ทะลุมิติไปเป็นแม่ของวายร้ายทั้งสาม - บทที่ 685 เหยาเอ้อหลางเจ้าต้องกลับกับข้าเดี๋ยวนี้
บทที่ 685 เหยาเอ้อหลางเจ้าต้องกลับกับข้าเดี๋ยวนี้
บทที่ 685 เหยาเอ้อหลางเจ้าต้องกลับกับข้าเดี๋ยวนี้
เหยาเฉาไม่เจอเหยาเอ้อหลางมาหลายวันแล้ว เจ้ากรมเมืองจิงจ้าวนับว่าเป็นตำแหน่งที่สำคัญมาก เด็กคนนี้ไม่มีท่าทีจะปรากฏตัวจริง ๆ
สะใภ้รองเหยาร้อนใจกระวนกระวาย “ท่านว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับเด็กคนนี้หรือไม่เจ้าคะ?”
“ไม่มีทาง! ในเมืองเกิดเรื่องอะไรเพียงน้อยนิด ข้าก็รู้ตั้งแต่วินาทีแรกแล้ว ไม่มีทางที่เจ้าเด็กโง่ผู้นี้จะเกิดเรื่องโดยที่ข้าไม่รู้”
ครั้นได้ยินคำพูดของเขา ในใจของสะใภ้รองเหยาก็วางใจมากขึ้น แต่การหายตัวไปไม่เห็นแม้แต่เงา ในใจก็ยังร้อนใจเหมือนไฟสุมอกอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
“เจ้าว่าเขาออกนอกเมืองไปแล้วหรือไม่?”
“เหลวไหล หน้าประตูเมืองมีคนของเราเฝ้าอยู่ ต่อให้เขามีปีกก็หนีไม่พ้น”
เพื่อหลบเลี่ยงคำพูดของแม่สื่อ เหยาเอ้อหลางจึงหาเรื่องหนีออกจากจวน
ซึ่งตรงกันข้ามกับทัศนคติของเหยาเฉาโดยสิ้นเชิง ถ้าเจอคุณชายคนนี้เขาจะสั่งสอนสักฉาด
โตขนาดนี้แล้ว ยังจะทำให้บิดาและมารดาเป็นห่วงอีก
พ่อบ้านรีบวิ่งเข้ามาจากข้างนอก “นายท่าน สายลับฝั่งนั้นส่งข่าวคราวมาแล้ว!”
สะใภ้รองเหยายิ่งตื่นเต้นยิ่งกว่า นางเร่งเร้าให้พ่อบ้านบอกที่อยู่ของเหยาเอ้อหลางโดยเร็ว
“เจอตัวแล้วรึ?”
“มีคนเห็นคุณชายปรากฏตัวอยู่ในจวนขององครักษ์พิทักษ์เมืองขอรับ ว่ากันว่าเล่นสำบัดสำนวนกับคนในจวนขององครักษ์พิทักษ์ มีความสุขเชียวขอรับ”
เหยาเฉาได้ยินคำพูดนี้ ยิ่งร้อนใจอยู่ภายใน ก่อนหน้านี้เขาไม่เคยได้ยินว่าพวกเขาสองคนมีปฏิสัมพันธ์กัน ตอนนี้เหยาเอ้อหลางผู้นี้วิ่งแจ้นไปอยู่ที่อื่น
“ไม่รู้จักกาลเทศะเสียจริง! เจ้าลูกคนนี้ วันนี้ข้าจะต้องจับตัวเขาให้จงได้ แล้วหักแขนหักขาเขาให้สิ้นซาก! ไม่เข้าท่าเลยจริง ๆ!”
ขณะพูด เหยาเฉาเหลือบไปเห็นไม้ตะพดพอดี
สะใภ้รองเหยารู้จักนิสัยของสามีของตนดี ครั้นนางเห็นก็ปรี่เข้าไปขัดขวางการกระทำของเขาทันที
“เจ้าจะทำอะไร? ลูกไม่เป็นไรก็ดีแล้ว เจ้ายังจะสั่งสอนเขาอีก เจ้าอยากตัดความสัมพันธ์ระหว่างพ่อลูกกับเขาใช่หรือไม่?”
ถึงแม้ว่าสะใภ้รองเหยาจะโกรธวิธีการของเหยาเฉา แต่ต่อให้เจ้าตัวจะสูงส่งเพียงใดก็รับการกระทำเช่นนี้ทุกวันไม่ได้
“เจ้าจะไปเข้าใจอะไร เขาไปอาศัยอยู่จวนคนอื่นมันเข้าท่านักรึ? องครักษ์พิทักษ์เมืองมีลูกสาวที่ยังไม่ออกเรือนปรากฏตัว หากเรื่องนี้แพร่สะพัดออกไปไม่เป็นผลดีต่อชื่อเสียงของทั้งสองตระกูลหรอกหรือ!”
ใบหน้าอันขาวเนียนของเหยาเฉาเต็มไปด้วยความโกรธเคือง ดูเหมือนตั้งใจจะหักแข้งหักขาของลูกชายผู้โง่เขลาของตน
“เด็กคนนี้ทำอะไรไม่เคยเชื่อฟังคำสั่งองข้า ชอบทำให้คนแก่ ๆ อย่างข้าเป็นห่วงอยู่เรื่อย!”
“อย่าว่าแต่จินตนาการเลย รับลูกกลับมาให้ได้ก่อน!”
สะใภ้รองเหยาชิงไม้ตะพดมาจากมือของเขา ไม่ให้เขานำติดตัวไปด้วย ทั้งสองคนเดินตามกันไปติด ๆ กระทั่งถึงจวนขององครักษ์พิทักษ์เมือง
ครั้นพ่อบ้านหน้าประตูจวนเห็นสองสามีภรรยาท่านแม่ทัพก็รีบเปิดประตูให้พวกเขาฉับไว
“ขอถามหน่อยท่านแม่ทัพ เหตุใดท่านถึงได้มาเยือนจวนอันต่ำต้อยของข้าได้?”
“เจ้าอย่าเฉไฉทำเป็นไม่รู้ เรียกตัวลูกชายไม่รักดีของข้าออกมาเดี๋ยวนี้!”
ตะวันโด่งฟ้า องครักษ์พิทักษ์เมืองออกจากจวนไปปฏิบัติภารกิจแล้ว ส่วนเหยาเอ้อหลางยังนอนหลับอยู่ในห้อง ระหว่างหลับฝันหวานก็ได้ยินเสียงมีคนตะโกนเรียก
เขาตื่นจากฝันหวาน กระทั่งได้ยินอย่างชัดเจน นี่คือเสียงของตาเฒ่าของเขา!
เหยาเอ้อหลางรีบแต่งองค์ทรงเครื่อง เปิดประตูห้อง กระทั่งเห็นบิดาและมารดายืนอยู่ในลานกว้าง
นัยน์ตาของเหยาเฉาเปล่งประกาย “เจ้าลูกตัวดี! ซ่อนตัวอยู่ในนี้นี่เอง?! มากับข้า กลับไปกับข้าเดี๋ยวนี้”
“อย่าให้ข้าต้องอับอายขายขี้หน้าที่นี่อีกเลย!”
“ถ้าจะกลับ ท่านกลับไปเถอะ ข้าไม่กลับไปกับท่าน!”
เสียงของเหยาเอ้อหลางดังกึกก้องไปทั่วจวน เหยาเฉาโกรธจนอยากจะเฆี่ยนสั่งสอนเขา สะใภ้รองเหยาพยายาโน้มน้าวขวางอยู่ข้างกาย
“นี่มันจวนคนอื่น อย่าก่อปัญหา!”
คำพูดนี้ยับยั้งความโกรธของเหยาเฉาได้ ในที่สุดเหยาเฉาก็ตระหนักได้ว่าตนกำลังอยู่ต่อหน้าคนนอก คำพูดคำจาจึงได้อ่อนโยนลง
เขาจ้องเขม็งไปเหยาเอ้อหลาง “ข้าไม่อยากเสวนากับเจ้าและไม่อยากทะเลาะกับเจ้าแล้ว กลับไปกับข้าเดี๋ยวนี้”
“ข้าไม่ไป!”
เหยาเอ้อหลางยังคงยืนหยันในจุดยืนของตน กลับไปสถานการณ์ที่เขาเผชิญก็ต้องวนเวียนซ้ำแล้วซ้ำเล่า เผชิญหน้ากับสถานการณ์เดิมต่อไป คนในตระกูลยังคงบีบให้เขาทำเรื่องที่ตัวเองไม่ชอบ
กระทั่งให้เขาแต่งงานกับสตรีที่ตัวเองไม่ชอบ นี่ไม่ใช่ชีวิตที่เหยาเอ้อหลางอยากได้
“ถ้าจะกลับพวกท่านกลับไปเถอะ จวนแห่งนั้นเข้าไม่อยากลับไป”
“เจ้าชักหัวรั้นเกินไปแล้วนะ!”
ในที่สุดเหยาเฉาก็ทนไม่ไหวอีกต่อไป แม้แต่สะใภ้รองเหยาก็ขวางผู้เป็นสามีไม่ได้
ในช่วงเวลาสำคัญ ต้าชุน องครักษ์พิทักษ์เมืองรู้ว่ามีแขกมาเยือน จึงรีบกลับจวน กระทั่งเห็นเหตุการณ์นี้เข้า
เขารีบเข้าไปล้อมเหยาเฉาไว้ “ใต้เท้าเหยา! ใต้เท้าเหยา ได้โปรดระงับโทสะ!”
เหยาเฉาเห็นใบหน้าของต้าชุน ความโกรธก็พลันลดลงไปไม่น้อย เขาช่างพูดช่างจายิ่งนัก
“ต้าชุน เหยาเอ้อหลางอยู่รบกวนเจ้ามาหลายวันแล้ว วันนี้ข้าต้องพาเขากลับไปให้จงได้”
“ใต้เท้าอย่าเพิ่งร้อนใจไป เอ้อหลางไม่ได้รบกวน ข้าดึงรั้งเขาไว้ที่นี่เอง เจอเพียงสองครั้งก็ถูกคอ เลยทำใจให้เขาไปจากที่นี่ไม่ได้”
ต้าชุนพูดจาไพเราะน่าฟัง ทำลายความคุกกรุ่นที่อยู่ในใจของทั่งสองฝ่ายลงได้
สะใภ้รองเหยาโน้มน้าวเหยาเอ้อหลาง “เอ้อหลาง กลับไปก่อนเถอะ มีอะไรค่อยกลับไปคุยกันในจวน”
“ไม่กลับ”
เขายังคงยืนยันเช่นเดิม เรื่องนี้ถ้ายอมแพ้ตอนนี้ ต่อไปคงจะมีสตรีมากหน้าหลายตาแวะเวียนมาเจอเขาไม่จบไม่สิ้น
“เจ้า!”
“ใต้เท้า ฮูหยิน ยินดีต้อนรับพวกท่านที่มายังจวนของข้าเจ้าค่ะ”
ปี้ชุนมองฉาก ‘สู้รบ’ อยู่ข้างกายนานแล้ว รู้ว่าใต้เท้าเหยามีนิสัยเช่นนี้อยู่แล้ว พูดเพียงไม่กี่คำก็สงบลงได้
นางเผยรอยยิ้มหวานและน่ารักพลางกล่าวทักทายสองสามีภรรยาเหยาเฉา สะใภ้รองเหยาจ้องเขม็งไปยังเด็กสาวตรงหน้า เพราะรู้สึกว่าเด็กคนนี้เฉลาดยิ่งนัก
“พี่เอ้อหลางกับข้าเกิดความเข้าใจผิดกันโดยบังเอิญ เรื่องที่ท่านพี่ตักเตือนพี่ต้าชุน ไม่ได้สร้างปัญหาให้พี่เอ้อหลางรึ” เสียงของเด็กสาวอ่อนหวาน ความขุ่นมัวในใจของเหยาเฉาสงบลงไปบ้าง
นัยน์ตาของเหยาเฉายังฉายแววโกรธเคือง “ไม่ว่าอย่างไร เหยาเอ้อหลางก็ต้องกลับไปพร้อมกับข้า”
เหยาเอ้อหลางยืนประจันหน้ากับเหยาเฉา ไม่ยอมก้มหัวเด็ดขาด
“ใต้เท้าเหยา ได้โปรดฟังข้าน้อยก่อน ข้าและเหยาเอ้อหลางมีวาสนาต่อกัน ได้โปรดให้เอ้อหลางอยู่บ้านข้าอีกสักสองสามวันเพื่อพักจิตพักใจก่อนเถิด”
เขาเดินเข้าใกล้เหยาเฉา แล้วเอ่ยกับเหยาเฉากึ่งชนะว่า “ใต้ท้าเหยา เราต่างก็เป็นถึงขุนนาง ท่านเองก็รู้ว่าถ้าขืนปล่อยให้เรื่องราวใหญ่โตคงไม่เป็นผลดีกับใครแน่”
“มิสู้ให้เอ้อหลางอยู่จวนข้าสักสองสามวัน ข้าจะช่วยโน้มน้าวให้อีกแรง จะได้เป็นผลดีต่อความรู้สึกของสองพ่อลูกด้วย”
คำพูดของต้าชุนล้วนมีเหตุผล
สะใภ้รองเหยารู้สึกว่าเขาพูดถูก จึงยื่นมือออกไปดึงแขนเสื้อของเหยาเฉา
“ไหน ๆ วันนี้ก็มาเยือนถึงที่นี่แล้ว เพื่อไม่ให้ทุกคนรู้สึกอาย เดี๋ยวข้าจะต้อนรับเอง”
“ช่างเถอะ! เหยาเอ้อหลาง ข้าให้เวลาเจ้ามากสุดแค่สองวัน ถ้ายังไม่กลับไปก็อย่ามาว่าข้าไม่เกรงใจ!”
หลังจากส่งทั้งสองคนแล้ว มีเพียงเหยาเอ้อหลางที่ยืนเพียงลำพังอยู่ในลานกว้าง
ปี้ชุนอดหยอกเย้าไม่ได้ “ลูกชายอย่างเจ้าช่างมีค่ายิ่งนัก ถูกบีบบังคับให้แต่งงาน มีแค่เจ้าคนเดียว”
“เรื่องเมื่อครู่สร้างความลำบากใจให้เจ้า ให้พวกเจ้าขบขัน เรื่องในวันนี้ข้าน้อยสกุลเหยาต้องตอบแทนแน่นอน”
ปี้ชุนกระตุกมุมปาก ใบหน้าคลี่ยิ้มอย่างไม่อาจปิดบังได้ “ได้สิ เช่นนั้นเจ้าว่ามาสิว่าจะตอบแทนข้าอย่างไร?”
เหยาเอ้อหลาง ‘เขาแค่พูดไปเรื่อย คนผู้นี้ไม่รู้จักเกรงใจสักนิด’
——————————————–