกับผมอย่างนั้นเหรอครับ?” เถ้าแก่หลี่เลิกคิ้วขณะถามจี้อวิ๋นอวิ๋น
จี้อวิ๋นอวิ๋นส่งยิ้ม “สาวงามเคียงคู่วีรบุรุษ เถ้าแก่หลี่เหมาะสมกับสาวสวยแล้วค่ะ”
“ผมชอบที่ได้ยินแบบนั้นนะครับ แต่สาวงามที่พี่สะใภ้ส่งมาให้ก็มีอยู่ดาษดื่น คนมีเสน่ห์แบบพี่สะใภ้อยู่ที่ไหนกันล่ะครับ?” เถ้าแก่หลี่เอ่ยเย้า
“เถ้าแก่หลี่อย่าพูดไร้สาระสิคะ สาวรุ่นใหญ่อย่างฉันจะไปเทียบกับเด็กสาวอายุ 20 ได้ยังไง” จี้อวิ๋นอวิ๋นตอบกลับพร้อมรอยยิ้ม
เถ้าแก่หลี่เห็นว่าหล่อนไม่ถือสากับคำพูดหยอกเอินของเขาแม้แต่น้อย เขาจึงไม่อ้อมค้อม ขยับเข้ามาเอ่ยถาม “ทำไมผู้หญิงอย่างพี่สะใภ้ถึงได้ลงเอยกับเหล่ากัวได้ล่ะครับ? ทำไมไม่สนใจ คนยังหนุ่มยังแน่นอย่างผมล่ะ?”
“เถ้าแก่หลี่ เดี๋ยวเหล่ากัวก็จะกลับมาแล้ว ถ้าเขามาเห็นเขาคงไม่ดีหรอกค่ะ” จี้อวิ๋นอวิ๋นปราม
“เขาไม่กลับมาเร็ว ๆ นี้หรอกครับ” เถ้าแก่หลี่จับมือจี้อวิ๋นอวิ๋น ก่อนย้ำ “พี่สะใภ้ ผมบอกตามตรงเลยนะครับ อันที่จริงตั้งแต่ได้พบพี่สะใภ้ครั้งก่อน ผมไม่เคยเจอคนอย่างพี่สะใภ้มา าก่อนเลย ไม่เคยคิดว่าพี่สะใภ้จะเป็นเหมือนผู้หญิงชั้นต่ำพวกนั้น คุณต่างกับพวกหล่อนลิบลับเลยนะครับ”
“ไร้สาระน่า ต่างกันตรงไหนคะ?” จี้อวิ๋นอวิ๋นไม่ได้ชักมือออก หล่อนชายตามองเขาขณะถาม
“ผมบอกไม่ถูกเหมือนกัน แต่ผมแค่รู้สึกว่าพี่สะใภ้ต่างออกไป มีนิสัยใจคอเฉพาะตัว มันต่างจากผู้หญิงทั่วไปคนละโยชน์เลย” เถ้าแก่หลี่บอก
จี้อวิ๋นอวิ๋นครุ่นคิด หล่อนได้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง จะเรียกว่าเป็นผู้หญิงยุคปี 1991 ได้ไหมนะ?
หล่อนดูโดดเด่นออกมาจากฝูงชน ต่อให้ไม่ได้พูดมากนัก และพยายามทำตัวให้ไม่โดดเด่น หล่อนก็ยังคงดูแตกต่างอยู่เช่นเคย
“เถ้าแก่หลี่ จับมือฉันทำไมกันคะ” จี้อวิ๋นอวิ๋นเริ่มทำทีเป็นเล่นตัว
“พี่สะใภ้เดี๋ยวก่อนสิครับ ผมจะแสดงวิชาดูลายมือให้ ฝ่ามือของคุณ ผมดูออกว่ามีชะตาเป็นคนใหญ่คนโต” เถ้าแก่หลี่หงายมือหล่อนพลางลูบไล้ไปมาขณะเอ่ย
“ไว้ค่อยคุยกันตอนที่คุณมีเวลาว่างนะคะ เดี๋ยวเหล่ากัวก็จะกลับมาแล้ว” จี้อวิ๋นอวิ๋นบอก
“นี่คือคำตอบของพี่สะใภ้สินะครับ” เถ้าแก่หลี่โพล่งขึ้น
“ฉันไม่โกหกคุณหรอกค่ะ ฉันยังอยากให้คุณดูลายมือให้อยู่นะคะ” จี้อวิ๋นอวิ๋นบอกด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม
เมื่อเถ้าแก่หลี่ได้ยินเช่นนั้น เขาขยับถอยไปอย่างพึงพอใจ
“เถ้าแก่หลี่ คุณคิดยังไงกับการร่วมมือกับเหล่ากัวเหรอคะ?” จี้อวิ๋นอวิ๋นถาม
“เรื่องนี้เป็นไปไม่ได้หรอกครับ แต่มันก็ขึ้นอยู่กับพี่สะใภ้ ถ้าพี่สะใภ้ทำให้ผมพอใจได้ ทำไมผมจะไม่แบ่งผลประโยชน์ให้เหล่ากัวล่ะครับ?” เถ้าแก่หลี่เอ่ยด้วยรอยยิ้มพลางสบตาหล่อน น
“เถ้าแก่หลี่พูดแล้วนะคะ” จี้อวิ๋นอวิ๋นย้ำ
“แน่นอนสิครับ” เถ้าแก่หลี่ว่าหนักแน่น หลังกระดกไวน์หมดแก้ว
เมื่อเหล่ากัวกลับมา เขาก็เห็นทั้งคู่นั่งพูดคุยกันอยู่คนละฝั่งโต๊ะ แม้รู้สึกได้ถึงความผิดปกติระหว่างทางเดินกลับมา แต่เมื่อมาเห็นภาพนี้เขาก็นึกโล่งใจ
“เหล่ากัว คุณดื่มมากกว่านี้ไม่ไหวแล้วล่ะครับ ถ้าดื่มอีกนิดคงเมาแย่เลย” เถ้าแก่หลี่บอกขณะส่งยิ้มมาให้
“ฉันแก่แล้ว จะไปสู้คนหนุ่มสาวอย่างพวกเธอได้ยังไงกัน?” เหล่ากัวว่าอย่างยิ้มแย้ม
เขาไม่รู้ตัวเลยว่าเถ้าแก่หลี่ได้เกี้ยวภรรยาของตนลับหลังเขา
ระหว่างทางกลับบ้าน เหล่ากัวมีอารมณ์ดีขึ้นมาก
จี้อวิ๋นอวิ๋นถามขึ้นอย่างสัมผัสได้ “มีอะไรเหรอคะ? ตอนที่ฉันไปเข้าห้องน้ำ คุณคุยเรื่องอะไรกันเหรอคะ? เห็นว่าคุณอารมณ์ดีเชียว ดูเหมือนว่าเถ้าแก่หลี่จะยังไม่ยอมตกลงเรื่องนี้ นี่คะ”
“ถึงเถ้าแก่หลี่จะยังไม่ยอมตกลง แต่ก็มีสัญญาณว่าจะยอมแล้วล่ะ เขาบอกให้ผมไปเขตก่อสร้างเพื่อดูงานก่อน ถ้าเห็นว่าเหมาะก็จะร่วมมือกับผม” เหล่ากัวยิ้มกว้าง
“ไปเขตก่อสร้าง? เขตก่อสร้างที่ไหนคะ?” จี้อวิ๋นอวิ๋นถาม
“ที่เป่ยเฉิงน่ะ คุณอยู่ที่บ้านสัก 2 ถึง 3 วันแล้วกัน ผมจะไม่กลับมาสัก 2 ถึง 3 วัน คุณอยู่ดูแลคุณแม่กับเฮ่าเฮ่าไปนะ เฮ่าเฮ่าคงรอฟังข่าวดีของผมที่บ้าน” เหล่ากัวบอก
“ได้ค่ะ เหล่ากัว คุณต้องดูให้ดีนะคะ อย่าให้สูญเงินโครงการนี้ไปเด็ดขาด ไม่ต้องกังวลเรื่องที่บ้านหรอกนะคะ ฉันจะจัดการเองค่ะ” จี้อวิ๋นอวิ๋นรับคำ
หล่อนเองก็หวั่นไหวเช่นกัน เถ้าแก่หลี่ช่างร้ายกาจนัก หล่อนต้องให้เหล่ากัวเดินทางออกไปก่อน เมื่อถึงตกดึก หล่อนจึงคิดวางแผนจะสละตนเป็นเหยื่อหมาป่า
ไม่อย่างนั้นเหล่ากัวจะได้ผลประโยชน์มาโดยง่ายได้อย่างไร ด้วยมีคนมากมายที่ต้องการลงทุน
วันที่ 3 เหล่ากัวจึงออกเดินทางไปพร้อมคนขับรถ
บ่ายวันเดียวกัน รถหรูคันหนึ่งก็ขับมุ่งตรงมายังหน้าบ้าน
………………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
โดนสวมหมวกเขียวใบเบ้อเริ่มเข้าแล้วสิเหล่ากัว รอดูหายนะหลังจากนี้ได้เลยค่ะ
อันที่จริงผู้แปลก็หวังว่าตอนนี้จะเป็นตอนของตานหงนะคะ แต่ก็เศร้าใจเหมือนกันที่ยังเป็นตอนของนังอวิ๋นอยู่ แถมโควตาของวันนี้ก็หมดแล้วด้วย ส่งกอดส่งกำลังใจให้ผู้อ่านทุกคนนะ ะคะ /แน่นอนว่ากอดตัวเองด้วย ในเรื่องที่ว่าต้องเจอหน้านังอวิ๋นไปจนกว่านางจะม่องเท่งน่ะค่ะ ซึ่งจะเป็นเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ ขึ้นกับอ.หนานฟางฯ ล้วน ๆ ว่าจะเขียนให้นางซี้ม่องเท่งตอ อนไหน/
หากเบื่อนังอวิ๋นแล้วก็ติดตามเรื่อง “เกิดใหม่เป็นสามีภรรยาชาวสวนผู้มั่งคั่งยุค 70” ที่เพิ่งเปิดใหม่ในวันนี้ได้นะคะ เรื่องนั้นหวานมาก หวานเจี๊ยบ หวานตัดขา พอจะเอามาแก้เลี ยนนังอวิ๋นในเรื่องนี้ได้อยู่ค่ะ
ไหหม่า(海馬)