ทะลุมิติไปเป็นแม่ของวายร้ายทั้งสาม - บทที่ 708 คู่สามีภรรยาที่เพิ่งแต่งงาน
บทที่ 708 คู่สามีภรรยาที่เพิ่งแต่งงาน
บทที่ 708 คู่สามีภรรยาที่เพิ่งแต่งงาน
พูดถึงตอนนี้
หลินซือมองเข้าไปในตาของชายหนุ่มตรงหน้า เจี่ยงเถิงยื่นมือออกมากุมใบหน้าของนางอย่างอ่อนโยน
“ตื่นเช้ามาเห็นเจ้าไม่สนใจข้า ก่อนออกเดินทางก็ไม่เห็นเจ้าที่เดิม ข้าคิดว่าเจ้าคงโกรธข้าแล้ว”
หลินซือเงยหน้ามองใบหน้าอันหล่อเหลาของเจี่ยงเถิง ความโกรธเคืองในใจพลันมลายไปอย่างง่ายดายเพียงเพราะความหล่อเหลาและรูปงามของเขา
“ข้าครุ่นคิดอยู่หลายตลบ อยู่กับเหย้าเฝ้ากับเรือนอย่างทุกข์ใจ สู้ออกมากับท่านดีกว่า”
นางเอ่ยเสียงเรียบ แล้วเอ่ยต่อว่า “ใต้เท้าคงไม่ถือโทษเอาความที่ข้าแอบตามท่านมาโดยไม่บอกกล่าวหรอกกระมัง?”
ชายหนุ่มลูบศีรษะของนางอย่างอ่อนโยน แล้วส่ายหน้า
“ข้าเป็นกังวล ไม่รู้จะพาเจ้าไปชื่นชมทิวทัศน์อันงดงามในเจียงหนานได้อย่างไรต่างหาก บัดนี้เจ้าเดินทางมาพร้อมกับข้าแล้ว เช่นนั้นข้าจะพาเจ้าเที่ยวเล่นระหว่างทางแวะพักละกัน”
“อาซือ ขอโทษ และขอบคุณเจ้ามาก”
หลินซือกุมมือใหญ่ของเขา ความอบอุ่นได้แผ่ขยายไปทั่วฝ่ามือของคนทั้งสอง
ครั้นผู้ติดตามของเจี่ยงเถิงเห็นหน้าเคร่งเครียดของเจี่ยงเถิงผ่อนคลายในที่สุด ทุกคนก็พากันโล่งใจอยู่ภายในไปด้วย
“ใต้เท้า มีหญิงงามเคียงข้าง จิตใจของท่านคงสงบขึ้น”
“ใช่ ฮูหยินร่วมเดินทางด้วย หัวคิ้วที่ขมวดเป็นปมของใต้เท้าผ่อนคลายลงแล้ว!”
ผู้คนโดยรอบพากันโห่ร้อง ใบหน้าของหลินซือแดงระเรื่อ ก่อนจะซ่อนตัวหลบอยู่ด้านหลังของเจี่ยงเถิง
ชายหนุ่มจูงมือของนาง พลางกวาดสายตามองทุกคน
“พักผ่อนเถอะ”
เจี่ยงเถิงจูงมือหลินซือมานั่งพักยังร้านขายน้ำชาที่อยู่ด้านข้าง แต่สายตาไม่เคยละไปไหน “เหนื่อยหรือไม่? ไม่รู้มีใครบอกเจ้าหรือไม่ว่า หนทางที่จะเดินทางไปนั้นค่อนข้างทุรกันดาร ฮูหยินอาจจะเหนื่อยได้”
“ไปกับท่านข้าไม่เหนื่อย ดีใจเสียด้วยซ้ำ ทิวทัศน์เจียงหนานต้องงดงามมากแน่นอน”
เจี่ยงเถิงเงยหน้ามองเมืองที่อยู่ไกลออกไป เขาละสายตากลับมามองมือของหลินซือด้วยความตื่นเต้น “อาซือ งานเฉลิมฉลองยามราตรีของเจียงหนานแตกต่างจากเรามาก คืนนี้เมืองเล็ก ๆ แห่งนั้นจะมีการจัดเทศกาลโคมไฟ ข้าจะพาเจ้าไป”
“เยี่ยม”
“ใต้เท้า!”
จู่ ๆ ก็มีเสียงตะโกนดังขึ้นด้านข้าง ทำลายภาพความงามในจินตนาการของทั้งสองคนไปสิ้นเชิง
เจี่ยงเถิงเงยหน้า หลินซือละสายตาจากมือที่อยู่ในฝ่ามือของเขา
“ใต้เท้า นี่คือจดหมายลับขอรับ”
ทหารคนหนึ่งนำจดหมายลับมาส่งถึงมือของเจี่ยงเถิง จากนั้นก็ถอยออกไป
เจี่ยงเถิงเปิดจดหมายฉบับนั้น ไม่นานสีหน้าของเขาก็ดูแย่ลงเรื่อย ๆ ความหม่นหมองได้คืบคลานเข้ามาปกคลุมสีหน้าของเขา
“เกิดอะไรขึ้น? มีอะไรหรือ?”
“สายลับรายงานมาว่า คนที่ข้าส่งไปตรวนการสถานการณ์โรงเกลือผู้นั้นขาดการติดต่อโดยไม่ทราบสาเหตุ เกรงว่าทางตอนใต้จะมีคนรู้ข่าวว่าข้าจะไปที่นั่น”
“ถ้าไม่ได้ทำผิดจะกลัวท่านไปหาเรื่องถึงที่ทำไม คนผู้นั้นพิสดารนัก”
เจี่ยงเถิงยกกาน้ำชาขึ้น รินให้หลินซือ มองดูนางจิบชาอย่างช้า ๆ
“นั่นสิ ว่าแต่อาซือ เจ้าว่าใครพิสดารนะ?”
สาวน้อยกะพริบตามองเจี่ยงเถิงที่ทำตัวเหมือนมองไม่รู้ร้อน “เรื่องด่วนมากไหม? เราเร่งความเร็วขึ้นดีไหม ไม่ให้คนผู้นั้นทำลายหลักฐานได้?”
“ทำเรื่องชั่วมันต้องทิ้งร่องรอยไว้แน่นอน หรือต่อให้ไปถึงก่อนเวลาพวกเขาคงทำลายความคิดนั้นไปไม่มากก็น้อยแล้ว สู้อยู่เงียบ ๆ ที่เดิม ให้พวกเขาตื่นตระหนกกันไปเองดีกว่า”
เขาเก็บจดหมายลับนั้น แล้วรินชาอีกจอกให้อาซือ
“ดื่มน้ำหน่อยเถอะ เจ้าเหนื่อยมาตลอดทาง ข้าไม่อยากให้เจ้าป่วย”
“ทำไมท่านต้องทำเหมือนข้าเป็นเด็กด้วย? ข้าไม่ได้อ่อนแอเพียงนั้นนะ”
“เจ้าคือเด็กน้อยในใจข้าเสมอ”
ทั้งสองคนสบตากัน หลินซือลุกขึ้นยืนจัดเสื้อผ้าให้เจี่ยงเถิง
“ออกเดินทางกันเถอะ อย่าเสียเวลาเลย”
เจี่ยงเถิงประคองหลินซือขึ้นรถม้า หลินซือเองก็จับข้อมือเขาไว้
“ไม่ไปด้วยกันหรือ?”
“อาซือ ข้าต้องไปพร้อมพวกเขา เช่นนี้ทหารเหล่านี้ถึงจะไม่ตื่นกลัว”
หลินซือแบะปาก แล้วกลับขึ้นรถม้าไป
นางเปิดม่านหน้าต่าง ก่นอจะชำเลืองมองเจี่ยงเถิงที่ขึ้นนั่งบนหลังม้าอย่างสง่าผาเผย
แผ่นหลังของเขาอยู่ในสายตาของหลินซือ สุดท้ายหลินซือก็หลับตาเข้าสู่ห้วงนิทาราด้วยความเหนื่อยล้าอยู่เบื้องหลังเขา
กระทั่งนางรู้สึกได้ว่ามีคนมาแตะแก้มของตน หลินซือลืมตามองไปรอบ ๆ ท่ามกลางความมืด
“อาซือ ตื่นแล้วรึ?”
“นี่มันกี่ยามแล้ว?”
“ค่ำแล้ว ถึงเมืองแล้วด้วย ถึงเวลาจุดโคมไฟพอดี ถ้าเจ้าอยากไป ข้าจะพาเจ้าไปปล่อยโคมไฟ อธิษฐานขอพร”
“ไม่เหนื่อย!”
รอบนี้นางมาเพื่อเที่ยว นางจะมาบ่นเหนื่อยได้อย่างไร
เจี่ยงเถิงคว้ามือของหลินซือ ทั้งสองคนจูงมือเข้าเมืองไป
“เมืองทางตอนใต้แตกต่างจากเมืองของเราโดยสิ้นเชิง แม้แต่สตรีก็ยังงดงามมีชีวิตชีวามากกว่า เจ้าว่าไหม?”
“ใช่”
เขาจูงมือของหลินซือ ตามคนอื่น ๆ เข้าไปในถนนที่เต็มไปด้วยโคมไฟ
หลินซือเลือกโคมไฟรูปกระต่าย นางมองเจี่ยงเถิง “งามไหม?”
“งามมาก”
เจี่ยงเถิงหยิบเงินสองสามเหรียญออกมาจากใต้แขนเสื้อ วางลงบนมือของเจ้าของร้าน
“ไปกันเถอะ อาซือ”
ทั้งสองคนเดินจูงมือไปยังริมแม่น้ำที่มีผู้คนพลุกพล่าน หลินซืออดส่งเสียงหัวเราะออกมาไม่ได้
เจี่ยงเถิงก้มหน้าลง “ซื้อโคมไฟรูปกระต่ายแล้วเจ้าไม่ดีใจรึ?”
“เจ้าไม่รู้สึกหรือ เราไม่ได้เที่ยวเล่นเช่นนี้มานานมากแล้ว เหมือนสามีภรรยาที่เพิ่งแต่งงานใหม่”
——————————————–