ทะลุมิติไปเป็นแม่ของวายร้ายทั้งสาม - บทที่ 485 เตรียมตัว
บทที่ 485 เตรียมตัว
บทที่ 485 เตรียมตัว
“ฝ่าบาท! ฝ่าบาท!” เซี่ยเซินไม่ได้สนใจแม้แต่จะทำความเคารพ เขาแทบพุ่งชนประตูเข้าไป แม้แต่ใบหน้าก็แทบจะมีคำว่า ‘ปีติยินดี’ เขียนอยู่
องค์รัชทายาทที่กำลังฝึกเขียนตัวอักษรถึงกับตื่นตระหนกเสียงของเซี่ยเชิน ตัวอักษรที่ถูกวาดด้วยพู่กันอย่างทรงพลังบัดนี้มันได้ลากยาวออกนอกกระดาษไปแล้ว เหลือไว้เพียงรอยหมึกขนาดใหญ่ที่ปรากฏอยู่บนโต๊ะ
“ทำไม?” องค์รัชทายาทไม่เคยเห็นท่าทางเสียการควบคุมเช่นนี้มาก่อน จึงถามขึ้นด้วยความตื่นตระหนกระคนโกรธเคือง
เซี่ยเซินนำเรื่องของเซี่ยเชียนกราบทูลต่อเขาอย่างรวบรัดตัดตอน ดวงตาขององค์รัชทายาทได้เบิกกว้างเล็กน้อย จากนั้นก็มองเซี่ยเซินด้วยความตกตะลึง
“ท่านราชครู ท่านราชครูหมายความว่าเช่นนี้จริง ๆ หรือ? เจ้าคงไม่ได้เข้าใจผิดว่าเขาแค่อยากให้เราศึกษาเรียนรู้อยู่ในตำหนักตะวันออกด้วยตัวเองเท่านั้นนะ” องค์รัชทายาทไม่ค่อยจะเป็นกังวลกับผลดีหรือผลเสียของตัวเองเท่าไรนัก
“เป็นเช่นนี้จริง ๆ พ่ะย่ะค่ะ!” เซี่ยเซินตอบอย่างไม่ลังเล “ท่านปู่มีเจตนารมณ์อย่างไรข้าไม่มีทางเข้าใจคลาดเคลื่อนอย่างแน่นอน อีกอย่างที่ท่านปู่ตัดสินใจเช่นนี้ก็หลังจากไปเข้าเฝ้าจักรพรรดิในห้องทรงอักษรแล้ว นั่นหมายความว่าจักรพรรดิทรงยินยอมให้ฝ่าบาทเสด็จออกจากไปได้พ่ะย่ะค่ะ!”
“เช่นนั้น เช่นนั้นก็เยี่ยมไปเลยสิ” มือขององค์รัชทายาทสั่นระริกด้วยความตื่นเต้น พู่กันที่ถูกโยนลงไปล้างในน้ำได้ถูกเก็บขึ้นมาจนน้ำสาดกระเซ็น แต่ไม่มีผู้ใดสนใจ
องค์รัชทายาทตื่นเต้นเช่นนี้ เพราะไม่เพียงแต่จะสามารถเข้าร่วมพิธีปักปิ่นของหลินซือเท่านั้น แต่ยังเป็นเพราะจักรพรรดิทรงอนุญาตให้เขาออกไปได้ นั่นพิสูจน์ให้เห็นว่าแผนการที่เขาทำในช่วงนี้ไปในทางที่ดี องค์จักรพรรดิทรงให้อภัยตนแล้ว
“เช่นนั้นเราต้องเตรียมของขวัญสำหรับพี่สาวของข้า” เซี่ยเซินครุ่นคิด
“ข้าเตรียมไว้เรียบร้อยแล้ว” องค์รัชทายาทลุกขึ้น จากนั้นก็หยิบกล่องผ้าขนาดเล็กใบหนึ่งออกมาจากตู้เล็กข้างเตียง ก่อนจะลูบไล้ลวดลายดอกไม้ด้านบนอย่างมุ่งมั่น “เตรียมไว้นานแล้ว”
เซี่ยเซินรุดขึ้นหน้าด้วยความประหลาดใจ แล้วทูลด้วยความฉงน “ฝ่าบาท ฝ่าบาทเตรียมไว้ตั้งแต่เมื่อใด?”
องค์รัชทายาทยิ้มโดยไม่พูดสิ่งใด ก่อนจะย้อนกลับไปยังบทสนทนาแรกเริ่มด้วยการปรึกษาหารือกับเซี่ยเซินว่าจะออกจากวังโดยไม่ให้แตกตื่นอย่างไร
ความคิดของเซี่ยเซินมลายหายไปทันที แล้วหารือกับองค์รัชทายาทด้วยความตื่นเต้น
…
“เอ้อเป่า เอ้อเป่าเล่า?” ในจวนท่านแม่ทัพ ไป๋หรูปิงถือเสื้อผ้าพร้อมกับดึงตัวของเจี่ยงเถิงมาถามทิศทางของหลินซือ
เจี่ยงเถิงชี้ไปยังทิศทางของจวนหลัก “ถูกท่านอาซูเรียกตัวไปเมื่อครู่”
ไป๋หรูปิงถอนหายใจ ก่อนหน้านั้นนางลองชุดสำหรับเข้าพิธีปักปิ่นอยู่หลายครั้งแต่ก็ยังพบปัญหาอยู่บางจุด ตอนนี้เป็นการลองชุดครั้งสุดท้ายแล้วกลับหาตัวหลินซือไม่เจอ สาวใช้ข้างกายก็ไม่รู้ จังหวะนั้นนางเห็นเจี่ยงเถิงเข้าพอดีจึงเข้าไปถาม
ก่อนจะวิ่งจากไปไป๋หรูปิงไม่วายพูดว่า “ถ้าข้าอยากรู้ว่าเอ้อเป่าอยู่ที่ไหนคงต้องถามเจ้า”
เจี่ยงเถิงรู้สึกดีกับคำพูดของไป๋หรูปิง และคิดว่าพี่สะใภ้คนนี้ก็ไม่เลวเช่นกัน
“เอ้อเป่า รีบมาลองชุดนี้เร็ว!” ไป๋หรูปิงวิ่งเข้ามาถึงจวนหลักหลินซือก็ออกมาพอดี ทันทีที่ออกมาก็ถูกนางดักทางไว้
หลินซือกุมขมับ “พี่ไป๋ ข้าคิดว่าชุดครั้งที่แล้วมันดีมากแล้ว ส่วนเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่พี่พูดกับท่านแม่ข้ายังมองไม่ออกเลยว่ามันไม่ดีตรงไหน เราหยุดแก้ดีกว่า ขืนลองชุดนี้มีหวังได้เปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อแน่”
“ได้อย่างไรเล่า!” ไป๋หรูปิงเปลี่ยนจากท่าทีอ่อนโยนก่อนหน้านั้นมาข่มหลินซือด้วยท่าทีแข็งกระด้าง ให้นางกลับเข้าไปในจวนหลักภายใต้การสังเกตของเหยาซูและไป๋หรูปิง นางจึงต้องจัดการเสื้อผ้าของตัวเองอย่างว่าง่าย
“เป็นอย่างไรบ้าง?” หลินซือหมุนตัวหนึ่งรอบ ทั้งสองคนมองพิจารณานางตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า ในที่สุดก็พยักหน้าอย่างพร้อมเพรียง
หลินซือถอนหายใจยาว เครื่องหัวที่หนักอึ้งได้กดศีรษะจนทนไม่ไหว “เยี่ยมไปเลย! ในที่สุดก็ได้ถอดเสียที!”
“เฮ้ เฮ้ เอ้อเป่า อย่าขยับ!” ไป๋หรูปิงรีบประคองหลินซือ ไม่สิ เครื่องหัวของหลินซือต่างหาก
เมื่อหลินซือขยับตัว เครื่องหัวจึงเกิดการเอนเอียง ถ้าไม่ใช่เพราะไป๋หรูปิงประคองไว้ มีความเป็นไปได้อย่างสูงว่ามันคงตกพื้นไปแล้ว
หลินซือรู้สึกได้ถึงน้ำหนักการเอนเอียงบนศีรษะ จึงไม่กล้าขยับแม้แต่น้อย ได้แต่ตัวแข็งทื่ออยู่ที่เดิม และกล่าวด้วยน้ำเสียงต่ำอย่างระมัดระวัง “ก็ได้ ๆ ข้าไม่ขยับแล้ว ไป๋ พี่ช่วยหยิบมันลงมาเสียเถิด ขอร้อง”
ไป๋หรูปิงมองไปทางเครื่องหัวเต็มศีรษะของหลินซือ แล้วอดทอดถอนใจไม่ได้ ก่อนจะกล่าวว่า “อาซือ เด็กผู้หญิงทั่วไปอยากจะแต่งตัวเช่นนี้เจ้าร่วมพิธีปักปิ่นของตัวเองอย่างสมบูรณ์แบบทั้งนั้น ดีใจจนไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรให้ออกมาดีที่สุด ส่วนเจ้าเล่า ทั้งที่ไม่ต้องเลือกเอง แต่แค่ลองเครื่องหัวก็ไม่ชอบแล้ว”
“พี่ไป๋ หยุดพูดได้แล้ว พี่รีบหยิบมันลงมาตามที่ข้าขอร้องก่อนเถิด” หลินซืออ้อนวอนด้วยหน้านิ่วคิ้วขมวด
ไป๋หรูปิงทำได้แค่ต้องยกสิ่งของบนศีรษะของหลินซือลงมา สุดท้ายหลินซือก็มองเครื่องหัวที่วางอยู่เต็มโต๊ะ แล้วบ่นอุบอิบว่า “ท่านแม่ พี่ไป๋ พวกท่านเสาะหาสิ่งของที่วุ่นวายเหล่านี้มาจากที่ไหนกัน?”
เหยาซูเคาะศีรษะของหลินซืออย่างไม่สบอารมณ์ “ทั้งหมดนี้เป็นเครื่องประดับล้ำค่ายิ่ง บางชิ้นในวังก็อาจจะไม่มี ท่าทางไม่ชอบของเจ้ามันหมายความว่าอย่างไรกัน หือ?”
“ท่านแม่ ข้าผิดไปแล้วเจ้าค่ะ!” หลินซือรีบกล่าวขอโทษทันที
เหยาซูจะทำอย่างไรได้ แน่นอนว่าต้องเลือกให้อภัยนางอยู่ดี
หลินซือเปลี่ยนเสื้อผ้า เดิมทีตั้งใจจะให้สาวใช้นำกลับไปวางในห้องของตัวเอง แต่ไป๋หรูปิงยืนยันว่าจะไปด้วยตัวเอง หลินซือจึงทำได้แค่มอบเสื้อผ้าที่หนักอึ้งชุดนี้ให้นาง
ในห้องจึงเหลือเพียงแค่หลินซือและเหยาซูสองคน เหยาซูทอดถอนใจ แล้วกล่าวว่า “วันมะรืนก็เป็นพิธีปักปิ่นของเอ้อเป่าแล้ว ตอนนี้ข้ากำลังนึกถึงวันแรกที่เจ้าเกิด เด็กทารกหน้าย่นยู่ คาดไม่ถึงว่าพริบตาเดียวจะโตเป็นสาวเช่นนี้”
ในใจของหลินซือยังคงเสียใจอยู่ไม่น้อย จากนั้นก็หันไปกอดเหยาซู “ท่านแม่ ไม่ว่าข้าจะโตเพียงใด ต่อให้ให้ข้ามีลูกของตัวเอง ลูกก็ยังเป็นลูก ข้าก็ยังเป็นเอ้อเป่าของท่านนะเจ้าคะ”
เหยาซูคลี่ยิ้ม โอบกอดแผ่นหลังที่แบบบางของหลินซือ แล้วพูดว่า “แต่เอ้อเป่าต้องเติบโต เมื่อเติบโตแล้วก็ต้องออกเรือน ต้องมีคนที่ชอบ ไม่ว่าอีกฝ่ายจะเป็นอย่างไร ก็ต้องบอกพ่อกับแม่ ขอแค่คนผู้นั้นไม่มีปัญหา เอ้อเป่าชอบ พ่อกับแม่จะไม่ขวางลูก”
“ท่านแม่ ตอนนี้ยังไม่คิดเรื่องนี้สิเจ้าคะ” หลินซือรู้สึกผิด แล้วซบหน้าลงบนไหล่ของเหยาซู
“ถึงเวลาคิดแล้ว” เหยาซูตบแผ่นหลังของหลินซืออย่างแผ่วเบา “คิดให้มาก บางทีโชคชะตาอาจเป็นคนใกล้ตัวก็ได้”
ในสมองของหลินซือได้ปรากฎเป็นร่างเงาของเจี่ยงเถิงขึ้นมาอย่างฉับพลัน นางรีบหลับตาแล้วสะบัดไล่ความคิดเหล่านั้นออกจากสมอง
เหยาซูสังเกตเห็นความเงียบของหลินซือ ในใจเลยเกิดความเห็นใจเจี่ยงเถิงอยู่หน่อย ๆ ดูท่าเด็กคนนี้ยังต้องเหนื่อยอีกนาน
“เอาละ เอ้อเป่า ยังมีเรื่องอีกมากต้องทำ” เหยาซูผลักตัวของหลินซือออกเบา ๆ โชคดีที่ตอนนี้มีสาวใช้เข้ามารายงานว่าเจี่ยงเถิงรออยู่ด้านนอก จึงให้หลินซือออกไปก่อน
“อย่าแอบอู้เชียวนะ เอ้อเป่า คนที่มาร่วมงานในวันมะรืนไม่น้อย” เหยาซูหยอกเย้า
“ข้าไม่มีวันทำเช่นนั้นแน่นอนเจ้าค่ะ!” หลินซือแสดงความเคารพต่อเหยาซู แล้วหมุนตัวเดินจากไป
…………………………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
นั่นแน่ เล็งอาซือไว้นานแล้ว ถึงขั้นเตรียมของขวัญพิธีปักปิ่นไว้โดยเฉพาะอีกต่างหาก คู่แข่งรายนี้ชักน่ากลัวแล้วสิอาเถิง
ไหหม่า(海馬)