ทะลุมิติไปเป็นแม่ของวายร้ายทั้งสาม - บทที่ 20 การทำของเล่น
บทที่ 20 การทำของเล่น
เหยาเฟิงนำเปลกลับมาที่ห้องหลัก ขนาดของมันไม่ใหญ่มาก ดูมีน้ำหนักเบา
พอหันหน้าไปก็เห็นน้องสาว ภรรยา และน้องสะใภ้เดินเข้ามา เขาจึงหัวเราะและพูดขึ้นว่า “อาซู! ข้าเอาเปลที่เจ้าต้องการกลับมาแล้ว!”
เหยาซูกวาดสายตามองเปลแล้วยกยิ้มอย่างพอใจ “ขอบคุณพี่ใหญ่”
“สาวน้อย เจ้าสุภาพกับข้าอีกแล้ว!”
เหยาเฟิงยกมือลูบศีรษะน้องสาวของตัวเองเบา ๆ และแสร้งทำเป็นโกรธ
สะใภ้ใหญ่ถลึงตาใส่สามีอย่างตำหนิ “หยุดเล่นได้แล้ว ท่านทำหน้าแบบนี้คนไม่รู้ก็นึกว่าท่านโกรธจริง ๆ ไปตามเด็ก ๆ เถอะ เกือบเที่ยงแล้วเด็ก ๆ ยังไม่กลับมาอีกเหรอ?”
แม้ว่าอากาศจะหนาวขึ้นเรื่อย ๆ แต่เด็กทั้งสี่คนยังคงชอบออกไปวิ่งเล่นข้างนอก ต้องให้คนในครอบครัวไปตามถึงจะยอมกลับบ้าน
เหยาเฟิงเชื่อฟังคำพูดภรรยา เขาพยักหน้าแล้วพูดว่า “ข้าจะไปตามพวกเขาเอง”
พูดจบก็เดินออกจากบ้านไป
เมื่อเหยาซูเห็นพี่สะใภ้และพี่ชายอยู่ด้วยกันก็หัวเราะด้วยความอิจฉา “ความสัมพันธ์ระหว่างพี่ใหญ่กับพี่สะใภ้ช่างน่าอิจฉาจริง ๆ”
พี่สะใภ้ใหญ่จึงหันไปสนใจเปลที่อยู่ตรงหน้าแล้วรีบเปลี่ยนหัวข้อ “อาซู ไปอุ้มซานเป่ามาลองดูไหม?”
“ได้เจ้าค่ะ”
เหยาซูพยักหน้าและกำลังจะเดินเข้าไปอุ้มซานเป่า ทว่าก็เห็นว่ามารดาของนางอุ้มซานเป่ามาแล้ว
ตอนนี้ซานเป่าตื่นขึ้นมาแล้ว เหยาซูรับลูกมาจากมารดาและกอดเขาไว้ในอ้อมแขนพร้อมกับเอ่ยหยอกล้อเด็กน้อย
“ซานเป่านอนมาสองชั่วยามแล้ว ตื่นมาก็เล่นกับคนเชียว” แม่เฒ่าเหยาเดินเข้าไปมองอย่างแปลกใจ ผลักเปลสองสามครั้งแล้วพูดว่า “ระวังหน่อยนะ อย่าให้ลูกถูกลมหนาว”
เหยาซูพยักหน้า “ท่านแม่ เมื่อไม่กี่วันก่อนสิ่งที่ข้าขอไว้ได้เตรียมสำเร็จแล้วหรือไม่?”
แม่เฒ่าเหยาหมุนตัวไปหยิบผ้าปูผืนหนาออกมาจากตู้ “ข้าเตรียมของไว้ให้ซานเป่าแล้ว อากาศหนาวขึ้นทุกวัน เด็กจะทนหนาวไม่ได้!”
พี่สะใภ้ทั้งสองของตระกูลเหยาไม่เคยเห็นเปลมาก่อน พวกนางอดไม่ได้ที่จะลูบคลำมันด้วยความสนใจ
แม้ว่ามันจะทำมาจากไม้ทว่าทุกจุดเรียบเนียน ไม่มีเสี้ยนให้ตำมือ เหมาะสำหรับเด็ก ซึ่งถูกทำออกมาอย่างประณีตและระมัดระวังเป็นที่สุด
พี่สะใภ้รองยิ้ม “เมื่อมองใกล้ ๆ เปลนี้ดูเหมือนเตียงเล็ก ๆ เลยนะ”
พี่สะใภ้ใหญ่พยักหน้าเช่นกัน จากนั้นทั้งสองคนกระซิบกระซาบกันเบา ๆ
อีกด้านหนึ่ง
เหยาซูและมารดาวางผ้าปูที่นอนที่เตรียมไว้ลงไปในเปลอย่างระมัดระวัง พวกเขาวางซานเป่าไว้ในเปลและพยายามที่จะเขย่ามันเล็กน้อย พลันซานเป่าก็ยิ้มออกมาอย่างมีความสุข ทำให้เห็นฟันของเด็กน้อยที่เริ่มงอกออกมา เขาดูสนุกกับเปลมาก
เหยาซูกล่าวยังมีความสุขว่า “นี่ดีมากเลย ในที่สุดมือเราก็จะได้ว่างเสียที”
หลายวันมานี้นางคิดถึงการค้าขายอยู่บ่อยครั้ง แต่ติดที่นางจำเป็นต้องดูแลซานเป่าไม่อาจห่างจากเจ้าตัวน้อยได้
หลายปีก่อนแม่เฒ่าเหยาได้รับบาดเจ็บที่แขน ตอนนี้ซานเป่าก็อยู่ในวัยที่ต้องการให้อุ้มทุกวัน นางจึงไม่ต้องการให้มารดาต้องลำบากนัก
หญิงชราเห็นซานเป่าอยู่ในเปลยิ้มอย่างร่าเริง จึงพูดกับลูกสะใภ้ทั้งสองอย่างดีใจว่า “หากตอนเด็ก ๆ ลูกชายของพวกเจ้ามีเปลคงจะประหยัดเวลาพวกเราไปไม่น้อย”
ทั้งสองมองหน้ากันแล้วหัวเราะออกมา
ลูกชายทั้งสองของพวกนางอายุห่างกันเพียงแค่ปีเดียว พวกนางต่างก็อารมณ์เสียตั้งแต่เด็ก เพราะลูกทั้งสองของนางจึงกังวลใจไม่น้อย
ยิ่งการป้อนนมและเล่นด้วยทุกวันไม่จำเป็นต้องพูดถึง เพียงกล่อมให้หลับพวกนางก็กลุ้มใจมากแล้ว
พี่สะใภ้ใหญ่กล่าวชมเชย “อาซูฉลาดนัก มีความคิดแปลกใหม่เช่นนี้ได้!”
เหยาซูแกว่งเปลเบา ๆ แล้วพูดว่า “ข้ากำลังคิดว่าจะให้พี่เล่ยช่วยทำของเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เป็นไม้เอามาให้ซานเป่าเล่นด้วย”
สะใภ้ใหญ่จึงกล่าวว่า “ดูเหมือนพวกเราจะได้เปิดหูเปิดตากันอีกครั้งแล้ว”
แม่เฒ่าเหยายิ้มตาม มองสีหน้าของลูกสาวกึ่งปลื้มใจกึ่งสงสาร…
สามวันต่อมา
เหยาซูใช้เวลาวาดรูปสิ่งของเล็ก ๆ น้อย ๆ มากมาย จากนั้นนางก็ฝากให้เหยาเฟิงส่งให้กับเหยาเล่ยและท่านปู่เหยาสาม
ปู่เหยาสามและเหยาเล่ยมีฝีมือในการทำไม้ที่ว่องไว เพียงไม่กี่วันเด็ก ๆ รวมทั้งซานเป่าก็มีของเล่นเล็ก ๆ น้อย ๆ ไว้เป็นของตัวเอง
ลูกพี่ลูกน้องคนโตและคนรองได้กระบี่ไม้ ส่วนต้าเป่าและเอ้อเป่าเป็นกลปริศนาเก้าห่วงที่ทำจากไม้ ของเล่นซานเป่าเป็นม้าไม้ขนาดเล็กหลายตัว เหมาะสำหรับเอาไว้ถือในมือ
เด็กชนบทไม่เคยเห็นของเล่นที่แปลกใหม่เช่นนี้มาก่อน ลูกพี่ลูกน้องสองคนถือกระบี่ไม้ตลอดทั้งวัน บางครั้งก็ชักออกมาเปรียบเทียบกัน ปากก็ตะโกนว่า “ข้าคือแม่ทัพใหญ่แห่งเป่ยเป่ย” และ “ข้าคือแม่ทัพใหญ่ทางใต้ของมณฑล” เด็ก ๆ ต่างตะโกนพูดขึ้นออกมา แม้แต่เด็กวัยเดียวกันคนอื่น ๆ ก็พากันกลับไปที่บ้านแล้วบอกให้ที่บ้านทำกระบี่ไม้ให้กับพวกเขา
ต้าเป่าและเอ้อเป่าสามารถสงบใจลงได้ทั้งวัน นั่งกอดกลปริศนาเก้าห่วงตลอดทั้งวัน พวกเขาเล่นกันอย่างสนุกสนาน แม้แต่ซานเป่าก็รู้สึกสบายใจมาก เขานอนอยู่ในเปลและเล่นกับม้าไม้ตัวน้อยของเขา
เมื่อจัดการกับเด็ก ๆ เป็นที่เรียบร้อย เหยาซูจึงหันกลับมาสนใจเรื่องกิจการอีกครั้ง
……………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
มีของเล่นให้ลูกเล่นแล้ว ช่วยลดภาระให้คนเป็นแม่ไปเยอะเลย
ไหหม่า(海馬)