ทะลุมิติไปเป็นเศรษฐีนียุค 80 [重生八零致富记] - ตอนที่ 459 พี่สะใภ้
ตอนที่ 459 พี่สะใภ้
เมื่อได้ยินเสียงทักทายอย่างอารมณ์ดีจากปากลูกสาว คุณแม่จี้ก็รู้สึกปลื้มใจไม่น้อย นางอวยพรเธอกลับไป ก่อนจะถามถึงอาการของหล่อน
“ก็ปกติดีทุกอย่างค่ะ เหล่ากัวดูแลฉันดีมาก แต่เขาก็เป็นแบบนี้แหละค่ะ นี่เป็นลูกชายคนที่สองแล้ว เขาก็ยังอยู่บ้านไม่ได้ทุกวัน” จี้อวิ๋นอวิ๋นบอกด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม
เหล่ากัวอยู่ข้างหล่อนพอดี เสียงของเขาดังลอดออกมาจากปลายสาย “แม่คุณโทรมาสินะ”
“ค่ะ คุณอยากจะพูดกับท่านไหมคะ?” จี้อวิ๋นอวิ๋นถาม
“ไม่ล่ะ ฝากคุณทักทายคุณแม่ก็พอ” เหล่ากัวตอบ
“แม่คะ เหล่ากัวฝากทักทายแม่ด้วยน่ะค่ะ” จี้อวิ๋นอวิ๋นเอ่ยพร้อมส่งยิ้ม
“แม่รู้แล้ว ทุกคนสบายดีกันก็ดีแล้วล่ะ” คุณแม่จี้บอกขณะเผยรอยยิ้มกว้างประดับบนใบหน้า
นางคุยเรื่องจิปาถะกับจี้อวิ๋นอวิ๋น ผ่านไปราว 10 นาทีได้ กัวเฮ่าเฮ่าก็เริ่มหมดความอดทน เขาจึงเริ่มร้องงอแงออกมา
“เหล่ากัว พาลูกไปเดินเล่นข้างล่างหน่อยสิคะ เขาอยู่ในบ้านคงเบื่อ” จี้อวิ๋นอวิ๋นบอก
เหล่ากัวพากัวเฮ่าเฮ่าลงไปชั้นล่าง คุณแม่จี้ถามขึ้น “แม่บ้านกลับไปช่วงวันหยุดแล้วเหรอ?”
“กลับไปหมดแล้วค่ะ ตอนนี้ฉันอยู่คนเดียว แม่มีอะไรหรือเปล่าคะ” จี้อวิ๋นอวิ๋นถามกลับ
“ไม่มีอะไรหรอก แม่แค่คิดว่าพี่สี่กับพี่สะใภ้ลูกใช้ชีวิตลำบากกันมากน่ะ” คุณแม่จี้ตอบ
“ดูจากแนวโน้มตลาดตอนนี้ พวกพี่ก็น่าจะใช้หนี้หมดแล้วไม่ใช่เหรอคะ?” จี้อวิ๋นอวิ๋นท้วง
ตอนนี้เงินเพียงแค่นั้นถือว่าเล็กน้อยสำหรับหล่อน แน่นอนว่าไม่ใช่เงินจำนวนมาก ปีใหม่นี้หล่อนได้ออกไปซื้อครีมบำรุงผิวนำเข้ามาจากต่างประเทศ เพียงแค่ชุดเดียวก็มีมูลค่าถึง 30,000 ห หยวน เรียกว่าหรูหรามาก
ทว่านอกจากครีมบำรุงผิวชุดนี้แล้ว ยังมีสร้อยคอที่หลี่เทียนเฉิ่งมอบให้หล่อนอีก
หล่อนบอกชัดเจนว่าไม่ต้องการอะไรจากเขา แต่ชายหนุ่มคนนี้กลับไม่เลิกรา ยิ่งบอกว่าไม่ต้องการของจากเขา เขายิ่งต้องการส่งมาให้
ครั้งก่อนหล่อนออกไปพบหลี่เทียนเฉิ่งทั้งที่ท้องโต และบอกเขาว่าห้ามส่งของมาให้หล่อนอีก ด้วยมันยิ่งทำให้หล่อนรู้สึกกดดัน
เขาทำเพียงหัวเราะและบอกว่าไม่ใช่ของมีค่าอะไร ไม่จำเป็นต้องให้ความสำคัญมากนัก
จี้อวิ๋นอวิ๋นรู้เรื่องนี้ดี ก่อนจะเดินทางกลับ หล่อนยังกำชับไม่ให้เขามาหาอีก เหล่ากัวจะได้จับไม่ได้!
โชคไม่ดีที่หลี่เทียนเฉิ่งติดใจรสชาติความสนุกในการแย่งชิง เขามักมาหาหล่อนโดยไม่ได้ทำอะไร หล่อนตั้งท้องอยู่ เขาเพียงแค่ต้องการตามหล่อนไปทุกที่ ส่วนใหญ่จะอยู่ข้างนอก ไม่ใช่แถว วบ้านของหล่อน
ทุกครั้งจี้อวิ๋นอวิ๋นจะมีท่าทางไม่เต็มใจ ด้วยกลัวว่าจะถูกใครเห็นเข้า มันชวนให้หลี่เทียนเฉิ่งรู้สึกสนุกมาก
นอกจากเรื่องนี้ เมื่อคุณแม่จี้ได้ยินคำพูดลูกสาว นางจึงบอก “ใช้คืนได้หมดแล้วล่ะ แต่พี่สะใภ้ลูกจะตั้งแผงขายของต่อไปน่ะ หล่อนตั้งใจจะเก็บเงินไว้ให้เยียนเอ๋อร์เรียนมหาวิทยาลั ย”
“ค่าเรียนมหาวิทยาลัยมันมากแค่ไหนกัน พี่สี่ก็ไม่ได้มีภาระอื่น ไม่มีเรื่องจำเป็นต้องใช้เงิน เขาหาได้อยู่แล้ว ไปสอนหนังสือทุกวันไม่ได้เหนื่อยเกินไป แต่พี่สะใภ้สี่ต่างหากที่จะเหน นื่อย” จี้อวิ๋นอวิ๋นบอก
แม้จะรู้นิสัยของพี่สี่ของตนดี แต่เพราะพี่สี่ของหล่อนเป็นแบบนี้ จึงยิ่งทำให้หล่อนเคารพเขามากขึ้น
ทว่าบางครั้งเขาก็ยังใจร้อน และดื้อด้านไปเสียหน่อย
คุณแม่จี้เห็นด้วยที่ลี่ลี่ทำงานหนักมาก
จี้อวิ๋นอวิ๋นเอ่ย “แม่คะ ไม่ต้องสนใจเรื่องของสามีภรรยาคู่นี้หรอกค่ะ เขารู้ว่าต้องทำอะไรอยู่แล้ว แม่แค่ใช้ชีวิตให้สบายใจก็พอค่ะ”
“ไม่ต้องห่วงเรื่องนั้นหรอก” คุณแม่จี้บอก
“แม่ไม่ได้กลับไปช่วงปีใหม่นี้ แต่คงมีคนจากบ้านเกิดโทรมาสวัสดีปีใหม่สินะคะ” จี้อวิ๋นอวิ๋นเอ่ย
“โทรมาอะไรกัน ไม่เห็นมีสักสาย ปีนี้ไม่ได้ส่งอะไรมาให้สักคำด้วยซ้ำ แค่ส่งเงินเล็กน้อยมาให้!” คุณแม่จี้อารมณ์ขึ้นทันที
เงิน 200 หยวนที่ให้มา ในสายตาของคนทั่วไป มันถือว่าเป็นเงินไม่น้อย ตอนนี้เงินเดือนเท่าไรกัน? มันแทบจะเท่ากับค่าแรงของคนคนหนึ่งแล้ว เอาตรงไหนมาน้อยกัน?
หากแต่ในสายตาของคุณแม่จี้ มันยังถือว่าน้อย
จี้อวิ๋นอวิ๋นให้เงินนางแต่ละครั้งเท่าไรกัน? มีทั้งที่ไม่ได้ให้ และที่หล่อนให้นางหลายร้อยหยวน ปกติแล้วจะให้ 500 ถึง 600 หยวนเป็นอย่างต่ำ
เทียบกับเงินที่ลูกสาวนางให้ เงิน 200 หยวนไม่ได้มีค่าแต่อย่างใด เจี้ยนอวิ๋นไม่เห็นนางเป็นแม่อีกแล้ว ไม่เจอกันนานขนาดนี้ เขายังไม่โทรมาสักสาย ตอนนี้ที่เคยดีขึ้นกลับแย่กว่า เดิม เขาไม่ได้แม้แต่จะส่งของมาให้ ทั้งที่เป็นวันปีใหม่!
“จี้เจี้ยนอวิ๋นชักจะอวดดีเข้าไปทุกวันแล้วนะคะ!” จี้อวิ๋นอวิ๋นว่าพลางกัดฟันกรอด หล่อนนึกไม่ถึงว่าพี่สามของตนจะใจดำ และทอดทิ้งแม่ตัวเองอย่างไม่แยแสได้ขนาดนี้!
“ถ้าไม่ใช่เพราะพี่สี่ของลูกเสียเวลาเตรียมของไว้ล่วงหน้า ปีนี้คงไม่มีของกินแน่ แม่รอข้าวของจากเขา แต่รอแล้วรอเล่าเป็นครึ่งเดือนก็แล้ว จนแม่ทนรอไม่ไหวอีก!” คุณแม่จี้โวยวาย ย
“ไม่ต้องคิดมากเรื่องเขาหรอกค่ะ ต่อไปแม่ไม่มีลูกชายที่นั่นแล้ว ยังไงแม่ก็ยังมีพี่สี่คอยดูแล แม่ไม่ต้องการพวกเขาหรอกค่ะ!” จี้อวิ๋นอวิ๋นบอก ก่อนเอ่ยถาม “แม่คะ ยังมีเงินติดตัวอยู่ หรือเปล่า?”
“มีอยู่ แม่เก็บเงินไว้เยอะ ไม่ต้องห่วง อยู่ทางนั้นก็ต้องกินอาหารให้มากเข้านะ แม่บ้านลาหยุดไปกี่วันล่ะ?” คุณแม่จี้ถาม
“เดี๋ยวจะกลับมาวันที่ 4 ค่ะ” จี้อวิ๋นอวิ๋นตอบ
“ตอนนี้ท้องแก่แล้ว ลูกต้องระวังให้ดีนะ” คุณแม่จี้เตือน
“ฉันรู้ค่ะ แม่ก็กินเยอะ ๆ นะคะ ปีนี้หนาวมาก มีผ้านวมใหม่หรือยังคะ?”
แม่ลูกคุยกันอยู่เกือบชั่วโมง ก่อนจะวางสาย คุณแม่จี้ไปจ่ายค่าโทรศัพท์ มันทำให้นางนึกเสียดายเล็กน้อย วันนี้นางคุยนานเกินไปหน่อย
จี้อวิ๋นอวิ๋นวางสาย หล่อนเห็นเหล่ากัวพากัวเฮ่าเฮ่ากลับมา เบื้องหลังสองพ่อลูก มีหลี่เทียนเฉิ่งเดินตามเข้ามา!
เมื่อพบหลี่เทียนเฉิ่งในสถานการณ์เช่นนี้ จี้อวิ๋นอวิ๋นถึงกับอึ้ง ท่าทางของหล่อนอยู่ในสายตาของหลี่เทียนเฉิ่ง ชวนให้หลี่เทียนเฉิ่งยักคิ้วขึ้นอย่างอารมณ์ดี และบอก “พี่สะใภ้ ไ ไม่ได้เจอกันนานเลยนะครับ นึกไม่ถึงว่าท้องจะโตถึงขนาดนี้แล้ว”
“ใช่… ใช่ค่ะ เถ้าแก่หลี่ สวัสดีปีใหม่นะคะ ทำไมถึงได้มีเวลาว่างมาที่นี่ล่ะคะ?” จี้อวิ๋นอวิ๋นเอ่ยพลางยิ้มทักทาย “มาหากันทั้งที น่าจะบอกให้เตรียมต้อนรับล่วงหน้าก่อน”
“พี่สะใภ้ สวัสดีปีใหม่เช่นกันนะครับ” หลี่เทียนเฉิ่งตอบพร้อมรอยยิ้มและเสริมขึ้น “ไม่ได้ตั้งใจจะมาที่นี่หรอกครับ แต่พอดีเป็นทางผ่าน จำได้ว่าเหล่ากัวอยู่ที่นี่ เลยแวะมาเยี่ย ยมสักหน่อย พอคิดได้ก็หันไปเจอเหล่ากัวกับลูกชายที่ชั้นล่างพอดีน่ะครับ”
“วันนี้มาดื่มฉลองด้วยกันเถอะครับ!” เหล่ากัวรู้สึกยินดีมากทีเดียว
หลี่เทียนเฉิ่งมาหาในวันสำคัญอย่างนี้ หมายความว่ามีความสัมพันธ์อันดีกับเขา
“พอดีไม่ได้ตั้งใจจะมาที่นี่วันนี้ เลยไม่ได้เตรียมของขวัญมาให้ เดี๋ยวผมจะชดเชยให้พรุ่งนี้ จะสั่งให้คนขับรถเอามาส่งให้แล้วกันนะครับ” หลี่เทียนเฉิ่งบอก
………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
ทางบ้านเกิดเขาก็ไม่ต้องการแม่ลูกอย่างพวกเธอเหมือนกันจ้ะ อย่าสำคัญตัวนักเลย
เถ้าแก่หลี่นี่มาทำอะไร
ไหหม่า(海馬)