ทะลุมิติไปเป็นแม่ของวายร้ายทั้งสาม - บทที่ 508 ไม่ได้นัดหมาย
บทที่ 508 ไม่ได้นัดหมาย
บทที่ 508 ไม่ได้นัดหมาย
“เฮ้! พวกเจ้าสองคนพอได้แล้ว!”
เหยาเอ้อหลางเดิมตามทั้งสองคน ถือถุงใบเล็กใบใหญ่เต็มไม้เต็มมือ แต่ไม่มีของของตนเองเลยแม้แต่น้อย
ทั้งสองคนด้านหน้ากำลังถกเถียงกันเรื่องปริศนาในโคม ไม่มีใครสนใจเด็กหนุ่มเลยแม้แต่คนเดียว
เหยาเอ้อหลางได้แต่คิดแล้วก็สงสัย หากรู้ว่าจะเป็นเช่นนี้ สู้ไปดื่มกับสหายอื่นหรือไม่ก็ทำงานที่เมืองจิงจ้าวยังจะดีกว่าตอนนี้เสียอีก
“อย่างน้อยพวกเจ้าก็เอาของของพวกเจ้าไปก่อนไหม? ข้าไม่ใช่เด็กรับใช้ของพวกเจ้านะ”
เหยาเอ้อหลางส่งของที่อยู่ในมือให้กับผู้ที่น่าจะมีมโนธรรมอย่างหลินซือ
หลินซือยังคงลังเลเล็กน้อย แต่กลับถูกเจี่ยงเถิงดึงตัวไปอย่างรวดเร็ว และเด็กหนุ่มยังไม่ลืมที่จะลูบไหล่ของนาง “ขอบคุณท่านเป็นอย่างมาก”
เหยาเอ้อหลางนิ่งเงียบ เด็กหนุ่มไม่ได้เงียบไปเฉย ๆ แต่เขากำลังโกรธ!
“พี่ใหญ่ท่านเองก็อยู่?!” หลินซือเอ่ยขึ้นด้วยความตกใจ
โทสะของเหยาเอ้อหลางถูกขัดจังหวะ เหตุเพราะหลินจื้อเข้ามาทักทายตน เหยาเอ้อหลางไม่สามารถโมโหต่อหน้าพี่ชายของหลินซือและว่าที่ภรรยาของเขาได้
หลังจากที่หลินจื้อทักทายเด็กหนุ่มเสร็จก็กลับมาตอบคำถามของหลินซือ “ศิษย์น้องบอกว่าสถานที่แห่งนี้คึกคักเป็นอย่างมาก ดังนั้นพวกข้าสองคนเลยไม่เข้าวัง”
“อ้อ พวกท่านไม่ได้ไปเลยสินะ” หลินซือประหลาดใจ เด็กสาวเดินเข้าไปหาเจี่ยงเถิง “รู้เช่นนี้พวกเราก็คงจะไม่เข้าวัง”
เจี่ยงเถิงยิ้มอย่างช่วยไม่ได้ หลินจื้อไม่เข้าไปก็ได้เนื่องจากมีหลินเหราเข้าไปแล้ว แต่ถ้าเจี่ยงเถิงไม่ไปแล้วตระกูลเจี่ยงจะมีผู้ใดไปได้อีก?
“เช่นนั้นพวกท่านเดินเล่นมานานเท่าไรแล้ว?” หลินซือมองซ้ายมองขวา “แล้วพี่ไป๋เล่า?”
“นางไปเลือกผ้า เห็นบอกว่าจะเตรียมชุดฤดูใบไม้ผลิให้พวกเราทั้งสองบ้าน ศิษย์น้องช่างมีน้ำใจเสมอมา” หลินจื้อเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าที่อบอุ่น และมองไปยังร้านขายเสื้อผ้า
หลินซือกัดฟัน รู้สึกอิจฉาหลินจื้อเล็กน้อย “พี่ พี่สามารถหาสะใภ้ได้อย่างพี่ไป๋ ช่างเป็นวาสนาที่ดีจริง ๆ”
หลินจื้อหัวเราะร่วน หากแต่ก็ไม่ได้โต้แย้งใด ๆ ผ่านไปเพียงครู่เดียวไป๋หรูปิงก็ปรากฏตัว เด็กสาวมองดูทั้งสามคนด้วยความประหลาดใจอยู่ครู่หนึ่ง แต่แล้วนางก็สังเกตเห็นเหยาเอ้อหลางที่ดูมีอารมณ์ไม่สู้ดีนักโดยที่มีข้าวของเต็มไม้เต็มมือ
“คุณชายเหยา ข้าพาคนรับใช้มาด้วยสองสามคน ให้พวกเขาช่วยถือของสิ ข้าวของพวกนี้ล้วนเป็นของหลินซือกระมัง?” หญิงสาวเอ่ยขึ้นพลางมองไปยังหลินซือ ฝ่ายนั้นก็แลบลิ้นออกมาด้วยความเขินอาย
เหยาเอ้อหลางรู้สึกผ่อนคลายขึ้นมา เดิมทีแล้วเด็กหนุ่มไม่เข้าใจไป๋หรูปิงนัก แต่เมื่อนางเอ่ยเช่นนี้ ภาพลักษณ์ของไป๋หรูปิงภายในใจของเด็กหนุ่มก็ดีขึ้นมา
ในตอนที่ส่งของให้กับเด็กรับใช้ เหยาเอ้อหลางยังแอบยกนิ้วโป้งให้กับหลินจื้อ เอ่ยขึ้นเบา ๆ “โชคดีมาก ๆ”
หลินจื้อเตะพี่รองของตนเบา ๆ แต่ก็เตะไม่โดน
เหยาเอ้อหลางหัวเราะขึ้นแล้วหลบฝ่าเท้าน้องชาย ตอนนี้มือของเด็กหนุ่มก็ว่างแล้ว เอ้อหลางจึงเริ่มโต้ตอบหลินซือและเจี่ยงเถิงทันที เด็กหนุ่มแกว่งของรอบ ๆ ตัวพวกเขาเหมือนเป็นโคมไฟ
เจี่ยงเถิงคิดในใจทันทีว่าตนนั้นคิดผิด แต่เด็กหนุ่มก็ไม่สามารถทำอะไรกับเหยาเอ้อบุรุษหน้าด้านและไร้ยางอายผู้นี้ได้
คนไม่กี่คนได้มารวมตัวกัน จึงไม่ได้แยกไปไหนอีก ส่วนใหญ่จะเป็นหลินซือที่คอยสอบถามไป๋หรูปิงเกี่ยวกับรูปแบบเสื้อผ้ายามวสันต์ แต่ไป๋หรูปิงก็ไม่บอกนาง เด็กหญิงบอกแค่ว่าให้หลินซือรอก่อน ถึงเวลานั้นจะต้องประหลาดใจแน่นอน
เจี่ยงเถิงและหลินจื้อต่างอยากจะอยู่กับสตรีของตนราวกับว่าทั้งใต้หล้ามีแค่เราสอง แต่กลับไม่สามารถแยกสตรีสองคนข้างหน้าออกจากกันได้ จึงทำได้แค่เดินตามเพียงเท่านั้น
แน่นอนว่าเหยาเอ้อหลางไม่ได้สนใจอะไร แต่กลับรู้สึกว่าเมื่อทั้งสองคู่อยู่ด้วยกันเขาผ่อนคลายลงเป็นอย่างมาก เนื่องจากที่นี่มีผู้คน ดังนั้นพวกเขาจะต้องสำรวมการกระทำเอาไว้อย่างมาก
หลินซือพยายามอย่างมากแต่กลับไม่มีอะไรออกจากปากไป๋หรูปิงเลย เจี่ยงเถิงและหลินจื้อบางเวลาก็เข้าไปกวนนางบ้าง หลินซือจึงทำได้เพียงแค่ยอมแพ้ไป และเปลี่ยนมาสำรวจของกินแทน
แต่ในขณะที่หลินซือกวาดสายตาไปรอบ ๆ ยังไม่ทันจะพบกับอาหารเลิศรส จู่ ๆ ก็พบเข้ากับเงาที่คุ้นเคย
นั่นก็คือองค์รัชทายาท!
หลินซือขยี้ตาอย่างไม่ปักใจเชื่อ แต่นางมองไม่ผิดจริง ๆ คนผู้นั้นสวมเครื่องแบบขององค์รัชทายาท และตามมาด้วยเด็กผู้หญิงที่ดูแก่กว่าเล็กน้อย
เด็กหญิงคนนั้นหน้าตาดูคุ้นเคยนัก แต่หลินซือเองก็จำไม่ได้ว่าเคยพบที่ไหน นางจึงรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย
แน่นอนว่าเจี่ยงเถิงต้องเห็นท่าทางของหลินซือ เด็กหนุ่มจึงเอ่ยถามขึ้น “เป็นอะไรไปหลินซือ?”
หลินซือชี้ไปทางนั้น ไม่อยากเชื่อสายตาตนเอง “พวกท่านดู นั่นคือองค์รัชทายาทใช่ไหม?”
คนทั้งหมดหันไป ก็พบว่านั่นคือองค์รัชทายาทจริง ๆ
เมื่อถูกคนจำนวนมากจ้องมอง องค์รัชทายาทก็รู้สึกตัวได้ ในขณะที่เขาหันมาก็พบกับสายตาของหลินซือ
“ท่านชายเป็นอะไรไปเจ้าคะ?” ลู่เหยาที่อยู่ข้าง ๆ เอ่ยขึ้น องค์รัชทายาทให้นางเรียกเขาว่าท่านชายเมื่ออยู่ข้างนอก ลู่เหยาเพียงแค่ยืนดูฝีมือการทำโคม เหตุใดการแสดงออกขององค์รัชทายาทถึงเปลี่ยนไปเพียงนั้น
หรือเพราะว่าตนนั้นอืดอาดมากเกินไปแล้ว?
ลู่เหยาครุ่นคิดอยู่สักพัก และก็พบว่าดวงตาขององค์รัชทายาทจ้องมาทางนั้นโดยตลอด เช่นนั้นนางจึงมองตามไปด้วย ก็พบเข้ากับหลินซือและกลุ่มคนข้างหลังนาง
จู่ ๆ ลู่เหยาก็คว้าแขนเสื้อของอีกฝ่ายหมายจะพาวิ่งไปโดยไม่รู้ตัว ทว่าองค์รัชทายาทไม่มีทีท่าว่าจะขยับ นางจึงทำได้เเค่เพียงขมวดคิ้วและยืนอยู่ด้านหลังราวกับสาวใช้ในวังที่ไร้ความรู้สึก
“ฝ่าบาท”
หลินจื้อและเจี่ยงเถิงก้าวขึ้นมาบริเวณด้านหน้า และโค้งคำนับให้กับองค์รัชทายาท
องค์รัชทายาทพยักหน้าด้วยความเบื่อหน่ายเล็กน้อย แผนการของเขาเองก็ไร้ที่ติมาโดยตลอด แต่จู่ ๆ ก็โดนโจมตีกลับด้วยคนจำนวนมากแบบนี้
ถึงแม้ว่าเดิมทีเขาอยากจะออกจากวังเพื่อมาพบหลินซือในทันที แต่ไม่ใช่มาเจอในสภาพเช่นนี้
“ไม่ต้องมากพิธีหรอก อยู่ข้างนอกเรียกข้าว่าคุณชาย”
องค์รัชทายาทพยักหน้าให้กับพวกเขาอย่างไม่ค่อยพอใจนัก เวลานั้นทั้งหมดก็ล้วนรู้สึกอึดอัด
องค์รัชทายาทยังคงดั้นด้นต่อไป ไม่ง่ายเลยที่จะได้พบกับหลินซือ แน่นอนว่าเขานั้นต้องการที่จะอยู่กับหลินซือ แต่กลับมีผู้คนห้อมล้อมนางมากมายเช่นนี้ เจี่ยงเถิงและหลินจื้อก็มองมาราวกับว่าจะกินเขาเข้าไป แล้วเขาจะสามารถทำอะไรได้?
แต่ในเมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว เขาเองก็ไม่ยอมเช่นกัน
แน่นอนว่าหลินซือและคนอื่น ๆ ต่างก็ต้องการที่จะกล่าวลาองค์รัชทายาท แต่เขายังไม่ได้กล่าวอะไรออกมา พวกเขาก็ไม่ควรที่จะบอกลา จึงทำได้เพียงแค่ยืนนิ่ง ๆ
ในที่สุดลู่เหยาก็เป็นผู้ที่ทำลายบรรยากาศน่าอึดอัดใจนั้น นางดึงชายเสื้อขององค์รัชทายาทเบา ๆ พร้อมเอ่ยขึ้นว่า “ท่านชาย ถึงเวลาแล้วเจ้าค่ะ”
ถึงแม้ว่าลู่เหยาจะระมัดระวังตัวอยู่แล้ว แต่เหตุการณ์เช่นนี้ สายตาทั้งหมดต่างก็จับจ้องมาที่นาง
องค์รัชทายาทสังเกตเห็นว่าลู่เหยามีอาการสั่นเล็กน้อย จึงเป็นกังวลว่าถ้าตนยังไม่ไปนางจะต้องโดนตำหนิเป็นแน่แท้ จึงเอ่ยขึ้น “เช่นนั้นพวกเราขอตัวก่อน”
หลินซือและคนอื่น ๆ ก็พากันกล่าวลา และแยกกันไปในทิศทางตรงกันข้าม
พระองค์ก้าวออกไปได้เพียงไม่กี่ก้าวก็หันกลับมามองตามแผ่นหลังของหลินซือ และกลับมามองตาแดง ๆ ของลู่เหยา เขาจึงถอนหายใจ
“ไปกันเถอะ ส่งเจ้ากลับบ้านก่อนแล้วข้าค่อยกลับ”
“ขอบคุณเจ้าค่ะ คุณชาย” เสียงของลู่เหยาเบาราวกับยุง
องค์รัชทายาทเริ่มเร่งฝีเท้า นางก็รีบเดินตามไปติด ๆ
………………………………………………………………………………………………..
สารจากผู้แปล
เหยาเอ้อรอดจากการเป็นคนใช้คู่เจี่ยงเถิงอาซือเสียทีนะ
พบกันได้จังหวะนรกมาก บอกแล้วว่าอาซือไม่เหมาะกับท่านน่ะองค์รัชทายาท
ไหหม่า(海馬)