ทะลุมิติไปเป็นแม่ของวายร้ายทั้งสาม - บทที่ 583 คาดว่าข้าคงตกใจจนหัวใจวายตาย
บทที่ 583 คาดว่าข้าคงตกใจจนหัวใจวายตาย
บทที่ 583 คาดว่าข้าคงตกใจจนหัวใจวายตาย
“ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้เอง ดูท่าคุณชายจะมั่นใจไม่น้อย”
เหยาเอ้อหลางชื่นชมเขาด้วยใจจริง ตอนแรกสุดเขาไม่พอใจที่เขาไล่จับตัวเองด้วยการเสี่ยงโชค แต่ตอนนี้แม้จะนับเป็นการเสี่ยงโชคไปบ้าง แต่ก็ใช้ศักยภาพมากกว่า
เรื่องที่ว่าทำไมคุณชายหลิวถึงปรากฏตัวขึ้นทางตอนใต้ของเมือง ต่อให้เหยาเอ้อหลางจะแปลกใจ แต่ก็เข้าใจว่าบางเรื่องก็ไม่ควรถาม ไม่ถามเป็นดีที่สุด
“เหตุใดคุณชายเหยาถึงหนีออกจากบ้าน?”
“เรื่องนี้จะให้พูดก็คงยาว”
เมื่อเอ่ยถึงเรื่องนี้ เหยาเอ้อหลางก็รู้สึกลำบากใจ ครานี้เขาถูกจับตัวกลับมา ดูท่าคงหนีไม่พ้นโชคชะตาที่ต้องไปดูตัวกับคุณหนูแล้ว
“เผื่อข้าช่วยคุณชายเหยาได้ ก็ไม่แน่?”
“ความจริงแล้วก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร แต่ช่วงนี้ท่านพ่อของข้าค่อนข้างร้อนใจกับการแต่งงานของข้า พาเหล่าคุณหนูในตระกูลขุนนางเหล่านั้นมาให้ข้าดูตัว เดิมทีข้าเป็นคนหยาบช้า ยิ่งเห็นคุณหนูที่งดงามหยาดเยิ้มเหล่านั้นก็ยิ่งเบื่อหน่าย พูดเพียงไม่กี่คำก็ร้องไห้ อีกทั้งข้ายังปลอบสตรีไม่เป็น ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้ท่านพ่อต้องขุ่นเคืองใจ”
“ข้านึกไม่ถึงว่าคุณชายเหยาจะมีความหงุดหงิดใจเช่นนี้ด้วย ใต้เท้าเหยาแค่เป็นห่วงเจ้าเท่านั้น”
“ข้ารู้ แต่ข้าไม่อยากแต่งงานเร็วเพียงนี้ แทนที่จะดูแลสตรีคนอื่น สู้ไปทำสงครามฆ่าศัตรูดีกว่า ถ้าไม่ได้จริง ๆ ก็ไปทำหน้าที่รักษาความสงบของบ้านเมืองก็ยังดี แต่ไม่ว่าข้าจะพูดอย่างไร ท่านพ่อก็ไม่ฟัง ข้าเองก็จนปัญญา”
ช่วงบ่ายวันนี้ ทั้งสองคนที่เดิมทีเป็นศัตรูกัน แต่เพราะการได้พูดคุยกันทำให้ความห่างเหินนั้นน้อยลงอย่างไม่ทราบสาเหตุ สุดท้ายทั้งสองคนก็กลายเป็นสหายกัน
การที่เหยาเอ้อหลางได้เจอกับคุณชายหลิวเช่นนี้ ก็ทำให้นึกถึงซวีจ้าวขึ้นมา จะว่าไปแล้ว เขาเองก็ใกล้จะกลับมาแล้วเช่นกัน
…
หลินซือกำลังตรวจสอบบัญชีอย่างจริงจัง ช่วงนี้กิจการเครื่องหยกดีขึ้นกว่าแต่ก่อนไม่น้อย ตัวเลขในบัญชีก็ค่อย ๆ เพิ่มมากขึ้น นางรู้ว่าผลลัพธ์นี้ต้องขอบคุณความพยายามของอวี้อวี้
แต่อวี้อวี้คนนี้ ปกติแล้วไม่เคยขอร้องสิ่งใด บรรดาเครื่องหยกที่เขาตั้งใจทำภายในร้านหยกอวี้ฝู ดูเหมือนจะไม่มีผลกระทบต่อเขาอย่างไรอย่างนั้น
“อวี้อวี้ ช่วงนี้พี่ได้กลับบ้านบ้างหรือไม่?”
“ไม่ ใครจะรู้เล่าว่าบุรุษคนนั้นจะไปจากเรือนข้าแล้วหรือยัง ถ้ากลับไปแล้วเจอเขาอีก คาดว่าข้าคงตกใจจนหัวใจวายตาย”
อวี้อวี้แกะหยกไปพลางตอบคำถามของหลินซือไปพลาง
“อวี้อวี้ ข้าอยากได้ปิ่นที่ทำจากหยกสักชิ้น พี่ดูสิว่าพอจะทำชิ้นนี้ได้หรือไม่?”
หลินซือเปลี่ยนหัวข้อกะทันหัน จากนั้นก็หยิบหยกชิ้นพลางถามขึ้น
“หยกชิ้นนี้มีมูลค่ามหาศาล เถ้าแก่เนี้ยๆ เจ้าอยากทำปิ่นปักผมให้คนรักสินะ”
อวี้อวี้มองหยกที่อยู่ในมือของหลินซือ ซึ่งเป็นชิ้นที่พวกเขาออกไปเที่ยวเตร่ และได้มันมาด้วยการเสียเงินไปไม่น้อย
ถ้าใช้หยกชิ้นนี้ทำก็นับว่าคุ้มค่า เพราะมันจะได้คืนกลับมาห้าเท่าของราคาเดิม ตอนนี้หากเจ้านายอยากใช้มันทำปิ่นปักผม ก็คงไม่อาจทำเครื่องประดับใหญ่ชิ้นอื่นได้อีก แต่อย่างไรโอกาสที่มันจะได้กลับคืนมาก็ย่อมเป็นไปได้
“พี่ไม่ต้องสนใจ ข้าแค่ถามว่าได้หรือไม่ได้”
เมื่อถูกอวี้อวี้มองออก ใบหน้าของหลินซือก็ร้อนผ่าวทันใด คำที่พูดออกไปก็พยายามพูดอย่างนิ่งสงบที่สุด
“ได้สิ หยกชิ้นนี้เนื้อดีเชียวล่ะ ถ้าเจ้าอยากทำ ข้าจะขัดมาให้ก่อน จากนั้นเจ้าก็ค่อย ๆ แกะสลักตามที่ตัวเองชอบก็พอ”
“เยี่ยม เช่นนั้นรบกวนพี่ด้วยแล้วกัน”
“ข้าต้องทำอยู่แล้ว”
พูดจบก็ลงมือทันที อวี้อวี้วางงานที่อยู่ในมือ จากนั้นก็รับหยกจากในมือของหลินซือ แล้วเริ่มลงมือเกลา
หลินนซือมองไปรอบ ๆ ด้าน ภายในร้านว่ามีสิ่งใดให้นางช่วยได้บ้าง
“พี่อาเถิง ท่านมาได้อย่างไร?”
เมื่อหลินซือหันขวับก็พบกับเจี่ยงเถิง ยังไม่ทันที่อีกฝ่ายจะเรียกนางหลินซือก็ชิงเรียกเขาก่อน
“อาซือ ข้าได้ยินท่านแม่บอกว่าวันนี้เจ้าจะเข้าร้าน ข้าจึงได้มาดู ตอนนี้กิจการที่เจ้าทำก้าวหน้ามากขึ้นเรื่อย ๆ ลูกค้าก็เข้ามาอย่างไม่ขาดสาย”
“นี่คือความพยายามของอวี้อวี้และพี่ไป๋ ความจริงแล้วเป็นข้าทิ้งภาระให้ผู้ดูแลร้าน” เมื่อเอ่ยถึงเรื่องนี้ หลินซือก็รู้สึกผิดขึ้นมาทันใด
ความคิดอยากเปิดร้านเป็นคนแรกก็คือนาง ต้นทุนหลังจากนั้นแม้ว่านางจะออกส่วนหนึ่ง แต่การบริการจัดการของทั้งร้านล้วนแต่เป็นหน้าที่ของพี่ไป๋ ส่วนอวี้อวี้ก็รับหน้าที่สร้างสรรค์ผลงาน
“ไม่หรอก อาซือเก่งมาก ถ้าไม่ใช่เพราะเจ้าไปตามหาอวี้อวี้ ร้านหยกอวี้ฝูแห่งนี้ก็คงจะไม่มีวันนี้แน่นอน”
ในใจของเจี่ยงเถิง เอ้อเป่าของตัวเองคือคนที่เก่งที่สุด แต่ไหนแต่ไรมาอาซือไม่จำเป็นต้องทำอะไรด้วยซ้ำ ความเบิกบานใจของอาซือสำคัญยิ่งกว่าสิ่งใด
…………………………………………………………………………………………………..