ทะลุมิติไปเป็นแม่ของวายร้ายทั้งสาม - บทที่ 681 เจอข้าถึงกับพูดไม่ออกเชียวรึ
บทที่ 681 เจอข้าถึงกับพูดไม่ออกเชียวรึ
บทที่ 681 เจอข้าถึงกับพูดไม่ออกเชียวรึ
หลินซือเฝ้าอยู่บริเวณที่ทำงานของผู้เป็นพี่ชาย ผ่านไปแล้วสองวัน เจี่ยงเถิงก็ยังไม่ส่งข่าวคราวกลับมา
นางร้อนใจจนแทบทนไม่ไหว ไม่รู้ข่าวคราวเกี่ยวกับเจี่ยงเถิงเลย ยิ่งทำให้หลินซือกินไม่ได้นอนไม่หลับ
“ท่านพี่!”
ครั้นเห็นเงาของหลินจื้อ หลินซือก็วิ่งรุดหน้าไปคว้าแขนเสื้อของเขาไว้ทันที
“ท่านพี่ มีข่าวของเจี่ยงเถิงบ้างหรือไม่?”
หลินจื้อคว้าข้อมือของหลินซือ หลังจากมองซ้ายแลขวาแล้วเอ่ยเสียงทุ้มต่ำ
“นี่ไม่ใช่สถานที่ที่เจ้าควรมา ช่วงนี้เพราะเรื่องของเจี่ยงเถิงยังไม่ราบรื่น เจ้าปรากฏตัวเช่นนี้ ถ้าเกิดตกเป็นเป้าสายตาของผู้อื่นจะทำอย่างไร?”
“ความหมายของท่านพี่คือจะมีคนทำร้ายพี่อาเถิงหรือเจ้าคะ?”
หลินซือเกิดหวั่นไหวในใจ ทันทีที่ได้ยินความหมายที่แฝงอยู่ในคำพูดของหลินจื้อ การไปฮว๋ายจงในครานี้ของเจี่ยงเถิงเพื่อสืบหาความจริง
ครั้นถูกคนทำร้ายเป็นเรื่องที่สมเหตุสมผล ไม่เพียงแต่หลินซือเท่านั้น หลินจื้อเองก็ยังวิ่งวุ่นเพราะเรื่องนี้
“ใช่ แต่ตอนนี้เรายังพูดไม่ได้ และทำการบุ่มบ่ามไม่ได้ด้วย ดังนั้นเจ้าจงกลับไปรอในจวนดี ๆ เรื่องนี้ไว้เป็นหน้าที่ข้าจัดการเอง”
“แต่…”
หลินซือมองเขาไปในสายตาของพี่ชาย นัยน์ตาคู่นั้นฉายแววมุ่งมั่น นางยิ่งหมดคำพูด
นางทำได้แค่เชื่อฟังคำพูดของหลินจื้อ ตรงกลับจวนอย่างว่าง่าย
……
เหยาซูและหลินเหรากลับมาถึงจวนแล้ว ครั้นเห็นร่างเงาของลูกสาว เหยาซูก็ดีใจทันที
“อาซือกลับมาแล้ว? ไปหาคุณชายตระกูลเจี่ยงมาสิท่า”
ครั้นเอ่ยถึงเจี่ยงเถิง หลินซือก็พลันหน้านิ่วคิ้วขมวด เหยาซูมองออกในทันที “เป็นอะไรไป? เจี่ยงเถิงรังแกเจ้ารึ?”
หลินเหราโอบกอดเหยาซู ทั้งสองคนยืนอยู่เบื้องหน้าหลินซือ เตรียมจะระเบิดอารมณ์ใส่หลินซือ
หลินซือท้อใจ ล้มตัวลงนอนบนเก้าอี้ ร่างทั้งร่างไร้ชีวิตชีวา น้ำเสียงของนางฟังดูน้อยใจมาก
“พี่อาเถิงไปทำภารกิจที่ฮว๋ายจง ตอนนี้ไร้ซึ่งข่าวคราว”
“เกิดอะไรขึ้น?”
นางเล่าต้นสายปลายเหตุให้มารดาและบิดาของตนฟัง หลังจากฟังจบสีหน้าของเหยาซูก็เคร่งขรึมลง
ทั้งสองคนสบตากันและกัน เหยาซูตบไหล่ของหลินซืออย่างแผ่วเบา “อาซือ ข้าและพ่อของเจ้าจะออกไปสืบหาสถานการณ์ของเจี่ยงเถิงเสียหน่อย เจ้าอยู่ในจวนห้ามคิดเรื่องใดเด็ดขาด”
ตอนนี้นางไร้ซึ่งปณิธานใด ได้แค่นอนดูกลีบดอกไม้ที่ร่วงโรยอยู่บนเก้าอี้หวายเท่านั้น
หลินซือโบกมือส่งสัญญาณให้บิดาและมารดาเข้าใจความคิดของพวกเขา
เหยาซูและหลินเหราออกจากจวนไปอย่างรีบร้อน หลินซือหยิบจดหมายออกจากห้อง ก่อนจะพลิกเปิดอ่านทีละหน้า
ในใจของนางเต็มไปด้วยความกังวล หลินซือไม่เคยเป็นกังวลเกี่ยวกับเขาเช่นนี้มาก่อน จึงตระหนักได้ว่าตัวเองคงหลงรักเจี่ยงเถิงเข้าแล้ว
หลินซือทอดถอนใจอย่างหนักหน่วง หยิบผ้าปักขึ้นมาปักรูปเทพเจ้าแห่งความมั่งคั่งใหม่อีกครั้ง
ต่อมาบิดาและมารดาของตนก็กลับจวน ไม่รู้ว่าพูดอะไรกับหลินซือ หลินซือทำได้แค่พยักหน้าตอบรับ ‘อื้อ ๆ’
ผ่านไปอีกสามวัน ในที่สุดหลินซือก็อดคิดไม่ได้ เก็บข้าวข้องในจวน นางตัดสินใจจะไปสืบหาข่าวที่เมืองฮว๋ายจงเอง
แม้ว่าทุกคนจะหาตัวเจี่ยงเถิงไม่เจอ แต่นางต้องหาให้เจอจงได้!
“คุณหนูใหญ่ คุณหนูจะทำสิ่งใดเจ้าคะ”
สาวใช้ในจวนเห็นการกระทำของหลินซือ จึงรีบตะโกนเรียกเหยาซูเสียงดัง
เหยาซูกำลังชำเลืองมองพฤติกรรมของหลินซือ “อาซือ เจ้าจะทำสิ่งใด?”
นางรีบลากตัวหลินซือ ครั้นหลินซือเห็นมารดาของตน ในใจก็ยิ่งน้อยใจ นางถวิลหาเจี่ยงเถิงมาก
รออย่างไร้เป้าหมายอยู่ในจวน หลินซือคงนั่งไม่ติดแน่
“ท่านแม่ ข้าต้องไปตามหาเจี่ยงเถิง”
“เจ้าบ้าไปแล้วรึ ฮว๋ายจงไกลเพียงนั้น เจ้าผู้ซึ่งเป็นสตรีที่ยังไม่ออกเรือนคนเดียว จะเดินทางไปยังสถานห่างไกลเพียงนั้นได้อย่างไร!”
“ปกติแล้วท่านแม่และท่านพ่อก็มักจะเดินทางไปที่ห่างไกลเพียงนั้นอยู่แล้วไม่ใช่หรือเจ้าคะ?”
หลินซือรู้สึกว่าทั้งสองฝ่ายไม่ต่างกัน นางเดินทางไปฮว๋ายจงดีกว่าทนรออยู่ที่จวนเสียอีก
เหยาซูรั้งตัวหลินซือไว้ แล้วชิงสัมภาระจากในมือของนาง
“เด็กคนนี้นี่ เหตุใดถึงได้ดื้อรั้นเช่นนี้ ที่ข้าออกไปท่องทั่วทุกหนแห่งได้นั้นเพราะมีพ่อเจ้าไปด้วย นี่เจ้าจะไปฮว๋ายจงเพียงลำพัง ไม่เข้าท่า!”
เด็กสาวร้อนใจจนอยากจะร้องไห้ออกมา นางพึมพำ พร่ำเพ้อแต่จะไปหาเจี่ยงเถิง
หลินจื้อกลับมาจากสำนักบัณฑิตฮั่นหลิน ได้ยินเสียงร้องไห้สะอื้นของหลินซือจากไกล ๆ
เหยาซูเหมือนเห็นพระเอกขี่ม้าขาวมาช่วย “เจ้ารีบมาโน้มน้าวน้องสาวเจ้าเร็วเข้า นางจะไปตามหาเจี่ยงเถิงท่าเดียว”
“อาซือ อย่าก่อเรื่อง”
ทุกคนล้วนอยากให้หลินซือชั่งใจ อยู่รอข่าวของเจี่ยงเถิงในจวนอย่างเชื่อฟัง
หลินซือไม่ได้โง่ หากรออย่างหวาดหวั่นเช่นนี้ต่อไป สุดท้ายอาจจะได้รับข่าวการตายของเจี่ยงเถิงก็ได้ นางจะรอเช่นนี้ไม่ได้
“ที่พวกท่านให้ข้ารอ ให้ข้ารอฟังข่าวการตายของเขาใช่หรือไม่?”
“เจ้าพูดอะไร ไม่เพียงแต่เจ้าที่ไม้รู้ข่าวของเขา แม้แต่พี่ชายของเจ้าก็ไม่รู้”
หลินจื้อเดินมาข้างกายของหลินซือ ตบปลอบสาวน้อยที่กำลังร้องไห้สะอื้นอย่างเบามือ
“อย่าร้องไห้เลย สิ่งที่เราทำได้คือรอ ยิ่งไปกว่านั้นเจี่ยงเถิงก็บอกแล้ว ว่าจะต้องกลับมาขอแค่เจ้ารอเขา หรือเจ้าไม่เชื่อใจเขา?”
“ใครจะไม่เชื่อใจเขา! ข้า ข้าก็แค่เป็นห่วง”
ต่อให้เชื่อใจเจี่ยงเถิง แต่การไม่ได้รับข่าวคราวนานเพียงนี้ ในใจของหลินซือย่อมว้าวุ่นอย่างไม่อาจปิดบังได้
น้ำตาของนางหลั่งริน สุดท้ายก็อดสะอื้นออกมาไม่ได้
“ท่านแม่ ท่านพี่บอกความจริงข้ามาเถอะ ว่าพี่อาเถิงนั้น…”
“นั้นอะไร?”
หลินซือเหมือนเกิดภาพมายา ได้ยินเสียงที่คล้ายกับของเจี่ยงเถิง
ยามชายหนุ่มยืนอยู่ข้างกายของนาง หลินซือได้กลิ่นอันคุ้นเคย นี่คือเจี่ยงเถิง!
นางหันข้าง ร่างเงาของเจี่ยงเถิงปรากฏเป็นประจักษ์แก่สายตา นางมองเขาด้วยความตื่นเต้นและตกใจ
“พี่อาเถิง นั่นท่านจริง ๆ ใช่ไหม? ท่านกลับมาแล้ว? ข้าไม่ได้ฝันไปใช่ไหม?”
หลินซือกังวลว่าตัวเองอาจกำลังฝันเพราะถวิลหาอีกฝ่ายเกินไป แต่ชายหนุ่มผู้นี้ยืนอยู่ข้างกายของหลินซือ นางถึงกับพูดไม่ออก
นางมองชายที่มีหนวดเครารุงรังตรงหน้าด้วยสายตาไม่อยากจะเชื่อ เจี่ยงเถิงต้องประสบกับพายุฝนที่โหมกระหน่ำมาตลอดทาง
เขายกมือวางบนศีรษะของหลินซือ “ทำไม เห็นข้าแล้วพูดไม่ออกเชียวรึ?”
“ใช่ท่านจริง ๆ ใช่ไหม?”
ตอนที่ชายหนุ่มที่ตนถวิลหาได้ปรากฏตัวตรงหน้าของนาง หลินซือไม่สามารถปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงนี้ได้ชั่วขณะ
เหยาซูและหลินจื้อถอยออกไปอย่างเงียบ ๆ ปล่อยให้ทั้งสองคนอยู่ในโลกของกันและกัน
“ท่านรู้ไหมว่าข้าคิดว่าท่าน….”
“คิดว่าข้าทำไม? คิดว่าเจ้าจะไม่มีสามีแล้วใช่หรือไม่?”
เจี่ยงเถิงคว้าตัวของหลินซือเข้ามาในอ้อมกอด ระหว่างทาง เจี่ยงเถิงต้องประสบกับความทุกข์ยากมากมาย ในช่วงเวลาที่ความตายมาเยือนตรงหน้า เขาล้วนนึกถึงสาวน้อยที่กำลังรอเขาอยู่ในจวน
ความเชื่อมั่นนี้ ทำให้เขาลากตัวเองกลับมาจวนจนได้
ความห่วงหาอาทรของหลินซือ ทำให้เจี่ยงเถิงกลับจวนอย่างปลอดภัย
“ท่านรอดกลับมาได้ ทำไมถึงไม่บอกข้าสักคำ ทำให้ข้าพะว้าพะวงหาแต่ท่านทั้งยามหลับและยามตื่น กินไม่ได้นอนไม่หลับ”
“เด็กโง่ ถ้าเขียนจดหมายให้เจ้า คนที่จ้องทำร้ายข้าเหล่านั้นจะทำอย่างไรกับข้า? จะทำอย่างไรกับเจ้า?”
ทุกสิ่งทุกอย่างเจี่ยงเถิงไตร่ตรองไว้แล้ว เขากอดหลินซือแน่น ทั้งสองคนใช้แขนแสดงความคิดถึง
หลินซือสูดจมูก “ท่านลำบากมาตลอดทางแล้ว ท่านต้องกลับไปบอกป้าเจี่ยงด้วยนะว่าปลอดภัยแล้ว”
ใบหน้าของชายหนุ่มแต้มรอยยิ้ม ก่อนจะตอบรับอย่างเต็มเสียง “ได้”
………………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
ในที่สุดเจี่ยงเถิงก็กลับมา ทำเอาเป็นห่วงกันแถบแย่เลยนะคะ
ไหหม่า (海馬)
——————————————–